ตอนที่ 584

Elixir Supplier

584 ดุร้าย

 

เฉินเจียกุ้ยมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา เขามีคราบเลือดอยู่ทั่วทั้งตัว ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าและมีมีดเสียบอยู่ที่ไหล่ของเขา เลือดของเขาไหลออกมาไม่หยุด ดวงตาของเขาดูน่าหวาดกลัว, น่าตกตะลึง, และแดงก่ำ มันไม่ใช่ดวงตาของมนุษย์อีกต่อไป

 

ชายที่ถูกเฉินเจียกุ้ยกัดเอามือกุมแผลของเขาเอาไว้ ส่วนชายชราก็อุ้มหลานชายของเขาอยู่

 

“รีบไปโรงพยาบาลเร็วเข้า! เลิกตีเขาได้แล้ว!” ชายชราตะโกน

 

“ได้ๆ” เขารีบวิ่งออกไปทันที

 

“พี่ เขาเป็นอะไรไปน่ะ?” เฉินโจวมองไปที่เฉินเจียกุ้ยและถามขึ้นมา

 

ทุกคนต่างก็มองออกว่า เฉินเจียกุ้ยไม่ปกติ

 

“เขาบ้าไปแล้ว อย่าเข้าไปใกล้เขานะ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“แกจะไปไหนน่ะ?” ชายชราถามด้วยความกังวล

 

“จะไปที่คลินิกของเสี่ยวเย้าก่อน” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“แล้วไม่ไปโรงพยาบาลเหรอ?” ชายชราถาม

 

“โรงพยาบาลมันเกินไป” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างก็เริ่มรู้กันแล้วว่า หวังเย้าเป็นหมอที่มีฝีมือคนหนึ่ง พวกเขาเชื่อในการรักษาของเขา บางคนที่มีอาการป่วยก็มักจะเลือกไปรักษากับหวังเย้าเป็นที่แรก ในฐานะของแพทย์ปรุงยาแล้ว หวังเย้าสามารถรักษาโรคทั่วไปได้อย่างง่ายดาย

 

ชายที่ได้รับบาดเจ็บอุ้มลูกชายของเขาขึ้นมาและรีบวิ่งไปที่คลินิกของหวังเย้า โดยที่ไม่สนใจเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลที่คอของเขาเลย เขาไม่คิดที่จะเคาะประตูเลยด้วยซ้ำ

 

“เสี่ยวเย้า! นายช่วยตรวจดูลูกชายของฉันให้หน่อยได้ไหม?” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“ได้สิครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” หวังเย้าเห็นเลือดที่คอของเขา

 

“ฉันโดนคนบ้ากัดมาน่ะสิ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“คนบ้าเหรอ?” หวังเย้าถาม

 

“ไว้ฉันจะเล่าให้นายฟังทีหลังแล้วกันนะ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด “ตรวจดูลูกชายของฉันก่อนเถอะ มีคนโยนเขาลงไปที่พื้น เธอช่วยดูหน่อยได้ไหมว่าเขาบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?”

 

“โอเค ไม่ต้องห่วงครับ” หวังเย้าพูด เขาตรวจดูร่างกายของเด็กชายอย่างละเอียด

 

“เขาไม่เป็นอะไรครับ แค่ตกใจเท่านั้น คิดว่าคงจะเป็นเพราะเขากลัวมากกว่าน่ะครับ” หวังเย้าพูด “แล้วพี่ล่ะครับ? คอของพี่ไปโดนอะไรมาเหรอ?”

 

หวังเย้ามีสายตาที่เฉียบคม เขาสามารถมองออกได้ว่า บาดแผลนี้สามารถเกิดได้จากฝีมือของสุนัขหรือไม่ก็มนุษย์ แต่เขาไม่คิดว่า บาดแผลนี้จะเป็นฝีมือของสุนัข

 

“ผมขอหยุดเลือดก่อนนะครับ” หวังเย้าพูด “มันอาจจะเจ็บนิดหน่อยนะ”

 

หวังเย้าทำความสะอาดบาดแผลให้กับพ่อของเด็กชาย เขาหยิบเอาสมุนไพรที่สามารถใช้หยุดเลือดได้และบดละเอียดจนกลายเป็นผง เขานำผงสมุนไพรโรยลงไปบนแผลและกดจุดเพื่อให้เลือดหยุดไหล แล้วเขาก็นำผ้ามาพันแผลอย่างเบามือ

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ฉันไม่อยากจะพูดถึงมันเลยสักนิด ก็ไอ้ชั่วเฉินเจียกุ้ยน่ะสิที่ทำร้ายฉันน่ะ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“เฉินเจียกุ้ยเหรอ?” หวังเย้ารู้จักชายผู้มีชื่อเสียงเลวร้ายคนนี้ดี “เขากัดพี่เหรอครับ?”

 

“ก็ใช่น่ะสิ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้หวังเย้าฟัง “นายคิดว่าเขาเป็นบ้ารึเปล่าล่ะ? ตอนที่ฉันเอามีดแทงเขา เขาไม่ร้องสักแอะเลยด้วยซ้ำ แล้วดูเหมือนเขาจะไม่เจ็บเลยสักนิด”

 

หวังเย้าเงียบไปครู่หนึ่ง เขาไม่เคยเจอคนบ้าเท่ากับเฉินเจียกุ้ยมาก่อน เขาคิดว่า แม้แต่คนบ้าก็น่าจะรู้สึกเจ็บกันบ้าง

 

ในขณะเดียวกัน เฉินโจวและเฉินหยิงก็ยังคงอยู่ที่จุดเดิม

 

“พี่ เราไปกันดีกว่าไหม?” เฉินโจวถามเสียงเบา

 

พวกเขามองตาของเฉินเจียกุ้ยได้สักพักแล้ว ยิ่งเฉินโจวมองตาเฉินเจียกุ้ยนานมากแค่ไหน เขาก็ยิ่งรู้สึกขนลุกมากเท่านั้น

 

“รออีกสักพักเถอะ” เฉินหยิงพูดอย่างใจเย็น

 

“บางที เขาอาจจะทำร้ายคนอื่นต่ออีกก็ได้” เฉินโจวพูด

 

“ที่เรายังไปไหนไม่ได้ก็เพราะเรื่องนี้แหละ” เฉินหยิงพูด

 

เฉินเจียกุ้ยเป็นฝ่ายขยับตัวก่อน เขาหมุนตัวและเดินออกไป

 

“เขาเดินไปแล้ว” เฉินโจวพูด “เขาไม่บ้าแล้วเหรอ?”

 

“ตามเขาไปกันเถอะ” เฉินหยิงพูด

 

“ทำไมล่ะ?” เฉินโจวถาม

 

“ก็ถ้าเกิดเขาเข้าไปทำร้ายคนอื่นขึ้นมาล่ะ?” เฉินหยิงพูด

 

เฉินเจียกุ้ยยังคงเดินต่อไป ไหล่ของเขายังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

 

“พี่ พี่คิดว่า เขาจะเลือดไหลจนตายเลยรึเปล่า?” เฉินโจวถาม

 

“ก็อาจจะเป็นไปได้” เฉินหยิงพูด

 

หวังเย้าจัดการทำความสะอาดและพันแผลให้กับชายที่ได้รับบาดเจ็บและลูกชายของเขา

 

“ตอนนี้ เฉินเจียกุ้ยอยู่ที่ไหนเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“เขาน่าจะยังอยู่แถวนั้นอยู่ แล้วยังมีสองพี่น้องที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านอยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน หวังว่าคงจะไม่เกิดเรื่องอะไรกับพวกเขานะ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“ผมจะลองไปดูหน่อย ถ้าพี่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ เช่น มีไข้หรือปวดแผล ให้รีบกลับมาหาผมที่นี่ทันทีเลยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“โอเค” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

หวังเย้าคิดเงินเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แล้วพวกเขาก็ออกไปจากคลินิกด้วยกัน ชายที่ได้รับบาดเจ็บพาหวังเย้าไปยังจุดที่เกิดเรื่องขึ้น แต่กลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแล้ว

 

“เมื่อกี้ พวกเขายังอยู่ที่นี่กันอยู่เลยนะ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด

 

“มีเลือดอยู่ที่พื้นด้วย” หวังเย้าพูด

 

เขาเดินตามรอบเลือดไป จนกระทั่งเดินไปถึงบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง

 

“หมอหวัง” เฉินหยิงพูด

 

“ทั้งสองก็อยู่ที่นี่ด้วยสินะ” หวังเย้าพูด

 

“ใช่ค่ะ มีคนบ้าอยู่ที่นี่ด้วย” เฉินหยิงพูด เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้หวังเย้าฟัง

 

“เขาอยู่ข้างในเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ใช่ค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“ผมจะลองเข้าไปดูข้างในหน่อย พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อนนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ได้ค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

ประตูไม้บานเก่าถูกเปิดอ้าทิ้งไว้ หวังเย้าเดินเข้าไปที่ลานบ้าน แต่เขาก็ไม่ได้รีบเข้าไปในตัวบ้านทันที แต่กลับเดินดูรอบๆลานบ้านที่ไม่เป็นระเบียบก่อน ภายในลานบ้านมีทั้งขวดเหล้า, ขยะ, หนังแกะ, และกระดูกกองอยู่ที่พื้น เขาหยุดอยู่ตรงหน้าหนังแกะและย่อตัวลงดู

 

กระดูกแกะแตกหักและยังพบเศษฟันตกอยู่ใกล้ๆกันด้วย มันคือฟันของมนุษย์

 

หวังเย้าคิด เขากินกระดูกแกะตรงนี้สินะ

 

เขาเดินไปรอบๆลานบ้านอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างในตัวบ้าน

 

“ระวังนะครับ หมอหวัง!” เฉินโจวตะโกนมาจากด้านนอก

 

“อืม” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ตัวบ้านทั้งทรุดโทรดและไม่เป็นระเบียบ มีกองขยะอยู่ทั่วทุกที่ มีเศษซาลาเปาที่แห้งแข็งเหลือทิ้งไว้บนโต๊ะ หวังเย้ารู้ได้เลยว่า เฉินเจียกุ้ยนั้นเป็นคนที่ขี้เกียจขนาดไหน

 

หวังเย้าเดินตามรอยเลือดที่หยดอยู่ตามพื้นบ้าน และพบร่างเปลือยเปล่าของเฉินเจียกุ้ยนอนอยู่บนเตียง มีดยังคงเสียบอยู่ที่ไหล่ของเขา และมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

 

เขาหายใจเบามาก!

 

หวังเย้าสังเกตเห็นฟันที่แตกหักและลิ้นที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเฉินเจียกุ้ย

 

เขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

 

หวังเย้าสังเกตเห็นเส้นเลือดบริเวณอกที่ขยายใหญ่ขึ้นหลายเส้น เขาจึงรีบเข้าไปจับดูชีพจรของเฉินเจียกุ้ย

 

หวังเย้ามีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น แบบนี้ไม่ดีแล้ว!

 

อวัยวะภายในทั้งหมดของเฉินเจียกุ้ยได้รับความเสียหายอย่างหนัก พลังฉีและโลหิตมีการไหลเวียนที่รุนแรง มันคล้ายกับการถูกทอดในน้ำมันร้อนๆ พลังชีวิตที่รุนแรงสามารถส่งผลให้ร่างกายอ่อนกำลังลงได้ เฉินเจียกุ้ยถูกพิษ มันเป็นพิษที่เกิดจากแมลงมีพิษบางชนิด

 

หวังเย้าตบไปที่ร่างกายของเฉินเจียกุ้ยอยู่หลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ แล้วเขาก็รีบเดินออกไปจากห้อง

 

“หมอหวัง เขาเป็นยังไงบ้างคะ?” เฉินหยิงถาม

 

“ผมมีเรื่องอยากจะขอให้ทั้งสองคนช่วยหน่อยครับ” หวังเย้าพูด

 

“ได้เลยค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“ช่วยไปหาปูนขาวมาโรยทำความสะอาดคราบเลือดที่นี่ทีนะครับ” หวังเย้าพูด เขากลัวว่า พิษร้ายส่งผ่านทางเลือดได้

 

“ได้ค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“คุณไปขอปูนขาวจากที่ทำการหมู่บ้านก็ได้นะครับ” หวังเย้าพูด

 

“เข้าใจแล้วค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“เดี๋ยวครับ” หวังเย้าพูด “ทั้งสองได้มีการสัมผัสผู้ชายคนนั้นรึเปล่า?”

 

“ไม่เลยค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“ดีครับ ไปเถอะ” หวังเย้าพูด

 

หลังเฉินหยิงและน้องชายของเธอไปแล้ว หวังเย้าก็ล็อกประตูบ้านของเฉินเจียกุ้ย เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าไป

 

โฮ่ง! มีสุนัขตัวหนึ่งดมกลิ่นเลือดที่พื้นและเดินเข้ามา

 

“ไป!” เฉินหยิงปาก้อนหินเพื่อไล่มันไป

 

“พี่ไปเอาปูนขาวมาเถอะ ผมจะเฝ้าที่นี่เอง” เฉินโจวพูด

 

“โอเค ระวังตัวด้วยนะ” เฉินหยิงพูด

 

ไม่นาน เธอก็กลับมาพร้อมกับปูนขาว เธอและเฉินโจวจัดการโรยปูนขาวไปที่รอยเลือดบนพื้น เลือดมีปฏิกิริยากับปูนขาวอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนกลายเป็นสีดำ

 

ในขณะเดียวกัน หวังเย้าก็ไปหาหลี่จูฉ่าย ซึ่งก็คือชายที่ถูกเฉินเจียกุ้ยกัด

 

“เสี่ยวเย้า มาที่นี่ทำไมเหรอ?” หลี่จูฉ่ายถาม

 

ใบหน้าของเขาแดงเรื่อ มีอาการหายใจถี่รัวและมีเส้นเลือดขึ้นในดวงตา หวังเย้าสังเกตดูอาการของเขาอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้มีอาการแบบนี้

 

“ผมขอตรวจหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด “พี่รู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่าครับ?”

 

“ก็ไม่นะ” หลี่จูฉ่ายพูด เขาไม่ได้สังเกตเลยว่า ตัวเองมีอาการหายใจถี่และอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น

 

“นอกจากพี่แล้ว ยังมีใครโดนเฉินเจียกุ้ยทำร้ายอีกไหมครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ไม่มี” หลี่จูฉ่ายพูด

 

“แล้วลูกของพี่ล่ะครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ห่าวเจ๋อหลับไปแล้วล่ะ” ปู่ของเด็กชายเดินออกมา

 

“ผมขอไปดูเขาหน่อยได้ไหมครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ได้สิ” หลี่จูฉ่ายพูด

 

หวังเย้าเดินเข้าไปในห้องเพื่อดูอาการของเด็กชาย ซึ่งกำลังหลับสนิทอยู่ เมื่อเห็นว่าเด็กชายเป็นปกติดี เขาก็รู้สึกเบาใจลง

 

“พี่ต้องตามผมไปที่คลินิกตอนนี้เลยครับ” หวังเย้าพูด

 

“โอเค” หลี่จูฉ่ายพูด

 

“เสี่ยวเย้า มีเรื่องอะไรกันเหรอ?” ปู่ของเด็กชายถามด้วยความกังวล

 

“ผมกลัวว่า เฉินเจียกุ้ยจะติดโรคระบาดเข้าน่ะครับ” หวังเย้าพูด

 

“อะไรนะ? โรคระบาดเหรอ? แล้วจูฉ่ายจะเป็นอะไรไหม?” ชายชราถาม

 

“ผมจะลองดูว่าพอจะทำอะไรได้บ้างนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ได้ ขอบคุณนะ” ชายชราพูด

 

ใบหน้าของหลี่จูฉ่ายซีดเผือด เขาได้เห็นถึงความบ้าคลั่งของเฉินเจียกุ้ยมาแล้ว ชายคนนั้นดูจะจดจำใครไม่ได้เลย เขาไม่อยากจะกลายเป็นคนบ้าแบบนั้น

 

“เสี่ยวเย้า ได้โปรดช่วยฉันด้วยนะ!” หลี่จูฉ่ายขอร้อง

 

“อย่ากังวลไปเลยครับ ผมจะพยายามรักษาพี่ให้ถึงที่สุด” หวังเย้าพูด

 

ทั้งสองกลับไปที่คลินอกของหวังเย้า

 

“นั่งนิ่งๆนะครับ พี่อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายสักหน่อยนะ” หวังเย้าตบไปบนร่างกายของหลี่จูฉ่ายอย่างรวดเร็ว

 

“นายกำลังทำอะไรน่ะ?” หลี่จูฉ่ายถาม

 

เขาอยากจะลุกขึ้นยืน แต่กลับทำไม่ได้ เขาไม่สามารถสั่งการขาทั้งสองข้างของเขาได้