บทที่ 179 หาเรื่องแต่งงานกับเขาทำไม

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

นางจะมารับเธอทำไมกัน?
ริมผีปากที่ไม่มีสีเลือดฝาดเลยแม้แต่นิดเดียวของเส้นหมี่ ในที่สุดก็เอ่ยพูดออกมาแล้ว : “มารับฉันทำไม?”
แสงดาวหัวเราะเยาะ : “เธอว่าฉันสามารถทำอะไรได้ล่ะ? เส้นหมี่ อย่าคิดว่าเธอเคยหลอกคุณท่านของเราได้ น้องชายฉันเองก็ไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ เธอก็จะสามารถฉวยโอกาสเข้าตระกูลหิรัญชาได้อีก เธอฝันไปเถอะ”
เส้นหมี่ : “…….”
เป็นเวลาสี่ถึงห้าวินาที เธอจ้องมองผู้หญิงคนนี้ และกำลังสงสัยว่าสมองของเธอมีปัญหาแบบนั้นเหมือนกับที่ร่ำลือกันหรือเปล่า?
“ฉันจะเข้าตระกูลหิรัญชา? คุณหนู คุณแน่ใจชัดเจนแล้วใช่ไหม? ว่าฉันกลับมายังไง?”
“ฉันแน่ใจแล้วสิ เธอถูกน้องชายฉันจับตัวกลับมาไม่ใช่รึไง? แต่แล้วยังไงล่ะ? ตอนนั้นเธอบอกเองว่าเธอรักน้องชายฉันถึงได้แต่งงานเข้าตระกูลของฉัน แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ว่าเธอมีจุดประสงค์อย่างนั้นเหรอ?”
ใครก็คิดไม่ถึง ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาพูดถึงเรื่องในปีนั้นอีก
และทันใดนั้นเอง เส้นหมี่ที่อยู่ภายใต้ดวงตาคู่นั้นที่บึ้งตึงและเยือกเย็นเหมือนกับงูพิษ ก็เหมือนกับถูกอะไรกัด ตัวเธอนั้นสูญเสียความใจเย็นไปบ้างแล้ว
“คุณพูดเหลวไหลอะไร? ฉันจะมีจุดประสงค์อะไรได้?”
“เธอมีจุดประสงค์อะไร? ตัวเธอเองไม่รู้อย่างนั้นเหรอ? เพื่อได้แต่งงานกับน้องชายฉัน ไม่ต้องการชื่อเสียง ไม่ต้องการอนาคต แล้วก็ยิ่งไม่ต้องการตระกูลวชิรนันท์ของพวกเธอด้วย เธอว่าเพราะอะไรกันแน่? เพื่อความรักจริงๆเหรอ?”
เธอเหมือนกับปิศาจร้ายจริงๆ พูดเรื่องพวกนี้ออกมาทีละคำอย่างเน้นย้ำ ทำให้เส้นหมี่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นรู้สึกเหมือนกับมีดแหลมคมหนึ่งเล่มที่เปิดแผลของเธอออกมาทีละนิดๆ
เธอจ้องมองหล่อนสองสามวินาทีสั้นๆ ดวงตาคู่นั้นก็กลายเป็นสีแดงเลือดแล้ว!
เธอไม่ได้ทำเพียงเพื่อความรักเท่านั้นจริงๆ
เนื่องจากว่าไม่มีผู้หญิงคนไหน เพื่อที่จะรักผู้ชายคนหนึ่งแล้วทิ้งทุกอย่างที่ตัวเองมี
คนหนึ่งคนในโลกใบนี้มีสิ่งต่างๆอีกมากมาย บุญคุณของพ่อแม่ เกียรติยศของครอบครัว ความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ…..
ดังนั้น เธอไม่คิดว่าผู้หญิงที่มีสมอง จะทำลายทุกอย่างของตัวเองเพื่อผู้ชายคนนึงได้
แต่เธอก็ทำไปแล้ว เพื่อแต่งงานกับเขา ตัดเส้นทางของตัวเอง เส้นทางของพ่อแม่ และยังมีเส้นทางของพวกเธอตระกูลวชิรนันท์อีก…..ทุ่มกับการวางเดิมพันครั้งสุดท้าย เธอทำไปเพื่ออะไรกันแน่?
“ความจริงแล้วฉันชื่นชมเธอมากนะ เพื่อชดใช้ให้น้องชายฉัน เธอทิ้งทุกอย่างมามากมายขนาดนี้ ดังนั้น ฉันเองก็ไม่ได้คิดที่จะเอาชีวิตเธอ เธอเพียงแค่เอาลูกทิ้งไว้ หลังจากนั้นก็ให้ฉันส่งตัวเธอไปในที่ที่ไม่มีคนรู้จัก แบบนี้ เธอก็จะประสบความสำเร็จแล้ว และบาปกรรมที่เธอทำไว้ ก็นับว่าชดใช้หมดแล้วเหมือนกัน เธอว่าใช่หรือเปล่า?”
แสงดาวมองไปยังผู้หญิงที่ถูกเธอบีบอีกครั้ง และรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
เธอมองดูเล็บสีดำที่เพิ่งทำมาของตัวเองอย่างไม่สนใจไยดีนัก เหมือนกับกำลังชื่นชมงานศิลปะชิ้นหนึ่งอยู่อย่างไรอย่างนั้น พลางเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
ในที่สุดเวลาก็หยุดนิ่งลง!
ในห้องตรวจ ทุกๆเสียงหยุดลงเพราะประโยคนี้ของเธอ ตกอยู่ในความเงียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
พยาบาลที่ขวางอยู่ตรงกลางระหว่างสองคนนี้ จู่ๆก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เนื่องจากเธอพบว่า หัวหน้าสวยใสของเธอ ไม่ได้สั่นอีกแล้ว เหมือนกับบรรยากาศภายในห้องนี้ จู่ๆคลื่นลมก็สงบลงอย่างน่ากลัว!
“หัว…หัวหน้าคะ?”
“เธอออกไปก่อน” เส้นหมี่เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆ
พยาบาลได้ยินแล้ว มองทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง และสุดท้ายแล้วก็กุมศีรษะออกไป
“แกร๊ก–”
เมื่อออกไปแล้ว ประตูห้องตรวจโรคนี้ ก็ถูกล็อคจากทางด้านใน
แสงดาวที่กำลังชื่นชมเล็บของตัวเองอยู่นั้นเห็นแล้วก็อึ้งไป : “เธอทำอะไรน่ะ?”
เส้นหมี่ปัดผมตรงหน้าผากของเธอ แล้วลากเก้าอี้ตัวที่เธอนั่งเมื่อครู่นี้ออกมาเอาไว้ในมือ
“คุณรู้ไหมว่าห้าปีที่ฉันอยู่ต่างประเทศฉันผ่านมันมาได้ยังไง?”
“หมายความว่าอะไร?”
ในที่สุดแสงดาวก็วางมือของตัวเองลง แววตาจับจ้องไปที่ผู้หญิงคนนี้อย่างเป็นทางการ ผลปรากฏว่าพอจ้องมองแล้วเธอพบว่า เส้นหมี่แตกต่างไปจากเมื่อครู่นี้โดยสิ้นเชิง
“ปีแรกที่ฉันอยู่ที่ต่างประเทศ เพราะลูกยังเล็ก ฉันจึงทำได้เพียงต้องทำงานระยะสั้นไปพลางเลี้ยงดูพวกเขาไปด้วย หลังจากนั้นมีอยู่วันหนึ่ง ร้านอาหารที่ฉันทำงานอยู่ เถ้าแก่ก็คิดจะเอาเปรียบฉัน และถูกฉันเอากองถ้วยชามทั้งตั้งทุบลงบนศีรษะของเขา!”
“……”
“ปีที่สอง ลูกโตขึ้นมาบ้างแล้ว ฉันฝากฝังไว้กับพี่เจ้าของบ้าน ผลปรากฏว่าเธอคิดจะเอาพวกเขาไปขาย หลังจากที่ฉันกลับมาแล้ว ฉันก็ตัดเอ็นมือเท้าของเธอขาด แบบที่ไม่สามารถต่อได้อีกตลอดไปแบบนั้น”
“!!!!”
“ปีที่3…..”
“พอแล้ว! เส้นหมี่ เธออยากจะพูดอะไรกันแน่?”
แสงดาวที่สีหน้ายิ่งดูแย่ลง ในที่สุดก็ทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว น้ำเสียงที่เฉียบขาด เธอตัดบทขึ้นมาด้วยความโมโหอยู่เล็กน้อย
และเวลานี้ แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้สึกตัว ว่าเธอได้ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวแล้ว
ไม่อยากฟังแล้วอย่างนั้นเหรอ?
จะได้อย่างไรกัน? ยังไม่จบเลยนะ
เส้นหมี่จ้องมองเธอเหมือนกับปิศาจร้าย ความอาฆาตที่ไม่ได้ปรากฏออกมาเป็นเวลานานนั้นถาโถมอยู่ในดวงตาที่เต็มไปด้วยสีเลือดนี้ เธอลากเก้าอี้ตัวนั้นเดินไปทางด้านหน้าอีกครั้ง
“ทำไม? ทนฟังต่อไปไม่ได้แล้วเหรอ? ได้ยังไงกัน? ไม่ใช่ว่าคุณต้องการตัวลูกเหรอ? คุณฟังให้จบก่อนสิ ฟังจบแล้วถ้าหากวันนี้คุณยังสามารถมีชีวิตอยู่เดินออกไปจากที่นี่ได้ ฉันก็จะเอาลูกให้คุณ”
ในที่สุดเธอก็หัวเราะออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอหัวเราะออกมาด้วยแววตาที่สว่างไสวเมื่ออยู่ต่อหน้าของผู้หญิงที่ทรมานเธอมาหกปีเต็มๆคนนี้
ดวงตาของแสงดาวปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมาทันที