บทที่ 85 ดาร์ก เดม่อนเพลิดเพลินไปกับวัยเยาว์

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 85 ดาร์ก เดม่อนเพลิดเพลินไปกับวัยเยาว์

เช้าวันเสาร์ ณ ถนนนักเดินทางที่อากาศดีและเต็มไปด้วยผู้คน

สก็อตต์เดินไปท่ามกลางฝูงชน บนดวงหน้าปรากฏความมืดมนฉายชัดออกมา

เขาเป็นนักเรียนชั้นปีที่สองและได้รับเลือกให้อยู่บ้านขุนนาง ในฐานะขุนนางสายเลือดบริสุทธิ์

แต่ทั้งหมดนั้นเป็นแค่อดีตไปแล้ว

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว เขาเพิ่งเข้าเรียนในสถาบันเซนต์แมเรียนได้แค่สองเดือน ครอบครัวก็ตกอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากพ่อของเขาเป็นผู้แพ้ในสงครามทางการเมือง

จากขุนนางผู้ยิ่งใหญ่หวนสู่ชนชั้นสามัญผู้ต่ำต้อย ภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นนี้ใหญ่เกินไป จึงทำให้ใจของสก็อตต์บิดเบี้ยวในฉับพลัน

นักเรียนในเซนต์แมเรียนจะไม่ถูกย้ายไปบ้านอื่น เพียงเพราะการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในครอบครัวนักเรียน แม้จะเป็นหลังจากการลงทะเบียนแล้วก็ตาม

ดังนั้นสก็อตต์จึงกลายเป็นความหวังเดียวของตระกูล

นอกจากนี้ เขายังกลายเป็นสามัญชนเพียงคนเดียวในชั้นปีที่อยู่บ้านขุนนาง

แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นจะไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เพราะถือเป็นเรื่องของมารยาท แต่ลับหลังพวกมันต้องแอบหัวเราะเยาะเขาแน่นอน

เพราะพ่อเขียนจดหมายถึงเขาผ่านผู้ช่วยร้านค้าบนถนนนักเดินทางอย่างบ้าคลั่ง มันจึงทำให้เขารู้ว่าบนบ่าของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างเขาต้องแบกรับภาระหนักแค่ไหน

การเป็นจอมเวทที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น ถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของตระกูลเขาได้!

แม้ว่าสก็อตต์จะไม่ใช่ขุนนางแล้ว แต่เขาก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้ในฐานะจอมเวท

และหากกลายเป็นจอมเวทที่ยอดเยี่ยมได้ นั่นอาจทำให้เขาสามารถกลับเข้าสู่แวดวงขุนนางได้เช่นกัน

ผู้เป็นแม่มักจะส่งเสียงของเธอมาให้เขาฟังผ่านจดหมายเวทมนตร์ ทั้งยังเอาแต่เรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“สก็อตต์! สก็อตต์! สก็อตต์!”

“อ๊ากกกกกกกก!”

ภายใต้แรงกดดันจากทั้งสอง และภาระจากภายนอกภายใน สุดท้ายสก็อตต์ก็ทรุดตัวลง

การที่สถานะของตระกูลเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่อายุยังน้อย อาจทำให้คนบางคนเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ว่าเด็กอายุสิบสองปีทุกคนจะรับภาระหนักแบบนั้นได้

สก็อตต์ไม่อาจเติบโตได้เช่นนั้นและเขาก็ไม่อาจทำตามความคาดหวังของพ่อแม่ได้เช่นกัน สุดท้ายแล้วเขาก็ตกลงไปในวงจรอุบาทว์

คะแนนของเด็กชายค่อย ๆ แย่ลง และอารมณ์ของเขาก็เริ่มแปลกมากขึ้นเรื่อย ๆ

จนกระทั่งวันคริสต์มาสอีฟปีที่แล้ว เด็กสาวที่เขาเคยแอบชอบกลับไปตอบรับคำเชิญของรุ่นพี่ และกลายเป็นคู่เต้นรำของอีกฝ่ายในงานเต้นรำอันแสนโรแมนติกและงดงาม

ตอนนั้นเองที่สก็อตต์วิ่งหนีออกจากงานเต้นรำ จนเผลอเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของปราสาท

และเวลานั้นก็เป็นหัวหน้าภาคีที่ยื่นฟางเส้นสุดท้ายให้แก่เขา

“เจอตัวแล้ว!”

ดวงตาของเด็กชายจ้องมองผ่านช่องว่างระหว่างผู้คน และในที่สุดเขาก็เห็นบุคคลนอกรีตที่รอบตัวรายล้อมไปด้วยผู้หญิง

ณ ร้านชุดเวลเวท

เมื่อทั้งสามมาถึง ดาร์กก็ถูกไดแอนนาลากเข้าไปในฝูงชนทันที

เขาไม่เคยคิดว่าร้านนี้จะยุ่งมากในตอนเก้าโมงเช้า

บางทีนี่อาจเป็น ‘ร้านค้าอันโด่งดัง’ ในตำนาน!

ถ้าดาร์กมาเอง เขาคงเดินไปหาร้านอื่นทันทีหลังจากเห็นผู้คนมากมายที่นี่

แต่ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ก็ชอบที่จะไปเบียดเสียดในร้านค้าที่มีผู้คนพลุกพล่าน

นี่อาจขึ้นอยู่กับความคิดตามสัญชาตญาณ หรืออาจเป็นเพราะร้านค้าที่วุ่นวาย สินค้าต้องไม่ได้มีคุณภาพแย่อย่างแน่นอน

ไม่นานหลังจากนั้น

ดาร์กก็ถูกดึงไปที่มุมหนึ่งของร้าน และยืนอยู่หน้าหุ่นนายแบบตัวหนึ่ง

เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นี่คือชุดเจ้าชายรัตติกาลที่เธอกำลังพูดถึงใช่ไหม?”

ไดแอนนาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

หางตาของดาร์กกระตุก

ไม่ใช่ว่าคุณภาพของ ‘ชุดเจ้าชายรัตติกาล’ นี้ไม่ดี แต่คุณภาพมันดีเกินไป มากจนเกินจริงเกินไป!

ทั้งชุดเป็นผ้ากำมะหยี่สีอีกา ปกคอถูกทำมาจากขนสุนัขจิ้งจอกภูเขาหิมะสีดำ โดยมีจิ้งจอกขนปุยห้อยอยู่ข้างหลัง

กระดุมสองแถวทำจากหินออบซิเดียน และบนไหล่มีโอปอลประดับอยู่อย่างประปราย

ขนนกที่ห้อยอยู่ที่ไหล่ข้างหนึ่งอาจเป็นขนของอีกาสีดำ

นั่นเป็นลางร้ายซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรัตติกาล!

แม้ว่าชุดนี้จะใช้เฉดสีดำที่แตกต่างกันทำออกมา แต่ทั้งชุดก็ยังเรียกได้ว่าสีดำทั้งตัวอยู่ดี

หากสวมชุดดังกล่าวเข้าร่วมปาร์ตี้ฮัลโลวีน เขาอาจได้กลายเป็นจุดสนใจของปาร์ตี้ในทันที

ดาร์กไม่ชอบดึงดูดความสนใจ

“แล้วก็นี่ หน้ากากอีกาดำครึ่งหน้า”

ทว่าไดแอนนากลับชี้ไปยังหน้ากากอีกาสีดำอันหนึ่งอย่างกระตือรือร้น มันถูกประดับด้วยเพชรสีนิลและวางอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ ชุดเจ้าชาย

ดาร์กพูดไม่ออกในบัดดล เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าร้านนี้ทำมาให้ใครใส่กัน?

เจ้าชายของประเทศไหนจะกล้าแต่งตัวแบบนี้?

นี่มันไม่ใช่โลกที่มาจากเกมจีบสาวเลย!

ไม่สิ เดี๋ยวนะ…

ดาร์กนึกถึงเจ้าชายองค์เพียงเดียวของอาณาจักร ชายคนนั้นก็ดูเหมือนจะแต่งตัวแบบนี้…

นี่ชายรูปงามแห่งอาณาจักรถูกเขาเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่านะ?

พลันดวงตาของดาร์กเป็นประกายขึ้นมา เขาคิดอะไรบางอย่างออก

แต่แล้วดาร์กก็อ้าปากค้าง “399 คะแนน!”

ในราคานี้ ดูเหมือนว่าหินออบซิเดียน โอปอล และเพชรสีดำล้วนเป็นผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีเวทมนตร์ทั้งหมด

แต่สำหรับนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง ราคาของมันยังสูงเกินไป!

‘ฉันเอาไปซื้อผลของต้นไม้หนอนยังดีกว่า!’

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดาร์กก็เตรียมจะปฏิเสธทันที

แต่ทันใดนั้น ไดแอนนาก็ยิ้มขึ้นมาอย่างมีชัย และดึงเขาไปที่หุ่นอีกตัวซึ่งอยู่ด้านหลัง

“ดูสิ นี่คือชุดเจ้าหญิงรัตติกาล!”

เปลือกตาของดาร์กกระตุก

เช่นเดียวกับชุดเจ้าชายรัตติกาล ชุดเจ้าหญิงสีดำที่สวมอยู่บนหุ่นนางแบบนั้นคู่ควรกับการถูกเรียกว่า ‘ชุดเจ้าหญิงรัตติกาล’ ไม่เพียงถูกประดับตกแต่งอย่างเกินจริง แต่ยังเต็มไปด้วยความหรูหรา เหมือนกับว่ายิ่งมีความหรูหรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดูเหมือนเจ้าหญิงมากเท่านั้น!

ดาร์กกำลังคิดที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา

ไดแอนนาพลันชี้ไปที่ป้ายกำกับในทันที “ส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับคู่รักล่ะ!”

เปลือกตาของดาร์กกระตุกถี่ยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นมัน ปรากฏว่าเธอเตรียมพร้อมเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว…

อีกด้านหนึ่ง โรสแอบหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหันมาเลือกชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตัวสีขาว พร้อมกับหน้ากากขนนกนกยูงครึ่งหน้าให้กับตัวเอง

เธอรู้แผนของไดแอนนาอยู่แล้ว

ในที่สุดดาร์กก็ตัดสินใจซื้อ ‘ชุดเจ้าชายรัตติกาล’ นี้

เมื่อได้รับส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ชุดจึงมีราคาเพียงสองร้อยคะแนน และมันอยู่ในขอบเขตที่เขายอมรับได้

เหนือสิ่งอื่นใด คุณภาพผ้าของชุดนี้นั้นสูงมาก และหลังจากที่เจ้าของร้านเสื้อผ้าร่ายเวทมนตร์ลดขนาดลง มันก็สวมใส่สบายมาก

ดาร์กคิดว่าเขาสามารถเก็บมันไว้ใช้จนถึงงานปาร์ตี้คริสต์มาสได้

ในตอนนั้นมันคงประหยัดเงินไปได้มาก

หลังออกจากร้านชุดเวลเวทแล้ว ดาร์กก็เดินไปร้านอื่น ๆ ต่อกับไดแอนนาและโรส จนสุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์

ร้านอาหารดนตรีแห่งนี้มีชื่อว่า ‘วอลซ์’ ซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่นักเรียน

ดาร์กสั่งไอศกรีมของหวานระดับสูงสุดให้กับไดแอนนาและโรสเป็นพิเศษ ในขณะที่ตัวเขากินแค่ไอศกรีมแก้วเล็ก ๆ ที่ระดับต่ำกว่า

นั่นเป็นเพราะดาร์กคุ้นเคยกับเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการยับยั้ง [ตะกละ] แล้ว

ทั้งสามคนเพลิดเพลินไปกับไอศกรีมรสหวานในฤดูใบไม้ร่วงที่เย็นสบาย และลิ้มรสความสนุกที่แตกต่างไปจากฤดูร้อน

นอกหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานมีใบเมเปิ้ลร่วงหล่นตามลม และฝูงชนที่พลุกพล่านอยู่ทั่วถนน

ลมหายใจของวัยเยาว์นั้นราวกับว่าวกระดาษที่เชือกขาด มันลอยสูงขึ้น…และสูงขึ้น

สก็อตต์ในเวลานี้ลอบเอนกายพิงอยู่ที่ต้นเมเปิ้ล ทำตัวราวกับเป็นสายลับนักสืบ เขาเอาหนังสือพิมพ์ขึ้นมาบังตัว ใบหน้ากลายเป็นซีดเผือดเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันเยาว์วัยที่ลอยมาตามสายลม และนัยน์ตาคู่นั้นก็ราวกับงูพิษที่ฉายชัดออกมาถึงความไม่ประสงค์ดี