ตอนที่ 230 ผู้ที่ใส่ใจนางเป็นที่สุด

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ผู้ดูแลโรงประมูลยิ้ม กล่าวว่า “หยกวิญญาณนี้ราคาต่ำสุดคือหกล้านเหรียญทอง การเพิ่มราคาในทุกครั้งต้องไม่เกินไปกว่าสิบล้านเหรียญทอง จากนี้ไปทุกท่านเริ่มตั้งราคากันได้เลย”

มู่เฉียนซีนั้นต้องการที่จะรีบบรรลุจอมภูตระดับเก้า หยกนี้สามาสารถช่วยทุ่นแรงนางได้

คนที่อยู่ด้านล่างต่างแข่งกันตะโกนราคาออกมา “เจ็ดสิบล้าน!”

“เจ็ดสิบห้าล้าน!”

“แปดสิบล้าน…”

“แปดสิบสามล้าน!” มู่เฉียนซีมองน่าหหลานนอวี้ นางกล่าวถามขึ้น “หยกวิญญาณที่เพิ่มความแข็งแกร่งนี้ไม่มีผู้ใดอยากพลาดมันไป น่าหลานอวี้ เจ้าแน่ใจรึว่าจะไม่ร่วมประมูล”

น่าหลานอวี้ “ข้ารู้ว่าเจ้าจะเข้าประมูล ข้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปประมูลด้วยแล้ว หอการค้าอันดับหนึ่งของข้าอาจจะมีเงินมากกว่าตระกูลมู่ แต่ว่าโดยส่วนตัว ตัวข้านั้นไม่มีได้ทรัพย์สินมากมายเช่นเจ้า ข้าแข่งราคากับเจ้าไม่ไหวแน่”

นายน้อยแห่งหอการค้านั้นสามารถเรียกทรัพย์สินได้เพียงบางส่วน แต่ทว่ามู่เฉียนซีเป็นถึงท่านผู้นำตระกูล สมบัติของทั้งตระกูลมู่ ขอเพียงแค่นางคิดอยากจะใช้มัน ก็สามารถใช้ได้ตามสบาย

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว”

“หนึ่งร้อยล้าน!”

เสียงอันดังและทรงพลังลอยมาจากที่สูง ทำให้บรรดาผู้ที่กำลังแข่งกันเสนอราคาประมูลอย่างบ้าคลั่งนั้นหยุดนิ่งลง

ทุกคนตกตะลึงงัน… “เสียงนั้นดังมาจากห้องส่วนตัวระดับจักรพรรดิ”

“สวรรค์! มีใครบางคนอยู่ในห้องส่วนตัวระดับจักรพรรดิ”

“คนในห้องส่วนตัวระดับจักรพรรดิประมูลหยกวิญญาณ”

พวกเขารู้ดีว่าการที่จะนั่งในห้องระดับจักรพรรดิได้นั้น  แม้ว่าจะไม่ใช่ยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ ก็ต้องเป็นผู้ที่มีเงินมากจนน่ากลัว

พวกเขานั้นมิกล้าคิดแข่งกับคนที่อยู่ระดับนั้น และแน่นอนว่าคงไม่พาตนเองไปรับความอัปยศอดสูล่วงเกินคนที่น่ากลัวผู้นั้นเป็นอันขาด

ผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวระดับจักพรรดิ เสียงของเขาช่างก้องกังวานปะปนไปด้วยแรงสั่นสะเทือน เช่นนั้นแล้วพวกเขาจึงได้ทยอยกันยอมแพ้ที่จะแข่งราคาประมูล

ผู้ดูแลโรงประมูลกล่าว “ร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง  ร้อยล้านครั้งที่สอง ร้อยล้านครั้งที่สาม ปิดประมูล!  หยกวิญญาณเป็นของท่านที่อยู่บนห้องระดับจักรพรรดิ!”

การประมูลใต้ดินครั้งนี้ ช่างผลาญเงินเสียจริง

การประมูลหยกวิญญาณในครั้งนี้ ทำให้นางต้องนำหยกวิญญาณที่ปล้นมาได้ไปใช้จนหมด หากมีการประมูลในครั้งต่อไป นางคงทำได้แต่ต้องเอายาวิเศษไปลงประกันไว้

ต้องบอกว่ามีของดีมากมายในโรงประมูลใต้ดินนี้ มู่เฉียนซีกวาดตามองไปทั่ว

ถึงแม้ว่าหลังจากที่มู่เฉียนซีได้เสนอราคาที่สูงเช่นนั้นไปจะไม่มีใครกล้ามาแข่งราคากับนางอีก แต่หลัง ๆ ราคาเริ่มประมูลก็ไม่ใช่ราคาที่น้อย ๆ เลย

ทุกคนต่างชื่นชมแขกของในห้องส่วนตัวระดับจักรพรรดิอย่างมาก บุคคลในนั้นช่างออกตัวได้ยิ่งใหญ่เสียจริง  ไม่ว่าราคาที่ตะโกนออกมาจะสูงสักเพียงใด เสียงของคนผู้นั้นกลับไม่สั่นแม้แต่น้อยเลย

น่าหลานอวี้ชื่นชมมู่เฉียนซีอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นผู้ใดเสนอราคาได้อย่างตามใจตนขนาดนี้มาก่อน  เขากล่าว “มู่เฉียนซี เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้ามีหยกวิญญาณมากมายถึงเพียงนั้น เวลานี้เจ้าประมูลไปแล้วมากมาย ต่อให้ข้าให้ยืมหยกวิญญาณของข้าด้วย เกรงว่าคงจะยังไม่พอให้เจ้ายืม”

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย “หยกมูลค่าร้อยล้านบนตัวข้านั้นได้ใช้หมดไปตั้งแต่แรกแล้ว”

น่าหลานอวี้ใจเต้นแรงจนแทบจะสิ้นลมไป เขากะพริบตารัวเร็วเรียกสติตนก่อนจะกล่าวกับนาง “เช่นนั้นเจ้า… เจ้า… เจ้าจะไม่กังวลสักหน่อยหรือ ?  ไปประมูลอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ ลานประมูลได้ดินลึกลับนัก แม้แต่หอการค้าอันดับหนึ่งของข้าก็ยังไม่กล้าไปล่วงเกิน หากตอนนั้นเงินเราไม่พอจ่ายแล้วละก็ เกรงว่าคงต้องตายกันหมดนี่เป็นแน่”

มู่เฉียนซียังคงสงบนิ่ง  กล่าวว่า “น่าหลาน อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย ข้าไม่มีหยกวิญญาณ แต่ข้ายังมียาวิเศษอยู่กับตัว”

แม้ว่ายาที่นางปรุงขึ้นมาราคาจะไม่ถือว่าสูงเท่าสิ่งเหล่านี้ แต่ว่ายาระดับปฐพีและยาฟ้าดินซวนหวงที่หม้อเทพปาฮวางชิงมู่ได้มอบให้แก่นางไว้ก็เพียงพอแล้ว

น่าหลานอวี้ “ข้าลืมไปว่าเจ้ากับมู่ซีล้วนเป็นนักปรุงยาผู้มีฝีมือสูงส่ง พวกเจ้าไม่มีทางขาดเงิน”

มู่เฉียนซี “เช่นนั้นแล้วก็ประมูลต่อไปเถอะ การจะได้เจอสมบัติมากมายเช่นนี้ไม่ง่ายเลย จะพลาดมิได้ โดยปกติแล้วจะหาซื้อไม่ได้”

การประมูลยังคงดำเนินต่อไป  ขณะที่ของดีทั่วไปล้วนตกไปอยู่ในมือของมู่เชียนซี แทบทุกผู้คนในงานประมูลขัดใจ กัดฟันด้วยความโกรธ

แม่นางผู้นี้คิดจะไม่แบ่งใครเลยหรือไร ?

การประมูลใต้ดินครั้งนี้ พวกเขานั้นเหมือนมาเสียเวลาเปล่า

ทว่ามู่เฉียนซีคิดว่าช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้พวกเขาเหล่านั้นไม่มีเงินหนา ไม่มีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งอย่างเช่นนางกันเล่า

เวลานี้ผู้ดูแลโรงประมูลกล่าวขึ้นว่า “ต่อไปเป็นการประมูลสิ่งสุดท้าย สิ่งนี้เป็นม้วนบันทึกวรยุทธ์ร่างกายขั้นสูง ก้าวเดินไร้เงา”

ดวงตาของมู่เฉียนซีฉายแววสนใจ นางใช้เคล็ดวิชาเทพต้านสวรรค์ ความเร็วของนางจึงเร็วกว่าคนทั่วไป  หากนางได้ใช้ร่วมกับวรยุทธ์ร่างกายที่เป็นกระบวนท่าขั้นสูงแล้ว ความเร็วนางคงจะเร็วขึ้นได้อีก

พลังที่อ่อนแอนั้นเป็นจุดอ่อนหนึ่งของนาง ก่อนที่นางจะเปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งโดยสมบูรณ์ การฝึกวรยุทธ์ร่างกายก็เป็นสิ่งจำเป็น เมื่อยามใดที่สู้ไม่ได้ นางจะหนีไม่ได้เลยหรืออย่างไร ?

วรยุทธ์ทางกายขั้นสูงสุดช่างมีอยู่น้อยเสียจริง พลาดไม่ได้แล้ว!

ในเวลาต่อมากลุ่มบุคคลทุกประเภทเริ่มแข่งกันขานราคา

ด้วยของล้ำค่าเฉกเช่นของสิ่งนี้ พวกเขาจะไม่ยอมให้ผู้ที่อยู่ในห้องระดับจักรพรรดิได้ไปอีกต่อไปแล้ว พวกเขางัดเอาของมีค่าราคาสูงสุดของตนออกมา

ท้ายที่สุดมู่เฉียนซีตะโกนขึ้นว่า “สามพันล้าน ข้าเอา!”

ทุกผู้คนในที่นั้นกล่าวอะไรไม่ออก พวกเขาสบถอยู่ในใจ “บัดซบ! คนในห้องระดับจักรพรรดินั่น หยกวิญญาณที่มีอยู่นั้นเป็นหินหรืออย่างไร ? เหตุใดไม่ว่าจะทุ่มประมูลอย่างไร คนผู้นั้นก็ยังทุ่มไม่หมดเงินหมดทองเสียที

พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่า หยกวิญญาณที่มู่เฉียนซีมีอยู่นั้นไม่พอตั้งแต่แรกแล้ว  แต่ในฐานะนักปรุงยา แม้หยกวิญญาณจะถูกทุ่มใช้จนหมดไป ก็ยังมียาวิเศษมากมายที่สามารถใช้เป็นหลักประกัน

ภายในมิติเก็บของของนางมีโอสถอยู่เป็นจำนวนมาก ขอเพียงนางคิดจะหยิบเอามันออกมา ก็จะมีโอสถจำนวนมากมายมหาศาล

ผู้ดูแลโรงประมูลประกาศ “สามพันล้านครั้งที่หนึ่ง สามพันล้านครั้งที่สอง สามพันล้านครั้งที่สาม  ปิดประมูล!  ม้วนบันทึกวรยุทธ์ร่างกายขั้นสูง ก้าวเดินไร้เงา เป็นของท่านที่อยู่บนห้องระดับจักรพรรดิ!”

การประมูลใต้ดินครั้งนี้เป็นการประมูลที่น่าผิดหวังที่สุดที่พวกเขาเคยเข้าร่วมมา เป็นเพราะเจอกับตัวประหลาดเงินไม่ขาดมือ ของดีอะไรก็ประมูลไม่ได้สักอย่าง ช่างน่าผิดหวังอย่างแท้จริง

หลังจากการประมูลจบลง เสียงเคาะประตูก็ดังมาจากด้านนอกของห้องส่วนตัวระดับจักรพรรดิ

ผู้ดำเนินการประมูลเข้ามา รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เขากล่าวว่า “เรียนแขกที่เคารพ สิ่งที่ท่านประมูลข้าได้ใส่มันไว้ในแหวนมิติทั้งหมดแล้ว โปรดรับไว้”

มู่เฉียนซีเก็บแหวนมิติและกล่าวขึ้นว่า “ข้าไม่ได้นำหยกวิญญาณมาเพียงพอ ดังนั้นเจ้าคิดว่าอย่างไรถ้าหากข้าใช้ยาวิเศษจำนองเอาไว้ ?”

ผู้ดูแลโรงประมูลกล่าวขึ้นว่า “นายหญิงทำให้ข้าลำบากใจเสียแล้ว ท่านมาที่โรงประมูลของเรา ประสงค์จะประมูลสิ่งใดเพียงบอกราคาออกมาก็เพียงพอ โรงประมูลของเราไหนเลยจะกล้าเก็บเงินท่านแม้แต่เหรียญเงินเหรียญเดียว

— ปัง! —

น่าหลานอวี้ตบหน้าผากตนเอง เขาแทบเป็นลมล้มลง

นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้ว! โรงประมูลใต้ดินยอมให้คนมาเสนอราคาเปล่า ๆ แต่ไม่เอาเงิน  สมองของพวกเขาคงมิใช่ว่าโดนไฟไหม้จนมีปัญหาหรอกกระมัง

ในการประมูลครั้งนี้ หากพวกเขาไม่เก็บเงินเลย จะต้องขาดทุนอย่างแน่นอน

มู่เฉียนซีนางยังถึงกับตกตะลึง “ประเดี๋ยวก่อน! เหตุใดพวกเจ้าถึงทำเช่นนี้ ?”

ผู้ดูแลโรงประมูลกล่าว “เพราะนายหญิงเป็นแขกผู้มีเกียรติของทางเราขอรับ”

มู่เฉียนซีคิดกับตนเองว่าในทวีปเซี่ยโจวนี้ คงมีเพียงท่านอากับจิ่วเยี่ยเท่านั้นที่ยอมให้นางทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ แต่ว่างานนี้… คงเป็นท่านอาไปไม่ได้ หรือว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานประมูลครั้งนี้คือ…

จิ่วเยี่ย!

มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ใครเป็นเจ้าของโรงประมูลใต้ดินของพวกเจ้ารึ ?”

ผู้ดำเนินงานประมูลกล่าวตอบอย่างคลุมเครือ “แน่นอนว่าเป็นผู้ที่ใส่ใจนายหญิงอย่างที่สุดขอรับ”

มู่เฉียนซีหยิบแหวนมิติออกมา  กล่าวว่า “ในนี้มีหยกวิญญาณและยาบางอย่าง เจ้ารับเอาไป ถือว่าเป็นค่าชดใช้ให้แก่โรงประมูลใต้ดินของพวกเจ้าเถอะ แล้วถือโอกาสบอกนายท่านของเจ้าด้วยว่าขอให้เขาหาคนที่เขาต้องการหาให้พบและระวังตัวในทุก ๆ เรื่อง”

“ผู้ดูแลโรงประมูลยิ้ม  กล่าวว่า “ขอรับนายหญิง ข้าจะต้องนำคำพูดนี้ไปถึงนายท่านอย่างแน่นอน”

เมื่อมู่เฉียนซีและน่าหลานอวี้เดินออกจากโรงประมูล น่าหลานอวี้กล่าวขึ้น “เจ้าของโรงประมูลใต้ดินคือผู้ใดรึ ? ในเมื่อเขาบอกว่าเป็นคนที่ใส่ใจเจ้าเป็นที่สุด หรือจะเป็นคู่หมั้นที่ลึกลับของเจ้าผู้นั้น ?”