ตอนที่ 1287 มาที่ผาสุดสวรรค์อีกครั้ง (5)
“เหตุผลที่สิบสองวิหารต้องแอบค้นหาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดก็เพราะกองทัพราตรีนี่แหละ กองทัพราตรีจงรักภักดีต่อจักรพรรดิแห่งความมืดเพียงผู้เดียวเท่านั้น ถ้าพวกเขารู้ว่าสิบสองวิหารจ้องจะเอาสมบัติในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดล่ะก็ พวกเขาต้องออกจากรังมาทำลายพวกนั้นแน่ๆ ข้าคิดว่าแม้แต่สิบสองวิหารก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับกองทัพราตรีตรงๆหรอก” หรงรั่วพูด
ราชอาณาจักรแห่งความมืดเป็นตำนานแม้กระทั่งในอาณาจักรกลาง และคนที่สร้างตำนานนี้ขึ้นมาก็คือจักรพรรดิแห่งความมืด
ชายผู้มีอำนาจมากจนทำให้ทุกคนทั่วอาณาจักรกลางต้องก้มหัวคำนับเรียกขานเขาว่าจักรพรรดิ!
“อึก……พวกเจ้าว่า ถ้ากองทัพราตรีรู้ว่าพวกเราบุกเข้าไปในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด พวกเขาจะ……” เฉียวฉู่พูดพร้อมกับกลืนน้ำลายเสียงดัง เขายกมือขึ้นทำท่าปาดคอตัวเอง
เผชิญหน้ากับสิบสองวิหาร พวกเขาไม่กลัว แต่ถ้าเป็นกองทัพราตรี……
“เรามาถึงจุดที่คิดมากเกินไปไม่ได้แล้ว แค่ระมัดระวังในทุกๆฝีก้าวให้ดีก็แล้วกัน” ฮัวเหยาพูดพร้อมกับถอนใจ ถ้าเป็นไปได้ พวกเขาก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับกองทัพราตรีเลย
ดวงตาของจวินอู๋เสียเข้มขึ้นเล็กน้อย นางไม่รู้จักอาณาจักรกลางดีนัก แต่จากที่เฉียวฉู่กับคนอื่นๆพูด ก็บอกได้ไม่ยากว่ากองทัพราตรีนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
จวินอู๋เหยามองสีหน้ากังวลของจวินอู๋เสีย ในแววตาของเขามีประกายรอยยิ้มอยู่บางๆ
เย่เหม่ยกับเย่ฉายืนเงียบอยู่ด้านข้าง พยายามระงับความภาคภูมิใจในใจของพวกเขา
[เจ้าเด็กน้อยทุกคน พวกเจ้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลว่าราชอาณาจักรแห่งความมืดหรือกองทัพราตรีจะมาแก้แค้นเลยสักนิด!]
[ก็จักรพรรดิแห่งความมืดเป็นคนพาพวกเจ้าไปขุดสุสานของ ‘เขา’ ด้วยตัวเอง! ต่อให้ราชอาณาจักรแห่งความมืดรู้เรื่องนี้เข้า ก็ไม่มีใครทำอะไรพวกเจ้าหรอก พวกเขาจะโห่ร้องยินดีต้อนรับนายท่านเจว๋กลับราชอาณาจักรด้วยความดีใจอย่างที่สุดต่างหาก!]
[นอกจากนั้น มีนายท่านเจว๋อยู่ด้วย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเข้าไปในสุสานเลย ต่อให้พวกเจ้ากวาดสมบัติออกมาจนหมดเกลี้ยง ก็ไม่มีใครในราชอาณาจักรแห่งความมืดกล้าเอ่ยปากสักคำเดียว!]
ชายสองคนที่รู้ความจริงเบื้องหลังทั้งหมด ไม่กล้าที่จะพูดอะไรเลยสักคำ ได้แต่เก็บมันเอาไว้กับตัว อึดอัดจนเกือบจะบาดเจ็บภายในอยู่แล้ว
พวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าในใจของนายท่านเจว๋ของพวกเขาเป็นยังไงขณะที่พาคุณหนูและเพื่อนๆของนางไปขุดสุสานของตัวเอง……
ทั้งสองไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปิดปากเงียบ พยายามระงับความรู้สึกในใจ
หลังจากพักผ่อนสั้นๆ ทุกคนก็กลับขึ้นไปบนรถม้าเพื่อเดินทางต่อไปยังผาสุดสวรรค์ ห้าวันผ่านไปในพริบตา พวกเขาได้มาถึงผาสุดสวรรค์อีกครั้ง มันแตกต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างมาก
ที่หน้าผาสูงชันด้านหลังป่าทึบ มีกลิ่นเลือดคาวคลุ้งโชยอยู่ในอากาศ กลิ่นคาวเลือดแรงมากจนแทบหายใจไม่ออก พื้นดินเปลี่ยนเป็นสีแดงจากเลือดที่ไหลออกมา ศพคนกระจัดกระจายไปทั่ว เสียงการต่อสู้ยังดังอยู่ที่ขอบหน้าผาอย่างต่อเนื่อง
กลิ่นเลือดทำให้ม้าที่กำลังวิ่งอยู่รู้สึกถึงอันตราย พวกมันจึงชะลอความเร็วลง
ความเร็วของรถม้าช้าลงจนกลายเป็นคลาน จวินอู๋เสียที่งีบหลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมา นางลืมตาขึ้นเล็กน้อย กลิ่นเลือดรุนแรงโชยเข้าจมูกนางทันที นางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ตื่นแล้วหรือ?” จวินอู๋เหยาดูราวกับไม่ได้รับรู้อะไรที่อยู่ข้างนอกเลย เขามองจวินอู๋เสียด้วยรอยยิ้ม
“เกิดอะไรบางอย่างที่ข้างนอก” จวินอู๋เสียพูด กลิ่นเลือดเป็นกลิ่นที่นางคุ้นเคย
“ให้เย่ฉากับเย่เหม่ยไปจัดการก็ได้” จวินอู๋เหยาพูดยิ้มๆ หลังจากลงไปที่ด้านล่างของผาสุดสวรรค์ พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้พักผ่อนมากนัก และเขาไม่อยากให้ใครหรืออะไรมาขัดขวางการพักผ่อนของจวินอู๋เสีย
เย่ฉากับเย่เหม่ยที่อยู่ด้านนอกรถม้าไปสำรวจสถานการณ์ทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง ไม่นานพวกเขาก็กลับมา
แต่สีหน้าของเย่ฉานั้นดูราวกับปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
“คนสองกลุ่มจากสิบสองวิหารกำลังต่อสู้กันอยู่ข้างหน้าขอรับ” เย่เหม่ยรายงานอย่างเคร่งขรึม