EP.361 เสริมความแข็งแกร่ง
“ออกมา…”
หลินมู่อวี่ส่งเสียงเรียกอย่างนุ่มนวล โซ่เทวะสีทองพวยพุ่งออกมาคล้องแขนเจ้าของ ก่อนจะดูดกลืนพลังวิญญาณหมีหลังโลหะอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันหลินมู่อวี่เรียกติ่งหลอมยักษ์ออกมากลั่นเอาจิตวิญญาณที่สำคัญที่สุดของสัตว์ร้าย ด้วยการทำเช่นนี้จะเป็นตัวช่วยให้โซ่เทวะได้รับความสามารถใหม่
ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที โซ่เทวะเปล่งประกายและเติบโตขึ้น ขณะที่พลังลึกลับจากสัตว์ร้ายหลั่งไหลเข้าสู่โซ่เทวะ
ในทะเลจิต ลู่ลู่บินออกมาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วยพี่ชาย โซ่เทวะได้รับพลังของหมีหลังโลหะและแข็งแกร่งขึ้น”
“แข็งแกร่งขึ้น…”
หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว “มีประโยชน์อย่างไร…”
“อืม…” ลู่ลู่กะพริบตาและยิ้ม “มันสามารถเพิ่มพลังให้วิทยายุทธ์ห้าเปอร์เซ็นต์ พี่ชายคิดว่ามันมีประโยชน์หรือไม่?”
“นั่นมีประโยชน์มาก!”
หลินมู่อวี่พลันหัวเราะ สำหรับจอมยุทธ์…ความแข็งแกร่งเพียงห้าเปอร์เซ็นต์มีความหมายมาก อีกทั้งหลินมู่อวี่เคยเป็นเซียนเกม จึงเข้าใจได้ว่า ‘ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เริ่มขึ้นจากก้าวเล็กๆ’ หากสะสมพลังห้าเปอร์เซ็นต์นี้ต่อเนื่องจะก่อเกิดความแข็งแกร่งอันทรงพลังภายหลัง
หลินมู่อวี่หันม้าพร้อมเรียกโซ่เทวะกลับก่อนที่มันเข้าสู่สภาวะหลับใหล โซ่เทวะดูดซับพลังมากเกินไปจึงจำเป็นต้องย่อยและดูดซึม กระบวนการนี้ใช้เวลาราวสองชั่วโมง ไม่เป็นไร…ใช้เวลาของเจ้าเถิด
ขณะที่กำลังขี่ม้าออกไป หลินมู่อวี่นึกถึงบางสิ่งได้ เขาลงจากหลังม้าและใช้กระบี่วิญญาณมังกรขุดศิลาวิญญาณของหมีหลังโลหะ ทั้งหมดล้วนเป็นของดี ทุกครั้งที่หลินมู่อวี่เข้าป่าล่ามังกร เขามักจะนึกถึงระบบนิเวศและความสมดุล ทว่าขณะนี้เป็นช่วงวิกฤติ หินทุกก้อนสามารถนำพาความมั่งคั่งมาให้ และมันสามารถเปลี่ยนเป็นพลัง สถานะ และความแข็งแกร่ง จึงไม่ควรดูถูกศิลาวิญญาณธาตุไฟอายุสองพันปีชิ้นนี้ มันสามารถนำไปหลอมทำอาวุธ และขายในราคาหนึ่งพันเหรียญทอง เงินจำนวนนี้สามารถนำไปซื้อทหารม้าชั้นดีได้ถึงสิบตัว!
…
จากนั้นไม่กี่วัน หลินมู่อวี่ได้ลาดตระเวนในป่าล่ามังกรกระทั่งวิญญาณยุทธ์โซ่เทวะเติบโตขึ้นมาก มันได้รับห้าความสามารถติดต่อกันและกลายเป็นโซ่เทวะชั้นที่หก
ความสามารถของโซ่เทวะชั้นที่หนึ่งคือการเสริมความแข็งแกร่ง…เพิ่มพลังโจมตีให้วิญญาณยุทธ์ห้าเปอร์เซ็นต์ มีต้นกำเนิดจากหมีหลังเหล็กอายุสองพันปี
ความสามารถของโซ่เทวะชั้นที่สองคือการพัฒนาอย่างรวดเร็ว…เพิ่มความเร็วการโจมตีด้วยวิญญาณยุทธ์ มีต้นกำเนิดจากหมาป่าวาโยอายุสองพันสี่ร้อยปี
ความสามารถของโซ่เทวะชั้นที่สามคือการเสริมความแข็งแกร่ง…เพิ่มพลังโจมตีให้วิญญาณยุทธ์สิบเปอร์เซ็นต์ มีต้นกำเนิดจากหมีหลังเหล็กอายุสามพันสองร้อยปี
ความสามารถของโซ่เทวะชั้นที่สี่คือการเจาะ…เพิ่มความสามารถในการเจาะเกราะ ต้นกำเนิดจากตัวลิ่นอายุสี่พันแปดร้อยปี
ความสามารถของโซ่เทวะชั้นที่ห้าคือการเสริมความแข็งแกร่ง…เพิ่มพลังโจมตีให้วิญญาณยุทธ์ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ มีต้นกำเนิดจากพยัคฆ์กระหายเลือดอายุสี่พันแปดร้อยปี
ความสามารถของโซ่เทวะชั้นที่หกคือการเสริมความแข็งแกร่ง…เพิ่มพลังโจมตีให้วิญญาณยุทธ์ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ มีต้นกำเนิดจากมังกรนภาอายุห้าพันสี่ร้อยปี
ข้อมูลเหล่านี้มาจากภูตระบบลู่ลู่ ส่วนจะเชื่อถือได้หรือไม่นั้น…ไม่มีใครทราบ พลังที่เพิ่มขึ้นของโซ่เทวะชั้นที่หกน่าเกรงขามมาก ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์! อีกทั้งยังหมายความว่าตราบใดที่หลินมู่อวี่เรียกโซ่เทวะออกมาความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของตนจะเพิ่มขึ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ในการโจมตีแต่ละครั้ง นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้โซ่เทวะเป็นวิญญาณยุทธ์อันดับหนึ่ง แม้ไม่รู้ว่าการเพิ่มความแข็งแกร่งหกสิบเปอร์เซ็นต์จะเป็นจริงหรือไม่ ทว่าหลินมู่อวี่สามารถรับรู้ได้ถึงพลังยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งสามารถสังหารมังกรนภาอายุห้าพันสี่ร้อยปีภายในสามกระบวนท่า
…
เข้าสู่วันที่แปดที่อยู่ในป่าล่ามังกร หลินมู่อวี่ยังคงลาดตระเวนไปรอบบริเวณขณะที่มองศิลาวิญญาณยี่สิบสี่ก้อนในถุงมิติอย่างมีความสุข แม้จำเป็นต้องฆ่าสิ่งมีชีวิต ทว่าศิลาวิญญาณเหล่านี้สามารถนำไปหลอมอาวุธชั้นดีได้มากมาย จากนั้นนำไปขายเพื่อทำเงินก้อนโตสำหรับร้านค้าจื่อยิน และผลลัพธ์อื่นจะหลั่งไหลตามมาอย่างไม่คาดคิด
ด้านข้างม้าศึก มังกรผลึกโลหิตบิดร่างกายอันใหญ่โตและเดินตามหลินมู่อวี่อย่างเชื่องช้า ภารกิจของมังกรน้อยในการเดินทางครานี้คือการกลืนกินร่างสัตว์วิญญาณ มันกินจุจนสามารถกินสัตว์ร้ายได้ทั้งแผ่นดิน กระนั้นภายใต้การควบคุมของหลินมู่อวี่ ทำให้มันหยุดกินศิลาวิญญาณก่อน เนื่องจากความสามารถในการดูดซับพลังของมันมีจำกัด หากกินศิลาวิญญาณมากเกินไปจะกลายเป็นการสูญเปล่า
“ไม่รู้ว่าเสี่ยวอินจะเป็นอย่างไร…นางจะคิดถึงข้าบ้างไหม…” หลินมู่อวี่ครุ่นคิด
‘โฮก…’ มังกรน้อยด้านข้างแกว่งหางตอบรับผู้เป็นนาย
ทันใดนั้นหลินมู่อวี่เงยหน้าขึ้น ปราณทรงพลังเข้ามาใกล้ในระยะสามกิโลเมตร ดูเหมือนว่า…จะเป็นปราณที่คุ้นเคย เมื่อเข้ามาใกล้ในระยะสองกิโลเมตร ปราณนั้นพลันหายไปราวกับอยู่ในสภาวะล่องหน
อสูรนภา…
หัวใจหลินมู่อวี่หล่นวูบ ศัตรูที่แข็งแกร่งกำลังเข้ามา!
อสูรนภาสามารถพรางตัวและซ่อนปราณได้ นี่เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่ากลัว เนื่องจากขณะนี้เขาอยู่ตามลำพัง และยากที่จะรับมือกับสัตว์ร้ายตัวนี้
หลินมู่อวี่มองไปรอบบริเวณ ขณะนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิจึงมีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่อยู่ด้านขวา หลินมู่อวี่พลันคำนวณอย่างรวดเร็วและคิดว่าสัตว์อสูรนภาสามารถหายตัว…ทว่าไม่น่าจะบินได้ แม้ว่าทุ่งหญ้าบริเวณนี้ค่อนข้างรกทึบ แต่หากอสูรร้ายบินจากท้องฟ้า คงไร้ประโยชน์ที่จะซ่อนตัว
เขาลงจากหลังม้าและพามันไปยังทุ่งหญ้า ก่อนจะรวบรวมกิ่งไม้แห้งมากอง เมื่อยกฝ่ามือขึ้น…แก่นเพลิงมังกรพุ่งออกไปจุดกองไฟอย่างรวดเร็ว จากนั้นหลินมู่อวี่คว้าทวนหลีฮวาจากถุงสรรพสิ่งและเสียบเนื้อกระต่ายย่างกับกองไฟ เขาวางกระบี่วิญญาณมังกรไว้ข้างกายและนั่งรออาหารมื้ออร่อยด้วยท่าทางสงบนิ่ง
ทว่าทักษะการแสดงมังกรน้อยช่างน่าอึดอัด “โฮก” มันส่งเสียงและคลานอยู่บนพื้นทอดสายตาไปไกล เกล็ดทั้งตัวค่อยๆ ตั้งตรงราวกับแมวขนฟูเวลาขู่
…
หลังจากนั้นไม่นาน ‘แซ่ก’ เสียงเหยียบหญ้าดังขึ้นจากระยะไกล พร้อมอสูรนภาคืบคลานเข้ามา
หลินมู่อวี่ยังคงใจเย็น กระทั่งสัตว์ร้ายเข้ามาใกล้ห่างไม่ถึงยี่สิบเมตร แสงสีทองส่องประกาย ‘ฟุ่บ!’ เถาวัลย์น้ำเต้าทองพุ่งทะลุดินพันธนาการร่างสัตว์ร้ายทันที ร่างกายสีแดงเลือดและทองของอสูรนภาปรากฏขึ้น มันคำรามก้องพร้อมตะปบกรงเล็บหั่นเถาวัลย์น้ำเต้าเต็มแรง!
ทว่าหลินมู่อวี่วันนี้เปลี่ยนไปแล้ว เขาถือกระบี่พุ่งตัวพร้อมฟาดออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว!
‘เปรี้ยง!’
ใบมีดเฉือนบนรัศมีรอบกายอสูรนภา ทว่าแสงสว่างจ้าแยกตัวออกจากกระบี่และฟันร่างสัตว์ร้ายทันที!
“โฮก!”
สัตว์ร้ายได้รับบาดเจ็บครั้งแรกและไม่สามารถหลบหนีได้ ขณะเดียวกันหลินมู่อวี่มองเห็นบนหน้าผากสัตว์ร้ายมีเส้นสีทองสิบเอ็ดเส้นและเส้นสีเงินสี่เส้น มันเป็นอสูรนภาอายุหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยปี!
“โฮก!”
อสูรนภาเป็นสัตว์ดุร้าย ขณะที่ศีรษะถูกเฉือนจนอาบเลือด มันส่งกรงเล็บพุ่งตรงไปยังช่วงท้องของหลินมู่อวี่ หวังทะลวงเพื่อสังหารทันที
น่าเสียดายที่หลินมู่อวี่เจ้าเล่ห์เกินกว่าที่อสูรนภาจะต่อกรได้ กำแพงน้ำเต้าควบแน่นบนหน้าอก เมื่อผนวกกับเกราะปราณยุทธ์ ทำให้มันทรงพลังมาก ทันใดนั้น! กรงเล็บอสูรนภาพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว ‘เปรี้ยง!’ แต่ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่หลินมู่อวี่ จากนั้นเขาใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งหมุนตัวกระโดดขึ้นไป ขณะที่ลอยอยู่บนอากาศ ดวงดาวมากมายพวยพุ่งออกจากฝ่ามือซ้าย ก่อนจะทะยานระเบิดหน้าผากอสูรร้ายทันที!
‘เปรี้ยง!’
เลือดสาดกระเซ็นขณะที่อสูรนภาส่งเสียงร้องโหยหวน มันอ้าปากกว้างพร้อมแสงสีทองพุ่งออกมา นี่คือการอัดแน่นพลังงานบริสุทธิ์!
หลินมู่อวี่รีบยกมือควบแน่นกำแพงน้ำเต้ามาป้องกัน
‘ตูม!’
พลังอัดแน่นระเบิดรุนแรงจนทำให้หลินมู่อวี่ถอยหลังออกไปหลายก้าวพร้อมกระอักเลือดจนไหลออกจากมุมปาก กระนั้นเขาไม่ต้องการถอยหนี ก่อนยกมือซ้ายขึ้นเรียกพลังแห่งดาราจักรพวยพุ่งออกมาราวกับผ้าไหมหลากสีสัน ทันใดนั้นพลังขอบเขตหมื่นดาราพลันควบแน่นก่อเกิดกลยุทธ์ดวงดาวขั้นสอง…โซ่ดวงดาว!
อสูรนภามิเคยรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของพลังนี้ มันพุ่งออกไปพร้อมคำรามลั่นก่อนจะถูกโซ่ดวงดาวตรึงร่างทันที ดวงดาวสาดแสงระเบิดอย่างรุนแรง จนทำให้เกล็ดของสัตว์ร้ายแตกออกเป็นเสี่ยง! และไม่ว่ามันจะดิ้นรนมากเพียงใด ก็ไม่สามารถหลุดออกจากพันธนาการดวงดาวนี้ได้!
หลินมู่อวี่ฟาดกระบี่เล่มยาวทะลุหัวใจอสูรนภาทันที ‘ฉึก!’
‘โฮก…’
สัตว์ร้ายส่งเสียงร้องโหยหวนและทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า อสูรนภาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มานานหลายพันปีจนเรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งพงไพร แต่น่าเสียดายยุคแห่งราชาตนนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว…
…
หลินมู่อวี่ใช้กระบี่ขุดศิลาวิญญาณก่อนจะโยนลงถุงมิติ หลินมู่อวี่เรียกโซ่เทวะออกมาดูดซับจิตวิญญาณของอสูรร้าย ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์ของวิญญาณยุทธ์โซ่เทวะว่ากำลังตื่นเต้น ใช่…นี่คือเสียงของความตื่นเต้น เนื่องจากอสูรนภาเป็นสัตว์วิญญาณธาตุแสง จึงเป็นอาหารชั้นดีแก่โซ่เทวะชั้นที่หก
จากนั้นพลังมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่โซ่เทวะซึ่งใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เมื่อจิตวิญญาณอสูรนภาได้รับการปรับแต่งเรียบร้อย หลินมู่อวี่มอบซากที่เหลือให้มังกรผลึกโลหิต หลังจากกินเสร็จมังกรน้อยฉายา ‘ราชากระเพาะยักษ์’ มีพลังเพิ่มขึ้นมาก มันกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แม้กระทั่งสัตว์ร้ายอย่างอสูรนภา
‘โฮก…’
มังกรน้อยนอนลงข้างหลินมู่อวี่อย่างพึงพอใจและผล็อยหลับไป
หลินมู่อวี่เรียกโซ่เทวะออกมาก็พบว่ามันกลายร่างเป็นโซ่เทวะชั้นที่เจ็ด ขณะที่สายโซ่สีทองคล้องรอบผู้เป็นนาย หลินมู่อวี่รับรู้ได้ถึงพลังของโซ่เทวะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากดูดซับพลังของสัตว์อสูร ความแข็งแกร่งของโซ่เทวะพลันพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภา
“พี่ชาย”
ลู่ลู่บินออกมาและพูดด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วย ความสามารถของโซ่เทวะครานี้ยังคงเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง โดยเพิ่มพลังโจมตีให้วิญญาณยุทธ์สี่สิบเปอร์เซ็นต์เจ้าค่ะ”
“ทรงพลังมาก…”
หลินมู่อวี่ดีใจ ตามที่ลู่ลู่กล่าว โซ่เทวะชั้นที่เจ็ดจะสามารถเพิ่มพลังโจมตีได้ราวหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่แปลกใจว่าเหตุใดเขาจึงสามารถสังหารอสูรนภาที่แข็งแกร่งได้โดยที่ตนได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะมีความสุข เมื่อใดที่กลับไปเมืองหลันเยี่ยน เขาคงกลายเป็นอีกคนอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากโซ่เทวะไม่ได้อ่อนแออีกต่อไป…
เมื่อลองคิดดูแล้ว โซ่เทวะของฉินเหลยเองก็มีเจ็ดชั้น ทว่าความแข็งแกร่งเทียบไม่ได้กับโซ่เทวะของหลินมู่อวี่อย่างแน่นอน เนื่องจากของตนมีเจ็ดความสามารถ ขณะที่ของฉินเหลยมีเพียงสี่และเป็นความสามารถที่ไม่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งมากนัก หากโซ่เทวะของฉินเหลยมีความสามารถเพิ่มขึ้นอีกสักสองชนิด คงสามารถพลิกสถานการณ์นองเลือดคราก่อนได้