ตอนที่ 655 สารเลว! ท่าทีจากฟ้าเป็นเหว (5) / ตอนที่ 656 แก้แค้น ท่าทีพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ (6)

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 655 สารเลว! ท่าทีจากฟ้าเป็นเหว (5)

กู้ซูหลิงพลันมีสีหนาอึ้งไป

มองกู้เชินแทบไม่อยากจะเชื่อ

เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะอะไรกู้เชินถึงเย็นชากับเธออย่างนี้ เธอไปอ้อนเขาอย่างนอบน้อมขนาดนี้แล้ว ทำไมเขายังพูดจาแดกดันเธอแบบนี้อีก

ได้เห็นเธอเป็นลูกสาวบ้างไหม

กู้ซูหลิงโกรธมาก

หลายปีมานี้กู้เชินดีกับกู้ซูหลิงมาตลอด จู่ๆ ก็เย็นชากับเธอเช่นนี้ ช่องว่างในใจของกู้ซูหลิงกว้างเกินไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าตนเองผิด ในชั่วขณะจึงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว และโกรธมากด้วย จึงโมโหออกมา “ใช่ หนูไม่ดี หนูทำอะไรก็ผิดไปหมด ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็ไล่หนูออกจากบ้านตระกูลกู้เถอะ ถึงอย่างไรหนูก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของคุณ”

จากนั้นก็เดินออกไปด้วยท่าทีฟึดฟัด

เห็นจูอวี้ลู่ซึ่งยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าซีดด้วยความโกรธ ก็ทำเหมือนกับมองไม่เห็น ร้องไห้วิ่งเข้าบ้านผ่านตัวเธอไป

จูอวี้ลู่เหลือบมองกู้ซูหลิงทั้งโกรธทั้งสงสาร หลังจากนั้นก็เดินไปตรงหน้ากู้เชินด้วยความไม่สบายใจ “อาเชิน ขอโทษด้วย เป็นฉันที่ไม่ได้สอนลูกให้ดี ทำให้เขาไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ อีกเดี๋ยวฉันจะไปสั่งสอนเขาให้ดีแน่ๆ”

กู้เชินเหลือบตามองผ่านเธออย่างเฉยชา แล้วเปิดปากพูด “ตระกูลกู้เลี้ยงเขามาจนโตแล้ว ถ้าเขาคิดว่าตระกูลกู้ไม่ดีกับเขา ก็ออกไปจากตระกูลกู้ได้ทุกเมื่อเลย”

คำพูดเรียบง่ายกลับทำให้จูอวี้ลู่ซึ่งฟังแล้วรู้สึกกลัวจนตัวสั่น!

เธอรีบเอ่ยขอโทษ “ไม่ใช่ๆ วันนี้หลิงหลิงอารมณ์ไม่ดีก็เป็นเพราะเคารพรักคุณเกินไป ในใจเห็นคุณเป็นพ่อของเขา ที่เขาพูดก็แค่คำพูดจากความโมโห คุณอย่าได้เก็บไปใส่ใจเด็ดขาดเลยนะคะ”

กู้เชินไม่ได้ตอบเธอ ผู้ช่วยเปิดประตูรถ เขาเข้าไปนั่งในทันที

จูอวี้ลู่ตามไปข้างๆ ขอโทษอย่างระมัดระวัง “อาเชิน ขอโทษด้วย เป็นความผิดของฉันทั้งหมด”

กระทั่งรถออกตัวไป เธอก็เอาแต่ก้มตัวขอโทษอยู่ตลอด

ภายในห้อง กู้ซูหลิงกำลังปาข้าวของ จูอวี้ลู่เข้ามาในบ้าน ตบเธอไปหนึ่งฉาด พร้อมกับด่านิ่งๆ “แกยังจะโมโหอีก แกรู้รึเปล่าว่าเมื่อกี้พ่อแกพูดว่าอะไร บอกให้แกออกไปจากตระกูลกู้”

คำพูดนี้ทำให้กู้ซูหลิงตกใจจนมีสีหน้าซีดราวกับหิมะ ส่ายหน้าเป็นพัลวัน “แม่คะ หนูไม่เอานะ…”

แค่เพียงออกไปจากตระกูลกู้ เธอก็ไม่มีอะไรแล้วจริงๆ

“ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับแก ทำไมชอบทำให้พ่อแกโมโห เพราะฟังจือหันแค่คนเดียว แกจะยอมเสียทุกอย่างไปหมดเหรอ” จูอวี้ลู่พูดด้วยความโมโห

“หนูทำให้เขาโมโหที่ไหนกัน หนูก็เหมือนกับเมื่อก่อนจริงๆ อยู่ต่อหน้าเขาก็เชื่อฟังมาก เป็นเขาที่เอาแต่ด่าหนูแบบไม่มีเหตุผล เย็นชากับหนูก็ไม่เป็นไร ยังมาพูดจาประชดอีก หนูก็ไม่รู้ว่าหนูทำผิดอะไร” กู้ซูหลิงน้อยใจมาก กอดจูอวี้ลู่ร้องไห้คร่ำครวญออกมา

จูอวี้ลู่หน้าเครียด ขมวดคิ้วแน่น

ช่วงนี้กู้เชินเย็นชากับหลิงหลิงเช่นนี้เป็นเพราะอวี๋กานกานคนนั้นเหรอ

แต่ว่าที่หลิงหลิงพูดก็ถูก อวี๋กานกานก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา เขาก็เข้าข้างมาตลอด จะเป็นไปได้ยังไงที่ทำแบบนี้กับหลิงหลิงซึ่งมีความสัมพันธ์พ่อลูกสิบกว่าปีเพื่อคนนอกคนเดียวกันล่ะ

หรือเป็นเพราะอวี๋กานกานกับเสี่ยวเหยียนค่อนข้างละม้ายคล้ายกัน เพราะอย่างนั้นกู้เชินจึงมีความคิดที่เปลี่ยนไปกับอวี๋กานกาน

ความคิดนี้ทำให้จูอวี้ลู่ตกใจ

เธอบอกตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายอวี๋กานกานก็คบกับฟังจือหันแล้ว และเขาอายุมากกว่าอวี๋กานกานขนาดนั้น จะเป็นไปได้ยังไงที่มีความคิดสกปรกอย่างนั้นกับอวี๋กานกาน

แต่ว่าในใจก็อดคาดเดาและคิดแบบนี้ไม่หยุด

เธออยู่ในบ้านก็ยิ่งกระวนกระวายใจ ทนไม่ไหวจึงต่อสายโทรศัพท์ “ช่วงนี้คุณช่วยตามกู้เชินให้หน่อย ดูว่าเขาไปเจอกับใครบ้าง”

ตอนที่ 656 แก้แค้น ท่าทีพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ (6)

อวี๋กานกานออกมาจากลิฟต์ก็เห็นผู้ชายสองคนยืนตรงประตูบ้าน

หนึ่งในนั้นเมื่อได้ยินเสียงลิฟต์เปิดจึงหันกลับไปมองก็เห็นอวี๋กานกานยิ้มใจดี

ลมหายใจของอวี๋กานกานหยุดชะงัก เธอรู้สึกแปลกใจที่เห็นกู้เชินอยู่หน้าประตูบ้าน

ทันใดนั้นเธอสูญเสียอาการเล็กน้อย เธอเดินช้าลงแล้วก้าวไปข้างหน้ากู้เชินทีละก้าว

เมื่อเห็นว่าอวี๋กานกานเดินเข้ามาหาตนช้าๆ ทันใดนั้นกู้เชินก็นึกถึงความทรงจำเมื่อนานมากแล้ว ราวกับมองเห็นเสี่ยวเหยียนเดินมาหาตนเองช้าๆ

อวี๋กานกานหยุดฝีเท้าแล้วยกยิ้มให้กู้เชิน

รอยยิ้มสดใสราวกับดวงตะวันให้ความรู้สึกเสมือนฟ้าหลังฝน กู้เชินอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีมองเธอแล้วยิ้มมุมปาก “เลิกงานกลับบ้านแล้วเหรอ”

น้ำเสียงของเขาเบามาก

แล้วก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี คำพูดแต่ละคำกลั่นออกมาอย่างระมัดระวังราวกับกลัวว่าจะทำให้อวี๋กานกานตกใจไปซะก่อน

อวี๋กานกานพยักหน้า อยากอ้าปากเรียกเขาแต่กลับไม่รู้จะเรียกอย่างไรดี จะให้เรียกว่าพ่อแต่กลับเรียกไม่ออกจริงๆ

คำจำกัดความของคำว่าพ่อนั้นพิเศษมาก ถึงแม้จะผ่านไปหลายวันแล้วแต่พอเห็นเขาเธอก็ยังรู้สึกไม่รู้จะทำอย่างไรดี

เธอเปิดประตูเชิญกู้เชินเข้าบ้านและรินน้ำเปล่ามาสองแก้ว เธอนั่งลงข้างๆ อย่างลังเล นั่งหลังตรงตัวเกร็งราวกับนักเรียนชั้นประถม

กู้เชินสำรวจการตกแต่งภายในบ้านรอบๆ แล้วดื่มน้ำที่อวี๋กานกานรินให้หนึ่งอึก จากนั้นจึงเอ่ยถามเรื่อยเปื่อย “เขาดีกับลูกไหม”

เขาคนนี้แน่นอนว่าหมายถึงฟังจือหัน

อวี๋กานกานพยักหน้าให้ “ฟังจือหันดีกับหนูมากๆ เลยค่ะ”

“พวกเธอรู้จักกันได้ยังไง”

กู้เชินถามต่อ อวี๋กานกานจำไม่ได้แล้วว่ากู้เชินเคยถามคำถามนี้กับเธอหรือเปล่า เพราะว่ามีคนมากมายเคยถามคำถามนี้

แต่ไม่สนว่ากู้เชินจะถามอีกครั้ง เขาถามแบบนี้ก็เพราะสงสัยในตัวฟังจือหันแน่นอน ตามหาเธอเจอตั้งนานแล้วแต่กลับไม่ยอมบอกเขา

ความจริงก็เป็นเช่นนี้

ในใจของกู้เชินรู้สึกว่าฟังจือหันอาจจะรู้ตั้งนานแล้วว่าอวี๋กานกานคือเสี่ยวอวี๋ หรืออาจเป็นเพราะรู้ว่าอวี๋กานกานคือเสี่ยวอวี๋ก็เลยยอมรับอวี๋กานกานแล้วคบกับอวี๋กานกาน

ไม่เช่นนั้นคงไม่บังเอิญขนาดนี้ แฟนสาวของฟังจือหันคือเสี่ยวอวี๋พอดีเลย

เสี่ยวอวี๋ตัวปลอมที่อยู่ในบ้านคนนั้น

ไม่แน่ฟังจือหันก็อาจจะรู้อยู่ก่อนแล้ว มิฉะนั้นฟางจือหานคงไม่เย็นชากับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเมื่อก่อนหน้านี้

เขาน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดบัญชีกับฟังจือหัน สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาตอนนี้คือพาลูกสาวกลับคืนแล้วรับเธอกลับบ้าน

เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยจัดการทีหลัง

อวี๋กานกานครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยตอบ “อาจารย์ที่เลี้ยงหนูโตมาหายตัวไป อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับการตายของคุณพ่อของฟังจือหันก็เลยรู้จักกับฟังจือหันแบบนี้ค่ะ จากนั้นเราดูใจกันช่วงหนึ่งก่อนจะคบกันค่ะ”

เธอยังอยากช่วยฟังจือหัน ไม่อยากให้กู้เชินรู้เรื่องที่ฟังจือหันตามหาเธอตั้งนานแล้ว

ใบหน้ากู้เชินมีรอยยิ้มประดับเล็กน้อย

แต่กลับยืนยันในใจอย่างเยือกเย็นว่าตนเองเดาถูก

หากรู้จักอวี๋กานกานเพราะเรื่องนี้ ไม่มีทางที่ฟังจือหันจะไม่ตามสืบอวี๋กานกาน ขอเพียงตามสืบต้องเห็นรูปสมัยก่อนอย่างแน่นอน เช่นนั้นก็ต้องรู้ว่าเธอคือเสี่ยวอวี๋เป็นธรรมดา

ไอ้เด็กเมื่อวานซืนคนนี้ ตามหาอวี๋กานกานเจอแล้วไม่บอกเขาก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังทำลายข้อมูลก่อนหน้านี้บางส่วนของเสี่ยวอวี๋เพื่อขัดขวางไม่ให้เขาตามหาเสี่ยวอวี๋เจออีกด้วย

ไม่ให้อภัย!

ไม่ให้อภัย!

ไม่ให้อภัย!

กู้เชินท่องสี่คำนี้ในใจสามครั้งเงียบๆ และแต่ละครั้งก็หนักแน่นกว่าเดิม

กู้เชินเก็บกดความรู้สึกวุ่นวายใจแล้วปราดตามองผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ