— ตูม! —
พลังอันแข็งแกร่งผลักพวกเขาทั้งสองออกไป
— ปัง! —
มู่เฉียนซีและน่าหลานอวี้กระเด็นออกไปชนกําแพงอย่างรุนแรง!
น่าหลานอวี้รีบกล่าวถาม “มู่เฉียนซี เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม ?”
“ไม่ แต่เป้าหมายของเขาคือเจ้า รีบหลบเร็วเข้า!”
อู๋ตี้ เสี่ยวหงรีบพุ่งเข้าหาคนผู้นั้น เห็นได้ชัดว่าผู้มาเยือนเป็นนักฆ่าที่ชำนาญอย่างมาก เขามีปฏิกิริยาตอบสนองที่ว่องไว และถึงกับมีพลังระดับห้าของจักรพรรดิแห่งภูต เพียงพริบตาเดียวเขาก็หลบการโจมตีของเสี่ยวหงและอู๋ตี้ได้โดยง่าย
เขากล่าวเสียงเข้ม “สาวน้อย ข้าต้องการสังหารนายน้อยน่าหลาน โปรดอย่าได้เข้ามายุ่งเลย”
มู่เฉียนซีลุกขึ้นยืนช้า ๆ กล่าวว่า “เจ้าลอบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาระยะหนึ่งแล้วกระมัง ไม่ได้ยินเรื่องที่น่าหลานอวี้มีบุญคุณช่วยชีวิตข้าไว้รึ เจ้าคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าฆ่าเขาเช่นนั้นหรือ ?”
นักฆ่ากล่าวอย่างเหยียดหยาม “เพียงเจ้าและสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งทั้งสองตัว ไม่สามารถหยุดข้าได้”
มู่เฉียนซี ท่าทีของนางเฉยเมยอย่างที่สุด “ข้าไม่ลงมือ อู๋ตี้และเสี่ยวหงไม่ลงมือ ก็จัดการเจ้าได้เหมือนกัน ต้องบอกว่าเจ้าโง่มากจนไม่อาจจะโง่เขลาได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว ถึงได้มาลอบสังหารในหอหมอปีศาจ” “หนึ่ง… สอง… สาม…” มู่เฉียนซีนับอย่างช้า ๆ หลังจากที่เสียงนับจบลงที่เลขสาม ทันใดนั้นนักฆ่าผู้นั้นก็รู้สึกได้ว่าขาของตนเองอ่อนยวบ
— ตุบ! —
นักฆ่าล้มลงกับพื้น เขามองมู่เฉียนซีด้วยความประหลาดใจพลางกล่าวว่า “เจ้าวางยาพิษข้า!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ทั้งชั้นล้วนเป็นที่สำคัญสำหรับการปรุงยา ที่นี่ถูกโปรยไปด้วยยาพิษทุกชนิด แขกไม่ได้รับเชิญที่บุกเข้ามาที่นี่ ไม่สนว่าเจ้าจะเป็นราชาแห่งภูตหรือจักรพรรดิแห่งภูต ล้วนแต่ต้องร่วงลงไปกองกับพื้นทั้งหมด!”
น่าหลานอวี้ “เช่นนั้น… ข้า… ข้า…”
เขาเบิกตากว้าง ที่แท้สถานที่ที่เขาอยู่ทุกวันกลับเต็มไปด้วยพิษ มัน… มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้ากลัวอะไร ? ยาและชาของข้าที่เจ้ากินเจ้าดื่มนั้นไม่ได้เพียงไว้กลืนลงท้องไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ พิษที่นี่ไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้”
เวลานี้พลังวิญญาณของนักฆ่าผู้นี้หายไปจนหมดไม่มีเหลือ ทั้งร่างเขาหมดเรี่ยวแรง ทำได้เพียงแต่รอให้ผู้อื่นมาเชือดเท่านั้น
เขาผู้ที่เป็นถึงมือสังหารระดับจักรพรรดิ เพียงแค่พลาดไปชั่วเวลาเดียวก็โดนสาวน้อยที่เป็นเพียงจอมภูตจัดการเสียแล้ว…
ช่างไม่ยุติธรรมยิ่งนัก!
มู่เฉียนซีถามขึ้น “น่าหลานอวี้ เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มาที่นี่เพื่อฆ่าเจ้า เจ้าจะเก็บมันไว้เพื่อสอบปากคําหรือให้ข้าสอบปากคำเอง”
น่าหลานอวี้กล่าวว่า “ด้วยวิธีของสตรีเช่นเจ้า ให้เจ้าสอบปากคำคงจะได้เรื่องกว่าข้าอย่างมาก เช่นนั้นก็มอบให้เจ้าแล้วกัน”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา “เช่นนั้นข้าต้องเชื่อใจในการที่เจ้าเชื่อในความสามารถการทำงานของข้าแล้ว”
น่าหลานอวี้ “ใช่”
มู่เฉียนซีโบกมือ กล่าวว่า “เอาคนผู้นี้ออกไป ดูแลให้ดี ๆ คนผู้นี้จะสอบปากคำนั้นไม่ง่าย หากถามอะไรไม่ได้ความก็ให้จัดอาหารชุดใหญ่ให้เขาไปให้หมด”
นักฆ่ารู้สึกเย็นวาบกลางแผ่นหลัง เขารู้สึกว่าอาหารมื้อใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีมองน่าหลานอวี้ก่อนจะกล่าวว่า “มีมือสังหารจับตาดูเจ้าอยู่ เจ้ายังไม่ไปอีก”
น่าหลานอวี้ “ข้าคิดว่าหอหมอปีศาจเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ในตอนที่ยังไม่ได้ผลจากการสอบปากคำ ข้าคิดว่าอยู่ที่นี่ปลอดภัยที่สุด”
เขาคว้ามู่เฉียนซีเอาไว้ “มู่เฉียนซี เมื่อครู่นี้ข้าตกอยู่ในอันตรายมากเช่นนั้น เหตุใดมู่ซีถึงยังไม่ปรากฏตัว ?!”
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าขอโทษ ห้องปรุงยามีฉนวนกันเสียง แม้ข้างนอกจะเกิดระเบิดขึ้น คนที่อยู่ด้านในก็ไม่ได้ยิน เจ้าอย่าคิดมากไปเลย”
น่าหลานอวี้ผิดหวังอย่างมาก อาหารชุดใหญ่นั้นก็ได้จัดส่งให้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์มา
มู่เฉียนซีกล่าวกับน่าหลานอวี้ “นักฆ่าที่โชคร้ายผู้นั้นรู้แค่ว่าเป็นหอการค้าอันดับหนึ่งออกเงินว่าจ้าง แต่ว่าเป็นใครนั้นเขากลับไม่รู้”
น่าหลานอวี้กล่าว “รู้เรื่องเพียงเท่านี้ก็พอแล้ว ในหอการค้ามีศัตรูพวกไหนบ้างข้านั้นรู้ดี ทว่าข้าคิดไม่ถึงว่าพวกมันยังไม่เลิกล้มความคิดชั่วช้า”
น่าหลานอวี้เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาเหลือบมองประตูใหญ่ของห้องปรุงยาอย่างรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ครั้งนี้ข้ามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานค้าขายครั้งใหญ่ หลังจากเสร็จสิ้นแล้วข้าก็ควรกลับ อยู่ยืดยาวเช่นนี้จนวันนี้แท้ที่จริงข้าควรกลับแล้ว ข้าสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดมู่ซีถึงได้ไม่ออกมาเสียที”
เขารู้สึกหน่ายใจจริง ๆ
มู่เฉียนซี “ในเมื่อเจ้ามีธุระก็กลับไปเสียเถอะ ไม่แน่ว่าวันหลังเขาอาจจะไปสำนักใหญ่ของเจ้าที่แคว้นเฉียนเซี่ย ถึงตอนนั้นเจ้าก็สามารถเจอกับเขาได้แล้วไม่ใช่หรือ ?”
ดวงตาของน่าหลานอวี้เป็นประกาย “จริงรึ ?” มู่เฉียนซีกล่าวให้คำมั่น “จริง หอหมอปีศาจไม่เพียงแค่จะขยายตัวทางตะวันตกของทวีปเซี่ยโจว อีกไม่นานจะขยายไปยังตอนกลางและฝั่งตะวันออกแล้ว”
“เช่นนั้นเจ้ากับมู่ซีก็รีบ ๆ เข้าหน่อยล่ะ ข้าจะรอ”
“ได้”
น่าหลานอวี้กําลังจะจากไป มู่เฉียนซีจึงกล่าวขึ้น “นายน้อยน่าหลาน เจ้ามาที่นี่สักครั้งนั้นไม่ง่ายดายเลย เจ้าจะไม่เอาของฝากพิเศษกลับไปหน่อยหรือ ?”
น่าหลานอวี้เบิกตากว้าง เขาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวถามขึ้น “ของฝากพิเศษอะไรกัน ?”
“แน่นอนว่าเป็นยาของหอหมอปีศาจของเรา ซื้อจำนวนมากข้าก็จะให้ราคามิตรภาพ”
น่าหลานอวี้กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าผู้นี้จะไปแล้ว เจ้ายังอดไม่ได้ที่จะหาเอากําไรจากข้าอีกรึ อืม… ข้าทำตามที่เจ้าต้องการ ข้าอุดหนุนเจ้าเสียหน่อยก็ได้”
มู่เฉียนซีห่อยาขนาดใหญ่ให้แก่น่าหลานอวี้ “อันนี้สำหรับรักษาบาดแผล อันนี้สำหรับแก้พิษ อันนี้สำหรับใช้ฟื้นฟูพลังวิญญาณ ส่วนอันนี้เอาไว้กินเล่นอย่างไรก็ได้ เจ้าอย่าได้ตระหนี่ใช้มันล่ะ มันใช้กันไว้ก่อน เผื่อว่าเจ้าไปได้รับบาดเจ็บเจียนตายถึงขั้นถูกหามส่งมาหอหมอปีศาจ”
น่าหลานอวี้กล่าว “เจ้าวางใจเถอะ โชคไม่ดีเพียงครั้งเดียว ข้าไม่โชคไม่ดีไปทุกครั้งหรอก อีกอย่าง หมอปีศาจเองก็เป็นเพื่อนของข้าน่าหลานอวี้ เรื่องใช้ยานั้นข้าไม่ตระหนี่อย่างแน่นอน แต่ทว่ายาจำนวนมากมายขนาดนี้ เงินที่ข้ามีติดตัวอยู่ไม่เพียงพอ”
มู่เฉียนซีกล่าว ท่าทีสบาย ๆ “ไร้ปัญหา เจ้าติดไว้ก่อนได้ จดบัญชีเอาไว้”
น่าหลานอวี้กล่าวด้วยความฉงนสงสัย “เจ้าคงจะไม่คิดเก็บดอกเบี้ยอย่างสูงกระมัง” ใบหน้าของมู่เฉียนซีมืดหม่นลง “ดูเหมือนว่าเจ้าอยากให้ข้าคิดดอกเบี้ยสูงนะนายน้อยน่าหลาน”
“ไม่ใช่!” น่าหลานอวี้รีบปฏิเสธ เขาหยิบเอาป้ายหยกขาวออกมามอบมันให้กับนาง “นี่คือป้ายหยกประจําตัวแห่งหอการค้าอันดับหนึ่งของข้า หากเจ้าเจอเรื่องเดือดร้อนให้ไปที่ร้านของหอการค้าอันดับหนึ่ง พวกเขาจะช่วยเจ้าอย่างไม่มีเงื่อนไข”
มู่เฉียนซีตะลึงงัน “เจ้ามอบสิ่งสำคัญเช่นนี้ให้ข้า เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเอามันไปทำเรื่องไม่ดีรึ ?”
น่าหลานอวี้ “ใครใช้ให้ข้าผู้นี้ซื้อยามาแต่ไม่มีเงินจ่ายเล่า ? คงต้องเอาสิ่งสำคัญเช่นนี้มาจํานอง มู่เฉียนซีถึงแม้ว่าเจ้าจะทำเรื่องไม่ดีมา ข้าก็ยอมรับ”
น่าหลานอวี้มองใบหน้าสตรีที่งดงามอย่างหมดจดตรงหน้าแล้วกล่าวลา “ข้าไปแล้ว”
“อืม แล้วพบกันใหม่” มู่เฉียนซีกล่าวลาเช่นกัน
ทว่าจู่ ๆ น่าหลานอวี้ถามขึ้น “มู่เฉียนซี เจ้าจะเสียดายไหมที่ข้าไป ?”
มู่เฉียนซีตอบตามจริง “อืม ข้าเสียดายเล็กน้อย”
ใบหน้าของน่าหลานอวี้ฉายแววยินดี “ฮ่า ๆ ๆ ดี มีบ้างเล็กน้อยก็ไม่เลว”
เขาหันหลังเดินจากไป ใบหน้าสองใบหน้าโผล่สลับไปมาในสมองของเขา ทำให้หัวใจของเขานั้นเต้นช้าลงไปครึ่งจังหวะ
เด็กหนุ่มที่งดงามดั่งปีศาจกับสาวน้อยใจดำผู้นี้ละม้ายคล้ายกันอย่างประหลาด คล้ายกันเสียจนทำให้ใจของเขานั้นว้าวุ่นเสียแล้ว
น่าหลานอวี้คิดในใจ ‘ผู้ที่ข้าชอบคือมู่ซี ต้องเป็นมู่ซีเท่านั้น’
ความรู้สึกดีที่มีต่อมู่เฉียนซีนั้น เป็นเพราะความคล้ายคลึงในบางส่วน ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ ๆ
มู่เฉียนซีมองตามแผ่นหลังของน่าหลานอวี้พลางกล่าวว่า “เจอกันครั้งหน้า เกรงว่าคงต้องรอให้ข้าไปที่แคว้นเฉียนเซี่ยถึงจะได้เจอกัน”
ทันใดนั้นเงาดำมืดผ่านวาบเข้ามา
มู่อีกล่าวขึ้น “ท่านผู้นำตระกูล ที่แคว้นจื่อเยี่ยมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยขอรับ”
.