ตอนที่ 583 อึดอัดเหมือนอยากจะถลกหนัง
“ซิงเฉินกั๋วจี้ไม่รับประชาสัมพันธ์กิจการบริษัท”
“ผมกำลำลังคุยกับคุณอยู่ ไม่ใช่คุยกับซิงเฉินกั๋วจี้”
“…ฉันยุ่งมากค่ะ คุณชายเผย”
ในตอนนั้นเองบริกรก็ได้เข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มลงตรงหน้าของทั้งสอง เผยอวิ๋นเจ๋อหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบอย่างนิ่งเฉย ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างสบายอกสบายใจ
“อีกสักพักหนึ่งซุปเปอร์สตาร์ดังอย่างฉู่อี้ก็ต้องไปถ่ายละครไม่ใช่รึไง แถมกองถ่ายก็จองโรงแรมของสกุลเผยไว้เป็นที่ปักหลัก พอถึงตอนนั้นคุณเองก็ต้องไปด้วย เวลาเหมาะเจาะพอดี”
เฉินฝานซิงมุ่นคิ้ว “คุณรู้ได้ยังไง…ฉู่อี้เขา…”
“คุณคิดว่าซุปเปอร์สตาร์ดังกลับเข้าประเทศมา บริษัทบันเทิงไหนบ้างล่ะที่ไม่อยากเซ็นสัญญากับเขา”
เฉินฝานซิงเข้าใจแล้ว
ใครๆ ก็รู้ว่าสกุลซูกับสกุลเซี่ยนั้นปรองดองกันมาตลอด และสกุลเซี่ยเองก็เป็นเจ้าแห่งวงการบันเทิงในประเทศ พวกเขาเคยยื่นข้อเสนอให้กับฉู่อี้ แต่เหตุผลที่ฉู่อี้ปฏิเสธพวกเขานั่นก็เพราะเธอ
“สมาคมสกุลเผยที่ยิ่งใหญ่ ทดลองเปิดบริการโรงแรมทั้งทีจะหาผู้รับผิดชอบที่เก่งๆ สักคนไม่ได้เลยเชียวเหรอ”
“นั่นก็เพราะผมชอบคุณ…”
ครืดดด
คำพูดนั้นของเผยอวิ๋นเจ๋อไม่ทันได้จบลง เสียงเตะเก้าอี้ข้างๆ กลับเรียกสายตาจากผู้คนได้ไม่น้อย
เฉินฝานซิงหันกลับไปมอง ก่อนที่ร่างของเธอพลันชะงักนิ่งไปทันใด
“ผู้ช่วยอวี๋…นี่คุณ…”
เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว อวี๋ซงในตอนนี้ช่างดูคล้ายกับคนตกอับเสียเหลือเกิน
เส้นผมที่เคยเรียงตัวสวยเป็นระเบียบมาบัดนี้กลับยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ตรงปลายขากางเกงชุดสูทของเขาเปรอะไปด้วยเศษดินโคลน ตรงขอบรองเท้าหนังก็เขลอะไปด้วยดินโคลนสีเหลือง ตอนนี้เขากำลังถือสปาเกตตีสองสองจานอยู่ในมือ สีหน้าที่ถูกส่งมายังเธอนั้นแฝงไปด้วยความอึดอัด
“คุณ…คุณหนูฝานซิง…”
เฉินฝานซิงสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า
“นี่คุณ…เป็นผู้รับเหมาไปแล้วเหรอ”
อวี๋ซงมองมายังเธอพลาง หัวเราะแหะๆ ออกมาสองครั้ง “อ่า ครับ ก็ราวๆ นั้น…”
ใบหน้าของเฉินฝานซิงเต็มไปด้วยความสงสัย “นี่คุณไปยั่วโมโหอะไรป๋อจิ่งชวน เขาถึงได้ทรมานคุณจนดูน่าสงสารขนาดนี้”
ไม่มีใครไปยั่วโทสะท่านทั้งนั้นแหละ!
เขามันน่าสงสารแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เข้าใจไหม!
เขาวิ่งอย่างบ้าคลั่งบนถนนที่ไร้มนุษยธรรมเส้นนี้มาโดยตลอด!
“ครูผู้ชายท่าน…ปรีชาสามารถเสมอครับ”
เฉินฝานซิงอดยิ้มขำออกมาไม่ได้ ท่าทางเหมือนจักรพรรดิกับขันที…ไม่ใช่ ราชองครักษ์เช่นนี้ ก็ดูตลกดีไม่น้อย
“นี่คุณคงไม่ได้ยุ่งจนไม่มีอะไรตกถึงท้องมาจนถึงตอนนี้หรอกนะ”
“แหะๆ…” อสี๋ซงขำออกมาสองครั้ง พร้อมทั้งพยักหน้า
เฉินฝานซิงพยักหน้า “งั้นคุณก็รีบๆ กินเถอะค่ะ ลำบากคุณแย่เลย”
“ไม่ลำบากหรอกครับ”
อวี๋ซงทิ้งตัวลงนั่งด้วยความอึดอัดไปทั้งตัว
ภายในหัวใจของเขาผสมไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
เดิมที่คิดว่าป่านนี้ตนคงจะหิวจนไส้กิ่วไปแล้ว แต่เมื่อเขาผ่อนหายใจทิ้งไปรอบหนึ่ง ความรู้สึกอยากอาหารก็พาลอันตรธานหายไปเสียดื้อๆ
“ต้องขอโทษด้วย คุณชายเผย เรื่องนี้ฉัน…”
“เฉินฝานซิง นี่คุณเป็นพวกข้ามแม่น้ำเสร็จก็จะทำลายสะพานงั้นเหรอ พอได้หุ้นไปสมใจแล้ว คุณก็ตัดความสัมพันธ์กันเลยรึไง หืม?”
“คุณชายเผย เงินลงทุนของคุณฉันจะชดใช้ให้เป็นสองเท่า ไม่ใช้คุณขาดทุนแน่ค่ะ”
“ผมสนใจเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ นั่นของคุณรึไง”
“…”
“แน่นอนว่าผมไม่สนใจเงินเล็กน้อยนั่น อีกอย่างผมเอาเงินไปลงทุนกับสกุลซูโดยตรงเลยยังดีเสียกว่า”
ในที่สุดเฉินฝานซิงก็ถลึงมองเขาอย่างเหลืออด
เผยอวิ๋นเจ๋อเห็นท่าทางของเธอเช่นนั้น เขาก็กระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “แค่ให้คุณเป็นธุระให้เรื่องเดียว ทำไมคุณถึงต้องอึดอัดเหมือนอยากจะถลกหนังออกมาอย่างนั้นล่ะ”
“…”
“ที่ให้คุณมารับผิดชอบการทดลองเปิดบริการของโรงแรมใหม่ของผม เป็นเพราะคุณแม่ของผมท่านเป็นคนเสนอมา ในเมื่อคุณไม่ตกลง เห็นทีผมคงต้องให้คุณแม่มาตกลงกับคุณเป็นการส่วนตัว”
ในที่สุดเฉินเชียนโหรวก็ต้องยอมพ่ายแพ้ “ก็ได้ คุณชายเผย แต่ฉันไม่ขอเป็นผู้ดูแลหลัก แค่จะช่วยดูให้เป็นครั้งคราวเท่านั้น”
เผยอวิ๋นเจ๋อพยักหน้า “อืม ถึงตอนนั้นผมจะเตรียมคนเอาไว้ คุณแค่ช่วยแนะแนวทางให้ก็พอ”
เฉินฝานซิงผ่อนลมหายใจ “ในเมื่อคุยกันเสร็จแล้ว งั้นฉัน…”
ตอนที่ 584 บีบบังคับ
เฉินฝานซิงผ่อนลมหายใจ “ในเมื่อคุยกันเสร็จแล้ว งั้นฉัน…”
“ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย อยู่กินอาหารเป็นเพื่อนผมก่อนแล้วค่อยกลับ…”
“แค่ก...”
จู่ๆ อวี๋ซงที่นั่งห่างออกไปไม่ไกลก็เกิดสำลักขึ้นกะทันหัน จนต้องส่งเสียงไอออกมาเสียงหนึ่งอย่างห้ามไม่อยู่
นัยน์ตาสีหมึกเรียวแคบอันสงบนิ่งของเผยอวิ๋นเจ๋อกวาดมองไปยังเขาวูบหนึ่ง จากนั้นเขาก็หยิบแก้วน้ำขึ้นมาแล้วก้มหน้าลงดื่มมันไปอย่างเงียบสงบ
เฉินฝานซิงที่ไม่คิดจะอยู่ฟังก็หมุนตัวแล้วคว้ากระเป๋าขึ้นมา
หวังจะลุกขึ้น ทว่าเสียงอันเรียบนิ่งของเผยอวิ๋นเจ๋อก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณว่า ผมลงทุนกับสกุลซูเพิ่มอีกสักก้อนดีไหม”
เฉินฝานซิงกัดฟันแน่น เจ้าคนสับปลับนี่
เวลาดำเนินไปอย่างเชื่องช้า เฉินฝานซิงรู้สึกว่าการบริการที่นี่ช่างช้าเสียเหลือเกิน
เมื่อหันกลับไปมองอวี๋ซงอีกครั้ง สปาเกตตีสองจานถูกจัดการจนหมดเกลี้ยงไปอย่างรวดเร็ว
“เฉินฝานซิง ผมยังหล่อไม่พอ หรือยังรวยไม่พองั้นหรอ” จู่ๆ เผยอวิ๋นเจ๋อก็ถามขึ้น
เฉินฝานซิงมองเขาพลางส่ายหน้า “คุณชายเผยรูปหล่อไร้ที่ติ เป็นที่รักและเป็นความภาคภูมิใจ ไม่เป็นที่สองรองใคร สมาคมสกุลเผยเป็นครอบครัวขุนนางอายุร้อยปี ทรัพย์สินเงินทองเกินคณานับ หากคุณชายเผยบอกว่าตัวเองไม่มีเงิน งั้นทุกคนบนโลกนี้คงเป็นยาจกกันไปหมดแล้วละค่ะ”
เผยอวิ๋นเจ๋อยังคงมีท่าทีฉงน “แต่ผมไม่เข้าใจ ในเมื่อผมโดดเด่นขนาดนั้น แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมชอบผมล่ะ”
เฉินฝานซิงเบิกตามองเขา ดวงตาสุกใสคู่นั้นถูกฉาบไปด้วยความเย็นชาและห่างเหิน อีกทั้งสีหน้าก็ยังคงสงบเยือกเย็น
“เพราะว่า คุณชายเผย คุณไม่ได้ชอบฉันน่ะสิคะ”
เผยอวิ๋นเจ๋อยิ้มจางๆ “ดูออกได้ยังไง”
“คุณชายเผยเป็นคนรักความสะอาด ครั้งก่อนตอนไปเป็นแขกของบ้านคุณที่จิงเฉิง เพราะผักตามฤดูกาลที่วางอยู่บนโต๊ะมีคนแตะต้องมันน้อยที่สุด ดังนั้นสิ่งทีคุณกินมันมากที่สุดก็คืออาหารจานนั้น แต่พอฉันคีบมันขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง จากนั้นคุณก็ไม่แตะมันอีกเลย หากคุณกำลังจีบฉันอยู่จริงๆ ล่ะก็ คุณชายเผย การสัมผัสกันอย่างสนิทสนมระหว่างชายหญิงนั้นยังมีอีกมากมาย เช่น จูงมือ จูบ อาบน้ำ นอนร่วมเตียงกัน ไปจนถึงเรื่องลึกซึ้งระหว่างชายหญิง…”
เฉินฝานซิงไม่ได้เอ่ยต่อไป เธอลอบสังเกตสีหน้าของเผยอวิ๋นเจ๋ออยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่เธอเริ่มพูดคำว่าจูงมือ หัวคิ้วของเขาก็ค่อยๆ ขยับเข้าหากันทีละน้อย เมื่อพูดจนถึงคำสุดท้ายสีหน้าของเขาก็ปกปิดความรังเกียจเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป
“เพราะฉะนั้นฉันถึงได้สงสัยมาตลอด ในเมื่อคุณชายเผยไม่ได้ชอบฉัน ทำไมต้องฝืนมาตามจีบฉัน ทำไมต้องหาเรื่องทุกข์ใจให้ตัวเองด้วย”
เผยอวิ๋นเจ๋อจ้องมองเธออยู่เนิ่นนาน ก่อนจะหลุดขำออกมาเสียงเบาๆ อีกครั้ง “ผมหาเรื่องทุกข์ใจให้ตัวเองอยู่ก็จริง แต่ผมไม่มีวันทำร้ายคุณ”
“ทำไมคะ”
ในตอนนั้นเอง บริกรก็เข้ามาเสิร์ฟอาหาร
“กินเถอะ”
คำถามของเฉินฝานซิงไร้เสียงตอบกลับราวกับก้อนหินที่จมดิ่งลงสู่ผืนสมุทรกว้าง เฉินฝานซิงหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง
รอยปื้นสีแดงตรงนิ้วเรียวและหลังมือขาวดูสะดุดตาเป็นอย่างมาก
นัยน์ตาสีนิลของเผยอวิ๋นเจ๋อส่องประกาย ก่อนจะยื่นมือออกไปจับข้อมือของเธอเอาไว้
อวี๋ซงที่นั่งอยู่ข้างๆ เริ่มนั่งไม่ติดในทันที!
เขารีบก้มหน้าลงสูดเส้นสปาเกตตีเข้าปากไปสองคำ
แก้วในมือของเฉินฝานซิงไม่ได้ถูกยกขึ้นมา เธอจ้องมองไปยังเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“คุณจะทำอะไร”
หัวคิ้วของเผยอวิ๋นเจ๋อขยับน้อยๆ ก่อนจะดึงมือของเธอมามองดูตรงหน้า
“โดนอะไรมา”
เฉินฝานซิงมองรอยปื้นสีแดงสองสามรอยบนมือก่อนที่ดวงตาจะประกายความกระจ่าง
มันเป็นจุดที่เธอไม่ทันระวังขณะที่ทำเค้กในวันนี้จนเผลอโดนลวกเข้า
จะเจ็บก็แค่ตอนนั้น แต่พอผ่านไปสักพัก เธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอีกเลย ต่อมาเธอจึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนัก
“อ๋อ ไม่…”
เฉินฝานซิงไม่ทันได้พูดจบ จู่ๆ รังสีดุดันบางอย่างก็จู่โจมเข้ามาจากข้างๆ กาย