บทที่ 354 ตัดหัว

คู่ชะตาบันดาลรัก

ณ ห้องโถงรวมตัวเสียงเกียจคร้านของคุณชายหยางดังขึ้น “พวกเจ้าจับข้ามาจะทำอะไรได้ หากกล้าฆ่าข้าละก็เหลียงจางและจงซู่จะกลับไปนำกองกำลังขึ้นมาบนภูเขา หากไม่ฆ่าจะซ้อมข้าเพื่อระบายอารมณ์งั้นหรือ ถ้าข้าสามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ข้าก็จะกลับขึ้นมาบนเขาอีกเช่นกัน”

หัวหน้าโจรเยาะเย้ย “ตามที่ท่านกล่าวมาไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไรเลยสักนิดเดียว”

หยางชูพูดอย่างสบายๆ “ข้าไม่ได้บอกหรือ หากไม่ฆ่าข้าแลกเป็นเงินไปก็จบ คนสำคัญอย่างข้าจะไปเทียบกับพวกเจ้าได้อย่างไร เห็นพวกเจ้าใช้ชีวิตไปอย่างสับสนเช่นนี้ถือว่าข้าเมตตามากแล้วนะ!”

“….” ตอนจับไม่คิดอะไรมาก แต่พอจับเสร็จแล้วดูเหมือนมันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

หากฆ่าไปละก็พวกเขาทำได้เพียงละทิ้งเขาเหยียนซาน และหนีเอาชีวิตรอด เดิมทีพวกเขารวมตัวกันที่เขาเหยียนซานเพราะไม่อยากหนีต่อไปเรื่อยๆ หากต้องหนีแล้วพวกเขาต้องหนีไปที่ใดล่ะ

หากไม่ฆ่าเขาแล้วจะปล่อยไปเช่นนี้เลยหรือ ได้ยินมาว่าเขาเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์จากเมืองหลวง เห็นเขาพูดชื่อเหลียงจางและจงซู่ออกมาอย่างสบายๆ ราวกับไม่เห็นสองแม่ทัพแห่งกองทัพซีเป่ยอยู่ในสายตา หากพวกเขาอยู่ต่อกองทัพซีเป่ยคงมาที่ภูเขาเพื่อค้นหาเป็นแน่

เป็นปัญหาที่รับมือยากเสียจริง!

เหล่าโจรอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก่อนหน้านี้พวกเขาจะคิดอย่างไรได้เนื่องจากหมู่บ้านถูกกวาดล้างทีละกลุ่ม ในขณะที่กังวลว่าตนเองจะไม่มีทางรอดตนก็โกรธที่คุณชายหยางจะไม่ให้ทางรอดแก่พวกตน ดังนั้นพวกตนจึงจับกุมเขามา แล้วพอจับมาแล้วควรทำอย่างไรไม่ต้องคิดมากมาย…

ฟังแล้วดูเหมือนว่าการจับตัวเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินจะเป็นหนทางเดียวเท่านั้น

“พวกเจ้าห้ามทำร้ายคุณชาย!” สาวใช้ตะโกน “หากต้องการเงินพวกเราให้ได้มากกว่านี้! ตั้งราคามาได้เลย!”

หัวหน้าโจรถามเพื่อความแน่ใจ “เงิน พวกเจ้าให้เงินได้เท่าไร”

สาวใช้พูดอย่างไม่ลังเล “ห้าแสนตำลึงพอหรือไม่ ไม่พอก็ล้านตำลึง!”

เสียงหายใจดังขึ้นในห้องโถง หนึ่งล้านตำลึง เงินจำนวนมากเพียงนั้นได้ยินมาว่าค่าใช้จ่ายทางทหารของกองทัพซีเป่ยมีจำนวนหลายล้านต่อปี!

คุณชายผู้สูงศักดิ์จากเมืองหลวงผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย!

หากมีหนึ่งล้านตำลึงพวกเขาจะเป็นโจรไปทำไม หากแบ่งเงินให้หนึ่งร้อยคนก็ตกคนละสี่ถึงห้าพันตำลึงซึ่งเพียงพอแล้วที่จะหาที่ดินเล็กๆ ให้เป็นเศรษฐีได้

“พวกท่านจะให้เงินหนึ่งล้านตำลึงจริงหรือ” หัวหน้าโจรสงสัย

อาหว่านมองดูพวกเขาอย่างดูถูก “หนึ่งล้านตำลึงทำไมจะให้ไม่ได้ ด้วยฐานะคุณชายของพวกเรา เพียงแค่เอ่ยปากก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ธุรกิจที่เมืองหลวงรับแค่เงินเท่านั้นไม่มีการหลอกลวงแม้แต่เด็กและคนชรา!”

“พี่ใหญ่” มีคนส่ายหน้า “หรือพวกเรา…”

“ใช่! อย่างไรพวกเราก็อยู่บนเขาเหยียนซานต่อไปไม่ได้แล้วหากอยู่ต่อพวกเราก็ตาย”

“เปลี่ยนสถานที่ได้ขอให้มีเงินจะไปที่ใดก็ได้”

คนหนึ่งว่าไปคำหนึ่งอีกคนว่าไปคำหนึ่งโจรเหล่านี้เดิมทีเป็นกลุ่มคนที่เหลือจากหมู่บ้านต่างๆ หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป

หัวหน้าโจรทำได้แค่เชื่อฟังเขาเองก็ตื่นเต้นเพราะตนจะเป็นคนที่ได้ส่วนแบ่งมากที่สุด!

“ได้! ข้าจะรีบเขียนจดหมาย หนึ่งล้านตำลึง เงินสดอย่างน้อยหนึ่งแสนตำลึง! หากเราได้ตรวจสอบเงินและตั๋วแล้วพวกเราจะปล่อยท่านกลับไป!”

หยางชูตอบ “เงินสดหนึ่งแสนตำลึงมากเกินไปไม่สะดวกที่จะขนย้ายยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ทุรกันดารอย่างเกาถางไม่สามารถรวมเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงได้ในคราวเดียวอย่างมากที่สุดข้าให้เงินห้าหมื่นตำลึงแก่พวกเจ้าส่วนที่เหลือจะเป็นตั๋วเงินข้าไม่อยากอยู่ที่นี่นักหรอกนะ!”

หัวหน้าโจรคิดตามก็เห็นด้วยเขาให้คนไปนำกระดาษ และพู่กันให้หยางชูเขียนข้อความจากนั้นก็ให้ลูกสมุนลงเขาไปเพื่อส่งจดหมาย

หนึ่งล้านตำลึง! ในระหว่างที่รอนั้นเหล่าโจรเหมือนตกอยู่ในห้วงจินตนาการ เมื่อนึกถึงตัวเลขก็เพ้อฝันถึงชีวิตที่ดีหลังจากที่ได้เงินมา

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ก็มีเสียงจากด้านนอก

“ตอบกลับอะไรเร็วเพียงนั้นรีบไปดูเร็ว!”

แต่แล้วพวกเขาก็ต้องผิดหวังเพราะลูกสมุนที่ให้ออกไปส่งจดหมายนั้นถูกมัดและโยนขึ้นหลังม้าอีกทั้งยังมีทหารจำนวนมากบุกเข้ามา

โจรเหล่านี้กำจัดยากเพราะคาดเดาไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหนตอนนี้ถูกห่อเป็นเกี๊ยวจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของทหารได้อย่างไรกันโดยเฉพาะขุนศึกตระกูลหยางซึ่งแต่ละคนนั้นช่างดูดุร้าย

“ตัวประกัน! ตัวประกันอยู่ไหน” หัวหน้าโจรตะโกนขึ้น

เขารีบเข้าไปในห้องโถงคิดจะนำหยางชูที่เป็นตัวประกันออกไป และสั่งให้เจ้าหน้าที่และทหารหยุดโจมตี

แต่ยังไม่ทันที่จะจับผู้ใดก็ได้ยินเสียง ‘เจิง’ ที่ข้างหูตามด้วยเสียงแหลมที่บาดแก้วหู

ในขณะที่คิดจะยกมือปิดหูนั้นก็ได้ยินเสียง ‘เจิง’ ติดกันอีกหลายครั้ง จู่ๆ เขาก็รู้สึกปวดศีรษะและมีเลือดพุ่งออกมา เขาเอื้อมมือไปสัมผัสมัน แต่สัมผัสเลือดเพียงนิดเดียวก็ล้มลงและหมดสติไป

หนิงซิวดึงกริชออกมาตัดตาข่ายขนาดใหญ่ปล่อยหยางชู และอาหว่านให้เป็นอิสระ

“ขอบคุณศิษย์พี่” หยางชูขยับตัวยืนเส้นยืดสายแล้วรับกระบี่ที่อาสวนยื่นให้

หนิงซิวมองเขาอย่างเย็นชา “คราวหน้าอย่าทำเช่นนี้อีก”

เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ขาดเป็นบางส่วนหยางชูก็หัวเราะ “ได้ๆๆ ทำให้ศิษย์พี่หมดสภาพเช่นนี้ข้ารู้สึกผิดจริงๆ”

เขาโบกไม้โบกมือแล้วนั่งบนเก้าอี้หัวพยัคฆ์ในห้องโถงไม่นานการสังหารก็จบสิ้นลง และอาสวนก็เข้ามารายงานว่า “คุณชาย พวกเราสั่งการโจรเรียบร้อยแล้วขอรับ”

โจรจำนวนสองร้อยคนถูกฆ่าไปครึ่งอีกครึ่งยอมมอบตัว

……………

เมื่อนายอำเภอเฝิงอี้เดินทางมาถึงสนามเลี้ยงม้าทุกคนกำลังเลี้ยงฉลองและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

เมื่อหยางชูเห็นเขาประโยคแรกที่อีกฝ่ายทักทายก็คือ “ยินดีด้วยใต้เท้าเฝิง โจรบนเขาเหยียนซานถูกกำจัดหมดแล้วการประเมินครั้งถัดไปท่านได้เลื่อนขั้นแน่นอน”

เฝิงอี้ทั้งประหลาดใจทั้งยินดีน้ำเสียงของเขามีความกลัวเกรงเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว “คุณชายหยาง…”

หยางชูโบกมือแล้วพาเขาไปที่ห้องหนังสือของตน เฝิงอี้มีท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ก็มีความพอใจในตนเองเล็กน้อย

ห้องหนังสือของคุณชายหยางนั้นไม่ใช่ว่าผู้ใดจะสามารถเข้าไปได้ได้ยินว่าครั้งก่อนแม่ทัพเหลียงได้ส่งคนมาที่นี่ก็แค่ได้ดื่มชาในห้องโถง คุณชายหยางถือว่าตนเป็นคนสนิท!

และเมื่อทั้งสองนั่งลงคำพูดแรกของหยางชูคือ “ใต้เท้าเฝิงอยากเลื่อนขั้นหรือไม่”

เฝิงอี้ตกใจเขาถามอย่างระมัดระวัง “คุณชายหมายความว่าอย่างไร”

หยางชูตอบ “ความดีความชอบในครั้งนี้ใต้เท้าสามารถย้ายไปที่ไหนก็ได้ หากโชคดีไม่แน่ว่าท่านอาจได้รับตำแหน่งสำคัญๆ ในเมืองหลวง”

เฝิงอี้ยิ้ม “ทุกอย่างล้วนเป็นผลงานของคุณชาย”

หยางชูโบกมือ “ข้าบอกไปแล้วในตอนแรกความดีความชอบนี้เป็นของใต้เท้าเฝิงก็เป็นของใต้เท้าเฝิง”

เฝิงอี้ยิ้มแล้วคำนับเขา “ไม่ว่าอย่างไรบุญคุณครั้งใหญ่ของคุณชายข้าจะไม่มีวันลืม”

“เช่นนั้นใต้เท้าเฝิงเตรียมตัวเข้าเมืองหลวงแล้วหรือ”

เป้าหมายของเฝิงอี้คือการไปที่เมืองหลวงมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เขามีความคิดที่ต่างออกไป “คุณชายถามเช่นนี้หมายความว่าท่านมีตัวเลือกที่ดีกว่าหรือ ข้าจะตั้งใจฟังด้วยความเคารพ”

หยางชูพอใจมาก “หากใต้เท้าเฝิงถูกย้ายเกาถางจะหานายอำเภอคนใหม่ซึ่งไม่สะดวกสำหรับข้า อย่างไรเสียใต้เท้าเฝิงกับข้านั้นร่วมงานกันได้เข้ากันเป็นอย่างดีใช่หรือไม่”

เฝิงอี้เข้าใจ “ท่านต้องการให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อเพื่อช่วยเหลือท่านงั้นหรือ”

หยางชูตอบ “ท่านสามารถเลือกได้ด้วยตนเองหากอยู่เป็นนายอำเภอที่นี่ต่อไป วิถีทางที่ก้าวไปเป็นขุนนางของท่านอาจช้าไปอีกสองถึงสามปี”

เฝิงอี้พิจารณาถึงแม้คุณชายหยางจะไม่พูด แต่ทุกอย่างก็ชัดเจนอยู่แล้ว หากเป็นเช่นนั้นละก็เขาจะกลายเป็นคนสนิทของคุณชายหยาง และในอนาคตเมื่อคุณชายหยางกลับเมืองหลวง…

“คุณชาย หลังจากนี้โปรดชี้แนะข้าด้วยเถิด!” เฝิงอี้พูดออกไปโดยไม่ต้องคิดพิจารณาใดๆ

หยางชูยิ้มบางๆ

…………