บทที่ 375

บทที่ 375

แม้ว่าตำหนักของฮัวหลงจะไม่ได้หรูหราอย่างที่คาดเอาไว้ แต่ก็ยังกว้างขวาง ผิดกับการตกแต่งภายในดูเรียบง่ายที่ดูไม่เหมาะกับบุคลิกของนางเท่าไหร่

และเมื่อเดินผ่านม่านกลางห้องเข้าไป มันก็เผยให้เห็นถึงสภาพภายในได้อย่างคลุมเครือ ด้วยขณะนี้ฮัวหลงยังคงนอนอยู่บนเตียง อีกทั้งนางยังไม่ได้สวมเครื่องแบบอย่างที่ควรเป็น หากแต่สวมใส่ชุดสีขาว ที่ถึงแม้จะเรียกว่าชุดกระโปรง แต่อันที่จริงมันดูคล้ายกับชุดนอนเสียมากกว่า

ข้าง ๆ หญิงสาว มีสาวใช้กำลังพัดให้เบา ๆ ทำให้สายลมพัดผ่านจนกระโปรงของฮัวหลงถูกยกขึ้นเป็นครั้งคราว เผยให้เห็นน่องเรียวและเรือนร่างอันงดงามข้างใต้นั่น และแม้ว่านางจะนอนตะแคงบนเตียงสูงด้วยท่าทีเกียจคร้าน หากแต่ภาพตรงหน้านี้มันก็ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายราคะที่ยากควบคุม

ถังหยินเหล่ตาของเขาและเดินไปที่หน้าม่าน ทว่าไม่ได้เข้าไป เลือกที่จะโค้งคำนับข้างนอกนั่น “ท่านหญิง !”

“ลมอะไรหอบเจ้ามากัน มา ๆ เข้ามาก่อนสิ !” ฮัวหลงยกแขนขึ้นจับศีรษะแล้วหัวเราะขณะมองไปยังถังหยินที่ยืนอยู่ด้านนอก

ตามปกติแล้วมันถือเป็นการไม่สุภาพที่จะเข้าไป แต่ทว่าตัวถังหยินไม่ได้สนเรื่องมารยาทในวังมากนักอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อได้ยินคำเชิญของฮัวหลง เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเลย ในขณะที่ยกม่านขึ้นและเดินเข้าไป

ฮัวหลงยังคงอยู่บนเตียงโดยไม่ขยับตัว นางไม่มีแม้แต่ความตั้งใจที่จะสวมเสื้อคลุม หญิงสาวเพียงโบกมือให้กับนางกำนัลที่อยู่ด้านข้างอย่างเกียจคร้าน

“เจ้าค่ะ ท่านหญิง !” สาวใช้ในวังลดศีรษะลง กล่าวคำลา และจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่สาวใช้จากไปแล้ว ตอนนี้ก็มีเพียงถังหยินและฮัวหลงเท่านั้น… และจากหลังยิ้มให้ชายหนุ่ม นางก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมรูปร่างอันหล่อเหล่าของถังหยินภายใต้ชุดเครื่องแบบเต็มยศ !

หลังจากมองไปยังชายหนุ่มสักพัก ฮัวหลงก็พลันร้องถามขึ้นอย่างช้า ๆ “แล้ว… ท่านยอมรับข้อเสนอของข้าไหม …ท่านถังหยิน”

ฮัวหลงมั่นใจว่าไม่มีทางที่ตนจะหวั่นไหวไปกับผู้ชาย แต่เมื่อนางได้พบกับถังหยิน หญิงสาวก็รู้สึกพ่ายแพ้ในทันที ด้วยแม้ว่านางจะจงใจแต่งตัวยั่วยวนขนาดนี้ ชายหนุ่มก็ยังคงนิ่งเฉย และไม่มีท่าทีใด ๆ ราวกับก้อนหิน

หญิงสาวเพียงถามอย่างง่ายๆ แต่คำตอบของถังหยินกลับทำให้นางประหลาดใจมาก “ข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้า แต่ข้าก็มีอะไรที่อยากให้เจ้าช่วยด้วย”

“อ๋อ ?” หญิงสาวไม่คาดคิดว่าถังหยินจะตกลงยอมรับเงื่อนไขในทันที นางตกตะลึงอยู่นานกว่าที่จะควบคุมตัวเองได้

“ช่วยให้ข้าได้เป็นอ๋อง…” ถังหยินกล่าวช้า ๆ

ฮัวหลงสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็หัวเราะจนตัวสั่น ก่อนจะพูดไปว่า “ตอนนี้กองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแคว้นเฟิงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของท่านอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว งั้นทำไมกัน ทำไมท่านถึงยังต้องการความช่วยเหลือจากข้าอีก”

ถังหยินเหล่ตาของเขา “ก่อนหน้านี้ก็คงไม่ แต่ตอนนี้ข้าต้องการ” เขาหยุดชั่วครู่ก่อนพูดต่ออย่างจริงจัง “ข้าคิดว่าท่านหญิงคงยังไม่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ว่ามีทายาทตระกูลจ้าวเหลือรอด นางมาปรากฏตัวในเมืองหลวงแล้ว ทั้งยังอ้างว่าตนเองเป็นลูกสาวของท่านอ๋องคนก่อน จึงมีคุณสมบัติในการสืบทอดบัลลังก์ และแม้ว่าข้าจะมีกำลังทหารในมือ แต่ทว่าคุณสมบัติของข้านั้นก็ยังห่างไกลจากนางมากนัก ”

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ฮัวหลงก็ตกใจอย่างที่คาดเอาไว้ นางลุกขึ้นนั่งบนเตียงและพึมพำ “ลูกสาวของท่านอ๋อง ? เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ?”

ถังหยินดูไม่แปลกใจนักที่นางไม่เคยได้ยินชื่อของจ้าวหลิง ด้วยแม้ว่าฮัวหลงจะเป็นสนมของท่านอ๋องคนก่อน แต่นางก็มีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น ส่วนจ้าวหลิงนั้น นางก็ได้หายไปตั้งแต่ก่อนที่หญิงสาวจะเข้าวังแล้ว ซึ่งถังหยินก็ได้เล่าทุกอย่างให้ฟัง จากนั้นก็พูดว่า “ไม่ว่านางจะเป็นลูกสาวนอกสมรสหรือเป็นคนต่ำต้อย ทว่านางก็ยังคงเป็นทายาทของท่านอ๋อง ทำให้ตอนนี้นางกลายเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดไปแล้ว และถ้าข้าอยากจะได้บัลลังก์ งั้นแล้วมันก็ต้องทำอะไรซักอย่าง…”

ร่างกายของฮัวหลงสั่นสะท้านขณะที่หญิงสาวมองไปยังถังหยินด้วยความตกใจ “แล้วข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไรล่ะ.. ?”

ถังหยินหันมา จากนั้นดวงตาทั้งสองของเขาก็พลันเปล่งประกายน่าสยดสยองและกล่าวว่า “ปัจจุบันมีนางสนมของท่านอ๋องคนก่อนอยู่หลายคน ต้องมีคนที่รู้แน่ว่านั่นใช่จ้าวหลิงจริงหรือไม่ และถ้าเราได้ตัวคนผู้นั้นมาชี้ว่าอีกฝ่ายเป็นตัวปลอม งั้นแล้วทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้น… ”

ในเวลานี้ฮัวหลงเข้าใจแล้ว ว่าทำไมถังหยินจึงยอมรับเงื่อนไข ด้วยเขาต้องการใช้นาง เพื่อโน้มน้าวนางสนมคนอื่น ๆ!

ถ้าหญิงสาวไม่ช่วยถังหยิน ก็เป็นไปได้มากว่าอ๋ององค์ใหม่ของแคว้นเฟิงจะเป็นจ้าวหลิง ! และเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฮัวหลงก็พลันฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าสามารถช่วยท่านได้ แต่ถ้าท่านผิดสัญญาหลังจากนั้นเล่า ข้าจะมีหลักประกันอันใด ?”

ตาของถังหยินสว่างขึ้นขณะที่เขายิ้มกว้าง ก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้และโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อกดร่างบางลงบนเตียง “ข้าเป็นคนที่รักษาสัญญา ถ้าข้าบอกว่าจะรับเจ้าเป็นภรรยา งั้นแล้วมันก็ต้องเป็นเช่นนั้น”

ใบหน้าของฮัวหลงแดงระเรื่อทันที ก่อนที่นางจะผลักถังหยินอย่างแรง หากแต่ความแข็งแกร่งของหญิงสาวนั้นไม่มีความหมายใด เมื่อต้องเจอเข้ากับแรงกดทับของชายหนุ่ม

จากมุมมองของถังหยิน ฮัวหลงเป็นนางสนมมาก่อน ดังนั้นย่อมต้องผ่านมามาก ทั้งท่านอ๋องคนก่อนและซ่งเทียน เพราะงั้นแล้วจึงไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องเบามือ

….การกระทำของเขาหยาบคายโดยไม่มีร่องรอยของความเมตตาแม้แต่น้อย

ฮัวหลงไม่ได้กรีดร้องออกมา นางเพียงยกมือขึ้นปิดหน้าอกโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเห็นปฏิกิริยาแบบเด็ก ๆ ของหญิงสาว ถังหยินก็กลับคิดว่านางทำไปโดยตั้งใจและยิ้มอย่างซุกซน

เมื่อเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา ฮัวหลงก็โกรธทันที นางตบถังหยินอย่างไม่มีการปราณี

ปฏิกิริยาของถังหยินเร็วแค่ไหน ? ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้ตบเข้าใส่ มือของเขาก็เข้าคว้าเอาไว้ก่อนแล้ว ชายหนุ่มก้มศีรษะลงและกระซิบข้างหูของฮัวหลง “อย่าลืมสิว่าเจ้าอยู่ในฐานะอะไร !”

คำพูดของเขาทำให้ความโกรธบนใบหน้าของนางสลายหายไปทันที ก่อนจะแทนที่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูไร้สาระขณะที่นางพูดเบา ๆ “ยังไม่ได้ ตอนนี้เจ้ายังไม่ได้ขึ้นเป็นอ๋อง !”

สีหน้าของถังหยินกลายเป็นจริงจัง เขาใช้นิ้วขบกรามล่างของนางและถามอย่างสงสัย “เจ้ามั่นใจหรือ ว่าจะสามารถชักชวนนางสนมคนอื่น ๆ ให้มาช่วยข้าได้ ?”

ภายใต้การเคลื่อนไหวของนิ้วชายหนุ่ม ทั่วกายของนางก็พลันร้อนดั่งไฟ หญิงสาวต้องบังคับตัวเองอย่างหนัก ก่อนที่จะหัวเราะและพูดออกมา “ข้าจะทำให้ดีที่สุด ด้วย ‘ความสัมพันธ์’ ระหว่างข้ากับพวกนาง พวกนางต้องช่วยข้าแน่ !”

“ดี !” ถังหยินไม่รู้ว่าความสัมพันธ์พิเศษแบบไหนที่นางมีกับนางสนมคนอื่น ๆ แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมั่นใจในคำพูด เขาก็รู้สึกโล่งใจ

ตราบใดที่นางสนมต่าง ๆ พากันยืนยันว่าจ้าวหลิงเป็นตัวปลอม ปัญหาทุกอย่างก็ถือว่าจบ !!

จู่ ๆ ถังหยินก็พลันตระหนักได้ว่าฮัวหลงที่อยู่ข้างใต้เขานั้นน่ารักยิ่ง ชายหนุ่มจึงเร่งลุกขึ้นยืนและเริ่มปลดกระดุมเสื้อคลุมออก

เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของชายหนุ่ม ฮัวหลงก็พลันตัวเกร็งขึ้นมาทันที นางทำการผลักถังหยินอย่างแรงและพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา… มันยังมีสิ่งที่สำคัญกว่า …ข้าจะไปตามหาคนอื่น ๆ ก่อน”

ถังหยินพบว่ามันน่าสนใจและต้องการแกล้งนางมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงฝังตัวเองเข้าที่คอเรียวงามของนางและพูดออกไปว่า “เรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องรีบร้อน !”

“ถ้าอยู่ในวังนานเกินไป ข้ากลัว… กลัวว่าท่านเสนาบดีจะสงสัย” ฮัวหลงกล่าวขณะหอบหายใจ

มือของถังหยินหยุดชะงัก ด้วยเขาคิดว่ามันสมเหตุสมผล เพราะคนนอกไม่อาจอยู่ในวังหลวงนานเกินไปได้

เขาลุกขึ้นจากเตียงและมองไปยังฮัวหลงที่กำลังหน้าแดงแจ๋ ไม่เพียงแต่ชายหนุ่มจะฟุ้งซ่าน เขายังไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าร่างกายของนางนั้นสมบูรณ์แบบและน่าดึงดูดอย่างยิ่ง

ทว่าการควบคุมตนเองของถังหยินก็แข็งแกร่งอย่างน่าตกใจ เขาถอยกลับไปจัดระเบียบเสื้อบนร่างกายและพูดแผ่วเบา “ข้าฝากเจ้าจัดการเรื่องนี้ด้วย… ไว้จะรอฟังข่าวดีจากท่าน”

การหยุดอย่างกะทันหันของเขาทำให้ฮัวหลงรู้สึกสงสาร แต่นางก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ซึ่งนางก็ไม่ได้พยายามซ่อนอะไรแม้แต่น้อย “อีก 1 ชั่วยาม ข้าจะให้พวกสาวใช้มารับตัวท่านไป”

“ได้ !” ถังหยินตอบในขณะที่เขามองไปยังฮัวหลงอีกครา ก่อนที่จะหันหลังกลับไปและเดินออกจากห้องอย่างเร่งรีบ ด้วยกลัวว่าถ้าอยู่ต่อไปอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้