บทที่ 314 : กระบี่มังกรดำ และกระบี่มังกรขาว
ห้องหินแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมจตุรัสที่มีขนาดเก้าคูณเก้าเมตร รวมพื้นที่ทั้งหมดก็ราวแปดสิบเอ็ดตารางเมตร ทั้งเยือกเย็นและดูลึกลับ
ภายในห้อง.. นอกจากโลงศพขนาดใหญ่แล้ว ก็ไม่มีสิ่งอื่นอยู่อีกเลย โลงศพขนาดใหญ่ใบนี้ทำจากทองแดงสัมฤทธิ์ ยาวหกเมตร กว้างสี่เมตร สูงสองเมตร และตั้งขวางตระหง่านอยู่กลางห้อง หัวท้ายชี้ไปทางตะวันออกและตะวันตก
‘เหตุใดกลิ่นไอหยินชั่วร้ายจึงรุนแรงเพียงนี้ อย่าบอกนะว่าในโลงศพสัมฤทธิ์นี่มีผีดิบอยู่ข้างใน?’ หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่ในใจเงียบๆ และลังเลว่าจะเปิดดีหรือไม่เปิดดี?!
ห้องหินลึกลับแห่งนี้ใกล้กับดวงตามังกรมาก จากที่หลิงหยุนสังเกตุรอบๆถ้ำหินก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที นอกจากประตูหินบานนี้แล้ว ก็ไม่มีประตูหรือถ้ำอื่นอีกเลย หากหลิงหยุนจะหันหลังกลับเข้าไปในถ้ำนั่นอีกครั้ง ก็ต้องเผชิญกับการโจมตีจากค้างคาวดูดเลือดอย่างรุนแรงจนอาจถึงชีวิตได้ตลอดเวลา
ดังนั้น หลิงหยุนจึงเลือกที่จะวิ่งเข้าไปในห้องแทน หลังจากที่ใช้ยันต์ขุมพลังเพิ่มพลังชีวิตที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดให้กับตัวเองจนเต็มแล้ว เขาก็เริ่มคิดวางแผนต่อ
ในเมื่อเข้ามาพบโลงศพใหญ่มหึมาขนาดนี้ หลิงหยุนก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที และด้วยลักษณะนิสัยของเขา หากไม่เปิดโลงศพออกดู เขาคงต้องรู้สึกเสียดายอย่างมากแน่
‘ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยสมบัติมากมายเช่นนี้ จะให้ข้ากลับไปมือเปล่างั้นรึ? นั่นไม่ใช่นิสัยของข้า!’ หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือออกไปเปิดฝาโลง!
หลิงหยุนเคยพบเห็นคนตายและโครงกระดูกมาแล้วมากมายจนนับไม่ถ้วน อีกทั้งตอนนี้ในมือของเขาก็ถือพู่กันจักรพรรดิอยู่ ต่อให้มีผีดิบอยู่จริงเขาก็ไม่กลัว เพราะเขาสามารถใช้พู่กันจักรพรรดิด้ามนี้ฆ่ามันตายได้อย่างง่ายดาย และหากสู้กันตัวต่อตัวเขาก็ยิ่งไม่กลัวใหญ่..
หลิงหยุนเอื้อมมือออกไปข้างหนึ่งเพื่อทำการเปิดฝาโลง แต่กลับพบว่าฝาโลงที่ทำจากทองแดงสัมฤทธิ์นั้นหนักมาก และไม่สามารถเปิดออกได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว เรียกว่าไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยมากกว่า!
“หนักมากจริงๆ!” หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นจึงเอื้อมมือสองข้างออกไปเปิดฝาโลงอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ฝาโลงขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
นั่นเพราะฝาโลงใบนี้มีขนาดใหญ่ถึงยี่สิบสี่ตารางเมตร และหนากว่าสิบเซ็นติเมตร อีกทั้งยังทำจากทองแดงสัมฤทธิ์ที่หนักหลายตัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่หลิงหยุนจะเปิดมันออกได้อย่างง่ายดายแม้ว่าจะอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นปรับร่างกาย-3ก็ตาม..
“หู้ว!!!….” หลิงหยุนพ่นลมหายใจออกพร้อมกับสูดลมหายใจกลับเข้าไปอีกครั้ง ก่อนจะออกแรงดันฝาโลงศพไปด้านข้างอย่างสุดกำลัง!
ฝาโลงศพที่หนาและหนักเคลื่อนออกเล็กน้อย และมีแสงสว่างเปล่งประกายออกมาจากช่องว่างนั้น
‘ข้างในมีสมบัติล้ำค่าจริงๆด้วย!’
หลิงหยุนตื่นเต้นดีใจอย่างมาก แต่เพราะกำลังของเขามีจำกัด จึงสามารถขยับฝาโลงให้เลื่อนออกได้เพียงแค่ครึ่งเมตร แต่ช่องว่างเพียงแค่นั้น ก็ทำให้หลิงหยุนสามารถมองเห็นด้านในได้อย่างชัดเจน!
“ฮ่า.. ฮ่า.. หรือว่าจะเป็นไข่มุราตรีในตำนาน!”
ภายในโลงศพทองแดงสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่นี้ หลิงหยุนสังเกตุเห็นไข่มุกราตรีกว่าร้อยเม็ดที่มีขนาดเท่าเม็ดลำใยหรือใหญ่กว่านั้น เปล่งประกายแวววาวไปทั่วทั้งโลงศพ
“ใช่แล้ว..! มันคือไข่มุกราตรีที่ผู้คนต่างต้องการ ช่างคุ้มค่าจริงๆ!” หลิงหยุนพึมพำยิ้มๆพร้อมกับกวาดสายตาสำรวจภายในโลงศพอย่างละเอียด
ตรงกลางของโลงศพใบใหญ่นี้ มีโลงศพทองแดงสัมฤทธิ์ยาวสองเมตร กว้างและสูงหนึ่งเมตรวางอยู่ ภายนอกถูกแกะสลักเป็นรูปนก รูปปลา และรูปดอกไม้ไว้อย่างวิจิตรตระการตา ท่ามกลางประกายไข่มุกราตรีระยิบระยับ ทำให้มันดูดราวกับมีชีวิต..
ทางด้านซ้ายและขวาของโลงศพขนาดสองเมตรนี้ มีกล่องไม้สี่เหลี่ยมยาวกว่าหนึ่งเมตรวางอยู่ หลิงหยุนสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตนุ่มนวลที่แผ่กระจายออกมาจากกล่องไม้ทั้งสอง
ทันทีที่สัมผัสได้ถึงพลังชีวิต หลิงหยุนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก หลิงหยุนรีบกระโดดลงไปในโลงศพขนาดใหญ่ทันที..
สายตาของหลิงหยุนจับจ้องอยู่ที่ไข่มุกราตรี จากนั้นจึงเอื้อมสัมผัสไปกล่องไม้ทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะใช้มือขวาเปิดกล่องไม้ที่อยู่ด้านขวาของโลงศพออก และพบว่าสิ่งที่อยู่ด้านในนั้นคือกระบี่!
หลิงหยุนดีอกดีใจอย่างมาก เขารีบหยิบกระบี่เล่มนั้นขึ้นมา และพบว่าน้ำหนักของมันนั้นเกือบสี่สิบกิโลกรัมเลยทีเดียว!
หลิงหยุนสำรวจกระบี่ในมืออย่างละเอียด จึงได้เห็นว่าฝักของกระบี่เล่มนี้ถูกสลักเป็นรูปมังกรสีดำที่ดูเหมือนมีชีวิตมาก และไม่ว่าใครที่ได้พบเห็นก็จะต้องรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน
หลิงหยุนพยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะดึงกระบี่ออกมาจากฝัก!
กระบี่เล่มนี้ยาวหนึ่งเมตร และกว้างเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่ ปลายดาบคมกริบ แม้รูปร่างของมันจะดูเรียบง่าย แต่ใบมีดของมันกลับเป็นสีดำสนิท!
ด้ามกระบี่สลักเป็นลวดลายของเกล็ดมังกรอย่างสวยงาม ใบมีดเป็นสีดำเงานั้นยังคงมีคราบหยดเลือดติดอยู่ ให้ความรู้สึกที่เย็นยะเยือก และรังสีของนักฆ่าที่เลือดเย็น
หลิงหยุนมองอย่างมีความสุขพร้อมกับอุทานออกมาว่า “ช่างเป็นดาบที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
หลิงหยุนไม่สนใจกล่องไม้ใส่ดาบ เขาถือดาบกระโจนเข้าสู่กำแพงพร้อมกับจ้วงแทงดาบลงไปบนผนังห้องที่เป็นหิน เสียงใบมีดของกระบี่กระทบเข้ากับก้อนหินดังสนั่น
เช้ง!! ดาบโลหะที่มีใบมีดสีดำแทงทะลุกำแพงหินที่แข็งแกร่งจนมิดด้ามได้อย่างง่ายดาย ราวกับแทงลงไปบนเต้าหู้ที่อ่อนนุ่ม
“ฮ่า.. ฮ่า.. ตัดเหล็กได้ไม่ต่างจากตัดดินตัดโคลน! ช่างเป็นดาบที่ล้ำค่านัก! มาเป็นของข้าเถิด!”
“ในเมื่อเจ้ามีลายเกล็ดมังกรสีดำ ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่าดาบมังกรดำก็แล้วกัน!” พูดจบหลิงหยุนก็หัวเราะพร้อมกับเรียกดาบมังกรดำเข้าไปเก็บไว้ในแหวนพื้นที่ทันที
จากนั้นก็กระโดดกลับเข้าไปในโลงศพสัมฤทธิ์ใบใหญ่อีกครั้ง..
ภายในกล่องไม้อีกกล่องที่วางอยู่ด้านซ้ายของโลงศพขนาดเล็กนั้น ก็คือกระบี่อีกเช่นกัน กระบี่เล่มนี้ยาวสามฟุต และกว้างขนาดเท่าสองนิ้วมือ สลักเป็นลวดลายมังกรที่อ่อนช้อย แต่ใบมีดกลับเป็นสีขาวหิมะ และเป็นประกายแพรวพราวภายใต้แสงของมุกราตรี
‘น่าเสียดายที่กระบี่เล่มนี้ไม่มีฝัก’ หลิงหยุนคิดในขณะที่ถือดาบไว้ในมือ และเขาก็พบว่าน้ำหนักของกระบี่เล่มนี้เบามาก กระบี่โค้งเล็กน้อยและปลายกระบี่อ่อนนุ่มจนสั่นไปมา
“นี่มันคือกระบี่โค้ง! ช่างเหมาะกับวิชากระบี่ล่องหนของข้ามากเลยทีเดียว!”
หลิงหยุนร้องออกมาอย่างดีใจ เขามองกระบี่ที่นุ่มนวลนี้สะบัดไปมาอยู่กลางอากาศราวกับมังกรสีเงินที่กำลังร่ายรำ
“เอาล่ะ.. ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่ากระบี่มังกรขาว!”
หลิงหยุนอดคิดไม่ได้ว่า ครั้งนี้ช่างคุ้มค่านัก! และเขาจะได้ให้พู่กันจักรพรรดิได้หยุดพักบ้าง พู่กันจักรพรรดินั้นมีความยาวเพียงแค่หนึ่งฟุต แม้ว่าจะเป็นอาวุธที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นที่สะดุดตาสำหรับผู้ที่ได้พบเห็นจนเกินไป
“ตอนนี้เจ้าค้างคาวดูดเลือดพวกนั้นก็ไม่มีทางทำอะไรข้าได้แน่? มีกระบี่มังกรดำ และกระบี่มังกรขาว รับรองไม่มีตัวใหนเข้าใกล้ข้าได้แน่!”
หลิงหยุนมองไข่มุกราตรีที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็เดินเข้าไปใกล้กับโลงศพเล็กพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม ข้าจะไม่เคลื่อนย้ายร่างของเจ้า มุกราตรีพวกนี้หากทิ้งไว้ที่นี่คงจะไม่มีประโยชน์อะไร ข้าจะนำมันไปด้วย!”
หลังจากที่พูดกับซากศพในโลงแล้ว หลิงหยุนก็จัดการเรียกมุกราตรีทั้งเก้าสิบเก้าเม็ดเข้าไปเก็บไว้ในแหวนพื้นที่ของตัวเอง และเหลือไว้ที่มือเพียงหนึ่งเม็ดเพื่อเป็นแสงสว่างนำทาง แล้วจึงกระโดดออกมาจากโลงศพขนาดใหญ่
ปรากฏว่าไม่มีผีดิบกระโดดตามออกมาสร้างปัญหาให้กับหลิงหยุน เขาสามารถนำกระบี่มังกรดำ และกระบี่มังกรขาวออกมาได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังได้ไข่มุกราตรีมาอีกเก้าสิบเก้าเม็ด จากนั้นหลิงหยุนก็จัดการปิดฝาโลงสัมฤทธิ์กลับไปเหมือนเดิม
หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว หลิงหยุนก็ถือไข่มุกราตรีเดิรสำรวจไปรอบๆห้องอย่างระมัดระวัง และเมื่อไม่พบประตูลับหรือทางออกอื่น เขาก็ล้มเลิก!
ดูเหมือนว่าห้องนี้จะเป็นห้องปิดตาย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเจ้าของสุสานจึงฝังตัวเองอยู่ในสถานที่แบบนี้ แต่อย่างน้อยผู้ที่เป็นเจ้าของดาบทั้งสองเล่มนี้ จะต้องเป็นยอดฝีมือขั้นเซียงเทียนเป็นอย่างต่ำ ถึงจะสามารถขุดถ้ำลักษณะนี้ได้
“ขาวปุย.. ดูเหมือนเราต้องออกไปฆ่าค้างคาวดูดเลือดกันอีกแล้ว เราต้องออกไปที่ถ้ำเมื่อครู่อีกครั้ง!”
เจ้าขาวปุยสัมผัสได้ถึงความสุขที่หลิงหยุนมี มันรีบพยักหน้าพร้อมกับส่ายหางสองหางไปมา และดูเหมือนจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าอีกด้วย
หลิงหยุนพูดยิ้มๆว่า “ครั้งนี้รับรองว่าค้างคาวดูดเลือดพวกนั้นทำอะไรพวกเราไม่ได้แน่! ไปดูกันว่าข้าจะฆ่าพวกมันยังไง?”
จากนั้น หลิงหยุนก็เก็บไข่มุกราตรีหนึ่งเม็ดที่ถืออยู่ลงไปในกระเป๋าเสื้อ เพื่อเป็นแสงสว่างในระยะใกล้ จากนั้นเขาก็สะบัดมือข้างซ้ายเรียกกระบี่มังกรดำ และกระบี่มังกรขาวออกมา แล้วหันไปบอกเจ้าขาวปุยยิ้มๆ
“เจ้าเดินตามข้ามา เราคงต้องฆ่าค้างคาวไปตลอดทางแน่!”
และด้วยกระบี่ในมือ หลิงหยุนก็พร้อมที่จะออกไปฟาดฟันกับค้างคาวดูดเลือดเหล่านั้นแล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังจะกดปุ่มหินบนประตูนั้น เขาก็ได้ยินเสียงดังอยู่ด้านนอก เป็นเสียงกรีดร้องของคน และตามด้วยเสียงปืน
“มีคนมาที่นี่!” หลิงหยุนหยุดนิ่งทันที
เสียงฝีเท้าที่อยู่ด้านนอกนั้นทั้งวุ่นวาย และบางครั้งก็มีเสียงกรีดร้อง ผสมกับเสียงปืนที่ดุเดือด และเมื่อคนพวกนั้นหยุดเดิน ก็จะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องทันที มีแต่เสียงกรีดร้องเต็มไปหมด!
“รับรองว่าตายไม่เหลือแน่!” หลิงหยุนส่ายหน้าเงียบๆ และเขาเองก็ไม่คิดที่จะออกไปช่วย
ที่นี่เป็นก้นหลุมยุบขนาดใหญ่ หากจะลงมาที่นี่ ก็ต้องยอมรับระหว่างความเป็นกับความตายได้ หลิงหยุนไม่มีความจำเป็นต้องปกป้องคนพวกนั้น
“เอาล่ะ..” หลิงหยุนกดปุ่มหินพร้อมกับเปิดประตู และรีบวิ่งออกไปด้านนอกพร้อมเจ้าขาวปุย!