บทที่ 316 : การต่อสู้ของพลังหยินและหยาง

แน่นอนว่าหลิงหยุนต้องตกใจอย่างมาก เพราะครั้งนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่มาก!

ตอนนนี้หลิงหยุนไม่สามารถควบคุมพลังอมตะในจุดตันเถียนได้ ทันทีที่พุ่งออกจากจุดตันเถียน มันก็เข้ากลืนกินพลังหยิน-หยางในร่างกายของเขาจนหมด

ที่ผ่านมาแม้หลิงหยุนจะรู้ว่าพลังอมตะมากมายได้ถูกเก็บไว้ที่จุดตันเถียน แต่เขาก็ไม่สามารถนำมันออกมาใช้ได้ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

‘ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานกลับไม่ออกมา แต่กลับออกมาในเวลานี้นี่นะ!’

หลิงหยุนรู้สึกขุ่นเคืองใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเขาเองก็ไม่สามารถควบคุมพลังอมตะได้ มันอยู่เหนือการควบคุมของเขา..

เหตุผลที่หลิงหยุนรู้สึกกังวลมากนั้นก็เพราะว่า ในตอนนี้เขากำลังอยู่ในนาทีวิกฤติของการฝึกฝน และเป็นช่วงที่ร่างกายของเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-4 ซึ่งเป็นขั้นที่จะทำให้เขามีร่างกายที่เหนือขึ้นไปมาก

นี่คือการก้าวข้ามจากขั้นปรับร่างกายช่วงต้นเข้าสู่ขั้นปรับร่างกายช่วงกลาง หากหลิงหยุนผ่านเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-4ไปแล้ว เขาก็คงไม่ต้องกังวลใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นถึงเพียงนี้

อธิบายให้ชัดเจนก็คือว่า.. หากตอนนี้หลิงหยุนกำลังเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-5 หรือ 6 เขาจะไม่รู้สึกังวลกับพลังอมตะที่สร้างความปั่นป่วนอยู่ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย

นั่นเพราะหลิงหยุนรู้ดีว่า แม้เขาจะไม่สามารถควบคุมพลังอมตะเหล่านี้ได้ แต่เขาก็มั่นใจว่ามันจะไม่สร้างอันตรายใดๆให้กับเขาอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้เขากำลังฝึกวิชาพลังลับหยินหยางเพื่อสร้างความสมดุลย์ของพลังหยินและหยางในจุดตันเถียน และนั่นคือจุดปรสงค์และเป้าหมายของการฝึกวิชานี้

แต่การที่พลังอมตะกลืนกินพลังหยิน-หยางโดยที่เขาเองก็ไม่สามารถควบคุมได้เช่นนี้ ก็เป็นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเช่นกัน!

เวลานี้สิ่งที่หลิงหยุนทำได้มีเพียงอย่างเดียวคือ.. บังคับตัวเองให้สงบนิ่งกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังมั่นใจว่าพลังอมตะจะไม่ทำร้ายตัวเขาอย่างแน่นอน

หลิงหยุนข่มใจให้สงบและไม่ใส่ใจกับสิ่งที่พลังอมตะกำลังทำ จากนั้นก็เริ่มฝึกวิชาพลังลับหยินหยางไปทีละขั้นต่อไป

พลังอมตะสีดำและขาวต่างก็กำลังกลืนกินพลังหยินหยางเข้าไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และกลับยิ่งเลวร้ายอย่างที่สุดเมื่อหลิงหยุนพบว่าพลังหยินหยางในจุดตันเถียนของเขานั้นเหลืออยู่เบาบางมาก

แต่หลิงหยุนเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อพบว่า  พลังอมตะนั้นแม้มันจะกลืนกินพลังหยินหยางเข้าไป แต่มันก็ดูดซับพลังหยินหยางภายนอกเข้ามาในอัตราความเร็วที่เท่ากันด้วย แม้ปริมาณของพลังหยินและหยางในร่างกายของเขาจะลดลง แต่มันกลับมีความสมดุลย์เกิดขึ้นอย่างน่าประหลาด

แม้พลังหยินและหยางในจุดตันเถียนของหลิงหยุนจะลดลง  แต่เนื่องจากที่นี่คือตำแหน่งตามังกรหยิน จึงมีพลังหยินไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างมากมาย

แต่หลิงหยุนกลับยิ้มเศร้า.. เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะตามหาดวงตามังกรหยินพบ แต่ในเวลานี้เขากลับขาดแคลนพลังหยาง!

พลังหยินจำนวนมากที่ถูกดูดซับเข้าไปในร่างกายผ่านทางเส้นลมปราณสิบสองเส้นก่อนจะไหลลงสู่จุดตันเถียนทั้งหมดนั้น ได้ทำลายสมดุลย์หยินหยางในจุดตันเถียนของหลิงหยุนทันที!

หลิงหยุนคิดว่า.. หากความสมดุลย์ของพลังหยินและหยางในจุดตันเถียนถูกทำลายไปแล้ว พลังอมตะคงจะหยุดกลืนกินพลังหยินที่ร่างกายดูดซับเข้าไป แต่เขากลับคิดผิด.. เพราะพลังอมตะไม่เพียงไม่หยุด แต่กลับเพิ่มอัตราความเร็วในการกลืนกินสูงขึ้นกว่าเดิมมาก

ตอนนี้หลิงหยุนยังไม่มีญาณที่จะสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายได้ เพราะหากทำได้.. เขาจะเห็นได้ทันทีว่าตอนนี้จุดตันเถียนของเขานั้น มีเพียงพลังอมตะสีดำที่กำลังดูดซับพลังหยินเข้าไป!

จากที่จุดตันเถียนเคยขาดแคลนพลังหยินก่อนหน้านี้ กลับกลายเป็นต้องมาขาดแคลนพลังหยางไปเพียงแค่ชั่วพริบตา เพราะจู่ๆ พลังหยินก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ส่วนพลังหยางกลับลดปริมาณลงเรื่อยๆ จนความสมดุลย์ระหว่างพลังหยินและหยางถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง!

 ‘นี่มันอะไรกัน!’ หลิงหยุนกัดฟัน พร้อมกับสะบัดมือซ้ายเรียกยันต์ขุมพลังออกมาจากแหวนพื้นที่หนึ่งมัด!

พลังชีวิตจากยันต์ขุมพลังถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายของหลิงหยุน และวิชาพลังลับหยินหยางก็ได้เปลี่ยนพลังชีวิตที่ได้รับจากยันต์ขุมพลังให้เป็นพลังหยางเข้าสู่จุดตันเถียน และพลังอมตะสีขาวก็เริ่มเป็นฝ่ายกลืนกินบ้าง

‘ข้ารู้แล้วว่าจะหาพลังหยางได้จากที่ใด?’

หลิงหยุนไม่ยอมแพ้  ตราบใดที่พลังหยางในจุดตันเถียนของเขาขาดแคลน เขาก็จะใช้ยันต์ขุมพลังเพื่อเพิ่มพลังหยางให้กับจุดตันเถียน

ก่อนที่หลิงหยุนจะลงมาสำรวจที่ก้นหลุมยักษ์แห่งนี้ เขาได้เตรียมตัวมาค่อนข้างพร้อม และได้ปลุกเสกยันต์ขุมพลังมามากถึงสามพันใบ

หลังจากที่เข้าสู่ดารกะดายนันขั้นสอง จุดตันเถียนและเส้นลมปราณของเขาก็ขยายกว้างขึ้นเป็นสองเท่า ยันต์ขุมพลังจำนวนสามพันใบเพียงพอที่จะให้เขาเติมพลังชีวิตจนเต็มได้ถึงสิบห้าครั้ง และตอนนี้เขาก็ได้ใช้ยันต์ขุมพลังไปสองมัดแล้ว ตอนนี้เขายังเหลือยันต์ขุมพลังอยู่อีกยี่สิบแปดมัด

หลิงหยุนคิดว่า.. ถึงแม้เขาจะใช้ยันต์ขุมพลังทั้งยี่สิบแปดมัดที่เหลืออยู่สร้างพลังหยางให้กับร่างกาย แต่มันก็จะต้องถูกพลังอมตะกลืนกินเข้าไปจนหมดอีกอย่างแน่นอน และยันต์ขุมพลังจำนวนยี่สิบแปดมัดนั้น ก็น้อยนิดเหลือเกินหากเทียบกับปริมาณพลังหยินในดวงตามังกรหยินแห่งนี้

‘ควรทำอย่างไรดี? ข้าควรทำอย่างไร?’ หลิงหยุนครุ่นคิดหลังจากที่ใช้ยันต์ขุมพลังมัดสุดท้ายไปจนหมด แต่พลังอมตะในจุดตันเถียนก็ยังคงกลืนกินอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองสำรวจไปรอบๆ เขาพบว่าในถ้ำที่เป็นตำแหน่งดวงตามังกรหยินแห่งนี้ เลยขึ้นไปทางทิศเหนือยังมีถ้ำอีกแห่งหนึ่ง และหยินหยุนก็รู้ดีว่าถ้ำแห่งนั้นก็คือดวงตามังกรอีกข้างที่กักเก็บพลังหยาง

ที่ดวงตามังกรหยางจะต้องมีพลังหยางให้เขาสามารถใช้ได้อย่างเพียงพอ แต่เขาไม่สามารถไปที่นั่นได้.. เพราะเขาเองก็ยังฝึกพลังลับหยินหยางไม่สำเร็จ!

หากหลิงหยุนสามารถฝึกพลังลับหยินหยางได้สำเร็จ เขาจะสามารถดูดซับได้ทั้งพลังหยินและพลังหยาง โดยไม่ต้องสนใจว่าในร่างกายจะมีพลังหยินหรือพลังหยางมากกว่ากัน เพราะเทคนิคการบ่มเพาะด้วยวิชาพลังลับหยินหยางนี้ จะช่วยปรับเปลี่ยนพลังส่วนเกินในร่างกายให้สมดุย์ได้เอง หากมีพลังหยินมากเกินไป พลังลับหยินหยางก็จะปรับให้พลังหยินส่วนเกินกลายเป็นพลังหยางแทน และท้ายที่สุดร่างกายของหลิงหยุนก็จะมีพลังหยินหยางที่สมดุลย์อยู่ตลอดเวลา!

แต่ปัญหาคือเขายังฝึกไม่สำเร็จ หากหลิงหยุนไปฝึกที่ดวงตามังกรหยาง เขาก็ต้องเผชิญกับปัญหาเช่นเดียวกันนี้อีก คือมีพลังหยางมากเกินไป และขาดแคลนพลังหยิน และถึงตอนนั้นเขาคงต้องตายก่อนแน่

หลิงหยุนเริ่มรู้สึกว่าพลังหยางในจุดตันเถียนนั้นเบาบางลงอีก และเขาก็ไม่มียันต์ขุมพลังเหลืออีกแล้ว!

หลิงหยุนตัดใจเรียกกล่องหยกวิญญาณออกมาจากแหวนพื้นที่ ภายในกล่องหยกวิญญาณใบนี้ หลิงหยุนได้สร้างหลุมพลังสำหรับกักเก็บพลังอมตะที่ขโมยมาจากพู่กันจักรพรรดิไว้เป็นจำนวนมาก และกล่องใบนี้ก็นับว่าเป็นไพ่ตายของหลิงหยุน

เขาต้องการนำพลังอมตะที่อยู่ในกล่องหยกออกมาใช้!

ในขณะที่พลังหยางในจุดตันเถียนของเขาได้ถูกกลืนกินไปจนหมดอีกครั้ง หลิงหยุนถือกล่องหยกวิญญาณไว้ในมือพร้อมกับพึมพำว่า “นี่เป็นการต่อลมหายใจให้กับข้า!”

เพื่อต้องการฝึกวิชาพลังลับหยินหยางให้สำเร็จ หลิงหยุนไม่สนใจอะไรอีกแล้ว และถึงกับหยิบไพ่ใบสุดท้ายของตัวเองออกมาใช้!

พลังอมตะภายในกล่องหยกแผ่กระจายออกมา และพุ่งเข้าสู่จุดตันเถียนของหลิงหยุน พร้อมกับเปลี่ยนเป็นพลังหยางจำนวนมาก

พลังอมตะสีขาวเข้าไปแทนที่พลังอมตะสีดำทันที หลิงหยุนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า จู่ๆพลังหยินของดวงตามังกรก็พวยพุ่งขึ้นมาจนเป็นกระแสวนอยู่รอบตัวหลิงหยุนที่กำลังนั่งขัดสมาธิ  กระแสนั้นวิ่งตรงเข้าสู่จุดตันเถียนของหลิงหยุนทันทีโดยไม่ผ่านไปตามเส้นลมปราณต่างๆเหมือนเช่นเคย เพื่อเข้าไปต่อต้านพลังหยางบริสุทธิ์ที่ได้จากพลังอมตะในกล่องหยก

หลิงหยุนปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป แต่ก็รู้ดีว่าเป็นช่วงเวลาที่สามารถเกิดอันตรายได้สูงมาก!

และนี่คือการต่อสู้ระหว่างพลังหยินและพลังหยาง หากพลังทั้งสองไม่สามารถรวมกันได้ ร่างกายของหลิงหยุนก็จะเหลือเพียงพลังใดพลังหนึ่งเท่านั้น และท้ายที่สุดเขาก็จะต้องตาย!

พลังหยินที่อยู่ในตำแหน่งดวงตามังกรหยินแห่งนี้ เปรียบเหมือนเส้นเลือดที่อยู่ด้านล่างของเขาหยกด้านใต้และเขามังกร ยอดฝีมือที่เป็นผู้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ และสามารถใช้ดินแดนที่เป็นสัญลักษณ์หยินหยางนี้ สร้างเป็นค่ายกลสำหรับกักเก็บพลังมังกรได้นั้นนับว่าเก่งมากทีเดียว เพราะแม้แต่มังกรเองยังไม่อาจหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ได้ จึงไม่ต้องพูดถึงพลังหยินที่อยู่ในที่แห่งนี้!

นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างพลังหยินและพลังหยาง ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลิงหยุนกำลังเล่นกับไฟ!!

ดูเหมือนว่าหลิงหยุนกำลังเดิมพันว่าพลังอมตะในร่างกายของเขานั้น จะเลิกหยุดการกลืนกินหรือไม่ หากเขาใช้พลังชีวิตทั้งหมดที่มีอยู่!

นับว่าหลิงหยุนใจกล้าไม่น้อยทีเดียว เพราะหากสำเร็จเขาจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจนไม่อาจจินตนาการได้ หรือไม่อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่เขาจะได้รับจากผลกระทบในครั้งนี้ก็คือ จุดตันเถียนของเขาจะขยายกว้างขึ้นอีกถึงสิบเท่าจากขนาดเดิม!

ยกตัวอย่างเช่น.. หากจุดตันเถียนเดิมของหลิงหยุนมีขนาดเท่าเม็ดงา หลังจากนี้มันจะมีขนาดเท่าเม็ดแตงโม!

ไม่เพียงแค่จุดตันเถียน แม้แต่เส้นลมปราณของเขาก็จะขยายกว้างขึ้นเป็นหลายเท่า  และจะทำให้ร่างกายของเขาเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-4  ซึ่งเป็นขั้นเดียวกับที่สามารถฝึกกำลังภายในได้ และการฝึกฝนของเขาก็จะก้าวหน้าได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า!

ไม่มีใครรู้ว่าพลังอมตะในกล่องหยกทั้งสี่สิบเก้าชั้นนั้นได้ใช้ไปเท่าไหร่แล้ว หลิงหยุนเริ่มดูดซับให้เร็วขึ้น และเพื่อนำไปช่วยพลังอมตะสีขาวที่จุดตันเถียน

หลิงหยุนไม่นึกไม่ฝันว่า ครั้งนี้การฝึกพลังลับหยินหยางจะใช้พลังหยินและหยางมากมายถึงเพียงนี้ และใช้ระยะเวลาที่นานมาก!

หลิงหยุนยังคงจดจ่ออยู่กับการฝึก เขาไม่สนใจเวลาและไม่รู้ว่าได้ใช้เวลาไปนานเท่าไหร่ และตอนนี้พลังอมตะในกล่องหยกก็เริ่มเบาบางลง

‘ไม่เพียงพองั้นรึ? นี่จะล้อเล่นอะไรกับข้าอีก?!’

หลิงหยุนเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ สายตาของหลิงหยุนทั้งสองข้างสามารถมองเห็นถ้ำหินขนาดใหญ่ได้อย่างชัดเจน

แม้จะยังฝึกพลังลับหยินหยางไม่สำเร็จ แต่ความแข็งแกร่งของหลิงหยุนกลับก้าวกระโดด!

พลังหยินภายในจุดตันเถียนยังคงเป็นฝ่ายชนะ หลิงหุยนส่ายหน้าช้าๆและยังคงดูดซับพลังอมตะจากกล่องหยก และครั้งนี้เขาก็เรียกพู่กันจักรพรรดิออกมา

หลิงหยุนไม่เหลือพลังชีวิตที่จะสามารถใช้แปลงเป็นพลังหยางได้อีกแล้ว ในเมื่อตอนนี้เขาคือเจ้าของพู่กันจักรพรรดิ หลิงหยุนไม่เชื่อว่ามันจะไม่ช่วยเหลือเขา!

ท่ามกลางจุดตันเถียนของหลิงหยุน พลังอมตะสีขาวค่อยๆอ่อนแอลงเรื่อยๆ และพลังอมตะสีดำก็ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หลิงหยุนไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร นอกจากต้องรอ..!

ระหว่างที่รอคอยปาฏิหารย์จากพู่กันจักรพรรดิอีกครั้ง! รอคอยพลังอมตะจากพู่กันจักรพรรดิ!

แต่พู่กันจักรพรรดก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ!!

‘จบแล้ว.. มันจบแล้ว..’

หลิงหยุนสส่ายหน้า เขาได้แต่ยอมรับการฝึกฝนที่ล้มเหลวในครั้งนี้ และตอนนี้เขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งอะไรได้ เขาไม่สามารถฝึกพลังลับหยินหยางได้สำเร็จ เขาคงต้องกลับไปที่ดวงตามังกรหยางเพื่อฝึกพลังลับหยางเพียงอย่างเดียว

แต่ในเวลานั้นเอง จู่ๆหลิงหยุนก็รู้สึกว่าพลังอมตะที่อยู่ตรงหว่างคิ้วของเขาเริ่มเคลื่อนไหว!

พลังอมตะสีทองจากหว่างคิ้วของเขา เกือบจะวิ่งเข้าสู่จุนตันเถียนในทันที!

และครั้งนี้พู่กันจักรพรรดิกลับมีปฏิกิริยาที่เป็นบวก หลิงหยุนรู้สึกว่ามีพลังชีวิตจำนวนมากไหลจากจากพู่กันจักรพรรดิเข้าสู่ฝ่ามือของเขา!

“นี่.. นี่มันปราณมังกร!”

หลิงหยุนเดาไม่ผิด พลังชีวิตที่ไหลออกจากพู่กันจักรพรรดิครั้งนี้ไม่ใช่พลังอมตะ แต่เป็นปราณมังกรที่มันดูดซับจากยอดเข้ามังกรเมื่อครั้งที่เขาไปดูปรากฏการณ์มังกรเล่นน้ำ!