บทที่ 216 กลั่นยาหนึ่งเดือน
“ปรมาจารย์โอวโห ท่านบอกว่าที่นี่มีปรมาจารย์กลั่นยาขั้น 4 ที่มีฝีมือเหนือกว่าท่านอีกหรือ”
“ไม่ทราบว่าปรมาจารย์โอวหยางจะพอช่วยแนะนำให้ได้บ้างหรือไม่”
ในห้องถือเป็นห้องที่มีเนื้อที่ค่อนข้างกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ปรมาจารย์ฝึกจิตสิบกว่าคนรวมตัวอยู่ด้วยกันและกำลังสนทนาแลกเปลี่ยนกันอยู่
ปรมาจารย์ฝึกจิตเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว บางคนไร้สำนักและอีกหลายๆ คนมาจากกลุ่มอำนาจที่แตกต่างกัน
พวกเขาได้รับจดหมายเรียกจากโอวโหเหลียง จึงได้ตั้งใจเป็นพิเศษที่จะเดินทางมาที่นี่
ในบรรดาปรมาจารย์กลั่นยาขั้น 4 ของเมืองกู่เจี้ยน โอวโหเหลียงถือเป็นคนที่มีฝีมือระดับสูงคนหนึ่ง ดังนั้นจึงมีคนคนจำนวนมากที่มาขอให้เขากลั่นยาให้
แต่ตอนนี้กลับมีปรมาจารย์กลั่นยาขั้น 4 ที่มีฝีมือดีกว่าโอวโหวเหลียงปรากฏตัวขึ้น เรื่องนี้ทำให้ทุกคนพากันฮือฮาตื่นเต้น
พวกเขาไม่เชื่อว่าโอวโหวเหลียงจะหลอกพวกตน อาจารย์นักกลั่นยาแต่ละคนล้วนเป็นคนภาคภูมิใจในตัวเอง อีกอย่างยังให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีของตัวเองมาก จึงไม่มีทางที่จะถ่อมตัวเองแล้วไปยกย่องคนอื่น
“ทุกท่าน ปรมาจารย์คนนี้ที่เรากล่าวถึงมีนิสัยรักความสันโดษ คราวนี้เขากลั่นยาอยู่ที่เมืองซานหยวนเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ทุกท่านโปรดมอบยาวิเศษมาให้เรา อีกเดี๋ยวเมื่อถึงเวลานัดหมาย เราจะมอบยาคืนให้พวกท่านเท่ากับจำนวนที่พวกท่านมอบให้” โอวโหวเหลียงกล่าว
คำพูดเช่นนี้ของโอวโหวเหลียง เป็นสิ่งที่หลัวซิวเคยต้องรับมือมาก่อน มิเช่นนั้นแล้วปรมาจารย์กลั่นยาขั้น 4 ที่อายุยังน้อยนี้ คงจะโดนตัวแทนที่แต่ละสำนักส่งตัวมาก่อกวนจนต้องปวดหัวแน่
เมื่อได้ยินโอวโหวเหลียงกล่าวเช่นนี้ ปรมาจารย์ยุทธ์หลายคนต่างมีสีหน้าผิดหวังกันไปตามๆ กัน
จากนั้นโอวโหวเหลียงจึงหยิบรายการที่หลัวซิวให้เขาเอาไว้ออกมา ปรมาจารย์ทุกคนต่างเตรียมยาวิเศษและของตอบแทนออกมา จากนั้นจึงนัดเวลาส่งมอบยากัน
ค่าจ้างในการไหว้วานให้หลัวซิวช่วยกลั่นยานั้นไม่ถือว่าสูง อยู่ในระดับเดียวกับนักกลั่นยาทั่วๆ ไป การจะกลั่นยาออกมาสักหม้อจะต้องใช้วัตถุดิบสามชนิด หรืออาจจะใช้วัตถุดิบที่อยู่ในระดับเดียวกันมาแทนก็ได้ แต่จะต้องถูกระบุอยู่ในรายการยาวิเศษด้วย
ในแก๊งนักกลั่นยา หลัวซิวใช้สถานะของปรมาจารย์ขั้น 4 จึงสามารถยืมห้องกลั่นยาได้
ตอนที่โอวโหวเหลียงนำยาวิเศษระดับ 4 เกือบสามร้อยกว่าเม็ดออกมาจากแหวนเก็บของนั้น หลัวซิวก็อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลายอย่างหวานปาก
ในจำนวนยาวิเศษทั้งหมด ยาสองร้อยเม็ดถือเป็นค่าตอบแทนของเขา
ที่ปรมาจารย์นักกลั่นยามีฐานะร่ำรวยก็เพราะของทั้งหมดนี้นั่นเอง
“ปรมาจารย์โอวโหวช่วยข้ามากมาย ข้าไม่มีอะไรจะตอบแทน ม้วนหยกนี้ได้บันทึกความรู้และประสบการณ์การกลั่นยาของข้าเอาไว้ มันอาจจะช่วยยกระดับการกลั่นยาและปริมาณการกลั่นยาได้”
หลัวซิวหยิบม้วนหยกที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมาแล้วส่งให้โอวโหวเหลียง
แน่นอนว่าเขารู้ว่าการที่โอวโหวเหลียงยื่นมือมาช่วยเขาจะต้องมีวัตถุประสงค์แอบแฝง เรื่องนี้เขาไม่ได้ถือสาอะไร เพราะอีกฝ่ายช่วยเขา เขาก็ให้ผลประโยชน์เป็นการตอบแทน เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่นับว่าสมควรแล้ว
เมื่อเห็นหลัวซิวมอบม้วนหยกให้ตน โอวโหวเหลียงก็ปลื้มปีติมาก แต่กลับไม่ได้ยื่นมือออกไปรับในทันที
“ข้าช่วยเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อย่างนี้จะดีหรือ” โอวโหวเหลียงเอ่ย
“ปรมาจารย์โอวโหวอย่าปฏิเสธเลย มิเช่นนั้นแล้วจะถือว่าไม่เห็นผมเป็นเพื่อน” หลัวซิวยิ้มพลางเอ่ย
เขาใช้ฐานะของซิวหลัวอ้างมาตั้งแต่เริ่ม เรื่องนี้โอวโหวรู้อยู่แก่ใจแต่ก็กลับไม่ยอมพูดเรื่องนี้ออกมา
“อย่างนั้นข้าขอบคุณปรมาจารย์ซิวหลัวมาก” โอวโหวเหลียงกล่าวขอบคุณแล้วยื่นมือออกไปรับม้วนหยกมาอย่างตื้นตัน
ตัวสำนึกที่แทรกซึมอยู่ในนั้น ทุกสิ่งอย่างที่บันทึกอยู่ในความทรงจำไม่ว่าจะเป็นวิธีการและประสบการณ์ในการกลั่นยา ทำให้เขารู้สึกปลาบปลื้มในสิ่งของที่ได้รับมามาก
“หลัวซิวผู้นี้เป็นคนร้ายกาจนัก พอข้ามีความรู้เช่นนี้ในมือ คงใช้เวลาอย่างมากสุดเพียงครึ่งปี ประสิทธิภาพในการกลั่นยาของข้าคงจะพัฒนาขึ้นถึงเจ็ดส่วน!”
แววตาของโอวโหวเหลียงเป็นประกาย เขาอยากเห็นวิธีการกลั่นยาของหลัวซิวกับตาของตัวเอง อีกอย่างเขามั่นใจมากว่า หลัวซิวจะต้องครอบครองตำรากลั่นยาขั้นสูงเอาไว้แน่
ทว่าเรื่องนี้กลับเกี่ยวข้องถึงข้อห้ามบางอย่าง โอวโหวเหลียงอยู่ในวงการนี้มาหลายปี ย่อมรู้ว่ามีเรื่องบางอย่างที่ไม่อาจล้ำเส้นได้
“ย่าเพลิงเย็น ดอกหมัวโหลว……”
หลัวซิวค้นดูยาวิเศษที่อยู่ในแหวนเก็บของ สีหน้าของเขาก็เริ่มค่อยๆ ปรากฏแววดีใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาเขียนลงในใบรายการจึงเห็นว่ามียาวิเศษที่หายากมากมาย ก่อนหน้านี้เขาคิดจะหาซื้อที่เทือกเขาจิ่วเฟิง แต่ก็ไม่สามารถหาซื้อได้
เห็นได้ชัดเจนว่าการเลือกใช้เส้นทางแก๊งนักกลั่นยาเป็นช่องทางที่ทำให้ได้รับยาวิเศษที่หายากมาได้อย่างง่ายดาย
หลัวซิวโบกมือ เตายาชั้นยอดเตาหนึ่งก็ปรากฏออกมา เวลาต่อจากนั้นหนึ่งเดือน เขาก็เก็บตัวเพื่อการกลั่นยาโดยไม่ยอมออกไปไหน
คุณภาพของยาจะต้องรักษาระดับให้ได้ถึงแปดส่วน สำหรับหลัวซิวถือเป็นเรื่องง่ายดาย เพราะเขายังสามารถที่จะหลอมยาวิเศษห้าอย่างออกมาเป็นยาห้าเตาได้ภายในครั้งเดียว
หนึ่งในนั้นบางครั้งเขาก็สามารถกลั่นยาระดับเก้าส่วนออกมาได้ และเป็นเพราะตำรากลั่นยาโบราณที่ได้สูญหายไปนานแล้ว จึงไม่สามารถกลั่นยาบริสุทธิ์ออกมาได้
ใช้เวลาทั้งหมดประมาณสิบวัน หลัวซิวก็สามารถส่งมอบยาให้กับลูกค้าได้ตามจำนวนที่ต้องการ
และอีกยี่สิบวันต่อจากนั้น หลัวซิวก็เริ่มตั้งใจกลั่นยาที่จะเอาไว้ใช้สำหรับตัวเอง
ยากลั่นจิตยี่สิบสามหม้อ หม้อหนึ่งมีแปดเม็ด เมื่อรวมกับยาที่ตนเองได้เตรียมเอาไว้แต่แรกด้วยแล้ว ยาทั้งหมดก็มีเกือบจะสองร้อยเม็ด
นอกจากนี้เนื่องจากหลัวซิวได้รับยาวิเศษที่หายากมาอีกจำนวนหนึ่ง จึงกลั่นยาเลี้ยงจิตออกมาได้สองหม้อ สามารถใช้บำรุงตัวหยั่งรู้และรวบรวมตัวสำนึก
จากนั้นเขายังกลั่นยาสองขั้วอัคคีเยือกออกมาได้อีกหนึ่งหม้อ เป็นยาระดับ 4 ที่ต้องใช้ในการกลั่นร่าง
โลกในปัจจุบันนี้ นักยุทธ์ที่กลั่นร่างได้มีน้อยมาก สาเหตุสำคัญเป็นเพราะวิธีปรุงยาให้การกลั่นร่างมีประสิทธิภาพนั้นได้สูญหายไป อีกอย่างนักยุทธ์ที่กลั่นร่างหากคิดจะยกระดับแดนร่างเนื้อจะกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก
ในประเทศเทียนหวูไม่มีใครรู้วิธีการปรุงยายาสองขั้วอัคคีเยือก อีกทั้งนักกลั่นยาจำนวนมากไม่รู้ว่ามียาชนิดนี้อยู่บนโลกด้วย
หลัวซิวกำลังใช้ความคิด ยาเหล่านี้ที่ตัวเองเตรียมไว้เพียงพอที่จะทำให้ตนสามารถยกระดับเป็นผู้ฝึกจิตช่วงปลายได้
ตอนนี้ที่เขาสามารถกลั่นยาได้เพียงยาระดับ 4 นั้น สาเหตุสำคัญเป็นเพราะการฝึกตนของเขายังค่อนข้างต่ำอยู่
หากการฝึกตนของเขาสามารถยกระดับถึงการฝึกจิตช่วงกลางขั้น 4 เมื่อไหร่ เขาก็จะสามารถกลั่นยาระดับ 5 ได้บางชนิด และหากไปถึงการฝึกจิตช่วงปลาย เขาจะสามารถกลั่นยาระดับ 5 ได้ทุกชนิด
สาเหตุหลักเป็นเพราะขั้นตอนการกลั่นยาบางชนิดค่อนข้างซับซ้อน ต้องสูญเสียพลังจิตแท้ไปค่อนข้างมาก จึงต้องใช้การฝึกตนขั้นสูงมาช่วยสนับสนุนด้วย
หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ปรมาจารย์ที่มาไหว้วานให้ช่วยกลั่นยาให้ก็ได้ยาตามที่ตนเองต้องการ ประสิทธิภาพของยาส่วนใหญ่จะอยู่ที่แปดส่วนขึ้นไป และยังมีบางส่วนที่มีประสิทธิภาพถึงเก้าส่วน
และนี่เองที่ทำให้ปรมาจารย์ฝึกจิตทุกคนต่างรู้สึกพิศวงในใจ เพราะสมัยก่อนๆ ที่พวกเขาขอร้องให้โอวโหวเหลียงกลั่นยาให้ ยาส่วนมากจะมีประสิทธิภาพเพียงเจ็ดส่วนเท่านั้น มีน้อยมากที่จะได้ถึงแปดส่วน
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจึงยิ่งอยากรู้ใจจะขาดว่าปรมาจารย์กลั่นยาลึกลับผู้นี้คือใครกัน
โอวโหวเหลียงไม่สามารถรับมือกับความอยากรู้อยากเห็นของปรมาจารย์กลุ่มนี้ได้ เขาจึงทำได้เพียงกลับมาหลัวซิวอีก