อาจารย์สวี?

อาจารย์สวีแก่มากแล้ว จะเป็นคนที่สวมหน้ากากแย่งชิงระฆังวิญญาณสะบั้นของเยี่ยเฟิงได้อย่างไร?

ตามที่เยี่ยเฟิงอธิบาย คนที่ขโมยแย่งชิงระฆังวิญญาณสะบั้นของเขาคือคนหนุ่มอายุไม่มากสวมหน้ากากชุดสีขาวที่มีศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก?

เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวว่า“หรือว่าอาจารย์สวีส่งคนไปแย่งชิงระฆังวิญญาณสะบั้นหรือ?”

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว นางไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้เลย แต่นางต้องการปลดคลายความลับของระฆังวิญญาณสะบั้นและค้นหาไข่มุกมังกรในตำนานที่เล่ากล่าวขานกัน

”ไม่ว่าผู้ใดจะแย่งชิงระฆังวิญญาณสะบั้นไป เจ้าเด็กโสโครก เจ้าคิดที่จะอยู่ที่จวนหานอ๋องตลอดไปและเป็นพระชายาหานของเขาหรือ?โลกภายนอกกว้างใหญ่ หรือว่าเจ้านั้นไม่อยากออกไปดู”

“เช่นนั้นก็ได้ พวกเราไปกันเลยตอนนี้”กู้ชูหน่วนพลิกผ้าห่ม แล้วหยิบมงกุฎหงส์ จากนั้นกระโดดลงอุโมงค์ใต้ดินก่อน

เซี่ยวอวี่เซวียนถึงกับอึ้งมึนงง

เมื่อครู่ไม่ใช่เจ้าเด็กโสโครกเพิ่งจะปฏิเสธหรือ?เหตุใดถึงพูดว่าไปก็ไปโดยทันที ?รีบร้อนกว่าเขาเสียอีก

ชิวเอ๋อร์กล่าวอย่างร้อนใจว่า“คุณหนู คิดจะทำสิ่งใดกันเจ้าคะ วันนี้เป็นวันแต่งงานวันสำคัญ หากท่านอ๋องรู้ ท่านอ๋องจะปล่อยท่านไปได้อย่างไรกัน”

“ชิวเอ๋อร์ ลำบากที่จะต้องให้เจ้าอยู่ที่จวนหานอ๋องอีกสักหน่อยนะ เยี่ยจิ่งหานปากร้ายใจดี เขาไม่ทำสิ่งใดกับเจ้าหรอก เสี่ยวเซวียนเซวียน พวกเราไปกันเถอะ”

ไม่รอให้ชิวเอ๋อร์เอ่ยปากกล่าวสิ่งใด เซี่ยวอวี่เซวียนจึงทำให้นางเป็นลมสลบไป แล้วกระโดดลงอุโมงค์ เหลือทิ้งไว้เพียงเหล่าแขกผู้มาเยือน กับเทพแห่งสงครามและจอมมารที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดอารมณ์คุกรุ่นอยู่

ช่องทางลับคือบ่อน้ำร้างทิ้งไว้นานไม่ได้ใช้งาน พวกเขาทั้งสองใช้ความพยายามอย่างมากในการปีนขึ้นไป

กู้ชูหน่วนจัดการกับชุดที่ไม่เรียบร้อยของตนเอง พร้อมกับกล่าวว่า“เสี่ยวเซวียนเซวียน เจ้าเข้ามาในจวนหานอ๋องได้อย่างไร เจ้าคงไม่ใช่หนูที่ขุดเจาะเข้าไปได้โดยเฉพาะหรอกนะ”

กู้ชูหน่วนรู้ ฐานะที่แท้จริงของเซี่ยวอวี่เซวียนนั้นไม่ได้ธรรมดาอย่างที่นางคิดหรอก แต่อย่างไรนางก็ไม่อยากจะถามรบเร้าเขา

“เจ้าคิดว่าข้าคือหนู เช่นนั้นข้าก็คือหนู ข้าได้ยินมาว่าเมืองอวี๋มีหอสุราชุนเฟิง ไม่เพียงแต่อาหารอร่อยเท่านั้น เหล้าก็ยังดีกว่า ยังใกล้ภูเขาและแม่น้ำด้วย ทิวทัศน์ก็สวยงาม พวกเรามิสู้กับไปชิมเหล้าที่นั่นกันไหมล่ะ?”

“ได้สิ ไปกัน “กู้ชูหน่วนเกาะที่ไหล่ของเขา ใบหน้าเปื้อนด้วยรอยยิ้ม ภายในใจคิดว่าเซี่ยวอวี่เซวียนจะพานางไปทำอะไรที่เมืองอวี๋

“เจ้าเด็กโสโครก วันแต่งงาน เจ้าทิ้งเทพแห่งสงครามเช่นนี้ เจ้าไม่เสียใจภายหลังจริงหรือ?”

“เสียใจภายหลังสิ เพราะฉะนั้นตอนที่เจ้าแห่งสงครามมาตามข้า เจ้าจะต้องช่วยข้านะ”

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงออกมากับข้าล่ะ?”

กู้ชูหน่วนกำระฆังวิญญาณสะบั้นไว้แน่น เพราะเหตุใดถึงตามเขาออกมา……

นางไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดถึงตามเขาออกมา

น่าจะไม่กี่วันมานี้สมองของนางมีแวบมาบางช่วงบางตอน

บางอย่างที่เกี่ยวกับระฆังวิญญาณสะบั้นกับไข่มุกมังกร นางมักจะรู้สึกว่าตนเองที่ข้ามผ่านเวลากับคนที่ชื่อแซ่เดียวกันได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

นิกายเทพอสูรไม่มีทางช่วยนางอย่างไร้เหตุผลและยังส่งฝูกวงคนสนิทข้างกายปกป้องนางด้วย

นางรู้สึกว่าตัวเองลืมความทรงจำไปมากมาย

อยากจะย้อนคืนความทรงจำเหล่านี้ อีกทั้งอยากรู้สาเหตุเหตุผลที่แน่ชัด มีเพียงปลดคลายระฆังวิญญาณสะบั้น หาไข่มุกมังกร

อีกอย่างหนึ่ง นางจะต้องแข็งแกร่ง

ปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่ที่โลกแห่งนี้ ไม่มีศิลปะการป้องกันตัว เท่ากับไม่มีสิทธิที่จะหยิ่งผยองภาคภูมิใจ

ผู้นำกองธงกล้วยไม้ นางจะต้องสังหารอย่างแน่นอน แต่นางไม่อยากเอาความหวังไปไว้ที่เยี่ยจิ่งหานคนเดียว

กู้ชูหน่วนยิ้ม กล่าวอย่างคลุมเครือว่า“น่าจะเพราะเจ้าหล่อ เลยดึงดูดข้า”

เซี่ยวอวี่เซวียนชะงักงันทันที หัวใจโอบล้อมด้วยความสุข กล่าวว่า“แต่เยี่ยจิ่งหานก็น่าจะรูปหล่อไม่เบานะ”

กู้ชูหน่วนลูบคลำคาง แล้วกล่าวว่า “เยี่ยจิ่งหานก็รูปหล่อไม่เบาจริง แต่คนลักษณะอย่างเจ้า ข้าก็ชอบ”

คำที่บอกว่าชอบ ทำให้ภายในใจของเซี่ยวอวี่เซวียนรู้สึกมีความหวัง มองกู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่ร้อนแรงรุ่มร้อนมากขึ้น