ในสายตาของเย่เทียนเขาสามารถมองเห็นพรสวรรค์ของหยุนเพิ่งได้อย่างชัดเจน

[มนุษย์: หยุนเฟิง

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ: หลุดพ้น

พรสวรรค์คมดาบวายุ: สูงสุด

พรสวรรค์ความเร็ว: ปานกลาง]

ข่าวลือภายนอกก็คือหยุนเฟิงมีพรสวรรค์ด้านความเร็วขั้นต้น แต่ตอนนี้พรสวรรค์ด้านความเร็วของหยุนเพิ่งกลายเป็นระดับกลาง แม้ว่าระดับเริ่มต้นและระดับกลางจะห่างกันเพียงระดับเดียวแต่ ความเร็วนั้นก็แตกต่างกันมาก

พรสวรรค์ด้านความเร็วระดับเริ่มต้นสามารถเพิ่มความเร็วได้เพียง 3 เท่าแต่พรสวรรค์ความเร็วปานกลางสามารถเพิ่มได้ถึง 5 เท่า

ยกตัวอย่างเช่น หากหยุนเฟิงมีความเร็ว 5 เท่าของความเร็วเสียง พรสวรรค์ด้านความเร็วระดับเริ่มต้นจะทําให้เขามีความเร็วเหนือเสียง 15 เท่าแต่หากเป็นพรสวรรค์ด้านความเร็วปานกลาง ความเร็วของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นเหนือเสียง 25 เท่าซึ่งมันส่งผลแตกต่างกันอย่างชัดเจน

ด้วยเหตุนี้ ความแตกต่างระหว่างความเร็วเหนือเสียง 15 เท่าและ 25 เท่า มันจึงเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ราวสวรรค์และโลก

“หยุนเฟิงช่างโชคดีมากจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถยกระดับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขาไปยังระดับหลุดพ้นได้ แต่เขายังยกระดับพรสวรรค์ด้านความเร็วจากระดับเริ่มต้นกลายเป็นระดับปานกลางอีกด้วย ด้วยพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับปานกลางนี้คนของตระกูลเฮ่อเหลียนยากที่จะเอาชนะเขาได้ที่สําคัญหยุนเฟิงยังมีพรสวรรค์คมดาบวายุระดับสูงสุดซึ่งมันเพียงพอที่จะสามารถสังหารนักรบผู้เชี่ยวชาญทั่วไปได้ในพริบตา!”เย่เทียนพึมพํากับตัวเอง

แน่นอนว่าในบรรดาคนทั้งยี่สิบคนของตระกูลเฮ่อเหลียนย่อมมีคนที่แข็งแกร่งเช่นกันยกตัวอย่างเช่นเฮ่อเหลียนป้าผู้นั้นแข็งแกร่งมากเขาครอบครองพรสวรรค์พิเศษถึง 3 ชนิดพรสวรรค์ในการสอดแนมระดับกลางพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับเริ่มต้น และพรสวรรค์หอกดินระดับสูง

หากพูดถึงความแข็งแกร่ง แล้วเฮ่อเหลียนป้าผู้นี้ก็แข็งแกร่งมากความสามารถของเขาเป็นรองแค่อัจฉริยะด้านการต่อสู้อย่างหยุนเฟิงเท่านั้น

หลังจากเย่เทียนกวาดสายตามองเล็กน้อย เขาก็หยุดสนใจการต่อสู้ตรงหน้าเพราะตอนนี้เขายังมีเรื่องสําคัญกว่าที่ต้องทํา

ทักษะการรับรู้มิติของเขาขยายออกไปยังใต้ดินอย่างต่อเนื่อง เพื่อสํารวจสายแร่หินปราณ

ทันใดนั้น

พลังมิติของเยเทียนก็ตรวจพบสัตว์อสูรขนาดใหญ่ สัตว์อสูรตัวนี้อยู่ลึกลงไปใต้ดินห่างจากเขา 420 เมตรซึ่งมันยังคงอยู่ในระยะการตรวจสอบของพรสวรรค์ในการคัดลอก

[ประเภท: ตัวนม

พรสวรรค์ทางสายเลือด: สุดยอด

พรสวรรค์ในการป้องกัน: ปานกลาง

พรสวรรค์ในการซ่อนตัวใต้ดิน: ปานกลาง

พรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่ง: ปานกลาง]

“สัตว์อสรตัวนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ มันมีพรสวรรค์พิเศษถึงสามชนิด หนึ่งในนั้นยังเป็นพรสวรรค์ในการซ่อนตัว หากต้องสู้กับมันในโพรงใต้ดิน แม้แต่นักรบผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่ามันก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้”

ในที่สุดเย่เทียนก็เข้าใจแล้วว่าทําไมเฮ่อเหลียนป้าถึงไม่ได้เอาหินปราณเหล่านี้ไปในช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในเขตแดนลับถึง 10 ปี ที่แท้เขาก็ไม่สามารถเอาชนะตัวนิ่มตัวนี้ได้

“นักรบผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เฝ้าอยู่ตรงทางเข้าใต้ดิน น่าจะเป็นทางเข้าที่พวกเขาต้องการที่จะไปขุดหินปราณขึ้นมาหากเราลอบเข้าไปขุดมันจากเส้นทางนี้พวกมันจะต้องรู้ตัวอย่างแน่นอน”

ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตานั้นน่ากลัวก็จริง เย่เทียนสามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดที่ต้องการได้แต่ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาไม่สามารถผ่านชั้นดินหนาๆนี้ได้หากเขาลอบเดินผ่านทางเข้าไปทางจุดนี้โดยตรงเขาจะต้องถูกพบตัวอย่างแน่นอน

หากพรสวรรค์ด้านมิติของเย่เทียนอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้ มันก็อาจจะเป็นไปได้แต่ตอนนี้เขาทําได้เพียงล้มเลิกความคิดนี้ไป

เย่เทียนพยายามคิดหาวิธี แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทําอย่างไรดี

“เสี่ยวจือ เจ้ารู้เส้นทางอื่นที่จะไปยังสายแร่หินปราณหรือไม่?”

เย่เทียนตบกันสีม่วงของเสี่ยวจื่อและถาม

“นายท่าน ช่างอันธพาลนัก!” เสียวจอพ่นลมออกจมูกอย่างไม่พอใจ และกล่าวต่อ

“เสี่ยวจื่อรู้อีกเส้นทางหนึ่ง มันเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่ถูกขุดโดยตัวนิ่มเพราะตัวมันนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ใต้ดินตลอดเวลาบางครั้งมันก็ออกไปล่าสัตว์อสูรตัวอื่นข้าเลยบังเอิญพบทางเข้านี้!

บังเอ็ญเหรอ?

เย่เทียนเดาว่าเสี่ยวจ่อต้องชอบหินปราณมากแน่ๆ ดังนั้นนางจึงคิดหาวิธีเพื่อที่จะได้มันมาแต่ด้วยความแข็งแกร่งของมันยังอ่อนแอกว่าตัวนิ่มมากมันจึงทําเช่นนั้นไม่ได้

“มันอยู่ที่ไหน?”

เย่เทียนถาม

เสี่ยวจื่อชี้ไปยังที่ไกลๆ หลังจากเย่เทียนรู้ทางเข้าที่แน่นอน เขาก็รีบขยับตัวออกไปทันที

ระยะทางที่เย่เทียนสามารถเคลื่อนย้ายพริบตาได้นั้นคือ 1,000 เมตร แต่หากใช้ตรามิติวางตําแหน่งไว้เขาสามารถเคลื่อนย้ายพริบตาได้ราว 2,000 เมตร

ระยะ 1,000 เมตร อยู่นอกระยะการตรวจสอบพลังจิตของผู้ฝึกยุเหล่านั้นแล้ว บวกกับเย่เทียนที่สามารถย้ายตําแหน่งได้อย่างรวดเร็วไม่มีทางที่ใครจะสังเกตเห็นร่องรอยของเยเทียนได้ง่ายๆ

เย่เทียนมาถึงสถานที่ที่เสี่ยวจื่อบอก

ที่นี่คือทะเลสาบขนาดเล็ก

“นายท่าน ที่ด้านล่างของทะเลสาบมีอุโมงเชื่อมต่อกับพื้นที่ใต้ดิน พื้นที่ใต้ดินตรงนั้นเชื่อมต่อกับในอุโมงค์ที่ตัวนิ่มขุดไว!”

เสี่ยวจ่อกล่าว

ที่จริงแล้วแม้เสี่ยวจอไม่บอก เย่เทียนก็สัมผัสถึงอุโมงค์ที่อยู่ใต้ดิน

“บ้าเอ๊ย ตัวนิ่มตัวนี้หาที่ซ่อนได้ดีจริงๆ ถ้าไม่มีเสี่ยวลื่อนําทาง ต่อให้เรามีทักษะการรับรู้มิติก็ไม่มีทางหาสถานที่เช่นนี้เจอ!”เย่เทียนอุทานออกมา

จากนั้นเย่เทียนก็พาเสียวจ่อลงไปในทะเลสาบและเคลื่อนตัวไปตามอุโมงใต้น้ำจนไปถึงอุโมงค์ที่ตัวนิ่มขุดไว้

ในเวลานี้เขาก็ได้พบเส้นทางมากมายซับซ้อนราวกับเขาวงกตใต้ดินที่สามารถนําทางไปที่ไหนก็ได้

แต่….

ถึงแม้อุโมงค์เหล่านี้จะเป็นเขาวงกตที่ซับซ้อน ภายใต้การรับรู้มิติของเย่เทียน มันไม่เป็นปัญหาเลยแม้แต่น้อย

” ไปกันเถอะ!”

เย่เทียนให้เสียวอนําทางและค่อยๆเข้าใกล้สายแร่หินปราณ

“ความเข้มข้นของพลังปราณที่นี่สูงกว่าข้างนอกหลายเท่า!”

เย่เทียนตระหนักได้ทันทีว่าเขาเข้าไกล์สายแร่หินปราณแล้ว

“หึม…ตรงนี้มีหินปราณอยู่ก้อนหนึ่ง!”

ระหว่างทางเย่เทียนก็พบหินปราณอยู่ด้านหลังของผนังอุโมง

หินปราณก่อนนี้ทั่วทั้งก้อนเป็นสีขาว มันแผ่กระจายคลื่นพลังปราณที่เข้มข้นออกมาอย่างต่อเนื่อง

“หินปราณก้อนนี้รวบรวมพลังปราณจํานวนมากเอาไว้ มิน่าล่ะ มันถึงได้ล้าค่านัก!” เย่เทียนพยายามค่อยๆขุดหินปราณออกมาอย่างระมันระวังเพราะเขากลัวว่าตัวนิ่มจะรู้ตัวเขาไม่อยากให้มันเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น

ต้องบอกว่าชั้นหินที่นี่แข็งแกร่งมาก เห็นได้ชัดว่าภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังปราณทําให้หินที่นี่เปลี่ยนไปเช่นกันคนทั่วไปคงไม่สามารถแม้แต่จะขุดผงหินออกมาได้แม้แต่นิดเดียวแกรัก!

เสียงนั้นแผ่วเบาดังขึ้น หินปราณก้อนแรกถูกเย่เทียนขุดขึ้นมาได้สําเร็จ จากนั้นเย่เทียนก็เก็บไว้ในมิติส่วนตัวแล้วค้นหามันต่อไป!

ไม่นานเย่เทียนก็พบหินปราณมากกว่า 10 ก้อน และขุดมันออกมาทั้งหมด

“การต่อสู้ใกล้จะจบลงแล้ว!”

ด้วยความสามารถในการรับรู้มิติของเย่เทียน เขาสามารถตรวจสอบสถานการณ์ข้างนอกได้ตลอดเวลา

ภายใต้พลังอันมหาศาลของหยุนเฟิง คนของตระกูลเฮ่อเหลียนต่างถูกสังหารลงทีละคนแม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานหยุนเฟิงได้เลยและในตอนนี้หยุนเฟิงก็ฆ่าคน ของตระกูลเฮ่อเหลียนไปแล้วมากกว่าสิบคน

“ถ้าตระกูลเฮ่อเหลียนถูกสังหารไปจนหมด หยุนเฟิงไม่มีทางปล่อยสายแร่หินปราณไปแน่ ปล่อยให้เขาพัวพันกับตัวนิ่ม แล้วฉวยโอกาสนั้นขุดหินปราณให้ได้มากที่สุด”

เย่เทียนวางแผนคร่าวๆ และยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

ในความเป็นจริงเขามีความสามารถพอที่จะกําจัดคนเหล่านี้รวมทั้งหยุนเฟิงเพื่อให้เขาสามารถขุดหินปราณได้อย่างสะดวกแต่เย่เทียนก็ไม่ได้เลือกที่จะทําเช่นนั้นเพราะนั้นขัดต่อเจตจํานงของเขาเย่เทียนไม่ใช่คนที่จะสังหารใครโดยไม่มีเหตุผลมากพอ

11 ก่อน!

12 ก้อน!

13 ก่อน!

20 ก้อน!

เย่เทียนมีความสุขกับการเก็บเกี่ยวหินปราณอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีใครรู้ตัวเลย ทั้งสัตว์อสูรตัวนิ่มและผู้ฝึกยุทธที่กําลังต่อสู้กันด้านนอก

ตอนนี้หยุนเฟิงเองก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นกัน ในฐานะนักรบผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเฮ่อเหลียนพวกเขาล้วนต้องมีไพ่ตายไว้ใช้ในยามวิกฤตการจะฆ่านักรบผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเฮ่อเหลียนทั้งหมดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บนั้นไม่มีทางเป็นไปได้

ด้วยพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับปานกลางของหยุนเฟิง คนของของตระกูลเฮ่อเหลียนไม่มีความหวังเลยที่จะหลบหนี
สิบนาที่ผ่านไป

คนของตระกูลเฮ่อเหลียนก็เหลือแค่คนเดียวที่ยังยืนอยู่ได้ ซึ่งก็คือ เฮ่อเหลียนป้า!