ตอนที่ 101 จ้าวเหวินเทาคือคนโหดเหี้ยมคนหนึ่ง

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

ตอนที่ 101 จ้าวเหวินเทาคือคนโหดเหี้ยมคนหนึ่ง

หลังจากมีเมฆครึ้มสองสามวันหิมะก็เริ่มตกโปรยปรายลงมา

หิมะตกลงมาสองวันสองคืนจึงหยุด ตกหนักมากทีเดียว

วันหลังจากหิมะตกจะยิ่งหนาวมากขึ้น ออกไปถ่มน้ำลายข้างนอกยังไม่ทันตกลงพื้นก็แข็งตัวเป็นน้ำแข็งแล้ว รดน้ำก็กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งได้ทราบจากหนังสือพิมพ์ภายในทีมว่าอุณหภูมิได้ลดต่ำลงมาถึง -30 ถึง -34 องศาเซลเซียสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อาการแบบนี้นอกจากขลุกตัวอยู่ในบ้านก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

ยกตัวอย่างเช่นจ้าวเหวินเทา เขาไม่สามารถออกไปขับรถขายของได้แล้ว แต่จ้าวเหวินเทาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาอยู่รับประทาน ดื่มและนอนเป็นเพื่อนภรรยา ใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

ส่วนเต้าหู้ของพี่สามจ้าวที่อยู่ประตูถัดไปก็หยุดทำการชั่วคราว แต่เป็นเพราะเขาไม่สบายด้วย อยู่ในบ้านก็เอาแต่ถอนหายใจ ทำเอาพี่สะใภ้สามเห็นแล้วก็แทบอยากจะอุดปากเขาไว้

โชคดีที่ตอนนี้ในทีมประกาศว่าจะเชือดหมูแล้ว คนในหมู่บ้านจึงครึกครื้นกันถ้วนหน้า

ในที่สุดก็เชือดหมูสักที!

“หมูปีนี้เติบโตกันไม่เลวเลยนะ ฆ่าหมูสัก 3-4 ตัวเถอะ” เลขาของหัวหน้าทีมใหญ่วางมาดพลางกล่าว

“เลขา สามตัวหรือสี่ตัว?” หัวหน้าเอ่ยถาม

“เลขา สี่ตัวก็ยังน้อยไปหน่อยนะ เพิ่มอีกสักตัวดีไหม?” ฝ่ายบัญชีได้ยินคำพูดนี้ของหัวหน้าก็ถึงกับกลอกตามองบนอยู่ในใจ สี่ตัวก็น้อยจะตายอยู่แล้ว ยังพูดว่า 3-4 ตัวอีก?

“เอาสิ เพิ่มนายเข้าไปอีกหนึ่งหัวก็ได้!” เลขาตอบกลับไปหนึ่งประโยคอย่างไม่มีความสุข ก่อนจะสรุปลงที่สี่ตัว

ฝ่ายบัญชีก็ไม่ได้สนใจอะไร สี่ตัวก็สี่ตัว สี่ตัวก็ไม่ได้น้อยอะไร

เหล่าไป๋โถวคนเชือดหมูไปหยิบมีดเชือดหมูมา จากนั้นก็กระซิบกับคุณพ่อจ้าว “ฉันนึกว่าปีนี้จะได้เพิ่มอีกสักตัวเสียอีก ผลลัพธ์ที่ได้มีแค่สี่ตัวเอง สองร้อยกว่าครัวเรือนจะแบ่งได้สักเท่าไรกันเชียว?”

“มีให้แบ่งก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” คุณพ่อจ้าวรีบเข้ามาช่วย เขาถือเชือกพลางกล่าว “รีบหน่อยเถอะ อากาศหนาวเกินไปแล้ว เลือดไหลออกมาคงแข็งตัวหมด”

ชายชราทั้งสองคนเรียกชายชราคนอื่น ๆ เข้ามาด้วย พวกเขาทำหน้าที่รับผิดชอบเชือดหมูและจัดการชำแหละในช่วงหลัง

นอกจากพวกเขาแล้วก็ยังมีเด็กหนุ่มอีกสิบกว่าคน นำไม้ตะบองและเชือกมา พวกเขาคือทีมจับหมู

ยังมีเหล่าหญิงชราและเด็ก ๆ ส่วนหนึ่งถือกะละมังใบเล็กและใบใหญ่เข้ามาช่วยนำหมูที่ถูกเชือดไปปรุงอาหาร แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเข้ามาร่วมรับประทานด้วย

“ภรรยาจ๋า คุณอยู่บ้านนะ อากาศหนาวแบบนี้อย่าออกไปเลย บ้านของเราก็ไม่ได้ขาดแคลนของเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้น คุณอยู่บ้านพักผ่อนดี ๆ เถอะ” จ้าวเหวินเทาทำเป็นเสแสร้งพูดไปแบบนั้น การเชือดหมูที่ครึกครื้นแบบนี้จะขาดเขาไปได้อย่างไร?

เย่ฉูฉู่ยิ้ม หลายวันมานี้ก็ถือว่าเขาอดทนแล้วที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน เขาไม่ใช่คนที่จะขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านได้ “ฉันรู้ค่ะ ฉันจะอยู่กินของว่างที่บ้าน คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”

ที่นี่เธอมีเกาลัดผัด ถั่วลิสงต้ม เมล็ดทานตะวันคั่ว ตอนนี้เธอรับประทานอาหารหลักไม่ค่อยลง แต่รับประทานของเหล่านี้ไปไม่น้อย

จ้าวเหวินเทาหอมภรรยาของตัวเอง จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป

จ้าวเหวินเทาเดินทางมาถึงในทีมแล้ว ทุกคนกำลังจับหมูกันอยู่ มีหมูสองตัวที่ฉลาดเกินไป จู่ ๆ มันก็วิ่งพรวดพราดออกมา ด้านหลังมีเด็กหนุ่มกำลังวิ่งไล่ตามอยู่สองสามคน หิมะจึงกระจุยกระจายเป็นฟอง ทำเอาวุ่นวายไปหมด มีชีวิตชีวาไม่น้อย

“ไร้ประโยชน์จริง ๆ แม้แต่หมูก็ยังจับไม่ได้” จ้าวเหวินเทาส่ายหน้า

“เหล่าจ้าวหก นายทำได้ก็จัดการสิ!” เหล่าหวังสามได้ยินเขาพูดเช่นนี้จึงพูดขึ้นมา

จ้าวเหวินเทาพูดด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “ฉันไม่จับหรอก บนตัวฉันชุดใหม่ทั้งชุด ภรรยาของฉันเย็บปักชุดให้ฉันทีละเส้น ฉันไม่ทำให้ชุดเสียหายหรอก ให้พวกนายแสดงความสามารถก็แล้วกัน”

เหล่าหวังสามด่าทั้งรอยยิ้ม “คนขี้เกียจแบบนี้ มีเหรอที่ฉันจะไม่รู้!”

จ้าวเหวินเทาไม่ได้สนใจเขา เขาหันไปมองคนที่กำลังไล่ตามหมูทางฝั่งนั้น มีคนไล่ตามหมูมากขึ้นแล้ว ในที่สุดจึงจับหมูได้สำเร็จ ขาทั้งสี่ข้างถูกมัดไว้ จากนั้นก็ใช้ไม้คานแบกกลับมา

“เธอดูพวกเธอสิ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ จับหมูตัวหนึ่งกลับเปลืองแรงกันขนาดนี้” เหล่าไป๋โถวนักเชือดหมูคาบกล้องยาสูบ พลางกล่าวอย่างดูหมิ่น

“เรื่องนี้จะโทษพวกเราไม่ได้นะ เข้าสู่หน้าหนาวก็ไม่เคยได้กินอิ่มเลย จะไปมีแรงจับหมูได้ยังไง!” มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าว

“นั่นสิ ไม่เหมือนกับหมูตัวนี้หรอก สองร้อยกว่าชั่ง ฉันหนักแค่ร้อยกว่าชั่งเอง” เด็กหนุ่มอีกคนก็กล่าว

“ดูความอิจฉาของนายสิ งั้นชาติหน้านายก็เกิดเป็นหมูก็แล้วกัน!” เหล่าไป๋โถวผู้เป็นเพชฌฆาตลับมีดพลางกล่าว

ทุกคนจึงหัวเราะออกมา

ในเวลานี้ทีมผลิตได้แบ่งอาหารโดยยึดจากจำนวนสมาชิก หนึ่งปีมีสามร้อยหกสิบชั่ง ถ้าในบ้านมีเด็กเยอะ การเฉลี่ยก็จะดีขึ้นหน่อย แต่ถ้าเด็กผู้ใหญ่เยอะเด็กน้อย ก็จะรับประทานได้ไม่อิ่มท้อง

โดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่ที่มีท้องเป็นหลุมไม่มีก้น ถ้าไม่มีน้ำมันสักหน่อย รับประทานอย่างไรก็ไม่อิ่มอยู่ดี

อีกอย่างก็รับประทานอะไรไม่ได้ด้วย เพราะฤดูหนาวไม่ได้ทำงาน ใครกล้ารับประทานจนอิ่มท้องแบบนั้นกันล่ะ? ต่อให้อาหารมีมากขนาดนั้น แต่ถ้ารับประทานหมดปีหน้าจะทำอย่างไร?

จึงต้องใช้โอกาสในตอนที่ไม่ได้ทำงานรับประทานให้น้อย ๆ จึงจะได้รับประทานข้าวใหม่ในปีหน้า

“เอาล่ะ เลิกโวยวายได้แล้ว ปีหน้าก็ต้องทำกันเองแล้ว ตอนนี้กินไม่อิ่มก็ไม่เป็นไร รอให้ทำกันเองแต่ยังกินไม่อิ่มเมื่อไร ก็เป็นเพราะความขี้เกียจของตัวเองแล้ว!” หัวหน้ากล่าว

ฝ่ายบัญชีรีบพูดต่อ “เร็วเข้า เชือดหมูเถอะ!”

ไม้คานของหมูทั้งสี่ตัวถูกแบกขึ้นมาแล้ว มีคนถือกะละมังใบใหญ่รออยู่ใต้คอหมู ทุกคนต่างพากันยืนมองการเชือดหมู

เหล่าไป๋โถวไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวัง เขาเก็บกล้องยาสูบ จากนั้นหยิบมีดเชือดหมูเดินเข้ามา

ท่ามกลางสายตาของทุกคน มีดได้แทงเข้าที่กลางลำคอของหมู ใบมีดเข้าไปเป็นสีขาวแต่เมื่อดึงออกมากลายเป็นสีแดงฉาน รวดเร็วและไร้ความปรานีจริง ๆ หมูยังไม่ทันส่งเสียงร้องก็ตายเสียแล้ว เลือดไหลทะลักเป็นสายลงสู่กะละมัง

ส่วนหมูอีกสามตัวที่เหลือก็ทำตามสูตรสำเร็จที่บอกไว้ ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่เกินหนึ่งนาที ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบง่าย!

“ลุงไป๋ ฝีมือของลุงอยู่ในระดับสุดยอดไปเลย” จ้าวเหวินเทายกนิ้วโป้งให้เหล่าไป๋โถว

“ที่ไหนกันล่ะ ก็งั้น ๆ แหละ” เหล่าไป๋โถวกล่าวอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมาก จากนั้นก็มองลูกชายคนเล็กของตระกูลจ้าว “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าอยากเรียนวิธีเชือดหมูกับฉันไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงวิ่งไปค้าขายแล้วล่ะ?”

ก่อนหน้านี้จ้าวเหวินเทาอยากเรียนวิธีฆ่าหมูจริง ๆ คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นงานฝีมือ หลังจากมีฝีมือแล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีข้าวให้รับประทาน

แต่นั่นเป็นเพียงความคิดไร้เดียงสาตอนที่เขาอายุ 15-16 ปี ตอนนี้เขาไม่ได้คิดอยากจะฆ่าหมูแล้ว เขาส่ายหน้าพลางกล่าว “ภรรยาของผมท้องแล้ว ผมไม่ฆ่าสิ่งมีชีวิต!”

“ไม่ฆ่าสิ่งมีชีวิต แต่ฉันเห็นเธอฆ่าสัตว์ที่อยู่ในป่าไปไม่น้อยเลยนะ” เหล่าไป๋โถวส่งเสียงหึออกมา จากนั้นจึงหยิบกล้องยาสูบออกมาสูบ

“ผมไม่ได้เป็นคนทำให้มันตายสักหน่อย พวกมันส่งตัวเองมาให้ผมกินเองต่างหากล่ะ ที่ผมได้กินพวกมันก็คือความโชคดี” จ้าวเหวินเทายิ้มคิกคัก

เหล่าไป๋โถวมีความสุข คนที่หน้าหนาขนาดนี้มีน้อยนิด เป็นต้นกล้าชั้นดีในการเรียนรู้การเชือดหมูจริง ๆ แต่ก็น่าเสียดาย ตอนนี้เขาวิ่งไปค้าขายเสียแล้ว

หลังจากฆ่าหมูเสร็จ เลือดไหลออกมาจนหมดแล้ว ก็เริ่มถอนขนหมู

ต้องใช้น้ำร้อน ใช้อุปกรณ์โกนขน หลังจากโกนขนของหมูจนเกลี้ยงแล้วเหล่าไป๋โถวก็ออกโรงอีกครั้ง เขาใช้มีดเชือดหมูตัดขาทั้งสี่ข้าง จากนั้นกรีดแหวกหน้าอกเพื่อนำเครื่องในออกมา แล่กระดูกและเนื้อ เมื่อทั้งหมดเสร็จสิ้น งานของเขาจึงเสร็จสมบูรณ์

แต่ละหมู่บ้านจะมีคนเชือดหมู ซึ่งเหล่าไป๋โถวก็คือคนทำหน้าที่นี่

ไม่เพียงแค่เชือดหมู ยังเชือดแกะด้วย ยามใดต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตก็ต้องเรียกเหล่าไป๋โถว

อย่าได้ดูถูกการฆ่าสิ่งมีชีวิต นี่ไม่เพียงแต่ต้องมีทักษะเท่านั้น แต่ต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคงด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะคิดว่าจ้าวเหวินเทาถือเป็นวัสดุชั้นดีในการเรียนรู้การเชือดหมูได้อย่างไรกัน คนหน้าหนาแบบนี้มักจะยิ้มร่าอยู่เสมอ แต่เสือยิ้มประเภทนี้ถือเป็นคนที่เหี้ยมโหดเชียวล่ะ

ถ้าอีกฝ่ายเป็นลูกชายของเขาจะดีขนาดไหนกันนะ? ในช่วงครึ่งหลังของชีวิตก็คงหวังพึ่งพาได้

…………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

จริงๆ แล้วพี่เทาก็โหดเหมือนกันนะ แต่มีลูกมีเมียแล้วเลยรอดไป

ไหหม่า(海馬)