ฉันจำไม่ค่อยได้ว่ากลับมาที่ห้องได้อย่างไร แม้จะได้ยินเหมือนเหล่านักบวชที่เฝ้าหน้าประตูตะโกนอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ล็อกประตูทั้งหมดโดยไม่สนใจเสียงตะโกนของพวกเขา เพื่อไม่ให้มีใครเข้ามาและเพื่อไม่ให้ตัวเองออกไป

พอลงกลอนล็อกประตูทั้งหมดอย่างบ้าคลั่งเสร็จ ก็พอดีกับที่ความร้อนซึ่งถูกกดข่มเอาไว้แล่นพล่านขึ้นมาอีกครั้ง ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านจนได้ยินเสียงฟันกระทบ ตอนนั้นเอง สายลมพัดผ่านหน้าผากของฉัน ฉันฝืนหันศีรษะไปมองจากบนเตียงนอน ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ชายหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีแดงที่กำลังยืนพิงท้องฟ้าอันมืดมิด คนที่มาหาในที่ที่ฉันอยู่โดยไม่ใส่ใจประตูที่ปิดแน่นเลยแม้แต่น้อย

“…แอสรัน”

ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาพลางยื่นมือออกไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้ร่างกายถึงขีดจำกัดแล้วจริงๆ ลมหายใจถี่กระชั้นที่ระเบิดออกมาทำให้แอสรันฉีกยิ้ม เขาเข้ามาหาฉันทันทีและอุ้มฉันที่นอนอยู่บนเตียงมากอด

“ไม่คิดว่าเจ้าจะรอคอยอย่างร้อนรุ่มถึงเพียงนี้”

เขากอดฉันไว้ในอ้อมอกด้วยสีหน้าเบิกบาน เขาฝังใบหน้าลงบนต้นคอและโลมเลีย จากนั้นฉันก็ประสานสายตาเข้ากับเขา ไม่ช้าเรียวลิ้นที่มีไออุ่นต่างจากเมื่อครู่ก่อนก็เข้ามาตวัดภายในปากของฉัน ฉันรับมันเข้ามาราวกับรออยู่แล้ว เสียงชิ้นเนื้อเปียกแฉะดังพัวพันอย่างลามก

ความคิดที่ว่าในที่สุดก็พบใครสักคนที่สามารถกอดรัดได้ทำให้ฉันขบกัดและเกี่ยวกระหวัดลิ้นของแอสรันที่เข้ามาด้านในอย่างบ้าคลั่ง มือของฉันออกแรงกอดศีรษะของเขามากขึ้น ตอนนี้เขากำลังปรารถนาในตัวฉัน เหมือนอย่างคราวก่อน ไม่สิ มันดุเดือดยิ่งกว่า

ร่างกายที่ร้อนรุ่มถูกปลอบประโลมและกอดรัด คงได้ใช้เวลายามค่ำคืนจนสุขสมอย่างไม่รู้จบ ขณะที่คิดแบบนั้นและกำลังแนบชิดเขามากกว่าเดิมนั่นเอง

“อึก!”

จู่ๆ ริมฝีปากล่างก็รู้สึกเจ็บเหมือนถูกขบกัด ขณะที่ฉันผละตัวออกมาด้วยความตกใจและจ้องมองใบหน้าของแอสรัน ก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำอำมหิตดังขึ้น

“…ว่าแต่ ทำไมตัวเจ้าถึงมีกลิ่นตัวผู้ตัวอื่น”

นัยน์ตาสีแดงของแอสรันกำลังวูบไหวด้วยความโกรธราวกับว่าจะฉีกฆ่าใครบางคนเดี๋ยวนี้

รสชาติของเลือดกลิ่นคาวแผ่กระจายในปากพร้อมกับที่ภาพการมองเห็นหมุนกลับ ฉันปะทะเข้ากับสายตาสีแดงอีกครั้งก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงฟูกเตียงนอนที่กระแทกเข้าที่แผ่นหลัง ดวงตาสีแดงเลือดกำลังลุกโชนขณะจ้องฉันเขม็ง

แคว่ก!

เสียงผ้าถูกฉีกขาดดังขึ้น อากาศเย็นพลันสัมผัสเข้ากับทรวงอก ฉันทำเพียงจ้องมองการเคลื่อนไหวที่หยาบคายของเขาโดยไม่คิดจะปกปิดหน้าอกที่เผยออกมาเลยสักนิด มือใหญ่และหนาเข้ากอบกุมอกอิ่ม นิ้วมือเรียวยาวของแอสรันสอดเข้ามาระหว่างยอดอกที่ชูชันก่อนจะค่อยๆ ขยับมืออย่างเชื่องช้า

“อา…”

ความรู้สึกที่ต่างจากเมื่อครู่ทำให้ฟันกรามเริ่มกระทบกันน้อยๆ มันเป็นการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าและนุ่มนวลมาก การกระทำของเขาทำให้ฉันทำได้เพียงนอนตัวสั่นอย่างมิอาจทำอะไรได้เลย แม้มันจะเป็นการกระทำที่คล้ายกับการลูบไล้ด้วยความเอ็นดู แต่ความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดกลับเข้ายึดครองภายในหัวสมอง

ความเงียบสงบก่อนที่ความโกรธเกรี้ยวสุดขีดจะระเบิดออกมา

“ไอ้ตัวไหนกันที่มันกล้า…”

หลังจากพึมพำแบบนั้น เขาก็ออกแรงที่มือที่จับหน้าอก เนื้ออ่อนนุ่มบิดเบี้ยวไม่เป็นทรงอยู่ภายในมือของเขา

“จะ เจ็บ…!”

แรงจับที่รุนแรงจนทำให้คิดว่าเขาจะดึงให้ขาดเลยหรือทำให้ฉันบิดตัวด้วยความตกใจ แต่ทำแบบนั้นกลับยิ่งทำให้แรงมือที่บีบขยำหน้าอกรุนแรงมากขึ้น

“อ๊ะ ฮึก!”

ทั้งที่ฉันคิดว่ามันเจ็บปวด แต่ปากของฉันกลับระเบิดเสียงร้องครวญครางที่เต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม ทันใดนั้น สีหน้าของแอสรันยิ่งบิดเบี้ยวมากกว่าเดิม ใบหน้าของเขาเลื่อนต่ำลงไปที่หน้าอก ขณะที่คิดว่าจะสัมผัสกับเรียวลิ้นเปียกชื้น ฟันแหลมคมกลับกัดเข้าที่ปลายอกที่กำลังชูชันด้วยความตื่นตัวอย่างเต็มที่แทน

“อ๊ะ อ้าก!”

ความเจ็บแสบทำให้ฉันส่ายหน้าไปมาและดันศีรษะของเขาออกไป แต่แอสรันก็ไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อนร่างกาย ไม่สิ กลับกลายเป็นว่าพอฉันยิ่งดันออกไปเขากลับยิ่งออกแรงที่ฟันมากขึ้นคล้ายว่าอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก ก้อนเนื้อที่อ่อนไหวควรจะต้องรู้สึกเจ็บปวดให้กับความรู้สึกที่ถูกบดขยี้อยู่ระหว่างช่องฟันของเขา

“ฮึก ฮึ อึก!”

ความเจ็บปวดที่เริ่มจากตรงปลายอกกลายเป็นความสุขสมและแผดเผาร่างกาย ยิ่งเขากลั่นแกล้งร่างกายของฉันอย่างไร้ความปรานี ก็ยิ่งทำให้ความสุขสมที่ยิ่งใหญ่และร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เข้ายึดครองสมอง ไม่ช้าเขาก็ฝังหน้าลงมาที่อกอีกข้างราวกับจะให้ความยุติธรรม ฉันมองดูอกอิ่มที่ถูกเขากัดเมื่อครู่และพบกับรอยขบกัดสีกุหลาบบนผิวสีขาวใสและยอดอกที่ถูกกลั่นแกล้งจนบวมเป่ง

ฉันรู้สึกได้ว่าเขากำลังขบกัดหน้าอกอีกข้างหนึ่งอย่างรุนแรงอีกครั้ง ฉันปิดตาแน่นเพื่อเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดที่จะเข้ามาเหมือนกัน ทว่าสิ่งที่มากลับไม่ใช่ความเจ็บปวด

“อ๊ะ…อ อึก…”

เรียวลิ้นที่อ่อนโยนและนุ่มนวลหยอกล้อบนทรวงอกประหนึ่งว่าความรุนแรงเมื่อครู่ก่อนเป็นเรื่องโกหก มือของเขากอบกุมปลายอกที่กำลังบวมแดงอีกข้างไปพร้อมๆ กัน เขาหนีบส่วนที่อ่อนไหวเต็มที่ไว้ระหว่างนิ้วแล้วขยับเบาๆ คล้ายว่ากำลังปลอบเด็กน้อย

ความเจ็บปวดเบาบางทะยานขึ้นมาจากสิ่งที่เขากัด ความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าเจ็บหรือจั๊กจี้ทำให้ฉันหายใจหอบถี่อยู่คนเดียว เขาดูดทรวงอกอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ

“อ๊ะ…!”

ราวกับมีอะไรออกมาจากหน้าอกของฉัน เขาเลียและดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่ยังฝังใบหน้าไว้ดั่งเด็กน้อยที่อดอยากและตามหาน้ำนม ไม่นาน เมื่อสัมผัสได้ว่าเนื้อนุ่มในปากของเขากำลังชูชันอีกครั้ง เขาก็ขบเม้มมันด้วยริมฝีปาก

“อึง… ยะ หยุด…”

ฉันจับศีรษะของเขาด้วยสองมือ ทันใดนั้นเขาก็ถอนปากออกและเงยหน้าขึ้น ฉันมองเห็นริมฝีปากของเขาวาววับด้วยน้ำลาย ริมฝีปากที่อัดแน่นไปด้วยความดุร้ายเลื่อนขึ้นมาด้านบน

“เจ้านั่นไม่ได้เลียตรงนี้สินะ”

เขาตีหน้าอกเบาๆ คล้ายจะชมว่าทำดีมาก การกระทำที่ราวกับปลอบเด็กน้อยทำให้ฉันรู้สึกเขินอายและยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกอย่างกะทันหัน แต่ทว่าก่อนที่จะปกปิดได้หมด แอสรันก็จับข้อมือของฉันแล้วกดลงบนเตียงนอน

“แต่ว่าต้องยืนยันให้แน่ใจว่ามันก็ไม่ได้เลียตรงอื่นด้วย”

ลมหายใจของเขาที่ปะทะใบหน้าทำให้ฉันสัมผัสได้ว่ากระทั่งขนหนึ่งเส้นก็กำลังลุกซู่ด้วยความตื่นเต้น นัยน์ตาของสัตว์เดรัจฉานที่กลืนกินความโกรธกำลังโลมเลียฉัน

สายตาของเขาที่เลื่อนต่ำลงมาจากตา ผ่านริมฝีปาก ลำคอ หน้าอก ก่อนจะมองผ่านหน้าท้องและหยุดลงที่หว่างขา สายตาของฉันเองก็เลื่อนลงไปตามสายตาของเขา ส่วนล่างของเขาที่อยู่บนตัวฉัน แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืดแต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่ามันกำลังขยายใหญ่ขึ้น

อึก

ส่วนนั้นของเขาที่เหมือนจะทะลุผ้าออกมาเดี๋ยวนั้นทำให้ฉันกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ความต้องการที่ฉันข่มไว้ชั่วขณะเข้าครอบงำอีกครั้งเมื่อได้เห็นพละกำลังที่น่าหวาดผวาของเขา

‘ฉันต้องการเขา’

ไฟปรารถนาที่มีให้ราธบันก่อนที่แอสรันจะมา ตอนนี้มันกำลังพุ่งเข้าหาแอสรัน ภายในหัวกำลังวาดสิ่งที่ตอนนี้ฉันต้องการมากที่สุด หลังจากนี้อีกชั่วครู่ ส่วนนั้นของเขาที่ตื่นตัวอย่างเต็มที่คงจะสอดใส่เข้ามาในช่องทางของฉันอย่างหยาบคาย

และไม่ว่าฉันจะร้องไห้อ้อนวอนขอให้หยุดอย่างไร เขาก็ไม่ถอยออกไปแม้แต่นิด คงอัดกระแทกมันเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งจนกว่าเขาจะพึงพอใจอย่างเช่นคราวก่อน ส่วนฉันก็ร้องไห้คร่ำครวญราวกับสัตว์เดรัจฉาน ยกสะโพกและส่ายไปมาคล้ายว่าขอให้เขาทำมันอีกอยู่ใต้ร่างเขา

ภายในหัวเต็มไปด้วยจินตนาการที่ลามกและหยาบโลน ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ว่ามีของเหลวไหลออกมาเป็นสายจากหว่างขาอีกครั้ง ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว ฉันอยากให้เขารีบทำให้ฉันเละเทะไม่เป็นท่า ตอนนี้ฉันต้องการผู้ชาย ไม่สิ ต้องการตัวผู้ที่จะข่มเหงฉันไม่หยุดยั้งเหมือนอย่างที่เขาเคยพูด

ฉันยื่นมือออกไปจับเอวของเขา ในวินาทีที่กล้ามเนื้อแน่นและนุ่มลื่นสัมผัสเข้ากับปลายนิ้วของฉันก็รู้สึกว่าร่างกายกำลังกระตุก

“ฮา…”

ฉันหายใจเหนื่อยอ่อนพลางลูบไล้เอวของเขา ร่างกายของเขาไม่ขยับเขยื้อนราวกับกลายเป็นหินไปแล้วและแข็งเกร็งอยู่ใต้มือของฉัน ฉันยืดมือออกไปมากขึ้น โอบเอวเขา จากนั้นดึงร่างของเขาเข้ามากอด

น้ำหนักที่หนักแน่นทาบลงมาบนตัวฉัน แก่นกายของเขาที่อุ่นร้อนและพองโตสัมผัสเข้ากับท้องน้อย เสื้อของเขาที่ยังไม่ได้ถอดออกส่งเสียงสวบสาบอยู่ระหว่างเราสองคน ฉันขยับตัวเล็กน้อยอย่างเสียดายและถูไถส่วนนั้นด้วยหน้าท้อง ฉันอยากสัมผัสกับส่วนนั้นของเขาโดยตรง มิใช้ผ่านร่มผ้า

“คึก…!”

เสียงครางต่ำๆ หลุดออกมาจากปากของอีกฝ่ายทันทีที่ฉันขยับตัว การตอบสนองของเขาทำให้ฉันสัมผัสเขาอย่างกล้าหาญยิ่งขึ้น ฉันลูบไล้เอวของเขาไม่หยุดและแยกขาออกเพื่อให้เขารีบเข้ามา

“แอสรัน…เร็ว…รีบหน่อย รีบเข้ามา…”

เหมือนกับตอนนี้ความร้อนในร่างกำลังแผดเผาหัวสมอง ลมหายใจหอบกระชั้นที่พ่นออกมาระหว่างปากที่แห้งผากคล้ายมันจะเผาไหม้ตัวฉันเอง แอสรันขยับตัว ท่าทีแบบนั้นของเขาทำให้ฉันคลี่ยิ้มอ่อนแรงโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เขาคงจะเข้ามาในร่างของฉันแล้ว ฉันคิดแบบนั้น

“แอสรัน…?”

ทว่าเขากลับปล่อยข้อมือและเลื่อนตัวลงไปด้านล่าง จากนั้นก็จับข้อเท้าทั้งสองข้างของฉัน

“อะไร ทำอะไร….”

“แหกออก”

เสียงแหบพร่าดังขึ้น เป็นน้ำเสียงที่เหมือนกับคำพูดถูกเค้นออกมาทีละคำ ทีละคำ

“อะไรนะ”

“ข้าบอกให้แหกขาออก”

หลังจากพูดแบบนั้น เขาก็แยกแขนที่จับข้อเท้าของฉันออกราวกับรอไม่ได้อีกต่อไป ขาของฉันแยกออกจากกันดั่งตุ๊กตาที่ไร้เรี่ยวแรง เสียงจ๊อกดังออกมาจากส่วนล่างที่ชื้นแฉะในเวลาเดียวกัน

อากาศเย็นพัดผ่านด้านบนร่องรักที่ชื้นแฉะ สัมผัสนั่นทำให้ฉันตัวสั่นสะท้านด้วยสภาพที่ขาถูกเขาจับเอาไว้ และสัมผัสได้ว่ามีอะไรกำลังไหลออกมาจากส่วนลึกอีกครั้ง

แอสรันจ้องทองท่าทางแบบนั้นโดยไม่คลาดสายตาเลยสักนิด ฉันมองเห็นรูม่านตาของเขากำลังหรี่จนเป็นเส้นตรง

“…!”

ดวงตาของสัตว์เดรัจฉานที่ได้เผชิญโดยตรงเป็นครั้งแรกทำให้ฉันตัวสั่น ฉันรับรู้ได้ว่าความโกรธของเขาที่สัมผัสได้ตั้งแต่เข้ามากำลังหนักข้อขึ้น

“เป็นเพราะมันหรือ?”

“อะไร…?”

“ไอ้คนที่มันลิ้มรสริมฝีปากของเจ้าก่อนที่ข้าจะมา มันทำให้เจ้าเปียกแฉะถึงเพียงนี้เชียวหรือ”

คำพูดของเขาทำให้ฉันย้อนนึกถึงภาพของราธบันที่หอบหายใจแรงอยู่ใต้ร่างฉัน และได้รู้ว่าแอสรันกำลังโกรธเรื่องอะไรอยู่

“มะ ไม่ใช่…ข้า…แอสรัน!”

แอสรันไม่รอคำตอบของฉัน เขากลับยกขาทั้งสองข้างขึ้นไปพาดบนไหล่แทน ทำให้เอวของฉันถูกยกลอยขึ้นกลางอากาศ

‘จะทำอะไร’

ฉันคาดเดาไม่ถูกว่าเขาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ขณะที่ฉันดันแขนตะเกียกตะกายที่จะนำร่างกายลง เขาก็จับด้านในต้นขาและแยกออกด้วยแรงทั้งหมดที่มีก่อนจะฝังหน้าตนเองลงมา

“แอสรัน!”

แม้ฉันจะเอ่ยเรียกชื่อเขาราวกับกรีดร้อง แต่เรียวลิ้นของเขาที่สัมผัสเข้ากับทางรักก็ยังสอดแทรกเข้าไปในกลีบร่องอย่างไม่ลังเล

“อ อึก! อึก!”

ชั่วขณะ พลันมีฟ้าแลบอยู่ภายในหัว สายตาเปลี่ยนเป็นขาวโพลน ร่างกายสั่นราวกับกำลังกระตุก

“อ๊ะ อ๊ะอ๊ะ…!”

เสียงร้องที่ฟังไม่ได้ศัพท์ไหลออกมาจากปากที่ไม่อาจปิดสนิท อาการกระตุกที่มาอย่างกะทันหันทำให้ฉันบิดตัวเพื่อจะหลุดออกมาสุดแรง แต่มือของเขาที่จับขาของฉันกลับยิ่งจับไว้แน่นขึ้น

ลิ้นโลมเลียร่องรักที่ปริแยกอย่างไม่หยุดชะงัก ขณะที่เรียวลิ้นที่ดูดดึงจนส่งเสียงสอดเข้ามาในส่วนลึก เบื้องหน้าก็พลันมีประกายไฟระเบิด

“ฮ อ๊า…!”

เสียงครางกระเส่าระเบิดออกมาไม่หยุด ยิ่งฉันสะบัดขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งฝังหน้าเข้ามาลึกมากขึ้นเท่านั้น เขาสอดแทรกเข้ามาในช่องว่างระหว่างเนื้อมากขึ้น ช่วงล่างของฉันที่ถูกรุกรานกำลังหดตัวลงด้วยความตกใจในความดุเดือดนั่น เสียงเดาะลิ้นสั้นๆ ดังขึ้นพร้อมกับความรู้สึกว่าเขาถอนลิ้นออกไป

“ดูท่ามันจะยุ่งแค่กับปากเจ้า ด้านล่างยังเต็มไปด้วยกลิ่นของเจ้าอยู่เลย”

หลังจากพูดแบบนั้น แอสรันก็เลียปากที่เปียกไปด้วยน้ำของฉันพลางดึงเสื้อของตัวเองออก

แคว่ก เสียงเสื้อฉีกขาดดังขึ้น ขาของฉันที่พาดอยู่บนไหล่เขาก็หล่นลงบนเตียง ขณะที่คิดว่าจะได้หายใจเข้าไปเฮือกหนึ่ง ตัวเขาที่ยังคงจับจองพื้นที่อยู่ระหว่างขาของฉันก็จับขาฉันยกขึ้นมาเกี่ยวเอวอีกครั้ง

“อา…”

ฉันสัมผัสได้ถึงปลายมนที่กำลังจะเข้ามาในช่องว่างที่เปียกชื้น พอแอสรันค้อมตัวลง ส่วนนั้นของเขาที่ทั้งยาวและอวบแน่นก็ดันเข้ามาด้านในอย่างไม่ลังเล

“อ๊ะ…อ๊ะ อ๊ะ…”

ใหญ่ มันใหญ่มากกว่าคราวที่แล้วอีก

ขณะที่ความเป็นชายของเขาซึ่งใหญ่ยิ่งกว่าในความทรงจำดันเข้ามาอย่างไม่รีรอ ฉันก็ส่ายหน้า

“จะ เจ็บ”

เหมือนว่าได้ยินเสียงร่างกายกำลังจะแตกหัก ความรู้สึกที่เหมือนเสาหลอมไฟกำลังเข้ามาจากด้านล่างทำให้ลมหายใจสะดุด แอสรันกระซิบด้วยเสียงแหบแห้งอยู่ข้างหู

“ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าการเป็นตัวเมียของข้า มันหมายความว่าอย่างไร”

สะโพกของเขาขยับไปพร้อมกัน

***

“อ อึง! อึ๊ง!”

แสงจันทร์สาดส่องลงบนช่วงเอวขาวนวล เส้นผมสีแดงที่กำลังสั่นไหวไปมาอยู่ด้านบนกระทบกับแสงนั่นจนเปล่งประกาย แอสรันรวบผมยาวสีทองด้วยมือเดียว ทันใดนั้นก็เห็นต้นคอขาวที่กำลังหายใจหอบถี่อยู่ด้านล่างเขา ไม่สิ ควรจะบอกว่าเป็นต้นคอที่เคยขาว ผิวของนักบุญหญิงที่เกลี้ยงเกลาราวกับทุ่งหิมะที่ไม่มีรอยด่างจนถึงเมื่อครู่ก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยร่องรอยเป็นจ้ำๆ

แน่นอนว่าพวกมันล้วนแต่เป็นรอยที่เขาทำไว้

แอสรันชื่นชอบสัมผัสของเส้นผมนุ่มที่เขาจับอยู่เต็มมือ ก่อนจะขยับเอวอย่างรุนแรงอีกครั้ง ปึก! เสียงนี้ดังขึ้นพร้อมกับแก่นกายของเขาที่กดเข้าไปส่วนที่ลึกที่สุดของนักบุญหญิง

“อ ฮึก…!”

ร่างกายที่สัมผัสกับจุดสุดยอดสั่นสะท้านและตอดรัดส่วนนั้นของเขา ความรู้สึกนั้นทำให้แอสรันแนบตัวลงไปที่ร่างบางอย่างแรง กล้ามหน้าท้องของเขาผู้แข็งแรงและเป็นเจ้าของผิวสีเข้มแนบกับบั้นท้ายอวบขาวโดยไม่มีแม้แต่ช่องว่าง เนื้อหนังที่เปียกไปด้วยเหงื่อแนบแน่น แอสรันใช้แขนข้างหนึ่งดึงเอวของนางเข้ามาคล้ายว่ายังไม่เพียงพอ

“ฮา…”

การกระทำของเขาที่ดันส่วนล่างที่ยังสัมผัสกันอยู่เข้าไปอีกครั้งทำให้นักบุญหญิงเงยหน้าขึ้นและส่งเสียงคราง สิ้นเสียง แอสรันก็กอดร่างของนางที่ล้มอยู่บนเตียงให้ขึ้นมาเผชิญหน้ากับตน ดวงตาของนักบุญหญิงที่เปลี่ยนท่าทางขึ้นมานั่งอยู่บนตัวเขาในชั่วพริบตาเบิกกว้าง ดูเหมือนจะสัมผัสได้ว่าสิ่งที่ยังอัดแน่นอยู่ด้านในของตนมันขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

“แอสรัน…ได้โปรด…”

แอสรันแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงอ้อนวอนพลางกอบกุมทรวงอกของนักบุญหญิง

เขาหนีบส่วนปลายไว้ระหว่างนิ้วและถูไถยอดอกที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหวซึ่งถูกก่อกวนมาเป็นเวลานานอย่างนุ่มนวล ไม่ช้าเสียงร้องสะอื้นก็ดังออกมาจากปากของนาง ราวกับกลัวว่าความสุขสมที่นางได้รับมาจนถึงตอนนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ชั่วขณะนั้นนิ้วมือของเขาก็จับยอดอกแล้วบิดออก

“อ อ้าก!”

ทันทีที่ร่างกายที่แค่รับส่วนล่างเข้ามาก็เกินกำลังแล้วถูกกระตุ้นอย่างแรงอีกครั้ง นักบุญหญิงก็ส่ายหน้าไปมาและบิดตัว ส่งผลให้หยาดเหงื่อที่เกาะอยู่ปลายคางกระเด็นด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและทิ้งร่องรอยไว้บนเตียง

 “อ๊ะ ได้โปรด อะ แอสรัน”

เสียงพูดพึมพำเบาลงเรื่อยๆ จุดโฟกัสของสายตาที่ไปถึงจุดสุดยอดพลันพร่ามัว ร่างกายของนักบุญหญิงค่อยๆ สลบลงบนแผ่นอกของเขาอย่างเชื่องช้า

“อีกนิด…”

ดวงตาของนักบุญหญิงที่พึมพำเช่นนั้นปิดลง นางสิ้นสติไปทั้งที่ยังถูกกอดอยู่ในอ้อมอกเขาแบบนั้น แอสรันดึงร่างที่สลบไร้เรี่ยวแรงเข้ามากอดแน่น แม้จะสลบไปแล้ว แต่ร่างกายของนางก็ยังคงตอดรัดส่วนล่างของเขาอยู่

หลังจากฝังร่างอยู่แบบนั้นอีกสักพัก แอสรันก็ค่อยๆ นำนางที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานอนลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง แอสรันมองดูส่วนล่างที่ยังเชื่อมต่อกันแนบแน่น หลังจากเดาะลิ้นสั้นๆ เขาก็ค่อยๆ ถอยออกไปด้านหลัง ภาพของแก่นกายของเขาที่เสียบอยู่ในช่องระหว่างเนื้อแคบพลันเปิดเผย

แม้จะปลดปล่อยน้ำกามออกไปจนนับไม่ถ้วน แต่ส่วนนั้นของเขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหดตัวเลยสักนิด หลังจากถอนตัวออกมา แอสรันก็แหกขาของนักบุญหญิงที่สลบอยู่ออก ช่องรักที่กลืนกินส่วนนั้นของเขาอยู่เป็นเวลานานมีน้ำกามที่ซุกซ่อนไว้จนเต็มไหลออกมาจากด้านในโดยที่ยังไม่อาจหุบปิด

น้ำกามของเขาแห้งติดระหว่างขาของนางที่มีร่องรอยการถึงจุดสุดยอดก่อนหน้านี้จนเป็นสีขาว แอสรันมองดูภาพนั้นด้วยความพึงพอใจ แต่ไม่นานก็ดึงนางเข้ามากอดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะล้มตัวลงบนที่นอน ความอบอุ่นที่กลับมาเต็มอ้อมอกอีกครั้งทำให้เขาอารมณ์ดี เสียงลมหายใจหนักดังออกมาจากปากของนางที่นอนอยู่บนอกของเขา

‘คงจะเหนื่อย’

มันคงเป็นเช่นนั้น เพราะความปรารถนาของเขาทะลักเข้าไปอย่างเต็มที่โดยไม่หยุดเลยแม้เสี้ยววิ เสียงร้องไห้และเสียงครวญครางของนาง อย่าว่าแต่ทำให้แอสรันหยุดเลย มีแต่ทำให้เขารุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

‘แต่ว่า…’

แอสรันยื่นมือไปที่ใบหน้าของนักบุญหญิง เขาจับเส้นผมที่ยุ่งกระเหยิงออก มองเห็นขอบตาที่เปียกคราบน้ำตา น้ำตาไหลออกมาอีกครั้งทันทีที่เขาใช้ปลายนิ้วเช็ด สภาพแบบนั้นทำให้เขาถอนหายใจและดึงนักบุญหญิงเข้ามากอด ร่างกายของนางที่นอนหายใจแรงอยู่บนตัวเขาสั่นเพราะสัมผัสกับอุณหภูมิที่ไม่คุ้นชินอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะดึงเขาเข้าไปกอดราวกับจะสื่อว่าอย่าจากไป นี่แหละคือปัญหา

‘นางผิดปกติ’