ตอนที่ 615

Elixir Supplier

615 เล่นกับเขา

 

“ฉันจะไปกับเขาด้วยค่ะ” เฉินหยิงพูด “แล้วคราวนี้ เสี่ยวโจวก็มีเรื่องอยากจะขอเป็นพิเศษด้วย”

 

“ครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ผมอยากจะติดตามเรียนรู้การรักษากับเซียนเชิงครับ” เฉินโจวพูด

 

“เธออยากจะติดตามฉันเหรอ?” หวังเย้ารู้สึกประหลาดใจ “ทำไมอยู่ๆเธอถึงคิดแบบนี้ได้ล่ะ?”

 

“จากประสบการณ์ที่ผมต้องอยู่ในศูนย์สุขภาพจิต ที่นั่นมีคนที่ทั้งน่าสงสารและคนที่ไร้หนทางอยู่เต็มไปหมด ตอนนี้ ผมอาจจะยังช่วยพวกเขาไม่ได้ แต่ผมมีความรู้สึกแรงกล้าที่อยากจะช่วยพวกเขาให้ได้ในสักวันครับ” เฉินโจวพูดออกมา ราวกับเขาเป็นชายชราที่เข้าใจชีวิต หลังจากผ่านช่วงชีวิตที่ขึ้นๆลงๆมาแล้ว

 

“ถ้าดูจากอายุของเขา เขาควรจะเข้าเรียนชั้นประถมได้แล้วสินะครับ” หวังเย้าพูด

 

“อายุของเขาสามารถเข้าเรียนเกรด 7 ได้แล้วค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“ผมอยากจะแนะนำให้ส่งเขาไปเรียนในโรงเรียน เพื่อให้เขาได้มีความรู้และเข้ากับสังคมทั่วไปได้” หวังเย้าพูด “เขาต้องแยกตัวจากสังคมมาหลายปี ดังนั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการ เขาต้องเรียนรู้การสื่อสารกับคนอื่น รวมไปถึงการมีเพื่อนใหม่ด้วย ส่วนเรื่องที่อยากจะเรียนการรักษาจากผม เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลย ผมสามารถส่งตำราบางส่วน เพื่อให้เขาได้เรียนพื้นฐานการแพทย์แผนจีนไปก่อนได้”

 

“ดีค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

เธอเห็นด้วยกับข้อเสนอของหวังเย้า ในเมื่อเฉินโจวมีความรู้สึกเคารพในตัวของหวังเย้าอยู่แล้ว เขาจึงมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องพูดชักจูงอะไรเขาเลย

 

เฉินโจวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตอบไปว่า “โอเคครับ ผมจะฟังที่เซียนเชิงบอกและเก็บเกี่ยวสิ่งที่หายไปทั้งหมดก่อน”

 

“แล้ว ทั้งสองคิดจะไปที่ไหนกันเหรอ?” หวังเย้าถาม

 

“น่าจะสักที่ในจังหวัดฉีนี่แหละค่ะ” เฉินหยิงพูด “ฉันอยากจะพาเขาไปที่ภูเขาไท่ชานก่อนที่แรก”

 

“โอเคครับ พี่เอารถของผมไปใช้ก็ได้นะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ขอบคุณค่ะ แต่เราเช่ารถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” เฉินหยิงพูด

 

สองพี่น้องพากันกลับออกไป หวังเย้ารู้สึกยินดีที่มีคนสนใจอยากเรียนแพทย์แผนจีนมากขึ้น เมื่อดูจากท่าทางการพูดของเฉินโจวแล้ว หวังเย้าสามารถบอกได้ว่า เขาต้องการเรียนรู้ด้วยใจของเขา ไม่ใช่แค่เรียนเพียงชั่วครู่

 

 

ก่อนบ่ายโมงเพียงเล็กน้อย หวังเจ๋อเชิงก็เดินเอามือกุมเอวของเขาเข้าไปในคลินิก เขาดูเหมือนจะเจ็บปวดอย่างมาก

 

“เกิดอะไรขึ้นครับ?” หวังเย้ามองหน้าที่ซีดเซียวของเขา เขามองออกมา มันเป็นอาการเจ็บจากการทำงานหนักเกินไป เขารู้ได้เลยว่า หวังเจ๋อเชิงไม่ได้ฟังคำแนะนำของเขาเลยสักนิด

 

“ฉันเจ็บที่เอวน่ะ มันเจ็บมากๆเลย” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

อาการเจ็บนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะยืน, นั่ง, หรือนอน เขาก็จะรู้สึกเจ็บอยู่ตลอดเวลา มันคล้ายกับว่า มีคนกำลังถือมีดแทงไปที่เอวของเขาไม่หยุด

 

ในสองวันแรก เขาสามารถทนกับความเจ็บได้บ้าง และคิดว่า อีกไม่นานเขาก็จะดีขึ้นเอง ดังนั้น เขาจึงนำพลาสเตอร์แก้ปวดแปะเอาไว้ แต่กลับกลายเป็นว่า ความเจ็บนั้นเพิ่มขึ้นจนเขาทนไม่ไหว

 

เมื่อเขาไปทำงานในตอนเช้า เขาแทบจะยืนไม่ไหว เขาเกือบทนทำงานจนหมดกะไม่ได้ แม้แต่จะจูงมอเตอร์ไซด์เขาก็ยังทำไมไหว หลังกลับมาถึงที่บ้านและหาอะไรทานเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตัดสินใจมาหาหวังเย้าที่คลินิก

 

“ผมแนะนำให้พี่อยู่พักที่บ้านสักเจ็ดวัน และมานวดกับผมทุกวัน แต่พี่กลับมาหาผมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น” หวังเย้าพูด “พี่พักอยู่ที่บ้านกี่วัน ก่อนที่จะกลับไปทำงานครับ?”

 

“เอ่อ สองวันน่ะ” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

“บอกความจริงมาครับ” หวังเย้าพูด

 

“วันครึ่ง” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

เขาพักอยู่ที่บ้านแค่วันครึ่งเท่านั้น พอถึงตอนบ่าย เขาก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ดังนั้น เขาจึงกลับไปทำงาน เพราะกังวลเกี่ยวกับภาระทางการเงินของครอบครัว ในวันที่สาม เขาเริ่มรู้สึกปวดที่ช่วงเอว งานที่เขาทำเป็นงานที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก ดังนั้น ช่วงเอวของร่างกายจึงต้องรับภาระหนักไปด้วย หลังจากทำงานไปได้หนึ่งวัน ช่วงเอวของเขาก็ปวดอย่างมาก นอกจากนั้น แขนและลำคอของเขาก็มีอาการปวดด้วยเช่นกัน

 

แพทย์สามารถปฏิเสธที่จะรักษาคนไข้ด้วยหลายสาเหตุ คนไข้ที่ไม่สนใจสุขภาพร่างกายหรือไม่ฟังคำแนะนำของแพทย์ก็รวมอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน

 

“ถ้าพูดกันตามทฤษฎีแล้ว ผมคงจะไม่รักษาอาการป่วยของพี่อีก” หวังเย้าพูด

 

“อืม” หวังเจ๋อเชิงพยักหน้า ใบหน้าของเขาซีดเซียว “แล้วฉันก็รู้ด้วยว่า ฉันสมควรแล้วที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้”

 

การหวนนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วนั้นง่ายกว่าการคิดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต

 

“มาครับ ผมขอดูหน่อย” หวังเย้าพูด

 

เมื่อหวังเจ๋อเชิงถอดเสื้อออก ก็เผยให้เห็นช่วงเอวที่แดงและบวมช้ำ มันแทบจะกลายเป็นสีม่วงอยู่รอมร่อ

 

“โอ๊ย!” ร่างกายของหวังเจ๋อเชิงสั่นสะท้าน เมื่อหวังเย้าจับไปที่ช่วงเอวของเขา

 

“เจ็บมากไหมครับ?” หวังเย้าถาม

 

“อืม มันเจ็บมาก” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

เขามีอาการกล้ามเนื้อเคล็ดขัดยอก ซึ่งเกิดจากการไหลเวียนของโลหิตที่ไม่ดี และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อในส่วนนั้นตายได้

 

“นอนลงครับ” หวังเย้าพูด

 

หวังเจ๋อเชิงที่พยายามอดทนกับความเจ็บปวดได้นอนราบลงไป

 

“พี่ต้องทนหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

แทนที่จะใช้การนวดรักษา หวังเย้ากลับฝังเข็มลงไปแทน เพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อช่วงหลังของหวังเจ๋อเชิงเกร็งตัว ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการรักษาเลย

 

“ผ่อนคลายหน่อยครับ” หวังเย้าพูด

 

“อื้อ” หวังเจ๋อเชิงกัดฟัน

 

“ตอนผมฝังเข็มลงไป เจ็บไหมครับ?” หวังเย้าถาม

 

“มันไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่” เพราะความเจ็บปวดที่ช่วงเอวนั้นเลวร้ายมาก เลยทำให้ความรู้สึกในส่วนอื่น เช่น อาการเจ็บๆคันๆจากเข็มที่แทงลงมานั้นลดลงไป มันเบามาก หากเทียบกับความเจ็บปวดที่เขากำลังอดทนอยู่

 

หลังจากฝังเข็มลงเสร็จแล้ว หวังเย้าก็เริ่มนวดตามจุดฝังเข็มเพื่อขับเลือด นี่เป็นเหมือนกับการนวดกล้ามเนื้อ

 

ร่างกายของหวังเจ๋อเชิงเกร็งขึ้น ตัวของเขาสั่นมากกว่าเดิม

 

“มันจะเจ็บหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“โอ๊ย!” หวังเจ๋อเชิงพยายามอดทนกับความเจ็บ

 

“ทนเอาหน่อยครับ” หวังเย้าพูด

 

เส้นเลือดและโลหิตถูกกระตุ้นจากแรงภายนอก และไม่ใช่การซ่อมแซมตัวเองของร่างกาย ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีผลข้างเคียงตามมา

 

เมื่อการรักษาเสร็จสิ้น เสื้อผ้าของหวังเจ๋อเชิงก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาแทบจะลุกไม่ไหว

 

“อย่างน้อยๆ ก็ต้องพักสัก 10 วันนะครับ” หวังเย้าพูด “ถ้าไม่ฟังที่ผมบอก ก็ไม่ต้องมาหาผมอีกนะครับ”

 

“โอ้ ได้ๆ” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

ก็เหมือนกับการร่วงหล่นลงไปที่ก้นหลุม จึงทำให้มีปัญญา เขาจะจดจำบทเรียนนี้ไปอีกนาน

 

“ทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงน้อยลง และพักให้มากๆ” หวังเย้าพูด

 

“เอ่อ ค่ารักษาเท่าไหร่เหรอ?” หวังเจ๋อเชิงถาม

 

“ไม่ต้องจ่ายหรอกครับ” หวังเย้าพูด

 

“ฉันจะไม่จ่าย…” หวังเจ๋อเชิงรู้สึกประหลาดใจ

 

“กลับบ้านไปพักเถอะครับ” หวังเย้าพูดขัดเข้าขึ้นมา

 

“ขอบคุณนะ” หวังเจ๋อเชิงเดินจากไปช้าๆ พร้อมกับกุมมือไว้ที่เอว

 

 

ภายในศูนย์ทดสอบจังหวัดฉี…

 

“ผลเป็นยังไงบ้าง?” เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปถาม

 

“เอ่อ เราได้ทำการทดสอบสมุนไพรไปแล้ว 17 ชนิด ทั้งหมดนี้ เราไม่พบสารเคมีตกค้างหรือโลหะเกินกว่าค่ามาตรฐานเลย สมุนไพรพวกนี้ไม่มีสิ่งปนเปื้อนอยู่เลย” เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปอีกคนพูด

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน?” เจ้าหน้าที่คนแรกพูด

 

“มันเป็นไปได้สิ ถ้าพวกมันเป็นสมุนไพรที่เก็บจากในป่าหรือไม่ก็ถูกปลูกเอาไว้บนเขา” เพื่อนร่วมงานของเขาพูด

 

สมุนไพรเหล่านี้ ถูกส่งมาจากเขตที่อยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัด เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปถูกขอให้ทำงานล่วงเวลา เพื่อตรวจสอบว่าสมุนไพรเหล่านี้ได้ค่ามาตรฐานหรือไม่ แต่แล้ว พวกเขาก็ไม่พบความผิดปกติอะไรเลย

 

“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?” เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปรู้สึกสงสัย

 

 

ภายในคลับเฮาส์ที่เมืองจี้…

 

“คุณชายหลี่ หลายวันมานี้ ดูเหมือนว่าคุณจะอารมณ์ดีมากนะครับ” ชายคนหนึ่งพูด

 

“เฮอะ ฉันไม่อารมณ์เสียตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ชายอีกคนพูด

 

“ผมได้ยินมาว่า คุณทำงานอยู่ในกรมอาหารและยาเหรอสินะครับ” ชายคนแรกพูด

 

“อืม มันน่าเบื่อสุดๆเลยล่ะ” ชายอีกคนพูด

 

“เฮ้ คุณน่าจะชอบนะ กรมแบบนั้นขึ้นตรงกับทางจังหวัดอยู่แล้วนี่นา” ชายคนแรกพูด “ขอแสดงความยินดีกับชีวิตที่สุขสมของคุณชายนะครับ”

 

“ฉันไม่อยากจะทำงานที่นั่นสักหน่อย เงินเดือนยังไม่พอซื้อบุหรี่เลยด้วยซ้ำ” ชายอีกคนพูด “ฉันแค่ทำงานเพื่อคนบางคนต่างหาก”

 

“ใครเหรอ? สาวสวยใช่ไหมครับ?” ชายคนแรกถาม

 

“สาวสวยบ้าอะไรกัน? ไม่ใช่ แต่เป็นศัตรูของฉันต่างหากล่ะ” ชายอีกคนพูด

 

“ศัตรู! ใครมันกล้ามาท้าทายคุณชายหลี่กัน? มันเป็นใคร? บอกผมมา ผมจะไปฟันมันทิ้งให้เอง!” ชายคนแรกพูด เขามีผมเรียบเป็นมันเงาและพูดจาป่าเถื่อน

 

“แม่ง! มันอยู่ที่ห่ายชิว” ชายอีกคนพูด “มันอยู่ในเขตของแกรึเปล่าล่ะ?”

 

“ห่ายชิว? ที่นั่นเหรอ? มันไปทำให้คุณไม่พอใจได้ยังไงกัน?” ชายคนแรกถาม

 

“ฉันมีเวลาเล่นกับมันอีกเยอะ” ชายอีกคนพูด

 

 

ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ตัวเมืองเหลียนชาน

 

“ไม่นะ! ไม่!” บนใบหน้าของชายหนุ่มไร้สีเลือด เหลือแต่สีซีดเผือดราวกับขี้เถ้า มันทำให้เขาดูราวกับคนใกล้ตาย
“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”

 

กริ๊ง! กริ๊ง! มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะส่งเสียงดังขึ้น เขามองดูหมายเลขและใช้ความคิดเล็กน้อย หลังจากที่ลังเลอยู่ไม่กี่วิ เขาก็กดรับสาย “ว่าไง เสี่ยวหลิง”

 

“คืนนี้ นายว่างรึเปล่า? เราไปกินข้าวเย็นด้วยกันดีไหม?” มีเสียงผู้หญิงดังมาจากปลายสาย

 

“ที่ไหนเหรอ?” ชายหนุ่มถาม

 

“ไหว้เราเจอกันก่อน แล้วค่อยคิดอีกทีก็ได้” หญิงสาวพูด

 

หลังจากที่กดวางสายแล้ว ชายหนุ่มก็เดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้อง “ไปเจอเธอก่อนก็แล้วกัน”

 

เขาแต่งตัวเรียบร้อย แล้วจึงขับรถออกจากตัวเมืองและตรงไปที่หมู่บ้านกลางเขา

 

“สวัสดีครับ หมอหวัง” ชายหนุ่มพูด

 

“อ้าว เธอนะเอง” หวังเย้าจดจำชายหนุ่มคนนี้ได้ในทันที เพราะอาการป่วยของเขาค่อนข้างจะพิเศษ

 

เขามีความต้องการทางเพศสูงและมักจะคิดถึงแต่เรื่องพวกนี้ไม่หยุด มันแทบจะควบคุมไม่ได้ หวังเย้าจึงได้ส่งพลังฉีเข้าไปที่ส่วนท้องน้อยของชายหนุ่ม ความคิดเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ที่ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยา ส่วนสงวนของเขาก็จะรู้สึกเจ็บปวด เหมือนกับมีเข็มทิ่มแทงอยู่