กรงสัตว์อสูรไม่สามารถขังเจ้าสิงโตอัคคีไว้ได้ และมุมปากของปรมาจารย์จางก็มีเลือดออกมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถจัดการให้เจ้าสิงโตตัวนี้เชื่องได้
กว่าที่จะจับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มาได้นั้นไม่ง่ายเลย สุดท้ายแล้ว พวกเขาอุตส่าห์พบกับผู้ฝึกที่อ้างตนว่าสามารถฝึกสัตว์อสูรให้เชื่องได้ หากปล่อยให้มันหลุดออกมาจะต้องถูกยอดฝีมือของราชวงศ์ฆ่าตายอย่างแน่นอน และถ้าเป็นนั้นจริง ก็จะถือว่านางเสียเวลาจับมันมาเสียเปล่า
มู่เฉียนซียืนอยู่ข้าง ๆ พลังจิตนางแผ่กระจายออกไปพร้อมกับแรงกดดันที่หาที่เปรียบมิได้
“เงียบ!” นางตะโกนอย่างเย็นชา
สิงโตอัคคีรู้สึกได้ถึงพลังจิตทรงพลังจึงสะกดข่มความบ้าคลั่งของมันไว้ ช่วงจังหวะที่มันเริ่มสงบลง ปรมาจารย์จางก็ฝึกให้มันเชื่องได้อย่างผ่อนคลาย ไม่นานนัก มันก็เชื่องอย่างสมบูรณ์
ฉินป้าหัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ๆ ๆ ปรมาจารย์จางช่างร้ายกาจจริง ๆ ทำให้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์เชื่องได้รวดเร็วถึงเพียงนี้” ปรมาจารย์จางมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย เขายิ้ม กล่าวว่า “กล่าวชมเกินไปแล้ว…”
ในตอนนี้แผ่นหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ หากไม่ใช่เพราะได้พลังจิตลึกลับนั้นช่วยเขาไว้ เขาจะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอาณาจักรชิงที่ล้าหลังเช่นนี้ จะมีผู้ฝึกสัตว์อสูรที่มีพลังจิตแข็งแกร่งกว่าเขาเสียอีก
“ยินดีด้วยที่ท่านผู้นำตระกูลมู่ได้รับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์” ฉินป้ากล่าว
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สิงโตอัคคี… ถูกทำให้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่องได้ เรื่องเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในแคว้นชิงมาเป็นสิบปีแล้ว จึงทำให้ทุกคนเนื้อเต้นกันหมด
ทันใดนั้นมีคนตะโกนว่า “ข้าจ่ายหกสิบล้านตำลึงทองเพื่อซื้อเจ้าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นี่ เจ้าจะขายหรือไม่แม่สาวน้อย” มู่เฉียนซีมองไปที่คนผู้นั้นก่อนจะกล่าวขึ้น “เหตุใดจึงต้องการจ่ายเงินเพื่อซื้อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จากข้า ?”
“หึ ๆ” มีบางคนกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
มีคนจะเอาเงินฟาดหน้าผู้นำตระกูลมู่ที่แสนร่ำรวยเพื่อที่จะซื้อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นเรื่องแปลก ปกติต้องเป็นนางที่ทำเช่นนี้ ครั้งนี้นางไม่เอาเงินไปฟาดหัวผู้อื่นนั่นก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว
แม้ว่าตระกูลมู่จะเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ แต่เบื้องหลังของพวกเขาหอหมอปีศาจ พวกเขามีเงินมากมายที่สามารถบดขยี้ตระกูลใดก็ตาม ในแคว้นชิง
ทว่าก็มีอีกคนกล่าวขึ้น “ข้าให้หยกวิญญาณหมื่นชิ้นเพื่อซื้อเจ้าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั่น”
สำหรับผู้ฝึกตนอย่างพวกเขา เงินทองนั้นไม่ได้มีความหมายอะไร หยกวิญญาณต่างหากที่จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าไปเฮือกหนึ่ง หยกวิญญาณ หรือเงินหกสิบล้านตำลึงทอง นี่มิใช่น้อย ๆ เลย!
ทองคำนางก็มีอยู่มากแล้ว หยกวิญญาณนางก็ได้สิทธิ์ขุดเหมืองวิญญาณของราชวงศ์แห่งแคว้นจื่อเยี่ย หยกวิญญาณขั้นสูงในเหมืองนั้นนั้นมีไม่น้อย นางจะไปขาดมันได้อย่างไร
มู่เฉียนซีกล่าวดับความฝัน “ข้าขอโทษ ข้าจะไม่ขายสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้”
“สาวน้อย เจ้าแน่ใจนะว่าจะไม่พิจารณาสักหน่อย”
“ใช่แล้ว พิจารณาดูสักหน่อยเถอะแม่สาวน้อย”
มู่เฉียนซีกล่าววาจาเด็ดขาด “ข้าบอกว่าไม่ขายก็คือไม่ขาย”
คนเหล่านี้มีความคิดที่แตกต่างกัน แต่ในเวลานี้ฮ่องเต้แห่งแคว้นชิงอยู่ที่นี่ พวกเขาจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ตราบใดที่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ไม่ได้ทำพันธสัญญากับใคร พวกเขาก็ยังมีโอกาสอยู่
มู่เฉียนซีขึ้นบนรถม้าของจวนไป๋กั๋วกงแล้วกล่าวขึ้น “ไป๋มู่เฟิง เจ้ากลับไปที่จวนไป๋กั๋วกง ข้าจะออกไปเที่ยวรอบเมืองสักรอบหนึ่ง”
ไป๋มู่เฟิงแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตนเอง เขากล่าวขึ้น “เจ้าว่าอย่างไรนะ ? จะไปเที่ยวรอบเมืองรอบหนึ่งรึ ? เฉียนซีเจ้าไม่รู้หรือว่าตอนนี้มีคนจ้องสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าตั้งกี่คน ต่อให้เจ้ามีสัตว์พันธสัญญาอยู่สองตัว ก็ควรให้คนที่เจ้าเชื่อใจทำพันธสัญญากับสิงโตนี่เถอะ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้น”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้ารู้ และก็เพราะข้ารู้ ข้าจึงต้องออกไปนอกเมือง”
ไป๋มู่เฟิงเบิกตากว้าง กล่าวว่า “เจ้า… เจ้าคงไม่ได้จะ…”
ไป๋มู่เฟิงรู้สึกว่าจะมีคนโชคร้ายเข้าแล้ว และต้องการเข้าร่วมด้วยความสนใจ แต่กลับโดนมู่ฉียนซีโยนออกมาจากรถม้า
“พลังของเจ้านั้นคงทำได้เพียงแค่เป็นผู้พลีชีพ จงกลับไปตั้งใจฝึกฝนเถอะหนุ่มน้อย หมากที่อันตรายเช่นนี้ รอให้เจ้าถึงขั้นราชาแห่งภูตก่อนแล้วค่อยเล่น”
มู่เฉียนซีไล่เจ้าของรถม้าลงไปและขี่ออกจากเมืองอย่างรวดเร็ว
ไป๋มู่เฟิงกําหมัดแน่น เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น! เขาจะพลาดสิ่งที่น่าสนใจไปอีกครั้งไม่ได้
เมื่อน่าหลานอวี้ได้รับข่าวว่ามู่เชียนซีกําลังจะออกจากเมือง เขาก็ตกใจทันที
“ในเวลาเช่นนี้ หญิงผู้นั้นยังจะออกไปนอกเมืองอีกหรือ ? นางเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ ?! นางอยู่ที่หอหมอปีศาจถึงจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดมิใช่ข้างนอกนั่น สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้มีกี่ตระกูลที่กำลังจ้องเล็งชิงเอาสัตว์ศักดิ์สิทธิตัวนั้นของนาง” ไม่นานหลังจากที่มู่เฉียนซีออกจากประตูเมือง นางก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายทรงพลังมากมายไล่ตามมา เวลานี้มู่เฉียนซีอยู่ในป่านอกเมือง มีอะไรมากมายบดบังสายตานาง ช่างสะดวกแก่การสังหารคนหรือวางเพลิงเผาอะไรก็ตามเสียจริง
“สาวน้อย หยุดอยู่ตรงนั้นเสีย!” ทันใดนั้นเสียงคำรามดังลอยออกมา
“หยกวิญญาณหนึ่งหมื่นชิ้น ขายสิงโตอัคคีนี้ให้ข้า”
ผู้ที่เข้ามามีใบหน้าดำคล้ำดุร้ายมาก หากเดินไปตามท้องถนนคงทำให้เด็กน้อยตกใจร้องไห้ได้ เขาข่มขู่มู่เฉียนซีถึงเพียงนี้ คงเพราะคิดว่าสาวน้อยคนนี้จะตกใจจนร้องไห้และจำต้องตอบตกลง
มู่เฉียนซีถามขึ้นว่า “ช้าก่อนท่านลุงแปลกหน้า ท่านตั้งใจจะบังคับซื้อขายข้าอย่างนั้นรึ ?”
ที่ผ่านมามีแต่หมอปีศาจเท่านั้นที่สามารถบังคับซื้อบังคับขายกับผู้อื่นได้ ส่วนผู้อื่นนั้นอย่าได้หวังว่าจะบังคับนางได้ อย่าได้หวัง… แม้แต่ฝันก็ยังทำไม่ได้
บุรุษรุ่นลุงผู้มีใบหน้าดำคล้ำกล่าวขึ้นว่า “สาวน้อย ข้าจ่ายราคาสูงขนาดนี้แล้ว ข้านั้นไม่ได้คิดติดค้างอะไรกับเจ้า หากเจ้ายังไม่รู้จักดีร้าย ข้าก็ไม่เกรงใจเจ้า”
น่าหลานอวี้พาคนมาถึง เห็นมู่เฉียนซีถูกข่มขู่อยู่พอดี เขาคิดว่าเห็นแก่การที่นางช่วยปกปิดความลับเรื่องนั้น เขาก็ควรที่จะออกตัวช่วยเหลือนาง แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือหญิงสาวที่หยิ่งยโสคนนี้กลับยอมก้มหัวลงให้กับบุรุษรุ่นลุงหน้าดำผู่นี้
มู่เฉียนซีกล่าว “อื้ม! หยกวิญญาณหนึ่งหมื่นชิ้นนั้นไม่เลวเลย ส่งมาให้ข้า จากนั้นท่านสามารถเอาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ไปได้”
มู่เฉียนซีปล่อยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากมิติ บุรุษรุ่นลุงหน้าดำก็มอบหยกวิญญาณให้กับนางอย่างตรงไปตรงมา เขาโบกมือและกล่าวว่า “พวกเจ้า… พาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ไป!”
เหล่าผู้ใต้บัญชาของบุรุษรุ่นลุงใบหน้าดำ กรูกันเข้าไปจับที่กรงของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นพลันรู้สึกว่าพลังวิญญาณบนร่างของตนเองได้ถูกดูดไปจนหมดสิ้นอย่างแปลกประหลาด
พวกเขาล้วนตกใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?
ในตอนนี้เอง เงาสีม่วงลัดไปที่ด้านหลังของบุรุษรุ่นลุงใบหน้าดำ
เข็มยาหนึ่งเข็มจี้ลงบนแผ่นหลังของเขา มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา “ท่านอย่าได้ขยับตัวมั่วซั่ว มิเช่นนั้น เสร็จแน่!”
“หากท่านขยับตัวแล้วทำให้ข้าตกใจ เข็มยาของข้าจะกรีดผิวหนังของท่านจนฉีกขาด แล้วทานจะตายอย่างอนาถ”
บุรุษรุ่นลุงใบหน้าดำโกรธแทบกระอักเลือด เขาเป็นถึงราชาแห่งภูตระดับสูง กลับโดนลอบโจมตีโดยสตรีอายุน้อยคนหนึ่ง
“เจ้า… เจ้าวางยาพิษพวกเรา เจ้า…”
เวลานี้ราชสีห์เพลิงอยู่ในกรงอย่างเกียจคร้าน แม้แต่มันยังชื่นชมกับความร้ายกาจของหญิงผู้นี้ กรงสัตว์ทั้งหมดถูกนางวางยาพิษลึกลับไว้หลายชนิด เมื่อมีผู้ใดมาเตะต้อง จะต้องตายตกไปแน่นอน
ต่อไปอย่าได้มาล่วงเกินหญิงนางนี้ มิเช่นนั้นแล้วจะตายเช่นไรก็ไม่อาจรู้ได้
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างสะใจ “ใช่แล้ว ข้าวางยาพิษ กล้ามาเตะต้องของของข้า ต้องบอกเลยว่าพวกเจ้านั้นกล้ามาก”
บุรุษรุ่นลุงใบหน้าดำถามขึ้น “เจ้า… เจ้าต้องการอะไรจากข้า ?”
มู่เฉียนซี “ไม่มีอะไรมากนัก ข้าเพียงเห็นว่าท่านสามารถเอาหยกวิญญาณหมื่นชิ้นออกมาได้อย่างสบาย ๆ เช่นนั้นท่านคงจะต้องมีเงินทองมากมายเป็นแน่ ส่งของมีค่าบนตัวท่านทั้งหมดมา”
บุรุษรุ่นลุงใบหน้าดำผู้นั้นแทบจะร้องไห้ออกมา เขากล่าวว่า “เจ้า… เจ้ากำลังปล้นข้า”
มู่เฉียนซี “หากท่านไม่คิดโลภในสัตว์ศักดิ์สิทธ์ของข้า ไม่บังคับให้ข้าขายให้ก็คงไม่ต้องโดนข้าปล้น จะให้หรือไม่ให้ หากไม่ให้ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้ท่านตาย”
.