บทที่ 280
หลี่ฉงซานถูกข่มขู่จนไม่เหลือความกล้าอะไรแล้ว และไม่กล้าตอบโต้เฉินโม่ด้วย พูดหน้าบึ้งไปว่า “เดี๋ยวจะเอาคำไปบอกผู้นำตระกูลให้ ตอนนี้กูไปได้หรือยัง?”

เฉินโม่ไม่ได้ตอบ แต่หยิบแก้วชาขึ้นมา แล้วก็ดื่มชาลงไป

หลี่ฉงซานหน้าเขียว แล้วก็เรียกลูกน้องเอาศพของหลี่หลงจีกลับออกไปด้วย

มองด้านหลังของหลี่ฉงซาน หลี่ซู่เฟินก็รู้สึกเป็นครั้งแรกว่า ตระกูลหลี่ก็ใช่ว่าจะไร้พ่ายเสมอไป

กลับกันลูกชายคนนี้ของตนเอง ลึกลับหลายด้าน ทำให้เธอมองไม่ค่อยออก

พอหลี่ฉงซานกลับออกไป ก็เหลือสามพี่น้องว่านฉางหรูกับเหอฉางหมิงยืนนิ่งอยู่บนเวที สีหน้าบึ้งทึง สายตาที่มองเฉินโม่ เผยความหวั่นเกรงออกมา

ด้านล่างเวที สายตาของทุกคนที่มองว่านฉางหรู ก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ไม่ได้มีความเคารพเหมือนก่อนแล้ว

อย่างไรเสีย ว่านฉางหรูก็พบเจออะไรมาเยอะ ไม่ได้ตกใจกับการเผยพลังบู๊ที่เฉินโม่แสดงออกมา เขามั่นใจในตำแหน่งฐานะของเขา เฉินโม่ไม่มีทางลงมือทำอะไรเขาแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่รอจนถึงตอนนี้

อย่างไรเสียโลกนี้ก็เป็นโลกแห่งเทคโนโลยี สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเป็นอาวุธนิวเคลียร์ ต่อให้เฉินโม่เก่งแค่ไหน ก็ไม่กล้าสู้กับอาวุธระดับประเทศได้

แต่ว่า ว่านฉางหรูไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อไปได้แล้ว

“ทุกท่าน ผมร่างกายไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ต้องขอตัวกลับก่อน!”

ว่านฉางหรูยกมือคำนับกับทุกคน แล้วก็พารองนายกๆ ว่านและว่านฉางเฟิงกลับออกไป

เฉินโม่ก็ไม่ได้รั้งไว้ เขาอยากจะกำจัดตระกูลว่าน แต่มันยังไม่ถึงเวลา ในเมื่อเขาได้เกิดใหม่แล้ว ตระกูลว่านจะจบสิ้นเมื่อใด มันอยู่ที่เวลาเท่านั้น

พวกศัตรูที่เคยหาเรื่องเฉินโม่อย่างพวกของคุณชายหลิวกับฉือรุ่ยปิง ก็รีบตามว่านฉางหรูกลับออกไป พวกเขากังวลว่าอีกเดี๋ยวเฉินโม่จะคิดบัญชีกับพวกเขา เพราะพวกเขาไม่มีกำลังที่มีอิทธิพลเหมือนกับว่านฉางหรู ต่อให้เฉินโม่ฆ่าพวกเขา ทางการก็อาจจะไม่ออกหน้าแทนพวกเขา

มองดูหลายคนรีบกลับออกไป หลิวหงปินก็ตามอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้นด้วย ก้มหน้า คิดจะหนีไป

แต่เขาจะรอดพ้นสายตาของเฉินโม่ไปได้อย่างไร “หยุด!”

ทันใดนั้นเอง ทุกคนก็รีบหยุดฝีเท้าลงทันที

“ทุกคนไปได้ แต่หลิวหงปินไปไม่ได้ พนันแพ้ก็ต้องยอมรับ พวกเรายังไม่ได้ทำตามข้อตกลงกันเลย!”

พวกคนทางด้านหน้าที่ตกใจ ในใจก็แอบด่าหลิวหงปิน แล้วก็รีบเร่งฝีเท้าเดินกลับออกไป

หลิวหงปินก็หน้าเสียมาก ใบหน้าแก่ๆ แดงก่ำ ถ้าทำตามข้อตกลง เขาก็จะเสียหน้าไม่เหลือซาก แต่ถ้าโกงไม่ทำตาม สิ่งที่จะเสียไปก็คือชีวิต

สองอย่างนี้มันวัดกันได้ง่าย ไม่นานหลิวหงปินก็เลือกได้

ค่อยๆ เดินมาตรงหน้าหลี่ซู่เฟิน หลิวหงปินไม่เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็คุกเข่าลงตรงหน้าของหลี่ซู่เฟิน โขกหัวพูดขอร้องว่า “ประธานหลี่ครับ ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษด้วยนะครับ!”

หลี่ซู่เฟินถอยหลังไปหนึ่งก้าว สีหน้าขยะแขยง คนสันดานเสียแบบหลิวหงปิน ไม่อยากจะเห็นใจ

พวกเจ้าสัวอย่างฉู่เหวินสง ก็มองดูหลิวหงปินอย่างสะใจ ในใจก็ด่าว่า “สมน้ำหน้า!”

หัวของหลิวหงปินก็โขกพื้นอยู่อย่างนั้น รู้สึกผิดอย่างมาก นั่งอยู่กับที่เฉยๆ ดูเฉินโม่สู้กับตระกูลว่านก็ดีอยู่แล้ว จะออกมาเสนอหน้าทำไมกัน สุดท้ายไม่สำเร็จ ก็ต้องมากลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะ

หลิวหงปินก็ตัวอ่อนแรงเหมือนลูกโป่งหมดลม ไปพูดเอาใจเฉินโม่ว่า “คุณเฉินครับ ผมได้ทำตามข้อตกลงแล้ว ตอนนี้ผมกลับไปได้หรือยังครับ?”

เฉินโม่สะบัดมือ คนมีนิสัยนกสองหัวจิ้งจกเปลี่ยนสีแบบนี้ ไม่ควรค่าให้ลงมือฆ่าหรอก ขอเพียงเหม่ยหวาแข็งแกร่งพอ ต่อไปคนนิสัยแบบหลิวหงปินก็จะเข้ามาประจบสอพลอเองนั่นแหละ ไม่กล้าคิดเป็นศัตรูอีกแล้ว