ทันทีที่หลายคนผ่านประตูเข้ามา ก็มีคนออกมาต้อนรับพวกเขา

เป็นชายที่แต่งตัวในชุดมืออาชีพ เขาเอ่ยปากทักทายด้วยความเคารพนอบน้อม “พี่ใหญ่ ถึงขั้นพาคนอื่นๆ มาเป็นการส่วนตัวขนาดนี้ มีเรื่องใหญ่อะไรหรือเปล่า?”

เฉินหยางกล่าว “ก็แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เจ้าน่าจะช่วยจัดการกับมันได้”

“ไม่มีปัญหา ผมจะจัดการให้ทันที วางใจได้เลย” ชายคนนั้นเร่งตอบกลับ

เฉินหยางตบไหล่เขาและยิ้ม “ทัศนคติในการทำงานดีไม่เลวเลยนี่ ข้าชักจะชอบเจ้าเข้าให้แล้ว!”

ชายคนนั้นพอถูกชมก็ปลื้มปีติ เร่งรับคำด้วยรอยยิ้ม “ไม่กล้า! ผมไม่กล้ารับคำชมนี้หรอก”

เขาคว้าไปในอากาศที่ว่างเปล่า เร่งหยิบบัตรประจำตัวออกมาอย่างรวดเร็ว

เขากล่าว “ภายใต้ใบอนุญาตที่หนึ่งร้อยสิบเจ็ด ผู้เชี่ยวชาญหมายเลขสอง ประจำแผนกกิจการอาชีพ โปรดบอกจุดประสงค์ของคุณมา เพื่อให้ทางเราตรวจสอบและยอมรับงานให้อยู่ภายใต้การกิจการของเราอย่างเป็นทางการ”

เซี่ยเต๋าหลิงกล่าว “ข้าเป็นผู้นำของพันธมิตรแห่งผู้ฝึกยุทธ์ จุดประสงค์คือต้องการยื่นรายชื่อคัดกรองสายอาชีพผู้ฝึกยุทธ์ ในการได้รับคุณสมบัติเข้าสู่ดินแดนชิงอำนาจ”

หลังจากที่ได้ฟังอย่างตั้งใจ สีหน้าของชายคนนั้นก็ผ่อนคลายลงทันที

ตัวตนทรงอำนาจหลายคนเดินทางมาถึงที่นี่เป็นการส่วนตัว ไอ้เขาก็คิดจริงจังว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญอะไรเสียอีก จึงออกมาต้อนรับเป็นการส่วนตัว

แต่ใครจะรู้ ว่าจริงๆ แล้วมันจะเป็นเรื่องง่ายดายขนาดนี้

“เข้าใจแล้ว ผมจะจัดการให้ในทันที”

ขณะกล่าว เขาก็หยิบเอาบัตรทำงานออกมาอีกครั้ง แล้วพรมมือพิมพ์ลงในอากาศที่ว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว

“ขออัญเชิญสารานุกรมอาชีพมนุษย์”

ปัง!

ปรากฏถึงเสียงหนักทึบ หนังสือขนาดใหญ่เท่ากับโต๊ะตกลงเบื้องหน้าของฝูงชน

และเพียงความหนาของตัวหนังสือ มันก็สูงเทียบเท่าได้กับขนาดครึ่งตัวคนแล้ว

ชายคนนั้นกล่าวขออภัย “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เนื่องจากอาชีพของเผ่ามนุษย์มีมากเกินไป ชนิดที่ว่าโดยเฉลี่ยแล้วพวกมันจะเพิ่มขึ้นราวๆ สิบเจ็ดอาชีพต่อปี ดังนั้นหนังสือเล่มนี้เลยหนาเป็นพิเศษ”

“ไม่เป็นไรหรอก ได้โปรดจัดการเรื่องของพวกเราให้เรียบร้อยก็พอแล้ว” เซี่ยเต๋าหลิงกล่าว

ชายคนนั้นกดมือลงบนหน้าปกหนังสือและกล่าว “ท่านหญิงแบล็กซี เผ่ามนุษย์อาชีพผู้ฝึกยุทธ์ต้องการยื่นใบสมัคร ด้วยหวังว่าจะได้รับการคัดเลือกหน้าใหม่ไปยังดินแดนชิงอำนาจ”

“ข้าได้ยินแล้ว”

เห็นแค่เพียงแสงสีฟ้าที่ตกลงมาจากเบื้องบน จมหายลงไปในสารานุกรม

หลังจากนั้น เสียงของผู้หญิงที่ดูยิ่งใหญ่ก็ดังออกมาจากสารานุกรม “ผู้ฝึกยุทธ์สินะ? อืม ไหนขอข้าดูหน่อย…”

หนังสือเล่มหนาเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ พลิกกลับไปกลับมาอย่างต่อเนื่อง

กู่ฉิงซานเพ่งสายตามอง และเห็นว่าในหนังสือปรากฏถึงอาชีพต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น นักเวท ผู้ใช้ไพ่ นักย่องเบา นักล่าสังหาร อัศวิน ผู้อัญเชิญ นักมวย นักบุญ จอมกระบี่วิญญาณ ผู้ถักทอชีวิต ผู้ใช้ธาตุ ผู้ขับขานคลื่นพลัง นักดนตรี นักผจญภัย นักฝึกสัตว์ จ้าวสมุทร หมอดู ฯลฯ

กู่ฉิงซานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “มีอาชีพมากมายขนาดนี้ แล้วมันจะมีมาตรฐานในการจัดสรรประเภทอย่างไรกัน?”

เฉินหยางตอบ “อ้างอิงจากสองปัจจัย ปัจจัยแรก คือประเภทพลังที่ใช้ และปัจจัยทิศทางในการพัฒนาตามแต่ละโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่”

ระหว่างนั้นเอง หน้าหนังสือที่พลิกมานานก็หยุดลง

“ข้าเจอแล้ว” เสียงของผู้หญิงดังขึ้น

“ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ปัจจุบันมีโลกด้านฝึกยุทธ์อยู่ทั้งสิ้นหนึ่งหมื่นเก้าพันห้าร้อยหกสิบโลก และแต่ละโลกจะต้องคัดเลือกรุ่นเยาว์สามคนเป็นตัวแทนหน้าใหม่ของโลก เพื่อมาให้ข้าเปรียบเทียบและคัดกรอง”

“คุณนำรายชื่อของพวกเขามาด้วยรึเปล่า?” พนักงานถามเซี่ยเต๋าหลิง

เซี่ยเต๋าหลิงหยิบใบหยกออกมา และมอบมันให้เขา

พนักงานวางใบหยกลงบนปกสารานุกรม

เสียงอันยิ่งใหญ่ของผู้หญิงดังขึ้นทันที “มีผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสิ้นห้าหมื่นแปดพันหกร้อยแปดสิบคน แน่ใจแล้วใช่หรือไม่ว่าทุกคนอยู่ในโลกที่เกี่ยวข้อง”

เซี่ยเต๋าหลิงกล่าวเฉียบขาด “หน้าใหม่ทั้งหมดจากในพันธมิตรผู้ฝึกยุทธ์เตรียมตัวพร้อมแล้ว ทุกคนต่างอยู่ในโลกของสหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้น และต่างก็ทราบถึงกฎเกณฑ์ในการเข้าร่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

เสียงผู้หญิงตอบ “ดีมาก หากเป็นเช่นนั้น งานคงจะเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากนี้อีกห้านาที ข้าจะเริ่มต้นการคัดเลือกหน้าใหม่ในอาชีพผู้ฝึกยุทธ์”

“ต้องรบกวนแล้ว ท่านหญิงแบล็กซี” พนักงานกล่าว

เฉินหยางและจ้าววงการคนอื่นๆ ต่างเสริมด้วยความสุภาพ “ขอบพระคุณท่านหญิง”

“ข้าเต็มใจทำ พวกเจ้าไม่ต้องสุภาพจนเกินไป” เสียงผู้หญิงกล่าว

สิ้นประโยคนี้ แสงสีฟ้าก็บินออกจากสารานุกรม และแยกออกไปตกลงบนร่างของกู่ฉิงซาน เหลิงเทียนสิง และหนิงเยว่ฉาน

แสงสีฟ้าแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทั้งสามเอาไว้

นางเซียนไป่ฮั่วกล่าวกับทั้งสาม “พวกเจ้าเร่งสวมใส่เกราะรบต่างๆ เร็วเข้า เกราะรบก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในการใช้คัดกรองความแข็งแกร่งส่วนตนของพวกเจ้า แล้วอย่าลืมนำอาวุธออกมาด้วยล่ะ”

หนิงเยว่ฉานสวมใส่เกราะรบชั้นหยงเซินจนเสร็จ ในมือกุมกระบี่ยาว ปากเอ่ยถาม “ข้ารู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติอยู่นะ”

“อะไรงั้นหรือ?”

เหลิงเทียนสิงสวมชุดเกราะนายพลโหยวจี สะบัดคลี่พัดในมือแล้วเอ่ยถาม

“ก็หากมีกฎเช่นนั้น งั้นหากข้ามอบอาวุธทรงพลัง และเกราะรบไร้เทียมทานให้แก่หน้าใหม่ที่เข้าร่วมการคัดกรอง พวกเขาจะไม่ได้รับสิทธิ์ ผ่านเข้ารอบโดยตรงเลยหรอกหรือ?” หนิงเยว่ฉานกล่าว

“เหตุการณ์แบบนั้นย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น” แขนจักรกลกล่าว “ท่านหญิงแบล็กซีจะใช้ออกด้วยเทคนิคมนตราประเภทลึกลับในการวัดความสอดคล้องระหว่างอาชีพนั้นๆ แหละอุปกรณ์ของผู้สวมใส่ หากพบว่าถูกหยิบยืมมาจากผู้อื่น ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไปเลยทันที”

“สำหรับอาวุธ เคยมีหน้าใหม่คิดไม่ซื่อบางคน เลือกที่จะกุมอาวุธเทวะที่ทรงประสิทธิภาพอย่างมากไว้ในมือของเขา แต่ก็ทำได้เพียงกุมมันไว้ มิอาจกวัดแกว่งมันได้ ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่สามารถหลบลี้สายตาของท่านหญิงแบล็กซีไปได้ เพราะการตรวจสอบของเธอนั้นลึกซึ้งเข้าไปถึงข้างในชั้นจิตวิญญาณ”

“ท่านหญิงแบล็กซีเองก็เป็นตัวตนทรงอำนาจระดับจ้าววงการด้วยอย่างงั้นหรือ?” กู่ฉิงซานถามด้วยความสนใจ

“อา ไม่ใช่แบบนั้นหรอก” เฉินหยางกล่าว “ที่จริงแล้วนางแข็งแกร่งกว่าพวกเรามากมายนัก”

“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหญิงก็มีชีวิตอยู่มาตั้งนานแล้ว และความสนใจของท่านหญิงเพียงอย่างเดียวก็คือ การคัดกรองหน้าใหม่จากสหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้น” พี่หมีกล่าว

พนักงานเองก็เอ่ยสนับสนุนในเชิงเดียวกัน “ใช่แล้ว และต้องขอบคุณในความตั้งใจของท่านหญิงที่ต้องการจะช่วยเหลือ มิฉะนั้นพวกเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องใช้บุคลากรเท่าไหร่ในระหว่างกระบวนการคัดกรอง”

ขณะที่ทุกคนกำลังกล่าว กู่ฉิงซานก็เรียกเกราะรบนายพลชั้นเฉินเว่ยของตนเองออกมา

ทั้งชุดเกราะรบนายพลเฉินเว่ยเป็นสีดำบริสุทธิ์ มีเพียงตรงเกราะหน้าเท่านั้นที่มีสีทองซีด

กู่ฉิงซานตบลงบนเกราะรบเบาๆ

ชิ้นส่วนต่างๆ ของเกราะรบกระจายตัวออกทันที มันว่ายวนไปประกบติดตามส่วนต่างๆ ของกู่ฉิงซานอย่างรวดเร็ว

กู่ฉิงซานสวมใส่หน้ากากทองคำซีดเป็นชิ้นสุดท้าย

ยามเมื่อสวมใส่จนสมบูรณ์ ก็ปรากฏให้เห็นถึงร่องรอยของหมอกสีดำคล้ายกับเส้นด้าย พวยพุ่งขึ้นเป็นแนวตั้งออกมาจากเกราะรบ หากมองจากระยะไกลจะแลดูคล้ายกับเปลวไฟสีดำที่ลุกไหม้ ทั้งร่างของกู่ฉิงซานบัดนี้ราวกับปีศาจร้าย

เขาคว้าจับดาบเช่าหยินและดาบขุนเขาเทวะหกโลกาจากในอากาศที่ว่างเปล่า กุมมันไว้มือละข้าง

“หากข้าได้กระโจนลงสู่สนามรบยามสวมใส่ชุดเกราะรบนี้ ในหัวใจคงรู้สึกปลอดภัยขึ้นไม่น้อย”

กู่ฉิงซานทดลองขยับร่างกายไปมาด้วยความพึงใจ

เซี่ยเต๋าหลิงจ้องมองกู่ฉิงซานและกล่าว “ชุดเกราะรบนี้ไม่เพียงมีความสามารถช่วยให้เจ้าซึมซับพลังงานวิญญาณจากฟ้าดินได้ แต่มันยังช่วยให้เจ้าสามารถต้านทานคำสาปแช่ง และการโจมตีทางจิตเทวะ มีความทนทานล้ำเลิศ เป็นเกราะระดับสูงที่สุดในปัจจุบันที่พวกเรามี”

ทักษะการหลอมกลั่นของโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์ดูจะเพิ่มพูนขึ้นหลายระดับ กว่าที่ผ่านมามากจริงๆ

ชุดเกราะนี้คือเกราะรบนายพลที่มีคุณภาพสูงสุด เป็นเหมือนดั่งสิ่งที่ยืนยันความก้าวหน้าทางด้านการหลอมกลั่นของโลกผู้ฝึกยุทธ์

“ได้เวลาแล้ว การคัดกรองอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้”

เสียงของท่านหญิงแบล็กซีดังขึ้นอีกครั้ง

วินาทีต่อมา แสงสีฟ้าที่ครอบคลุมกู่ฉิงซาน หนิงเยว่ฉาน และเหลิงเทียนสิงก็สาดแสงสว่างสดใส

ในพริบตา พวกเขาทั้งสามก็หายตัวไปจากในสถานที่เดียวกัน

“เอาล่ะ ทุกท่านโปรดรอสักครู่ สำหรับเรื่องคัดกรองหน้าใหม่นี้ ท่านหญิงแบล็กซีมักจะจัดการได้อย่างรวดเร็วเสมอ” พนักงานกล่าวด้วยความนอบน้อม

เซี่ยเต๋าหลิง เฉินหยาง และคนอื่นๆ พยักหน้ารับ

…………………………………………….