บทที่ 301 พี่น้องทั้งหลาย ฉันกลับมาแล้ว!

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

ไม่ใช่ว่ากลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ไม่แข็งแกร่ง แต่มือสังหารชุดดำทั้งสี่คนนี้ คนหนึ่งสูงคนหนึ่งเตี้ย คนหนึ่งอ้วนคนหนึ่งผอม ไม่เพียงแต่ความสามารถส่วนตัวจะแข็งแกร่งมาก แต่อาวุธในมือก็แปลกประหลาดคาดการณ์ไม่ได้ เคล็ดวิชาสังหารที่ใช้สามารถใช้คำว่าวิปลาสมาบรรยายได้เลยทีเดียว ทั่วทั้งอากาศและพื้นดินของคฤหาสน์มีพายุทอร์นาโดลูกใหญ่ปรากฏขึ้น ฝุ่นทรายและเศษหินปลิวว่อน ทำให้ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆ พังทลาย กระทั่งคฤหาสน์ก็แทบจะถูกพัดปลิวไป ในนี้ยังปะปนไปด้วยเงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วน และยังมีพลังสายฟ้าที่โจมตีด้วยพลังมหาศาลอีกด้วย ด้านบนยังมีโล่สีเงินอกดทับลงมาด้วยน้ำหนักที่หนักเหมือนภูเขาไท่ซาน กระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากยิ่ง

มือสังหารชุดดำทั้งสี่คนนี้คิดไม่ถึงว่าคนทั้งสิบสองในกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์จะบีบบังคับพวกเขาจนถึงขั้นนี้ได้ หลายปีแล้วที่ไม่ได้ใช้กระบวนท่านี้

ในหมู่สิบสามจ้าวสวรรค์ หากพูดถึงเรื่องพลังการต่อสู้ส่วนตัวแล้ว อู๋เสวี่ย หวังเจี๋ย เปาเทียนหลง หลินตวน เป็นคนทั้งสี่ที่แข็งแกร่งที่สุด ทุกคนเผยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังออกมา พวกเขาแข็งแกร่งมาก ไม่อ่อนแอกว่ามือสังหารทั้งสี่คนนี้แน่นอน แต่ก็สัมผัสได้ว่าพลังการโจมตีในครั้งนี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน แข็งแกร่งถึงขั้นวิปลาส ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสี่คนนี้ยังร่วมมือกันได้อย่างไร้ช่องโหว่ ไม่อาจหลบซ่อนได้เลย ทำได้เพียงปะทะเข้าไปเท่านั้น หากปะทะเข้าไป พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพลังอำนาจถึงตาย ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่า เมื่อความสามารถส่วนตัวของทั้งสี่คนนี้รวมเข้ากับอาวุธในมือ เดิมทีก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แต่ยังสามารถใช้กระบวนท่าแข็งแกร่งขั้นวิปลาสเช่นนี้ออกมาได้อีก

“ไม่ต้องต่อต้านแล้ว รอให้มัจจุราชมาลงทัณฑ์เถอะ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครรอดชีวิตไปจากการโจมตีนี้ได้!” มือสังหารร่างเตี้ยพูดด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยม

“จบได้แล้ว เสียเวลาไปมากแล้ว น่าขายหน้าจริง!” มือสังหารร่างสูงก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจ

“ฆ่า!”

อู๋เสวี่ยตะโกนออกมา ขาทั้งสองรวดเร็วเหมือนฝีเท้าม้า ในขณะเดียวกันก็กำหมัดทั้งสองแน่น ทั่วทั้งร่างเปล่งประกายออกมา แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เขากำลังร่ายรำกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของมวยสิงอี้ ชื่อว่า กระบวนท่าเหยี่ยวทะยานฟ้า

เหยี่ยวตัวใหญ่สยายปีก โจมตีขึ้นไปยังฟากฟ้า ไม่อาจต่อต้านได้ตลอดกาล ต่อให้อยู่ในช่วงเวลาที่เผชิญหน้ากับความเป็นความตาย พวกมันก็จะต้องทะยานขึ้นฟ้า ไม่อาจถูกกฎเกณฑ์ของโลกมนุษย์พันธนาการเอาไว้ได้ กระบวนท่านี้จึงถูกตั้งชื่อเช่นนี้ เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมาก

ตู้ม!

เหยี่ยวขนาดมหึมาตัวหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ปะทะเข้ากับโล่สีเงิน ในขณะเดียวกันเงาคนร่างหนึ่งก็ตามเงาเหยี่ยวตัวใหญ่ที่แปรสภาพออกมาจากพลังภายในและโจมตีขึ้นไป ทั่วทั้งร่างส่องแสงออกมา คนคนนี้ก็คือหวังเจี๋ย เขาพัฒนามาถึงขั้นที่สามารถใช้พลังภายในออกมาได้ตามใจแล้ว ครั้งนี้พลังภายในทั้งร่างปะทุออกมา เขาต้องการใช้หมัดปะทะโล่สีเงินนั้น

ในขณะเดียวกันทางด้านของพวกหลินตวนก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ดาบเจ็ดดาวขยายใหญ่มโหฬารฟาดฟันไปยังพายุทอร์นาโด คนอื่นๆ ก็ใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตนผสมรวมเข้าไปกับดาบเจ็ดดาว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่มีอานุภาพร้ายแรงถึงขนาดนี้ หากไม่ลงมือก่อนก็ทำได้แค่รอความตายแล้ว

ตู้ม!

ตู้ม!

เสียงระเบิดอันดังสนั่นดังขึ้น ทั่วทั้งเขตคฤหาสน์สั่นไหว น้ำในทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากเขตคฤหาสน์เกิดคลื่นเป็นวงกลม รุนแรงเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่ว่าพวกอู๋เสวี่ยลงมือโจมตีปะทะเข้าไปซึ่งหน้า ขวางกั้นพลังส่วนใหญ่เอาไว้ เกรงว่าคฤหาสน์หรูหราหลังใหญ่แห่งนี้คงพังทลายไปนานแล้ว ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้แต่ภายในขอบเขตพันเมตร ทุกสิ่งทุกอย่างก็ราบเป็นหน้ากลอง สระว่ายน้ำถูกทำลาย ทิวทัศน์รอบๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปสลักหรือต้นไม้ใบหญ้าต่างถูกทำลายทั้งหมด หากไม่ใช่เพราะคฤหาสน์หลังนี้อยู่ห่างจากคฤหาสน์หลังอื่นมาก เกรงว่าคงจะทำให้ทุกคนตกใจไปแล้ว และจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์อีกด้วย ตอนนั้นที่เย่เทียนเฉินให้อู๋เสวี่ยเลือกตำแหน่งเช่นนี้ก็นับว่ามีเหตุผล

“ไอ้พวกโง่ ไม่รู้จักที่ตายเลยจริงๆ เจอกับการโจมตีแบบนี้ยังไม่หนีเอาชีวิตรอด ยังกล้าปะทะเข้ามาอีก รนหาที่ตาย!” มือสังหารร่างเตี้ยพูดอย่างเย็นชา

“ทับพวกมันให้เป็นเนื้อบดไปเลย!” มือสังหารร่างผอมก็พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“ไปเถอะ ไม่ต้องตัดหัวพวกมันไปแล้ว คงตายไม่เหลือซากไปแล้ว!” มือสังหารร่างสูงเปลี่ยนกระบี่อวี๋ฉางให้เล็กเท่ามีด จากนั้นจึงพูดออกมาอย่างเรียบเฉย

“พวกเราไป!” มือสังหารร่างอ้วนนำค้อนอันใหญ่สีดำมาแบกไว้ที่ไหล่แล้วพูดขึ้น

ครืน!

ในตอนที่มือสังหารร่างผอมเตรียมจะเปลี่ยนโล่สีเงินอันใหญ่หาใดเปรียบของตัวเองและเก็บกลับมานั้น มีเสียงหนึ่งดังสนั่น เงาร่างของคนสองคนโจมตีโล่สีเงินอันใหญ่จนปลิวออกไป เรียกได้ว่าพุ่งออกมาจากซากปรักหักพังเลยก็ว่าได้ ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส มุมปากของอู๋เสวี่ยมีเลือดไหลออกมา คล้ายได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ส่วนหวังเจี๋ยจะดีไปได้อย่างไร แขนขวาทั้งแขนบิดงอเปลี่ยนรูป ดูเหมือนจะกลายเป็นเนื้อเหลวๆ ไปแล้ว สีหน้าย่ำแย่ยิ่งนัก

ส่วนคนอื่นๆ ในกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ต่างนอนอยู่บนพื้น พวกเขาถูกพายุทอร์นาโดที่มีพลังสายฟ้าและเงากระบี่อันใหญ่แฝงอยู่โจมตีจนเละ และได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกันไป หลินตวนสาหัสมากที่สุด บริเวณหน้าอกถูกเงากระบี่แทงทะลุ เลือดไหลออกมาดุจสายน้ำ แต่กลับยังคงฝืนยืนขึ้น ดาบเจ็ดดาวในมือขวาเปล่งประกายดึงดูดผู้คนยิ่งนัก ตอนนี้เขาโกรธเข้าเสียแล้ว

มือสังหารทั้งสี่คนเห็นว่าคนของสิบสามจ้าวสวรรค์ไม่ตายเลยแม้แต่คนเดียว สามารถขวางการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเอาไว้ได้ ต่างรู้สึกตกใจจนคางแทบร่วง ยากที่จะเชื่อจริงๆ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครสามารถหนีจากการโจมตีนี้ของพวกเขาไป ได้สิบสองคนนี้แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งมากจริงๆ ไม่เพียงแต่สามารถขวางการโจมตีของพวกเขาได้ แต่ยังไม่มีใครตายเลยสักคน นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“พวกแกแข็งแกร่งมากจริงๆ นับถือ!” มือสังหารร่างสูงพูดอย่างจริงจัง

“เย่เทียนเฉินมีพวกแกทั้งสิบสองคนอยู่ด้วยอาจจะประสบความสำเร็จจริงๆ ก็ได้” มือสังหารร่างผอมขมวดคิ้วพูด

“เพียงแต่น่าเสียดายที่พวกแกทั้งสิบสองคนจะต้องตายทั้งหมด เพราะพวกแกกลายเป็นความคุกคามของคุณชายใหญ่แล้ว!” มือสังหารร่างอ้วนเดินมาด้านหน้าก้าวหนึ่งแล้วพูดขึ้น

ฉัวะ!

ชายร่างเตี้ยเป็นคนแรกที่พุ่งเข้าไป เขาเก็บพัดในมือมาแล้ว ตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับพวกอู๋เสวี่ยทั้งสิบสองคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใช้พัดของเขา ปล่อยหมัดที่มีพลังภายในอันแข็งแกร่งปะทุออกมาไปตรงๆ พุ่งไปยังหลินตวน

หลินตวนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ถึงแม้จะฝืนยืนขึ้นมาได้และกำดาบเจ็ดดาวในมือแน่นไม่ยอมถอยแม้แต่ครึ่งก้าว แต่ก็ไม่มีพลังต่อสู้เหลือแล้ว ไม่เพียงแต่บริเวณหน้าอกจะถูกประกายกระบี่ปักทะลุ แต่ทั้งร่างยังมีอาการบาดเจ็บแตกต่างกันไปอีกด้วย เพียงแต่อาการบาดเจ็บบริเวณหน้าอกรุนแรงมากที่สุด

ตู้ม!

พวกอู๋เสวี่ยทั้งสิบสองคนต่างได้รับความเสียหายทั้งสิ้น สามารถหยุดการโจมตีที่รุนแรงขนาดนี้ได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว ต้องรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ใช้คนสิบสองคนต่อสู้กับมือสังหารสี่คน แต่พวกเขาสู้กับอาวุธเทพทั้งสี่ที่แตกต่างกันไป อาวุธเทพทุกชิ้นต่างมีพลังอันน่าหวาดกลัวถึงขั้นสะเทือนฟ้า แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีใครต่อต้านอำนาจระดับพระเจ้าที่ถูกใช้ออกมาพร้อมกันจากอาวุธทั้งสี่นี้ได้ แต่พวกอู๋เสวี่ยกลับทำได้

ในตอนที่ชายร่างเตี้ยโจมตีออกไปรวดเร็วดุจสายฟ้า เตรียมจะฆ่าหลินตวนเป็นคนแรก เงาคนร่างหนึ่งพลันพุ่งทะยานออกมาพลางต่อหมัดออกไป คนคนนี้ก็คือเปาเทียนหลง อาการบาดเจ็บของเขาก็รุนแรงมากเช่นกัน ในตอนที่จะเข้าไปสลายพายุทอร์นาโด เขาเป็นคนแรกที่พุ่งไปเบื้องหน้า ดังนั้นทั่วทั้งร่างจึงถูกปราณกระบี่และพลังสายฟ้าจนบาดเจ็บสาหัสแต่กลับยังคงฝืนต่อต้านชายร่างเตี้ยเอาไว้

“คนที่แกจะต้องรับมือก็คือฉัน อย่าได้คิดจะแตะต้องพี่น้องของฉัน!” เปาเทียนหลงเองก็ชุ่มไปด้วยเลือด แต่มุมปากกลับเผยรอยยิ้มออกมาพลางพูดขึ้น

“แกรนหาที่ตาย!” มือสังหารร่างเตี้ยพูดอย่างโหดเหี้ยม

ตู้ม!

เมื่อเผชิญหน้ากับการขัดขวางของเปาเทียนหลง มือสังหารร่างเตี้ยก็หยิบพัดออกมาโบกสะบัดจนเกิดเป็นคมมีดสายลมอันรุนแรงฟาดฟันไปยังเปาเทียนหลง เปาเทียนหลงถอยหลังไปสองก้าว ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดนี้ หากต้องการฆ่าคนทั้งสี่ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่ครึ่งส่วนนั้นเป็นไปได้ยากมาก ดูเหมือนพวกเขาสิบสองคนจะตกอยู่ในวิกฤตถึงชีวิต สามารถต่อต้านการโจมตีที่ออกมาจากอาวุธเทพทั้งสี่พร้อมกันได้ก็นับว่าเป็นตำนานเล่าขานแล้ว

ฟู่!

คมมีดสายลมตกลงจากฟากฟ้า ทำให้ต้นไม้ใหญ่บริเวณไหลออกไปถูกตัดขาดเป็นสองท่อนแล้วล้มลงเสียงดัง ในช่วงเวลาสำคัญ หูหลงกระโจนเข้าใส่เปาเทียนหลงจึงสามารถหลบการโจมตีถึงชีวิตนี้ไปได้

“หากต้องการทำร้ายพี่น้องของฉันก็ต้องถามฉันก่อนว่ายอมหรือเปล่า!” หูหลงบาดเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว แต่กลับช่วยเปาเทียนหลงโดยไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง

ในช่วงเวลานี้ ทุกคนรู้สึกได้ว่า ในตอนที่ตกอยู่ในอันตรายที่สุด ทำการต่อสู้ที่โหดร้ายที่สุด พี่น้องทุกคนในกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ได้หลอมรวมกันเป็นเชือกเส้นเดียว และมีเพียงเวลาเช่นนี้เท่านั้นถึงจะเห็นจิตใจของทุกคน กระทั่งจางเหลยและจางต๋าสองพี่น้องที่ก่อเรื่องในตอนแรกก็ยังรู้สึกว่า ถึงแม้กลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน และทุกคนก็เพิ่งจะสนิทสนมกันเท่านั้น ไม่ได้มีความรู้สึกใดต่อกันให้มากนัก แต่ในตอนนี้ ในใจของทุกคนมีความต้องการปกป้องเกียรติยศของสิบสามจ้าวสวรรค์สิบสามจ้าวสวรรค์ไม่อาจยอมรับความอัปยศได้ ต่อให้ต้องสู้จนตัวตายก็จะปกป้องเกียรติยศเอาไว้

“สิบสามจ้าวสวรรค์ยอมตายแต่ไม่ยอมถูกหยามเกียรติ พวกเราคือพี่น้องกัน!” อู๋เสวี่ยพูดเสียงดัง ถึงแม้มุมปากจะมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด แต่กลับเดินไปเบื้องหน้าสุด

พวกหวังเจี๋ยก็เดินตามหลังมา แต่ละย่างก้าวมุ่งตรงไปยังมือสังหารทั้งสี่ ในตอนนี้มือสังหารทั้งสี่ต่างตกตะลึงไปแล้ว พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจอันแข็งแกร่งอย่างหนึ่งสิบสามจ้าวสวรรค์แข็งแกร่งมากจริงๆ ไม่เพียงแต่ความสามารถส่วนตัวของพวกเขาที่แข็งแกร่ง แต่ยังมีจิตใจของพวกเขาอีกด้วย มีเกียรติยศที่รวบรวมพวกเขาทั้งสิบสองเอาไว้ ไม่หวาดกลัวความตาย ก้าวไปเบื้องหน้าอย่างกล้าหาญ

“หึ งั้นพวกแกก็ไปตายให้หมดซะ!”

เจ้าอ้วนที่ถือคค้อนอันใหญ่อยู่ในมือ ค้อนอันใหญ่ในมือขวาของเขา ในช่วงเวลาเพียงพริบตาไม่ทราบว่าขยายใหญ่ไปกี่เท่า บนท้องฟ้ามีพลังสายฟ้าฟ้าผ่าลงมาจากด้านบน กระทั่งมือสังหารร่างอ้วนก็เกือบถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปเช่นกัน พลังโจมตีนี้แข็งแกร่งมาก มือสังหารร่างอ้วนเหมือนจะต้องใช้พลังทั้งหมดในการชักดึงสายฟ้าลงมาจากฟ้า นั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย พลังที่แฝงอยู่ในสายฟ้ายิ่งใหญ่มาก ซัดสาดไปยังพวกอู๋เสวี่ยทั้งสิบสองคนทั้งหมด

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นฟ้า พลังสายฟ้ากระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ ความจริงการที่พวกอู๋เสวี่ยทั้งสิบสองคนสามารถหยุดการโจมตีร่วมกันของอาวุธเทพทั้งสี่ได้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว ตอนนี้ไม่มีพลังการต่อสู้ใดๆ เหลืออยู่อีก ไม่ว่าใครก็ถูกฆ่าได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งหมดต่างไม่หวาดกลัวความตาย และต้องการปกป้องเกียรติยศของกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ให้ได้ เดิมทีคิดว่าการโจมตีนี้ทุกคนจะต้องตายไปแล้ว แต่ในตอนที่พวกเขาลืมตาจ้องมองอยู่นั้น มือสังหารร่างอ้วนที่ถือค้อนสีดำอันใหญ่อยู่ในมือก็กระเด็นออกไป ตกลงบนพื้นอย่างรุนแรง บนค้อนสีดำอันใหญ่ของเขาถึงกับมีรอยร้าวปรากฏขึ้น

ในตอนนี้เองเบื้องหน้าของพวกอู๋เสวี่ยมีเงาร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้น เขามองไปยังมือสังหารทั้งสี่คนอย่างเย็นชา จากนั้นจึงหันมายิ้มให้กับพวกอู๋เสวี่ยแล้วพูดว่า “พี่น้องทั้งหลาย ฉันกลับมาแล้ว!”

………….