“ใช่ ใช่ ทั้งหมดหกสิบล้าน”
เมื่อฝ่ายการเงินเห็นท่าทางสับสนของจางหงถูก็รีบพูดว่า “หรือไม่ คุณก็ไม่รู้?”
หกสิบล้าน!
หกสิบล้าน!
จางหงถูไม่ได้ยินสิ่งที่ฝ่ายการเงินพูดในตอนหลังอีกเลย
ในหัวของเขามีแค่เสียงนี้
หกสิบล้าน
หกสิบล้านจริง ๆ!!
เขามองดูเย่เซิ่งเทียนราวกับมองเห็นผี
ประธานฉางตกลงที่ 30 ล้าน ไม่ใช่ 60 ล้าน
60 ล้านคือสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าเขาเพิ่งพูดไป
นี่ นี่เป็นไปได้ยังไงกัน?
เขายังเด็กมากขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่ใช่ลูกเศรษฐีของตระกูลไหน ทำไมถึงมีเงิน 60 ล้านได้?
ต่อให้เป็นลูกเศรษฐีพวกนั้น การที่จะเอาเงินออกมามากขนาดนี้ได้ ก็มีแค่เพียงลูกเศรษฐีของสี่ตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิงและตระกูลเฉินเท่านั้น
ลูกเศรษฐีธรรมดาทั่วไปไม่มีทางมีได้เลย!
“นาย นายมองผิดไปรึเปล่า?”
จางหงถูไม่ยอมแพ้ ให้ตายเขาก็ไม่เชื่อว่า ชายหนุ่มที่ไม่ใช่ลูกเศรษฐีตรงหน้าจะสามารถนำเงินออกมาได้มากมายขนาดนั้นในคราวเดียว
เขาโทรออกไป ยังไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เงินลงทุน 60 ล้านก็โอนเข้าบัญชีแล้ว
มันเป็นไปไม่ได้
“ไม่ ไม่ผิด ผอ. ผมไม่ได้มองผิดไป”
แผนกการเงินรีบเอ่ย เขาเองก็ไม่รู้ว่าผอ.หมายถึงอะไร
“ฉันจะไปดู”
จางหงถูยังไม่เชื่อ เขาวิ่งไปที่ห้องการเงินเพื่อดูมัน
“พวกเราก็ไปที่นั่นด้วย เขายังไม่ได้ขอโทษคุณ”
เย่เซิ่งเทียนยิ้มและมองไปที่ฟางหยวน เขามีความประทับใจที่ดีต่อหญิงสาวคนนี้
ฟางหยวนสับสนและพยักหน้าอย่างโง่เขลา จนแทบจะยังไม่ได้สติกลับมาจากความตื่นตะลึง
เมื่อมาที่ห้องการเงิน จางหงถูก็จ้องไปที่ตัวเลขในบัญชีอย่างเอาเป็นเอาตาย
ไม่ผิด เป็น 60 ล้าน 60 ล้านจริงๆ!!!
ไม่ขาดแม้แดงเดียว
พระเจ้า
โทรไปครั้งเดียว เพียงไม่ถึงห้านาที
60 ล้านก็ถูกโอนเข้ามาแล้ว
“เซิ่งเทียนกรุ๊ป?”
จางหงถูตกตะลึงจนเป็นบื้อไป เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทดังกล่าวมาก่อน อีกทั้งกลุ่มบริษัทที่มีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้ในประเทศต้าเซี่ย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่เคยได้ยิน
ต้องรู้ด้วยว่า บริษัทที่สามารถโอนเงิน 60 ล้านมาให้ได้ภายในห้านาทีนั้นจะต้องมีสินทรัพย์ของบริษัทไม่น้อยกว่าหนึ่งพันล้านหยวนขึ้นไป
แต่ประเทศต้าเซี่ยมีกลุ่มบริษัทที่แข็งแกร่งแบบนี้ ก็ย่อมควรจะมีชื่อเสียงโด่งดังถึงจะถูก
แต่เซิ่งเทียนกรุ๊ปนี้ เขาไม่เคยได้ยินมาเลยสักคำ
“พ่อของหนูชื่อเย่เซิ่งเทียน”
ซือซือจับมือฟางหยวน แล้วสะบัดเสียงหึใส่
จางหงถูกลัวจนแทบจะฉี่ราด
สวรรค์?
ตนเองไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้าแล้ว?
คนที่มีทรัพยากรทางการเงินมากขนาดนี้ ตนเองถึงกับกล้าไปด่าเขา
แถมยังขับไล่เขาออกไป!
ไม่น่าแปลกใจที่เขาไม่กลัวฉางเฟิง
ด้วยทรัพยากรทางการเงินแบบนี้ ต่อให้ฉางเฟิงจะเป็นผู้จัดการฝ่ายบริหารของบริษัทหนานเทียน ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายหนุ่มคนนี้!
“นี่ เซิ่งเทียนกรุ๊ปนี้เป็นของคุณเหรอ?”
จางหงถูกลืนน้ำลายลงไป ทั้งสองขาสั่นระริก
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่า เงิน 60 ล้านเป็นของเย่เซิ่งเทียน
“ตอนนี้ ขอโทษครูฟางซะ”
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้อธิบายว่าเซิ่งเทียนกรุ๊ปเป็นเวินเฉินที่ก่อตั้งขึ้นขณะช่วงเขาดูแลเรื่องการเงิน
ในแง่ของทรัพยากรทางการเงิน ทรัพยากรทางการเงินของเขามีมากกว่ากลุ่มมหาเศรษฐีชั้นนำของโลกไปตั้งนานแล้ว
แม้กระทั่งตนเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่ามีทรัพย์สินมากแค่ไหนกันแน่
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ”
จางหงถูไหนเลยจะมีท่าทีอวดเก่งอยู่อีก ตอนนี้เขาถูกเย่เซิ่งเทียนทำให้ตกใจเสียจนไม่กล้าพูดอะไรมากแล้ว
“ครูฟาง เมื่อกี้เป็นฉันที่ผิดเอง เธออย่าได้เก็บมาใส่ใจเลยนะ เป็นฉันที่ไม่รู้จักพูดจา เธออย่าได้คิดแค้นเลยนะ”
“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ”
ฟางหยวนรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างว่างเปล่า
เย่เซิ่งเทียนมองไปยังจางหงถูที่กำลังสั่นเทาและกล่าวว่า “ฉันจะใช้เงินอีก300 ล้าน ซื้อโรงเรียนอนุบาลซิงกวาง นายโดนไล่ออกแล้ว”