ข้อความของเหยียนซีบอกว่ามาถึงชุมชนแล้ว
ฉินหร่านถือโอกาสส่งพิกัดให้อีกฝ่าย จากนั้นโยนมือถือให้ผู้กำกับ
ตอนนี้กล้องยังอยู่
ผู้กำกับรับมือถือของเธอมา
จิ่งเหวินยังยืนดูการ์ดภารกิจที่วางอยู่บนโต๊ะไม้อยู่ เมื่อเห็นฉินหร่านกลับมา ก็ทอดมองไปสุดขอบถนน เอ่ยถามส่งๆ ไปว่า “เพื่อนอีกคนของเธอทำอาชีพอะไร”
“นักร้อง” แววตาของฉินหร่านก็หยุดอยู่ที่สุดขอบถนนเช่นกัน
พวกไป๋เทียนเทียนไม่มีใครคลางแคลงใจ เอาแต่จดจ้องบ้านเรือนเก่าแก่หลังโต๊ะ
ถนนเส้นนี้ถูกทีมงานเคลียร์พื้นที่แทบจะหมดจดแล้ว ระหว่างการถ่ายทำเรียลลิตี้โชว์จะถูกเก็บเป็นความลับ นอกเสียจากว่ามีแฟนคลับที่มาเที่ยวโดยบังเอิญ นอกนั้นไม่มีใครรู้
มีเงาคนสามเงาปรากฏขึ้นตรงสุดขอบถนน
จิ่งเหวินกับเถียนเซียวเซียวกับฉินซิวเฉินที่พะวงเรื่องเพื่อนของฉินหร่านต่างก็มองไปทางนั้น
ทีมงานยังไม่ได้เคลื่อนย้ายกล้อง ต่างก็กำลังถ่ายปฏิกิริยาของฉินซิวเฉินกับจิ่งเหวิน ไม่ก็ถ่ายพวกไป๋เทียนเทียน
ทีมงานเองก็ไม่สนใจเพื่อนอีกคนที่ฉินหร่านเชิญมาเช่นกัน
“ไม่แน่ฉันอาจจะเคยฟังเพลงของเพื่อนเธอโดยไม่รู้ตัวก็ได้” จิ่งเหวินเอนตัวพิงโต๊ะด้านหลังแล้วยิ้ม
ฉินหร่านเลิกคิ้วอย่างผ่อนคลาย “อาจจะนะคะ”
ในยามที่จิ่งเหวินพูดประโยคนี้ ก็เห็นร่างทั้งสามนั่นชัดเจนแล้ว สามคนนั้นกำลังก้าวมาทางนี้อย่างไม่รีบร้อน
เหมือนว่าคนสุดท้ายจะใส่ผ้าปิดปากเสียด้วย
ไป๋เทียนเทียนมองไปข้างหลังอย่างไม่ใส่ใจ จู่ๆ ก็ขำออกมา “ใส่ผ้าปิดปากซะด้วย ท่าทางจะเป็นดาราที่ไม่ธรรมดา”
นอกจากศิลปินที่แฟนคลับเยอะแล้ว คนที่อยู่ปลายแถวออกไปไหนหากใส่ผ้าปิดปากสวมแว่นกันแดดบังหน้าบังตาจะเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้คน ปาปารัสซีไม่สนใจ แฟนคลับก็มีเพียงน้อยนิด ทำให้ใครดู
สายตาของเถียนเซียวเซียวดีเสมอมา ตอนแรกใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้มร่วน กระทั่งเห็นใบหน้าของสามคนนั้นชัดเต็มตา แววตาของเธอก็จดจ้องไปที่ร่างของคนที่ใส่ผ้าปิดปากหลุบตาต่ำคนสุดท้าย จากนั้นก็พูดอย่างแข็งทื่อว่า “หร่านหร่าน ฉัน…ฉันคิดว่าเพื่อนคนนั้นของเธอดูหน้าคุ้นๆ นะ”
เอกลักษณ์ของคนบางคน ใช่ว่าผ้าปิดปากจะบดบังได้
เมื่อเดินเข้ามาใกล้อีกหน่อย คนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ก็มองเห็นแล้ว
เสียงพูดคุยของพวกไป๋เทียนเทียนกับจิ่งเหวินหายไปอย่างสิ้นเชิง แม้แต่ฉินซิวเฉินเองก็แปลกใจเป็นอย่างมาก
หากบอกว่าเขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลของวงการบันเทิง เช่นนั้นเหยียนซีก็เป็นผู้ทรงอิทธิพลอีกคน
เพียงแต่ว่าสองคนนี้ หนึ่งคนเป็นซูเปอร์สตาร์ อีกคนเป็นนักร้องดัง เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
มิหน้ำซ้ำเหยียนซีเป็นคนที่ขาวสะอาดในวงการบันเทิง นอกจากออกอัลบั้มกับแสดงคอนเสิร์ตแล้ว ไม่ถ่ายโฆษณา ไม่รับงานวาไรตี้ ไม่ถ่ายละครและไม่เล่นหนัง มักจะรับแต่งเพลงในวงการโทรทัศน์และภาพยนตร์ นี่เป็นสิ่งที่เขาคลุกคลีกับวงการบันเทิงลึกซึ้งที่สุดแล้ว
เพลงของเขาไม่ได้โด่งดังไปทั่วประเทศเท่านั้น แต่ต่างประเทศก็มีอาณาจักรของเขาเช่นกัน ในระดับสูงชนิดที่วงการเพลงในประเทศไม่เคยทำได้
ในกองถ่ายมีแต่คนในวงการบันเทิง ไม่มีใครไม่รู้จักเหยียนซี
น้องชายของจิ่งเหวินยืนอยู่ข้างไป๋เทียนเทียน สมองของเขาตื้อไปเล็กน้อย พึมพำว่า “ราชาเหยียนคงไม่ใช่เพื่อนที่ฉินหร่านเชิญมาหรอกใช่ไหม”
ไป๋เทียนเทียนตื่นจากภวังค์ เธอกัดริมฝีปาก จะเป็นไปได้อย่างไร
อย่าว่าแต่สองคนนี้เลย แม้แต่จิ่งเหวินเองก็มองเหยียนซีที่หยุดตรงหน้าพวกเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ยกมือขึ้นดึงผ้าปิดปากลง เผยให้เห็นใบหน้าคมสัน “ท่านเทพ…”
“เขามาแล้ว” ฉินหร่านตัดบทเขาทันควัน โบกมือส่งๆ แล้วเชยตามองทีมงาน “เริ่มถ่ายทำได้แล้ว”
คนอื่นเงียบเป็นเป่าสาก
สมองของซุปตาร์จิ่งยังคงคิดถึงคำพูดที่ฉินหร่านเพิ่งพูดไป
เธอถามว่าเพื่อนของฉินหร่านทำอาชีพอะไร อีกฝ่ายตอบอย่างนิ่งเฉยว่า ‘นักร้อง’
เป็นนักร้องไม่ผิด แต่เธอช่วยใส่คำว่า ‘ราชาเหยียน’ เข้าไปด้วยได้ไหม!
เหยียนซีมาถึงก็ขอโทษขอโพยทุกคนทันที “ต้องขอโทษจริงๆ ครับที่ผมมาสาย”
“ไม่!” ในที่สุดซุปตาร์จิ่งก็ได้สติกลับคืนมา “สายอะไรกัน ซุปตาร์ฉินเขาใจร้อนเกินไป มาไวไปแท้ๆ!”
พูดจบก็มองเหยียนซีด้วยมาดใจกว้างสง่างาม “นายมาถ่ายเรียลลิตี้โชว์เหรอ”
นัยน์ตาของเหยียนซีสุกใส พยักหน้าท่ามกลางสายตาของทุกคน
ผู้กำกับถือแผ่นกระดาษ ยืนนิ่งไร้สติอยู่กลางฝูงชน
ในเฮดโฟนเป็นเสียงเร่งเร้าของผู้ช่วยผู้กำกับที่อยู่ในเต็นท์ถ่ายทำ “ทำไมไม่อัดต่อล่ะ เกิดอะไรขึ้นที่กองถ่ายเหรอ คนที่มาเป็นใครกันแน่ ทำไมทุกคนที่มีปฏิกิริยาแบบนี้”
มีคนกรีดร้องออกมาอย่างทนไม่ไหว
เหล่าทีมงานจะอดใจไม่หยิบมือถือขึ้นมาได้เหรอ
หยิบมือถือมาได้ยังไง
เซ็นสัญญารักษาความลับไปแล้วไง!
เหยียนซีหันหลังให้กล้อง บวกกับตอนแรกทีมงานไม่ได้เตรียมกล้องไว้ให้เหยียนซี เหยียนซีเพิ่งมาถึงก็ไม่ได้ติดไมโครโฟน ทีมงานจึงไม่ได้ยินเสียงของเขา
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ช่วยผู้กำกับ ผู้กำกับก็พูดขึ้น “คือว่า เหมือนว่าหลานสาวของซุปตาร์ฉินจะเชิญราชาเหยียนมาที่รายการของเรา…”
เขามองดวงอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า “พวกเราจะดังแล้วใช่ไหม”
ราชาเหยียนกับซุปตาร์ฉินมาร่วมรายการวาไรตี้พร้อมกัน!
โดยเฉพาะคนพิลึกในวงการบันเทิงอย่างราชาเหยียน แม้แต่สัมภาษณ์ก็แทบจะไม่มีด้วยซ้ำ จู่ๆ ก็มาร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์ ถ้าปล่อยข่าวนี้ออกไป ชาวเน็ตต้องระเบิดแน่!
เมื่อวานเขากลัวว่า bug ร่างมนุษย์คนนั้นจะทำเรื่องสุดเท่ ตอนนี้มันเท่มากจริงๆ…
ทำเอาทีมงานแตกฮือ…
“เร็ว รีบแก้ภารกิจข้างหลัง” ผู้กำกับพูดกับไมโครโฟน รีบสั่งการทีมงานทันที
เพราะไม่คาดหวังกับคนที่ฉินหร่านเชิญมา ผู้กำกับจึงไม่ให้บทกับเพื่อนของเขา ตอนนี้เมื่อเป็นราชาเหยียน กระแสนิยมสูงสุดของวงการบันเทิง เป็นเหยียนซีที่มีรัศมีพิเศษ จะเหมือนเดิมได้อย่างไร
ขณะที่ผู้กำกับสั่งงานอย่างรีบเร่ง ผู้จัดการของซุปตาร์ฉินก็เดินผ่านกลุ่มคน
เขาอดพูดอย่างเริงร่าไม่ได้ว่า “คุณปิดบังผม ถ้าบอกผมแต่แรกว่าเป็นราชาเหยียน ผมสามารถเตรียมบทหนึ่งร้อยบทโต้รุ่งได้เลย แต่เซอร์ไพรส์นี้ผมชอบ ชอบจะตายแล้ว!”
ผู้จัดการ “…”
…
ตอนแรกทีมงานให้ฉินซิวเฉินกับจิ่งเหวินดูแลคนละทีม แต่เพราะเหยียนซีที่มาทีหลัง ฉินหร่าน เถียนเซียวเซียวกับเหยียนซีจึงอยู่กลุ่มเดียวกัน รวมกับน้องชายของจิ่งเหวินด้วย
ฉินซิวเฉิน จิ่งเหวิน ไป๋เทียนเทียนกับลูกทีมของเธออยู่อีกกลุ่ม
หัวข้อในตอนนี้คือ ‘หนีออกจากชุมชนพิศวง’ ทีมงานจัดด่านมากมายตามถนนทั้งสามเส้น ทั้งสองทีมต้องหาด่านในแต่ละแห่งให้เจอ ในด่านจะมีภารกิจให้ผจญภัยในรูปแบบต่างๆ หากผ่านเกณฑ์ก็จะได้เบาะแสสำคัญ จากนั้นหาวิธีออกจากชุมชนพิศวงให้ได้
ทีมงานจัดฉากที่ระทึกขวัญและน่ากลัวไว้มากมาย เมื่อเริ่มรายการ ก็มีตัวประกอบที่สวมชุดแต่งงานประหลาดทาหน้าขาวที่ลอยไปลอยมาในบ้านโบราณแต่ละหลังแล้ว
ผู้กำกับตกลงกับทีมงานไว้แล้วว่า ให้เพิ่มด่านที่เกี่ยวข้องกับดนตรีไว้หลายๆ ด่าน
เขาตามจับภาพ เห็นฉินหร่านสองมือล้วงกระเป๋า ท่าทางเอื่อยเฉื่อย ในใจไม่รู้เพราะอะไร กลับรู้สึกกระวนกระวายชอบกล จึงยืนยันอีกครั้งว่า “วันนี้ไม่มีด่านที่เกี่ยวกับสมองแล้วใช่ไหม”
ความกลัวที่ถูกจัดสรรโดยเด็กเทพของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ทีมงานไม่อยากสัมผัสอีกแล้ว
ทีมงานตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ผู้กำกับ วางใจได้เลย ด่านในวันนี้ไม่ใช่ท่าทางที่มีความยากสูงก็เป็นทักษะการแสดง ไม่ก็อัจฉริยะด้านไอที สอดคล้องกับคาแรคเตอร์ของไป๋เทียนเทียน เด็กเทพมหาวิทยาลัยเมืองหลวงทำไม่ได้แน่นอน!” เมื่อวานไป๋เทียนเทียนไม่โดดเด่น สกุลเจียงไม่พอใจแน่นอน วันนี้ต้องชดเชยให้ได้…
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ผู้กำกับก็นึกถึงคาแรคเตอร์ของไป๋เทียนเทียนที่ทีมงานส่งมาให้
นอกจากคาแรคเตอร์ของเด็กเทพแล้ว ยังมีดาวโรงเรียนไร้เดียงสาที่เป็นอัจฉริยะด้านไอทีด้วย
ผู้กำกับหยิบบทขึ้นมาพลิกอ่าน พลิกไปถึงบรรทัดที่ทีมงานไฮไลท์จุดสำคัญ ให้ไป๋เทียนเทียนแสดงความรู้ด้านไอทีของเธอ เขามองตัวหนังสือที่ถูกวงไว้เป็นพิเศษ ‘ระดับจักรพรรดิโซโล่เกมท่องยุทธภพ’