มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ท่านนักปรุงยาเวินเหรินปฏิเสธข้า ข้าว่าท่านดูสิ่งนี้ก่อนแล้วค่อยปฏิเสธอีกครั้งก็ไม่สาย”
มู่เฉียนซีแกว่งมือ นำเอาตำราโอสถออกมาวางตรงหน้าเขา ตำราโอสถเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสูตรยาวิญญาณระดับสูงซึ่งได้มาจากหม้อเทพปาฮวางชิงมู่
กลยุทธ์ที่ทำให้ตระกูลมู่เติบโตได้จนถึงทุกวันนี้คือกลยุทธ์เหล่านี้ หากยอดฝีมือไม่ยอมเข้าร่วมกับตระกูลมู่ นางสามารถเอายาวิญญาณไปล่อเพื่อให้ยอดฝีมือเหล่านั้นยอมเข้าร่วมจนได้
สำหรับนักปรุงยาแล้ว แน่นอนว่าต้องเอายาวิญญาณหรือสมุนไพรวิญญาณไปหลอกล่อ นางเชื่อว่าไม่มีนักปรุงยาผู้ใดที่จะทนได้ ต่อให้เป็นนักปรุงยาระดับสูงก็ตาม
เป็นไปตามที่นางคิดเอาไว้ไม่มีผิด เมื่อท่านนักปรุงยาเวินเหรินได้เปิดดูตำราโอสถนั้นแล้ว ประกายความตื่นเต้นทาบทาบนใบหน้า ทั้งเขายังสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง
“นี่คือ… สูตรยาดีทั้งนั้น เจ้าเอามันมาจากที่ใดรึ ? เจ้าต้องการอะไร ? เจ้าบอกข้ามาข้ายอมแลก”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงแผ่วเบา “สิ่งที่ข้าต้องการข้าได้บอกท่านไปแล้วท่านนักปรุงยา ข้าต้องการให้ท่านช่วยเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นนั่นก็คือประจำการอยู่ที่หอหมอปีศาจ”
มู่เฉียนซีเงียบดูปฏิกิริยาของท่านนักปรุงยา เมื่อเห็นว่านักปรุงยาเวินเหรินยังไม่กล่าวสิ่งใด นางกล่าวต่อ “ขอเพียงท่านประจำการอยู่ที่หอหมอปีศาจ แต่ละเดือนท่านจะได้ค่าตอบแทนเป็นสูตรยาเดือนละหนึ่งหน้ากระดาษซึ่งท่านสามารถเลือกได้เอง แน่นอนว่าข้าไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ข้ายังมีอีกมาก”
เห็นได้ชัดว่าเมื่อนักปรุงยาเวินเหรินได้เห็นตำราโอสถนี้เข้า เขาแทบเป็นลมล้มลง ในใจของเขาครุ่นคิดอย่างหนัก
ใช่! เขาไม่ชอบถูกกังขังหรือมีข้อตกลงอยู่ภายใต้ผู้ใด ทว่าในเมื่อสิ่งแลกเปลี่ยนช่างหอมหวานยั่วยวนเช่นนี้ ในที่สุดเขาคงต้องยอมจำนน
ก่อนหน้านี้ที่สำนักอวิ๋นเยียนมาเชิญเขา ที่นั่นเสนอให้เขาอยู่เป็นเวลาครึ่งปีจะได้สูตรยาหนึ่งหน้ากระดาษ แต่ทางด้านหอหมอปีศาจ ไม่เพียงแต่ให้เขาเดือนละหนึ่งหน้ากระดาษ ยังให้อำนาจเขาได้เลือกเอง
นักปรุงยาเวินเหรินตอบรับทันที “ได้ เช่นนี้ข้าตกลง”
เมื่อลงนามสัญญาเสร็จสิ้น มู่เฉียนซีก็ได้แบ่งไม้สวรรค์ว่านหลิงให้กับเขาครึ่งหนึ่ง นางยิ้ม กล่าวว่า “ขอบคุณท่านมากสำหรับความร่วมมือ”
นักปรุงยาเวินเหริน “ข้าขอบใจเจ้าเช่นกัน!”
ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงพริบตาเดียว น่าหลานอวี้ก็ได้เห็นมู่เฉียนซีเชิญนักปรุงยาระดับสูงนี้มาได้อย่างง่ายดาย
บ้านประมูลอันดับหนึ่งของพวกเขา ยามใดที่จะเชิญนักปรุงยามาประจำการเช่นนี้ ท่านพ่อของเขาต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ท่านพ่อต้องเสนอเงินที่จะให้ในแต่ละเดือนและยังมีผลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ให้โดยที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจกว่าพวกเขาจะตอบตกลง
แต่มู่เฉียนซี นาง…
นางเพียงแค่โยนตำราโอสถออกไป ท่านนักปรุงยาเวินเหรินผู้ที่เป็นถึงนักปรุงยาระดับสูงกลับตอบตกลงแต่โดยดี
วิเศษมาก! นางยอดเยี่ยมยิ่งนัก!
ตระกูลมู่เป็นตระกูลประเภทใดกันแน่ ทำตามอำเภอใจได้โดยง่าย ช่างผยองเกินไปทว่าก็น่าชื่นชม ณ เวลานี้เกรงว่าแม้แต่บ้านประมูลอันดับหนึ่งของเขาก็เทียบไม่ติด
มู่เฉียนซี “ท่านนักปรุงยาเวินเหริน ท่านสามารถเอาค่าตอบแทนล่วงหน้าไปได้หนึ่งเดือน รอให้ข้าต้องการท่านไปประจำหอหมอปีศาจเมื่อไหร่ข้าจะแจ้งให้ท่านทราบ”
“จริงรึ ?” นักปรุงยาเวินเหรินดีอกดีใจจนแทบกระโดดโลดขึ้น เขาเลือกสูตรยามาหนึ่งหน้ากระดาษ จากนั้นบอกลาและแยกย้ายกลับไป
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเข้าร่วมลานการซื้อขายนี้เลย มีสิ่งน่าสนใจกว่าให้เขาทำ เขาจะรีบกลับไปปรุงยาตัวใหม่ประเดี๋ยวนี้
น่าหลานอวี้กล่าวขึ้นด้วยความเคารพเลื่อมใสมู่เฉียนซี “เยี่ยมมาก! เจ้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” มู่เฉียนซียิ้ม
หลังจากที่เดินเยี่ยมชมสินค้ามาหนึ่งวัน มู่เฉียนซีก็ได้เห็นของดีมากมาย ทว่านอกจากสมุนไพรวิญญาณระดับปฐพีอย่างไม้สวรรค์ว่านหลิงแล้ว ไม่มีอะไรที่นางสนใจอยากได้อีก
ถึงแม้ว่าไม้สวรรค์ว่านหลิงนั้นจะล้ำค่ามากเพียงใด ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ
น่าหลานอวี้กล่าวขึ้นมา “วันพรุ่งจะมีงานประมูลจัดขึ้น รับรองที่นั่นมีของดีมากมายแน่ เจ้าอยากไปหรือไม่ล่ะ ?”
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “งานประมูลรึ ? ใช่บ้านประมูลอันดับหนึ่งของเจ้าหรือไม่ ?”
น่าหลานอวี้ส่ายหน้า “ไม่ใช่ นี่เป็นงานประมูลของเมืองลับ เป็นการประมูลใต้ดิน เปิดประมูลสมบัติหายาก”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างสนอกสนใจ “อืม เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าไม่พลาดแน่นอน”
“อืม”
…
วันถัดมา มู่เฉียนซีกับน่าหลานอวี้เดินทางไปสถานที่ประมูลสินค้าใต้ดิน งานประมูลสินค้าได้ดินนี้แตกต่างกับลานซื้อขายทั่วไป ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าร่วมการประมูลนี้ได้
หากจะมาประมูลที่นี่ คนผู้นั้นต้องมีสถานะที่สูงส่งเพียงพอ
สำหรับน่าหลานอวี้ เขาเป็นนายน้อยแห่งบ้านประมูลอันดับหนึ่ง เพียงแค่เขาแสดงบัตรพิเศษ เขาก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เขาถือเป็นแขกพิเศษจึงได้รับการต้อนรับระดับพิเศษอย่างมากก็ว่าได้
โรงประมูลใต้ดินไม่มีแขกระดับพิเศษเช่นนี้มานานแล้ว ดังนั้นเป็นธรรมดาที่น่าหลานอวี้จะได้รับการต้อนรับและการดูแลสุดพิเศษเช่นนี้
ส่วนมู่เฉียนซีนางเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ทว่าทันทีที่ทั้งสองเดินเข้ามาในโรงประมูล ผู้ดูแลโรงประมูลรีบวิ่งพรวดเข้ามาด้วยความรีบร้อน
เขาจ้องมองมู่เฉียนซีก่อนจะกล่าวว่า… “นายหญิง ทางโรงประมูลเปิดห้องระดับจักรพรรดิให้ท่านเรียบร้อยแล้วขอรับ ขอต้อนรับการมาเยือนของท่าน”
น่าหลานอวี้ตื่นตะลึงไปครู่หนึ่ง ‘ว่าอย่างไรนะ ? ห้องระดับจักรพรรดิเช่นนั้นรึ ?’
โรงประมูลใต้ดินไม่ได้เปิดห้องระดับจักรพรรดิมานานนับสิบปีแล้ว แต่มาวันนี้ เมื่อเห็นเด็กสาวรูปร่างงดงามวัยสิบหกปีมาเยือน ผู้ดูแลโรงประมูลถึงกับยอมเปิดห้องระดับจักรพรรดิให้นาง
น่าหลานอวี้ผงะไป ถึงแม้ว่าตระกูลมู่จะร่ำรวยเงินทอง แต่ตระกูลมู่ก็เป็นตระกูลที่เสมือนว่าแอบซ่อนอยู่ในแคว้นเล็ก ๆ อย่างแคว้นจื่อเยี่ย ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายนัก เป็นไปไม่ได้ที่โรงประมูลใต้ดินจะรู้จักนางและยอมเปิดห้องระดับจักรพรรดิให้นางเช่นนี้
มู่เฉียนซีเองก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้มาโรงประมูลใต้ดินแห่งนี้ เหตุใดคนที่นี่จึงเรียกขานนางว่า ‘นายหญิง’ และยังเปิดห้องระดับจักรพรรดิให้นางด้วย เพราะเหตุใดกัน ?
ผู้ดูแลโรงประมูลอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างมาก เขากล่าวอย่างระมัดระวังว่า “เชิญนายหญิงทางนี้ขอรับ”
น่าหลานอวี้กล่าวแม้จะยังมีท่าทีงุนงง “ไปเถอะ ข้าก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน อยากจะรู้นักว่าห้องระดับจักรพรรดิเป็นเช่นไร ? วันนี้ข้าจะเป็นเงาตามตัวเจ้าก็แล้วกัน”
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่ามู่เฉียนซีจำต้องไหลไปตามน้ำ
ภายในห้องมีความกว้างมาก มีจุดที่ฝังผนึกวิญญาณสัตว์ระดับสูงและผนึกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่นับไม่ถ้วน
บนพื้นห้องปูด้วยขนสัตว์วิญญาณระดับสูง ตรงมุมหนึ่งมีเก้าอี้เบาะหนา ๆ ที่ดูแล้วน่าจะนั่งนุ่มก้นเป็นอย่างมาก
บนโต๊ะเต็มไปด้วยผลไม้วิญญาณ ขนม และมีอาหารอันโอชะคอยต้อนรับเพื่อที่จะให้แขกชื่นชมการประมูลสินค้าไปด้วย และลิ้มชิมรสอาหารอันโอชะนี้ไปด้วย
ผนังด้านหน้าทั้งหมดเป็นกระจกแก้วสีฟ้าอ่อน ทำให้สามารถมองเห็นการประมูลด้านล่างได้อย่างชัดเจน
น่าหลานอวี้เป็นถึงนายน้อยแห่งบ้านประมูลอันดับหนึ่ง เขาได้เห็นสถานที่ที่หรูหรามามากมายนับไม่ถ้วน แต่เขายังต้องตะลึงไปกับห้องระดับจักรพรรดิของที่นี่
น่าหลานอวี้ยิ้ม กล่าวขึ้น “การประดับตกแต่งห้องนี้ฟุ่มเฟือยนัก มู่เฉียนซีเจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้เข้ามาใช้ห้องระดับจักรพรรดิเช่นนี้ได้รึ ? ห้องระดับจักรพรรดิ ต่อให้มีเงินทองมากมายก็ใช่ว่าจะเข้ามาได้ง่าย ๆ และต่อให้เป็นท่านพ่อของข้าก็ยังไม่อาจเข้ามาได้”
“เจ้าคิดดูดี ๆ สิว่าเจ้ารู้จักกับเจ้าของโรงประมูลใต้ดินแห่งนี้หรือไม่ เจ้าของที่นี่เป็นผู้ที่ลึกลับซับซ้อน ต่อให้ข้าเป็นเจ้าของบ้านประมูลอันดับหนึ่ง ข้าก็สืบหาไม่พบว่าเขาเป็นใคร”
น่าหลานอวี้กล่าวต่ออีกว่า “หรือว่าเป็นเจ้าเองที่เป็นเจ้าของโรงประมูลใต้ดินแห่งนี้ ?”
มู่เฉียนซีนั่งลงบนเก้าอี้เบาะนุ่มอย่างเกียจคร้าน “น่าหลานอวี้ เจ้าอย่าถามข้าเช่นนี้เลย ตัวข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
นางขมวดคิ้ว ผู้เดียวที่นางคิดถึงตอนนี้คือ จิ่วเยี่ย!
เกรงว่าจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะทำเช่นนี้ได้
เวลาค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ …และแล้ว เวลาแห่งการประมูลก็มาถึง
ครานี้ผู้ดำเนินการประมูลคือผู้ดูแลโรงประมูลใต้ดินแห่งนี้ เขากล่าว “ได้เวลาแล้วทุกท่าน เอาล่ะ ข้าจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งอีกคราว่าการประมูลเริ่มขึ้นแล้ว สิ่งแรกที่ทางเราจะเปิดประมูลนั่นก็คือ หยกวิญญาณเซิ่ง”
“หยกวิญญาณเซิ่ง! มันสามารถเพิ่มระดับหยกวิญญาณได้หนึ่งระดับโดยไม่มีข้อแม้เลยทีเดียวเชียว”
“ได้ยินมาว่าต้องทุ่มหยกวิญญาณเป็นสิบล้านกว่าจะได้หยกวิญญาณเซิ่งนี้มาครอง ช่างน่าตกใจดีแท้!”
“สิ่งนี้… วันนี้ข้าจะต้องเอามาครอบครองให้จงได้ ข้ารอคอยมานานแล้ว”
.