บทที่ 243
“โหดร้ายเกินไปแล้ว !”

“อวดดีนักนะ !”

“สมองมันโดนถีบไปซะแล้วล่ะมั้ง ถึงกล้าบอกว่าพวกเราเป็นมดปลวก”

“แม่งเอ๊ย ฉันทนไม่ไหวแล้ว ให้ฉันจัดการมันสักทีเถอะ !”

เหล่าลูกเศรษฐีต่างก็ระเบิดอารมณ์ออกมา คำพูดของเฉินโม่สร้างความโกรธเคืองให้กับทุกคนที่นี่

เวินฉิงหน้าตาขมขื่น ในใจร้อนรนดั่งมดที่ตกลงไปในหม้อ แต่ในสายตาของเฉินโม่ เธอกลับเห็นความมั่นใจที่หาใครเปรียบไม่ได้

เวินฉิงไม่รู้ว่าเฉินโม่ไปเอาความมั่นใจมากขนาดนี้มาจากไหน แต่เธอคงจะถูกความมั่นใจของเขาแพร่เชื้อเข้ามาแล้ว ถึงได้เลือกที่จะเชื่อใจเขาไป

ในที่สุดสีหน้าของว่านเหวินโยวก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงเองก็เย็นชาลง “เด็กน้อย ฉันเห็นว่านายยังเด็ก จึงไม่คิดจะสนใจแต่แรก ไม่คิดเลยว่าแกจะเป็นคนไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่มากถึงเพียงนี้ !”

คุณชายหลิวยิ่งดีใจ คุณชายว่านโมโหแล้ว ไอ้เด็กนี่ได้ตายแน่ !

ฉือรุ่ยปิงสีหน้าเต็มไปด้วยความยินดีเหมือนกัน ตนเองถูกเฉินโม่ทำให้ต้องอับอายขายขี้หน้า ในที่สุดเขาก็ได้แก้แค้นคืนแล้ว

เหล่าลูกเศรษฐีมองไปยังเฉินโม่ ไม่ต่างอะไรจากมองไปยังคนตาย

“คุณชายว่านโมโห ไอ้เด็กนี่โชคร้ายซะแล้ว ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเป็นนิ้วมือ หรือว่าเส้นเอ็นที่ขาดกันแน่ ?”

ว่านเหวินโยวพูดอย่างเย็นชา “อาฮุย มานี่ !”

ชายหนุ่มผมยาวคนหนึ่งเดินออกมายังหน้าของว่านเหวินโยว และทำการโค้งคำนับลง “คุณชายว่าน !”

ว่านเหวินโยวมองไปยังเฉินโม่ และพูดอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อแกเข้ามาที่นี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันจะใช้กฎของที่นี่ เมื่อทำผิดกฎ ก็ต้องได้รับการลงโทษ !”

เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบว่า “การลงโทษอะไร ?”

ว่านเหวินโยวหยิบมีดออกมาจากเอวของลูกน้องคนหนึ่ง ก่อนขว้างมันลงต่อหน้าเฉินโม่ “กฎดั้งเดิม เลือกเกมที่แกเล่นได้ดีที่สุดในนี้มาหนึ่งเกม หากชนะอาฮุยได้ ก็สามารถออกไปได้ แต่ถ้าแพ้ จะต้องถูกตัดนิ้วข้างหนึ่ง !”

เมื่อได้ยินว่าต้องถูกตัดนิ้ว เหล่าสุภาพสตรีที่อยู่ข้าง ๆ ลูกเศรษฐีต่างก็แสร้งทำเป็นปิดหูปิดตา ร้องออกมาด้วยความตกใจ

เหล่าทายาทเศรษฐีฉีกยิ้มออกมาด้วยความเย้ยหยัน

“ลูกน้องของคุณชายว่านอาฮุย เป็นผู้ที่มีความสามารถทุกอย่างในสโมสร ปกติแล้วไม่เคยมีใครในที่นี้เอาชนะเขาได้ !”

“พวกเรามาคอยดูเจ้าเด็กหลงระเริงคนนี้ถูกตัดนิ้วกันเถอะ !”

คุณชายหลิวและฉือรุ่ยปิงยิ้มอย่างชั่วร้าย เฉินโม่เพิ่งจะเคยมาเล่นในสโมสรครั้งแรก ขนาดที่ว่าในนี้มีอะไรให้เล่นบ้างก็อาจจะยังไม่รู้ เมื่อมาเทียบกับยอดฝีมืออย่างอาฮุยแล้วล่ะก็ ยังไงก็แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

ถูกตัดนิ้วหนึ่งข้าง ยังดีซะกว่าการถูกตบสิบครั้ง !

เวินฉิงสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เรื่องมาถึงขั้นนี้ คิดจะออกไปดื้อ ๆ คงทำไม่ได้แล้ว เหลือแต่เพียงต้องเอาชนะคนนี้ให้ได้เท่านั้น

เวินฉิงจู่ ๆ ก็เดินออกไปยืนอยู่ด้านหน้าเฉินโม่ “นี่ไม่ยุติธรรม เสี่ยวโม่เพิ่งจะเคยมาเล่นที่นี่ครั้งแรก ไม่มีความคุ้นเคยกับของเล่นที่นี่ แล้วจะไปเอาชนะเขาได้ยังไง !”

ดูเหมือนว่าว่านเหวินโยวจะยังให้เกียรติเวินฉิงอยู่ จึงตอบอย่างราบเรียบกลับไปว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าต้องทำอย่างไรถึงจะยุติธรรมล่ะ ?”

“ให้ฉันไปสู้กับเขาแทน ถ้าฉันแพ้ ก็ให้ตัดนิ้วฉันซะ !” เวินฉิงพูดอย่างเด็ดขาด

ในใจของเฉินโม่รู้สึกอบอุ่น ยื่นมือออกไปดึงเวินฉิงกลับมา และพูดด้วยความอบอุ่นออกไปว่า “พี่เวิน พี่จะไม่เชื่อใจผมเลยสักนิดใช่ไหม ? ความสามารถของผม มดปลวกเหล่านี้จะไปรู้ได้ยังไง ?”

พูดจบ เฉินโม่ไม่รอให้เวินฉิงตอบกลับ เขามองไปยังว่านเหวินโยวและพูดขึ้นมาว่า “ปกติผมไม่มีอารมณ์มาเล่นน่าเบื่อพรรค์นี้กับพวกคุณหรอก แต่ในเมื่อพวกคุณอยากเล่น งั้นผมจะเล่นเป็นเพื่อนแล้วกัน !”

“คุณเลือกก่อนเถอะ ถ้าหากสามารถเล่นจนเสมอกับผมได้ ถือว่าผมแพ้ !”

เวินฉิงใบหน้าซีด รีบตะโกนออกไปว่า “เสี่ยวโม่ นายจะอวดดีเก่งอะไรได้ขนาดนี้เนี่ย !”

คุณชายหลิวและฉือรุ่ยปิงใบหน้าเต็มไปด้วยความสะใจ “ไม่รู้จักตาย ไม่รู้จักตายจริง ๆ แถมยังกล้าพูดกับอาฮุยด้วยคำพูดแบบนี้ ในที่แห่งนี้ คนที่สามารถเอาชนะอาฮุยได้ ยังไม่เกิดมาเลยด้วยซ้ำ !”

เหล่าลูกเศรษฐีต่างก็ส่ายหน้ากันเบา ๆ เฉินโม่กำลังรนหาที่ตายซะแล้ว !