ตอนที่ 639

Elixir Supplier

639 แมลงพิษโผล่มาอีกครั้ง

 

เรื่องแบบนี้มักจะเกิดกับคนที่โชคร้าย ยกตัวอย่างเช่น หลังจากที่ไปไหว้บรรพบุรุษที่สุสานแล้ว เมื่อกลับไปถึงที่บ้าน พวกเขาก็อาจจะเป็นไข้หรืออาเจียน

 

สถานการณ์แบบนี้เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ยาก เพราะการกินยาหรือการไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้เลย เมื่อคนเราเจอเรื่องแบบนี้เข้า พวกเขาไม่ได้คิดจะไปขอความช่วยเหลือจากหมอ แต่พวกเขาจะเลือกเผากระดาษเงินกระดาษทองและส่งไปให้ “เทพเจ้า” ถ้าหากอาการของพวกเขารุนแรงกว่านั้น พวกเขาก็จะไปหาหมอผีหรือคนที่มีความเชื่อในเรื่องแบบนั้น ความจริง คนแบบนั้นสามารถหาเจอได้ตามหมู่บ้านใกล้เคียง

 

การรักษาสำหรับคนไข้คิวแรกๆเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะแต่ละคนมาด้วยอาการป่วยเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แล้วในที่สุดก็ถึงตาของอาเฟิง

 

“หมอหวัง ขอโทษที่ต้องมารบกวนหมออีกแล้วนะครับ” อาเฟิงพูด

 

“เกรงใจเกินไปแล้วครับ” หวังเย้าพูด “คุณรู้สึกดีขึ้นบ้างไหมครับ?”

 

“ครับ ตอนนี้ ผมเริ่มเดินได้ดีขึ้นแล้ว” อาเฟิงพูด

 

“ดีครับ มาครับ ผมขอตรวจดูหน่อย” หวังเย้าพูด

 

หลังจากที่ตรวจอาเฟิงเสร็จแล้ว หวังเย้าก็ใช้การรักษาเหมือนเช่นครั้งก่อน อันดับแรก เริ่มด้วยการฝังเข็ม ขั้นที่สอง เขาได้ใช้การนวดไปตามจุดฝังเข็มเพื่อขับเลือดที่คั่งค้างอยู่ การรักษานี้ดำเนินไปอย่างช้าๆและใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง

 

“โอเค เรียบร้อยแล้วครับ” หวังเย้าพูด “อีกสองวัน ให้กลับมาอีกครั้งนะครับ”

 

“ขอบคุณครับ” อาเฟิงพูด

 

ครั้งนี้ ทัศนคติที่ลูกชายของอาเฟิงมีต่อหวังเย้าได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาสามารถเห็นพัฒนาการของพ่อเขาจากการรักษากับหวังเย้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งทุกอย่างคือความจริง ความรู้สึกดูถูกที่มีต่อหวังเย้าได้จางหายไป และกลับกลายมาเป็นความขอบคุณที่ล้นเหลือแทน เมื่อเทียบกับสุขภาพพ่อของเขาแล้ว เงินไม่ได้สำคัญอะไรเลยสักนิด

 

“เดินทางปลอดภัยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

คนไข้คนต่อมาเป็นหญิงสาวในวัย 20

 

“หมอคะ ฉันคิดว่า ร่างกายของฉันมีปัญหาค่ะ” หญิงสาวที่ดูดีแต่กลับดูมีท่าทีจริงจังอย่างมาก

 

“ปัญหาอะไรครับ?” หวังเย้าถาม

 

ด้วยการดมกลิ่นที่เขาใช้ ทำให้เขาบอกได้ว่า ร่างกายของหญิงสาวรายนี้แข็งแรงดี

 

“ร่างกายของฉันไม่แข็งแรงค่ะ” เธอพูด

 

“คุณรู้สึกไม่สบายเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“เวลาที่เดินๆอยู่ ฉันจะรู้สึกว่า กระดูกที่เข่าของฉันมันลั่น แล้วเหมือนว่ามันจะแตกได้ตลอดเวลาเลยค่ะ” เธอพูด

 

“เหรอครับ?” หวังเย้ารู้สึกงุนงงเล็กน้อย

 

“แล้วเวลาที่ฉันเคลื่อนไหวร่างกาย มันก็จะมีเสียงกระดูกดังออกมาด้วย เหมือนว่า กระดูกกำลังจะแตกอย่างนั้นเลยค่ะ” เธอพูด “ดูตรงนี้สิคะ! เส้นเลือดกำลังนูนออกมา มันจะระเบิดไหมคะ?”

 

จากการที่ได้ฟังหญิงสาวพูดมานั้น หวังเย้าจึงคิดว่า เธอคนนี้น่าจะมีอาการหวาดระแวง อาการของเธอนั้นคล้ายกับเฉินโจว แต่ก็มีความต่างกันอยู่ เพราะร่างกายของเธอไม่ได้มีปัญหาอยู่จริงๆ

 

“คุณเริ่มรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ประมาณอาทิตย์ที่แล้วค่ะ” เธอพูด

 

“แล้วเวลานอนเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ฉันนอนหลับไม่ค่อยสนิทค่ะ บางครั้ง ฉันก็ฝันว่าตัวเองกำลังเดินอยู่บนถนน แล้วอยู่ๆขาทั้งสองข้างของฉันก็หัก แล้วมีเลือดสาดกระจายไปทุกทางเลยค่ะ” เธอพูด

 

“ร่างกายของคุณมีปัญหาครับ” หวังเย้าพูด

 

“จริงเหรอคะ?” เธอถาม

 

“ผมจะเอายาให้คุณไปกินนะครับ หลังจากที่กินเข้าไปแล้ว คุณก็จะรู้สึกดีขึ้นมาก” หวังเย้าพูด

 

“ดีเลยค่ะ” เธอพูด

 

หวังเย้าจ่ายยาให้เธอในทันที การทำงานหลักของยาตัวนี้คือการสงบจิตใจของเธอ มันยังมีส่วนผสมของดอกแสงจันทร์อยู่ด้วย

 

“นี่เป็นวิธีการกินนะครับ”

 

“หมอคะ ตอนที่ฉันเดิน เส้นเลือดของฉันจะแตกไหมคะ?”

 

“หลังกินยาไปแล้ว คุณก็จะหายครับ”

 

“ดีเหลือเกินค่ะ” เธอพูด

 

ส่วนค่ายานั้น หวังเย้าเก็บเงินเธอไป 1,000 หยวน หญิงสาวไม่ลังเลที่จะจ่ายเลยแม้แต่น้อย

 

“หมอหวัง ผู้หญิงคนนั้นป่วยจริงเหรอ?” คนไข้ที่ยังรอคิวอยู่ถาม

 

“ครับ เธอมีอาการหวาดระแวงครับ” หวังเย้าพูด

 

“อ่อ หมอช่วยตรวจให้ฉันหน่อยนะ ช่วงนี้ฉันปวดหัวมากเลย” คนไข้พูด

 

หวังเย้าตรวจคนไข้ไปตลอดทั้งเช้า แม้แต่ข้าวกลางวันเขาก็ไม่มีเวลากลับไปทานที่บ้าน ในที่สุด คนไข้ก็หมดลง ดังนั้น เขาจึงแขวนป้ายเอาไว้ที่ประตู แล้วจึงกลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานเพื่อปลูกต้นไม้ต่อ เมื่อเขากำลังจะออกไป ก็มีคนข้ามาเพิ่มอีก เขาจึงยุ่งไปจนกระทั่งถึงบ่ายสี่โมง และรักษาคนไข้ที่มาในตอนบ่ายไปทั้งหมด 12 คน

 

เมื่อเขาทำความสะอาดคลินิกอยู่นั้น จางซิวหยิงก็เดินเข้ามา

 

“แม่” หวังเย้าพูด

 

“วันนี้ ที่คลินิกคงจะยุ่งมากสินะ” เธอพูด “แล้วลูกได้กินข้าวกลางวันรึยัง?”

 

“ยังเลยครับ วันนี้ มีคนมาหาหมอกันหลายคนเลย” หวังเย้าพูด

 

“ลูกหิวไหมจ๊ะ?” เธอถาม

 

“ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอกครับ” หวังเย้าพูด

 

ด้วยร่างกายในปัจจุบันของหวังเย้านั้น ถ้าหากเขาไม่ได้กินอาหารสักสามวันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาเลยด้วยซ้ำ

 

“แม่จะทำความสะอาดให้เอง” แม่ของเขาพูด “ลูกกลับบ้านไปกินข้าวเถอะ”

 

“แม่ไม่ต้องทำหรอกครับ ผมทำเกือบจะเสร็จแล้ว” หวังเย้าพูด

 

เขาจัดการทำความสะอาดจนเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว และกลับบ้านไปกินข้าวกับแม่ของเขา

 

“ลูกจะขึ้นไปปลูกต้นไม้บนเขาอยู่เหรอ?” จางซิวหยิงถาม

 

“ครับ ผมจะไปปลูกเพิ่มอีกสักหน่อย” หวังเย้าพูด

 

“พรุ่งนี้ แม่กับพ่อจะไปช่วยด้วยนะ” แม่ของเขาพูด

 

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมทำเองได้” หวังเย้ายิ้ม “อ้าว แล้วพ่ออยู่ไหนล่ะครับ?”

 

“เขาออกไปแช่น้ำร้อนน่ะสิ” แม่ของเขาพูด

 

หวังเย้างงไปครู่หนึ่ง “พ่อไปที่หมู่บ้านหลี่เจียโกวเหรอครับ?”

 

“ใช่จ๊ะ เขาไปกับเฟิงเต๋อ ลุงเหลียนหลี่ได้บัตรเข้าน้ำพุร้อนมา ก็เลยแบ่งมาให้พวกเราด้วยน่ะสิ” จางซิวหยิงพูด “พ่อเขาเห็นว่า มันมีเวลากำหนดด้วย พอดีวันนี้เขาก็ไม่มีอะไรทำ เขาก็เลยชวนคนอื่นไปที่นั่นด้วยกันกับเขาน่ะจ๊ะ”

 

“แล้วทำไมพ่อไม่พาแม่ไปด้วยล่ะครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ถ้าแม่ไปกับพ่อ แล้วจะให้แม่ไปทำอะไรที่นั่นล่ะ?” แม่ของเขาพูด “แม่ไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกนะ”

 

หวังเย้าไม่ได้ขึ้นไปบนเขา แต่อยู่ช่วยแม่ของเขาทำความสะอาดอยู่ที่บ้านแทน

 

เวลา 5 โมงเย็น หวังเฟิงฮวาก็กลับมาถึงที่บ้าน

 

“พ่อ น้ำพุร้อนเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ก็ดีนะ แต่มันร้อนไปหน่อย แล้วก็ไม่สบายเท่าเวลาที่ลูกนวดให้ด้วย” หวังเฟิงฮวาพูด

 

“อ่อ แล้วบ้านช่องแถวนั้นเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ก็ไม่เลวนะ แต่บัตรเข้าแพงไปนิด” หวังเฟิงฮวาพูด “แล้วที่นั่นยังมีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่นั่นมีแลงชนิดพิเศษอยู่ด้วยล่ะ เวลาที่ถูกมันกัด คนก็จะตายเร็วมาก ตอนนี้ มีคนตายไปแล้วสองคน”

 

“แมลงชนิดพิเศษเหรอครับ?” หวังเย้าให้ความสนใจขึ้นมาในทันที

 

“พ่อไปได้ยินมาจากคนที่ทำงานที่นั่นมาน่ะ” หวังเฟิงฮวาพูด “มันจะเป็นแมลงแบบเดียวกับที่หมู่บ้านของเรารึเปล่า?”

 

“มันก็พูดยากนะครับ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ผมกังวลเหมือนกัน” หวังเย้าพูด

 

จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังคิดไม่ออกว่า ทำไมแมลงแปลกๆพวกนั้นถึงไปอยู่บนเขาแบบนั้นได้

 

“อืม ถ้าลูกมีโอกาสก็ลองไปดูสักหน่อยก็ดีนะ” หวังเฟิงฮวาพูด

 

“พ่ออย่าเพิ่งไปที่นั่นเลยนะครับ” หวังเย้าพูด “ถ้าจะไป พ่อก็เอาถุงที่ผมให้ไว้ไปด้วย”

 

“แม่กับพ่อเอาติดตัวไว้ตลอดเวลาอยู่แล้ว” หวังเฟิงฮวาพูด

 

หวังเย้าทำถุงเล็กๆที่ใส่หญ้าพิษเอาไว้ให้พ่อกับแม่ของเขา หญ้าพิษสามารถขับไล่แมลงพิษ ทั้งงู, ตุ๊กแก, และแมลงสาบล้วนไม่กล้าเข้าใกล้

 

หลังจบมื้อเย็น เขาก็นวดให้พ่อกับแม่ของเขาทีละคน

 

“ไม่ต้องนวดให้พ่อเขาหรอก เขาเพิ่งจะไปแช่น้ำพุร้อนมานี่” จางซิวหยิงยิ้ม

 

ในตอนเย็น หวังเย้าก็กลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน ซานเซียนรับหน้าที่ขนย้ายต้นไม้และคาบมาไว้ข้างหลุมที่หวังเย้าได้ขุดเอาไว้แล้ว

 

“อืม ทำดีมาก ซานเซียน” หวังเย้ายิ้มและตบหัวของมัน

 

โฮ่ง! โฮ่ง!

 

“เอาล่ะ มาปลูกต้นไม้กันเถอะ” หวังเย้าพูด

 

โฮ่ง!

 

ในคืนนั้น หนึ่งคนและหนึ่งสุนัขเริ่มลงมือปลูกต้นไม้อยู่บนเนินเขา พวกเขาทำงานอย่างว่องไวและไม่นาน ก็มีต้นไม้โผล่ขึ้นมาเพิ่มอีกสองแถว พวกเขาทำงานไปจนถึงสี่ทุ่ม

 

เช้าวันต่อมา พระอาทิตย์ขึ้นมาแต่เช้าตรู่ หวังเย้ามองเห็นเวินหว่านลัลูกชายของเธอกำลังเดินเล่นอยู่ด้านนอก

 

ภายในหมู่บ้านกลางเขาแห่งนี้ มีต้นไม้ขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ อาการจึงดีเป็นพิเศษ อาการของเวินหว่านก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้รักษามาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว เธอก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเธอ เธอมีความกระฉับกระเฉงและสดชื่นขึ้น แล้วเธอยังกินอิ่มนอนหลับดีอีกด้วย

 

“หมอหวัง” เวินหว่านพูด

 

“ออกมาเดินเล่นเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ใช่ค่ะ” เวินหว่านพูด

 

“คุณดูแข็งแรงดีนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ค่ะ ฉันรู้สึกว่า ร่างกายของฉันแข้งแรงขึ้นมากเลย” เธอพูด

 

ขี้ผึ้งต้วนชื่อมีคุณสมบัติที่วิเศษมากก็จริง แต่มันก็ถือว่ามีราคาแพงมาก