[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 359 : ล้างบางเมืองจิงฉู (8) – ประกาศสงคราม!
ก่อนที่หลิงหยุนจะเดินกลับไปยืนที่เดิมนั้น เขาก็ได้ผลักหลันเจิ้งเหอล้มลงกระแทกพื้นอีกครั้ง!
รูปร่างผอมแห้งของหลันเจิ้งเหอนั้นไม่อาจทานทนต่อแรงผลักของหลิงหยุนได้ จึงกระเด็นล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง และคล้ายกับว่าอัวยวะภายในของเขาจะสะเทือนจนสลับที่สลับทางกันไปหมด ก่อนจะกระอักออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง
หลิงหยุนหันไปมองยอดฝีมือวัยกลางคน พร้อมกับแสยะยิ้มให้และพูดขึ้นว่า “เห็นแก่คนแซ่เหอที่ยอมจ่ายเงินซื้อชีวิตเจ้า ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะมีโอกาสได้พูดอีกเลย!”
ยอดฝีมือวัยกลางคนได้ยินเช่นนั้น จึงได้แต่แอบดีใจอยู่ลึกๆ ว่าในที่สุดเขาก็สามารถรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ดีใจอะไรมากมาย ร่างของหลิงหยุนก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
และเมื่อได้เห็นรอยยิ้มหยันของหลิงหยุน ชายวัยกลางคนก็ถึงกับตกใจจนสั่นไปทั้งตัว “ข้าได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ เงินเจ้าก็เอาไปแล้ว นี่เจ้ายังจะ..?!”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “เจ้าลืมคำพูดของตัวเองแล้วรึไง? คนอ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแรงกว่า! เจ้าไม่ต้องกลัว.. ในเมื่อข้ารับปากแล้วว่าจะไม่ฆ่าเจ้า ข้าก็จะไม่ฆ่า!”
ปัง.. ปัง.. ปัง..
หลิงหยุนไม่รู้ว่าชายวัยกลางคนผู้นี้มีกำลังภายในอยู่ในขั้นใหนกันแน่ แต่จากจากฝ่ามือพิษที่ปะทะกับหมัดปีศาจเถียนกังของเขานั้น หากเขาไม่โคจรดารกะดายันป้องกันไว้ ตัวเขาเองก็อาจบาดเจ็บได้เช่นกัน
และถึงแม้ชายวัยกลางคนจะโดนหมัดปีศาจเถียนกังที่เขาชกไปอย่างสุดกำลังถึงสองครั้ง แต่เขากลับดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเท่าที่ควร หลิงหยุนจึงคิดว่ายอดฝีมือวัยกลางคนผู้นี้น่าจะเข้าใกล้ขั้นเซียงเทียนแล้ว!
หลิงหยุนไม่ต้องการปล่อยยอดฝีมือที่มีกำลังภายในสูงส่งแบบนี้เพื่อให้สามารถกลับมาแว้งกัดเขาได้อีก อีกทั้งเขามาที่นี่ก็เพื่อแก้แค้น และถอนรากถอนโคนพวกมันด้วย!
เมื่อครั้งที่ปะทะกับหมัดของหลิงหยุนสองครั้งแรกนั้น ยอดฝีมือวัยกลางคนผู้นี้ได้ใช้กำลังภายในของตนเองต้านทานหมัดของหลิงหยุนได้ แต่ตอนนี้เขากำลังได้รับบาดเจ็บ จึงไม่สามารถต้านทานหมัดของหลิงหยุนได้อีกต่อไป
หมัดของหลิงหยุนที่ชกตรงเข้าจุดตันเถียนของชายวัยกลางคนสองครั้งนั้น ทำให้เขาถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้น และหมัดที่สามนั้น ชายวัยกลางคนก็ถึงกับกระอักออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง!
เมื่อหมัดทั้งสามของหลิงหยุนได้ทำลายจุดตันเถียนของชายวัยกลางคน พร้อมกับทำให้กระดูกซี่โครงของเขาที่หักอยู่แล้วถึงกับแตกละเอียด หลิงหยุนจึงค่อยหยุด!
ทุกคนต่างก็มองชายวัยกลางคนที่กำลังหายใจรวยรินคล้ายคนกำลังใกล้ตาย ร่างของเขาในตอนนี้อ่อนปวกเปียกไม่ต่างจากโคลนนุ่มนิ่ม
“เจ้าเคยทำให้คนอื่นต้องเหมือนตายทั้งเป็น! วันนี้ข้าจะให้เจ้าตกอยู่ในสภาพตายทั้งเป็นแบบเดียวกันดูบ้าง!”
หลิงหยุนเพียงแค่เหลือบตามอง.. จากนั้นเสียงฟิ้ว.. ฟิ้ว.. ก็ดังขึ้น และเข็มเล่มใหญ่ก็พุ่งออกจากมือของหลิงหยุนเข้าสู่ดวงตาทั้งสองข้างของยอดฝีมือวัยกลางคน!
อ๊าก!!
ชายวัยกลางคนกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเข็มสองเล่มพุ่งเข้าใส่ดวงตาทั้งสองข้างของเขา และเป็นลมล้มพับไปในที่สุด!
“ข้า.. ข้าไม่ได้ทำอะไร.. ข้าเพียงแค่ติดตามเขามา..” ชายที่มีชื่อว่าฉางหมาเหลี่ยนมองหลิงหยุนด้วยความหวาดผวาพร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
เขารู้สึกราวกับกำลังอยู่ต่อหน้าเทพแห่งปีศาจที่ผุดมาจากขุมนรก และเมื่อหลิงหยุนเดินเข้าไปใกล้ เขาถึงกับตกใจกลัวจนต้องลุกขึ้นนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น
“เจ้าช่วยเจ้าคนชั่วนั่นทำเรื่องเลวร้าย!” หลิงหยุนพุ่งเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าของฉางหมาเหลี่ยนอย่างรวดเร็ว และยกเท้าถีบเข้าไปที่จุดตันเถียนของเขาอย่างไม่ปราณี
อ๊าก..!!
จุดตันเถียนของฉางหมาเหลี่ยนถูกทำลาย และแรงถีบที่รุนแรงทำให้เขาถึงกับกระอักเลือดออกมา!
“ร้านนั่นข้าใช้เงินลงทุนตกแต่งไปมากมาย ได้เวลาที่ข้าต้องเอาคืนแล้ว!”
หลิงหยุนไม่ยอมยกโทษให้ เขาใช้เท้ากระทืบขาทั้งสองข้างของฉางหมาเหลี่ยนจนแตกละเอียด!
แกร๊บ.. แกร๊บ..
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของฉางหมาเหลี่ยนดังจนน่าสยดสยอง และในที่สุดเขาก็เป็นลมล้มลงไปที่พื้นอีกคน
กลุ่มคนเซียงซีที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างก็พากันหวาดกลัวสุดขีด ทุกคนต่างก็กลัวว่าหลิงหยุนจะตรงมาที่พวกเขาคนใดคนหนึ่งอีก..
คนเซียงซีที่เหลือนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคนธรรมดาไม่มีวรยุทธ และไม่ใช่คนต้นเรื่อง หลิงหยุนจึงแค่กวาดตามองพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า
“พวกเจ้าเป็นแค่ลูกน้อง ในเมื่อมีคนชดใช้หนี้แทนแล้ว ข้าก็ไม่อยากให้พวกเจ้าต้องเจ็บตัวมากไปกว่านี้”
พูดจบ.. หลิงหยุนก็เดินตรงเข้าไปยืนตรงหน้าหลันเจิ้งเหอ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ฟังนะ! นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าให้โอกาสเจ้า หากเจ้ายังกล้ากลับมาทำมาหากินที่นี่อีก ข้าหลิงหยุนจะไม่ปราณีเจ้าแน่! และถ้าเจ้าคิดจะหายอดฝีมือมาจัดการกับข้า หรือทำร้ายแฟนสาวของข้าอีกล่ะก็ อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมก็แล้วกัน!”
หลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ไปที่หัวมุมถนนทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ฟังนะ! ข้าจะเปิดคลีนิคอยู่ที่เดิม และจะไม่ย้ายไปใหนแน่ หากเจ้าคิดจะกลับมาแก้แค้น ก็มาได้เลย ข้าจะคอย!”
“แต่ถ้าเจ้าจะกลับมาแก้แค้นข้าเป็นครั้งที่สาม แล้วไม่สามารถเอาชนะข้าได้แล้วล่ะก็ เจ้าจงจำไว้ให้ดีว่า ถึงเวลานั้น.. เงินจำนวนมากแค่ใหนก็ยากที่จะรักษาชีวิตของเจ้าไว้ได้! เข้าใจแล้วใช่ไม๊?”
หลันเจิ้งเหอตกใจกลัวมากและได้แต่พยักหน้าหงึกๆ “ขะ.. เข้าใจ ข้าเข้าใจ! ข้าไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้วจริงๆ!”
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยและพูดต่อว่า “ตอนนี้ร้านก็กลายเป็นของข้าแล้ว พวกเจ้าไสหัวออกไปได้! ข้าให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งชั่วโมงสำหรับเดินทางออกจากเมืองจิงฉู พวกเจ้าจะใช้วิธีใหนก็แล้วแต่.. หลังจากนั้น หากให้ข้าพบเข้า พวกเจ้ามีทางเลือกเดียวคือความตาย..!”
พูดจบ.. หลิงหยุนก็ยกมือชี้ไปที่บันได้พร้อมกับร้องสั่งว่า “ไสหัวไป!!”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ส่งกระแสจิตบอกเจ้าขาวปุยให้คลายวิชาพรางตา ไม่เช่นนั้นคนพวกนี้จะหาทางออกไม่พบ..
กลุ่มคนเซียงซีที่แสนจะยะโสโอหัง.. ต่างก็ไม่มีใครสนใจความเจ็บปวดหรืออาการบาดเจ็บอีกเลย พวกมันต่างช่วยกันแบกคนที่บาดเจ็บออกไป และช่วยกันลากหลันจิ้งเหอออกจากร้านเสื้อผ้าของตัวเอง เพื่อกลับไปยังบ้านเกิด!
ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและขนหัวลุกกับความดุร้ายของหลิงหยุน! แล้วยังจะมีใครกล้าคิดเรื่องกลับมาแก้แค้นได้อีก?
เหล่ากุ่ยที่เห็นเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ ได้แต่แอบยิ้มมุมปาก พร้อมกับคิดอยู่เงียบๆว่า ‘นายน้อยแห่งตระกูลหลิงผู้นี้ ช่างเป็นความหวังและเป็นอนาคตของตระกูล! บุตรชายของคุณชายสามคนนี้ ช่างเป็นผู้ที่มีนิสัยประหลาดและคาดเดาได้ยากยิ่งนัก!’
หากหลิงหยุนกลับไปเมืองหลวงเมื่อไหร่ ทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างแน่นอน อีกทั้งนายผู้เฒ่าหลิงจะได้หลุดพ้นจากวันเวลาที่แย่ๆเสียที..
แต่จะว่าไปแล้ว.. หลิงหยุนก็ไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอะไร เห็นได้ชัดว่า กับคนธรรมดาที่ไม่มีวรยุทธ เขาก็เพียงสั่งสอนพอหอมปากหอมคอ อีกทั้งยังไม่ได้ลงมือสังหารใครแม้แต่คนเดียว
มีเพียงยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 และยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-5 ที่ถูกเขาทำลายวรยุทธ ส่วนชายวัยกลางคนแม้จะถูกทำให้ตาบอดด้วย แต่อาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่ถึงอาทิตย์ก็หาย นั่นนับว่าเป็นโชคดีมากแล้ว!
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับหลิงหยุนมากที่สุดเท่าที่เหล่ากุ่ยสังเกตุเห็น นั่นก็คือนายน้อยของเขาดูเหมือนจะชื่นชอบเงินอย่างมาก!!
เพียงแค่เวลาชั่วประเดี๋ยวเดียว.. ห้องแถวสองชั้นที่มีพื้นที่กว้างขวาง และมีมูลค่ามากกว่ายี่สิบล้านก็ตกเป็นของหลิงหยุนแล้ว! ถ้าหากเปรียบเป็นโจร เขาก็เป็นโจรที่สามารถปล้นเงินได้ภายในเวลาที่รวดเร็วมาก!
เหล่ากุ่ยอดนึกถึงเด็กหนุ่มเพลย์บอยที่อยู่เมืองหลวงไม่ได้.. เด็กหนุ่มพวกนั้นเอาแต่รังแกคนอื่นไปวันๆ ไม่ว่าชายหรือหญิง ไม่สามารถเทียบกับนายน้อยที่อยู่ตรงหน้าของเขาคนนี้ได้เลยแม้แต่น้อย..
เหล่ากุ่ยเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า หากหลิงหยุนได้กลับไปตระกูลหลิง ตระกูลหลิงจะต้องพ้นจากความทุกข์ที่เกิดจากความอัปยศได้อย่างแน่นอน และเขาจะสามารถนำความแข็งแกร่งกลับมาให้กับตระกูลหลิงได้..
หลิงหยุนมีวรยุทธที่น่าอัศจรรย์ เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของหลิงหยุนคือ.. การฉวยโอกาส!
หากหลิงหยุนอยู่ในฐานทายาทตระกูลหลิง จะยิ่งทำให้หลิงหยุนน่าเกรงขามเพียงใด?
ตอนนี้เหล่ากุ่ยได้เห็นแล้วว่า มีอย่างหนึ่งที่หลิงหยุนไม่เหมือนคุณชายสามเลยแม้แต่น้อย! นั่นก็คือ.. นายน้อยผู้นี้ดูเหมือนจะไม่อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์อะไรทั้งนั้น หากเขาไม่แยแสกฏเกณฑ์เช่นนี้ ใครก็บังคับอะไรเขาไม่ได้!
แต่นิสัยข้อนี้ของหลิงหยุนกลับเหมือนแม่แท้ๆของเขามาก เมื่อเหล่ากุ่ยนึกถึงแม่ของหลิงหยุน เขาก็ได้แต่แอบถอนหายใจอย่างเงียบๆ
หลิงหยุนยืนชื่นชมร้านเสื้อผ้าที่เพิ่งจะตกเป็นของเขาอยู่ครู่หนึ่ง และดูเหมือนเขาจะพอใจมาก เพราะผู้จัดการหวังเองก็ทำธุรกิจเสื้อผ้าสำหรับชนชั้นสูงจนร่ำรวย
“พวกเราไปที่คลีนิคกันดีกว่า! น่าจะต้องตกแต่งใหม่หมด พวกโง่นั่นคงทำลายซะเละไปหมดแล้ว!”
หลิงหยุนร้องบอกเหล่ากุ่ยและตู้กู่โม่ที่ดูหน้าตาเบื่อหน่าย ทั้งหมดเดินลงบันไดไปด้านล่าง แล้วจึงข้ามถนนไปที่คลีนิคฝั่งตรงข้ามพร้อมเจ้าขาวปุย
“แย่ชะมัด.. นี่คงต้องตกแต่งใหม่หมด!” หลิงหยุนพึมพำอย่างเสียดาย ในขณะที่เหล่ากุ่ยกับตู้กู่โม่เดินตามมาข้างหลัง
แต่เมื่อหลิงหยุนเดินไปถึงกลางถนน จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ จ้องมองกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านบนพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
เหล่ากุ่ยและตู้กู่โม่ที่เดินตามหลังมา ได้แต่หยุดตามและมองหลิงหยุนอย่างงงๆ เพราะไม่รู้ว่าหลิงหยุนต้องการทำอะไรกันแน่?!
หลิงหยุนยกมือขวาที่เปื้อนเลือดชี้ไปที่กล้องวงจรปิดพร้อมกับยิ้มยะเยือก!
“เหลาจ้ง.. ข้าหลิงหยุนกลับมาแล้ว เจ้าอยากจับข้าไม่ใช่เหรอ? ถ้ามีปัญญาก็มาจับได้เลย!”
พูดจบ.. หลิงหยุนก็เอามือไขว้หลังแล้วเดินตรงไปที่คลีนิค