ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 218
นางเอ่ยถึงขั้นตอนที่จื่ออันกระทำรุนแรงอย่างละเอียด ถึงขนาดพูดถึงจื่ออันแสดงรอยยิ้มอย่างเลือดเย็น หากเป็นผู้ที่มิรู้ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ได้ฟังแล้ว คงจักต้องรู้สึกว่าจื่ออันช่างเป็นคนโหดร้าย ถึงขนาดกล้าลงมือกับแม่เลี้ยงและน้องสาวอย่างรุนแรง
ฮูหยินหลิงหลงพูดจบ ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมทั้งเอ่ย “ใต้เท้า ที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริง องค์รัชทายาทและองค์หญิงก็ทรงประทับอยู่ที่นี้ หากใต้เท้าไม่เชื่อ สามารถสอบถามฝ่าบาทและองค์หญิงได้”
ใต้เท้าเหลียงหายใจเข้าช้า ๆ มองไปยังจื่ออัน “ถึงกลับกล้าลงมือทำร้ายคน เสียแรงที่เจ้าเป็นคุณหนูใหญ่จวนมหาเสนาบดี ตอนนี้เจ้ายังจะมีอะไรจะพูดหรือไม่? เร่งนำมีดสั้นที่เจ้าใช้ลงมือออกมา”
จื่ออันกลับไม่ได้นำมันออกมา กลับเดินขึ้นมาข้างหน้าอีกก้าวนึง ใบหน้าเคร่งขรึม “ใต้เท้า ท่านดูแลรักษากฎหมายมากี่ปีแล้ว หลักการไต่สวนคดีคงมิต้องให้ข้าพูด ท่านก็คงเข้าใจดี ไต่สวนสืบพยาน ก็ต้องไต่สวนทั้งสองฝ่าย หากวันนี้ท่านฟังแค่คำของนาง แล้วมิได้ถามหาพยานข้า มิได้สอบถามข้าและมิได้ถามท่านแม่ข้า แล้วตัดสินว่าข้าเป็นคนชั่วร้าย ให้ข้านำอาวุธที่ใช้ออกมา ไม่รู้ว่ามีกี่คดีกันในหลายปีมานี้ที่ใต้เท้าตัดสินออกมาอย่างไม่ยุติธรรม ตัดสินผิดพลาดเช่นนี้กัน”
ฮูหยินผู้เฒ่าสุดท้ายก็ดุด่าออกมาอย่างหมดความอดทน “เจ้ายังจะกล้าเล่นลิ้นอีก? ยอมรับผิดซะจะเป็นการดีกับเจ้า หากยังดื้อดึง เจ้าเล่ห์ ไม่ยอมรับผิดแล้ว จะทำให้โทษของเจ้าเพิ่มขึ้นด้วย ถึงเวลานั้นแล้ว จวนมหาเสนาบดีก็ปกป้องเจ้าไว้ไม่ได้”
จื่ออันพูดอย่างเย็นชา “ฮูหยินผู้เฒ่า จื่ออันไม่เคยคิดที่จะให้จวนมหาเสนาบดีมาปกป้องข้า ที่พวกท่านวางแผนจัดฉากกันคืนนี้ มิใช่ว่าต้องการจะผลักข้าเข้าไปรึ? ในเมื่อพวกท่านต้องการยกคดีนี้มาพูดถึง งั้นเราก็จะมาพูดถึงมันกัน”
นางหมุนกายกลับมามองยังฮูหยินหลิงหลง สายตาเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง “ท่านบอกว่าตอนอยู่บนรถม้าท่านแม่ดุด่าท่าน ทำร้ายท่าน ทั้งยังจะยอมกระโดดรถม้าเพื่อทำให้ท่านโดนข้อหาทำร้ายนายหญิงของจวน แต่มิได้เอ่ยว่าตอนนี้มิมีผู้ใดมองเห็น ต่อให้มี นางกระโดดลงไปแล้ว ท่านทำไมถึงไม่หยุดรถม้าแล้วลงไปช่วยนาง?”
ฮูหยินหลิงหลงคิดไว้แล้วว่านางต้องถามถึงเรื่องนี้ เอ่ยตอบอย่างไม่ร้อนรน “ตอนที่นางกระโดดลงไปนั้น รถม้ามิได้เคลื่อนที่เร็วนัก รถม้าวิ่งช้ามาก หว่านเอ๋อยังเปิดม่านออกไปดูครู่นึง พบว่าตอนที่นางกะโดดลงไปนั้น ยังคงลุกขี้นยืนได้อีก”
“ดี ถึงต่อให้นางยังสามารถลุกขึ้นมาได้ พวกเจ้าก็มิได้หยุดรถ กลับเดินทางกันต่อ ใช่มิอยากจะทิ้งนางไว้คนเดียวในตอนค่ำนี้กลางถนนใหญ่หรือไม่? ” จื่ออันยังคงสอบถามต่อ
ฮูหยินหลิงหลงสีหน้าเริ่มเปลี่ยน แค่ครู่นึงมิอาจฟื้นขึ้นมาได้ และตอนนั้นก็มิได้สังเกตว่ารถม้ามิได้หันหัวกลับ”
นายหญิงของจวนมหาเสนาบดี ถูกทิ้งไว้ข้างนอก หากแพร่ออกไปคงจะไม่ดีแน่
จื่ออันรุกใกล้เข้าไปอีกก้าว “หากพูดแบบนี้ คนขับรถม้ารู้ว่าท่านแม่ตกจากรถม้า ใช่รึไม่? ”
“เรื่องนี้น่าจะรู้ ตอนนางกระโดดนั้น เสียงค่อนข้างดัง ถนนรอบข้างเงียบสงบ มิมีผู้คน เขาควร…”
ฮูหยินหลิงหลงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ รายละเอียดในตอนนั้นนางยังมิได้คิดไว้ เดิมคิดว่าผู้คนที่มาอยู่ในที่นี้ รายละเอียดพวดนี้คงมิต้องคิดไว้ นางมิได้สังเกตว่าความคิดของนางจะโดนจื่ออันชักนำ