บทที่ 435

บทที่ 435

เจี๋ยนฟานยิงลูกศร 2 ดอกพร้อมกันโดยเล็งตรงไปที่หยวนยู่ ส่งมันพุ่งทะยานเข้าอกของเป้าหมายด้วยมุมพิสดารอย่างแม่นยำพร้อมเสียงหวีดหวิว

หยวนยู่เคยเห็นลูกศรปราณของหลีเทียนมาก่อน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันแตกต่างกันอย่างเทียบไม่ติด

ชายเลือดร้อนไม่กล้าที่จะประมาท เขาแผดเสียงคำรามปลดปล่อยพลังปราณออกมาต้านลูกศรเอาไว้ แต่ครั้งนี้หยวนยู่ประเมินพลังของคู่ต่อสู้ต่ำไป เมื่อดาบปราณปะทะเข้ากับเส้นแสงดำทมิฬที่เข้ามา ไม่เพียงจะปัดออกไม่ได้ ดาบปราณยังแตกละเอียดในพริบตา ปล่อยให้ลูกศรดำยังคงพุ่งเข้ามาหาโดยที่แรงปะทะไม่ได้ลดลงเลย

พลังรุนแรงอะไรแบบนี้ ! หยวนยู่กระโจนไปด้านข้าง แต่ราวกับว่าพวกลูกศรมีชีวิต พวกมันพากันเบนทิศทางเข้าไล่ล่าหยวนยู่ต่อไปราวกับอสรพิษร้าย !!

คราวนี้ไม่ต้องพูดถึงคนที่โดนยิงเลย แม้แต่ถังหยินที่เฝ้ามองจากด้านหลังก็ยังมีสีหน้าเปลี่ยนไปขณะที่เขาคิดว่าคราวนี้คับขันแล้ว อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไปสำหรับชายหนุ่มที่จะเข้าไปช่วยชีวิตอีกฝ่ายในตอนนี้

หากเป็นคนธรรมดาพวกเขาคงหลบไม่ได้ แต่หยวนยู่ไม่ใช่คนธรรมดา ปฏิกิริยาของเขารวดเร็วมาก ในพริบตาที่ลูกศรปราณเปลี่ยนทิศทาง หยวนยู่ก็พลันบิดตัวหลบไปอีกทาง พร้อมชักดาบปราณฟันเข้าใส่ลูกศรจากมุมเสย ทำให้ลูกศรกระเด็นขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะตกลงมาปักแน่นบนพื้น

ถ้ามองจากระยะไกลจะเห็นว่าหางลูกศรปักอยู่บนร่างของหยวนยู่ ก่อนที่ชายเลือดร้อนจะยกศอกขึ้นเล็กน้อยพร้อมเสียงลั่นดังกร๊อบ ทว่าแท้จริงแล้วภายในชั่วพริบตาที่ลูกศรกำลังจะผ่านตัวเขาไปนั้น หยวนยู่กลับใช้แขนหนีบลูกศรเอาไว้ข้างตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดี ก็จะเหมือนว่าเขาถูกลูกศรแทง

“ฝีมือใช้ได้ทีเดียว ! แต่ว่าลูกศรของเจ้ามีมากพอหรือเปล่าเล่า ?” หยวนยู่เก็บดาบกลับเข้าไปในฝัก จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองคู่ต่อสู้ของเขา

เจี๋ยนฟานอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเขาเห็นว่าหยวนยู่ไร้ซึ่งบาดแผลอย่างสิ้นเชิง

เขามีลูกศรถึง 8 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือโครงสร้างภายในพวกมันล้วนต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็ประกอบไปด้วย ศรปรภพ ศรกักวิญญาณ ศรล่าวิญญาณ ศรสลายวิญญาณ ศรรวมวิญญาณ ศรสยบวิญญาณ ศรวิญญาณมรณะ และศรสุดท้ายศรส่งวิญญาณ !

ลูกศรที่ยิงใส่จ้านหูก่อนหน้านี้คือศรปรภพ ส่วนที่ยิงใส่หยวนยู่ตอนนี้คือศรกักวิญญาณและศรล่าวิญญาณ !

…ในอดีตเมื่อเจี๋ยนฟานต่อสู้กับคนอื่น เขาจะไม่ค่อยใช้ศรล่าวิญญาณด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการยิงศรสองแบบในเวลาเดียวกัน แต่ในตอนนี้มันกลับไม่ได้ผลแม้แต่น้อย !!

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เจี๋ยนฟานเริ่มมีความสงสัยเกิดขึ้นในใจไม่น้อย…

เมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยของหยวนยู่ เจี๋ยนฟานพลันกัดฟันกรอดแล้วยื่นมือไปยังซองธนู ที่ภายในนั้นยังคงมีศรสลายวิญญาณ ศรสยบวิญญาณ ศรวิญญาณมรณะ และศรสุดท้ายศรส่งวิญญาณ เขากำหมัดแน่น จากนั้นจึงดึงศรส่งวิญญาณที่ถือเป็นลูกศรที่ทรงพลังที่สุดใน 8 ดอกออกมา

ในบรรดาลูกศรทั้ง 8 ดอก ศรลูกนี้ถือว่ามีรูปร่างธรรมดาที่สุดแล้ว ด้วยมันเป็นลูกศรสีทองราบเรียบ แต่ถ้ามองใกล้ ๆ จะเห็นว่าตัวลูกศรถูกปกคลุมไปด้วยเส้นบาง ๆ ที่ทำให้น้ำหนักของมันหนักกว่าลูกศรอีก 7 ลูกอย่างเห็นได้ชัด

เจี๋ยนฟานง้างสายธนูด้วยสองนิ้ว ทำให้หยวนยู่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากศรดอกนั้นตั้งแต่ที่ยังไม่ถูกยิงออกมา

เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายใช้พละกำลังเต็มที่แล้ว ดวงตาของหยวนยู่ก็พลันวาวโรจน์ เช่นเดียวกับหัวใจของเขาที่เต้นแรงจนเลือดในกายแทบระเบิดออก !!

ชายเลือดร้อนยืนนิ่งอยู่เช่นเดิม ก่อนจะชักดาบออกมา 2 เล่มแล้วปล่อยหมอกปราณเข้าไป เปลี่ยนให้มันกลายเป็นดาบยักษ์

“ศรส่งวิญญาณ !!” เจี๋ยนฟานกู่ร้องลั่น มือที่จับลูกศรส่งวิญญาณนั้นถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหมอกดำหนาแน่น ก่อนที่คมศรนั่นจะกลายเป็นกลุ่มไอสีดำทมิฬหนาแน่น !!

ฟิ้วววว !!

ศรส่งวิญญาณพุ่งทะยานด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด แต่เสียงของมันกลับสงบนิ่งราวกับสายลมอ่อน สมดั่งชื่อของมัน ที่ว่าทุกสิ่งที่ถูกยิงจะตายไปอย่างไร้ความเจ็บปวดทรมาน

หยวนยู่ล้มเลิกความคิดที่จะต้านรับมัน แต่กลับระเบิดพลังออกมามากกว่าเดิมด้วยหมายจะฟันศรนั้นให้สลายไป

หยวนยู่ฟันกระบี่ออกไปอย่างสุดกำลัง ทว่าเสียงปะทะกลับไม่ใช่เสียงแหลมอย่างที่มันควรจะเป็น หากแต่กลับเป็นเสียงอื้ออึงหนัก ๆ ที่ทำให้มวลอากาศผันผวนอย่างบ้าคลั่งแทน

เมื่อแสงสีดำและขาวปะทะกันครานี้ มันก็พลันทำให้ฟ้าดินปั่นป่วน เกิดพายุฝนที่รุนแรงราวกับวันสิ้นโลก จนแม้แต่พวกทหารของทั้งสองฝ่ายที่อยู่โดยรอบก็ยังรู้สึกเจ็บแก้วหู ทำให้พวกเขาหลายคนตัดสินใจโยนอาวุธในมือทิ้งก่อนทำการปิดหูขณะที่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เมื่อใบดาบและลูกศรปะทะกัน ลูกศรก็พลันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทว่ามันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก เพราะเศษลูกศรเหล่านั้นได้ทะลุผ่านดาบใหญ่ยักษ์ของหยวนยู่ไปแล้ว ก่อนที่มันจะพุ่งตรงเข้าหาร่างของชายเลือดร้อนจากทุกทิศทาง !!

การเปลี่ยนแปลงนี้กะทันหันเกินไป ไม่ต้องพูดถึงถังหยินและซ่งเทียนที่ไม่คุ้นเคยกับเจี๋ยนฟานเลย แม้แต่เสี่ยวชางที่เป็นผู้บังคับบัญชาของเจี๋ยนฟานก็ยังต้องตกตะลึง ด้วยมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเห็นอะไรแบบนี้

ในระยะที่แทบจะประชิดเช่นนี้ ชิ้นส่วนของศรส่งวิญญาณที่แตกออกถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดถึง อย่าว่าแต่ผู้มีขั้นพลังเก่งกล้าเลย แม้แต่เทพเซียนก็คงหลบการโจมตีเช่นนี้ไม่พ้น ดังนั้นแล้วจะนับประสาอะไรกับหยวนยู่ ?!

ชิ้นส่วนลูกศรทองนับพันชิ้นฝังลงบนร่างกายของหยวนยู่ ทำให้เกราะปราณของเขาเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีทอง

“บัดซบ !” แม่ทัพโดยรอบต่างมีใบหน้าซีดเซียวขณะที่เหงื่อเย็นไหลลงหน้าผาก พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเชื่อในสิ่งที่เห็นต่อหน้าตน …หยวนยู่ผู้ที่ทรงพลังมากเสียจนดูเหมือนเทพเจ้าสงครามอาจถึงแก่ความตายงั้นหรือ ?

สองพี่น้องตระกูลจ้านและคนอื่น ๆ ในเมืองจางหยูต่างก็พากันคิดว่าภาพตรงหน้ามันยากที่จะเชื่อยิ่ง และเมื่อหยวนยู่ถูกโจมตีด้วยชิ้นส่วนลูกศรวิญญาณจำนวนมากเช่นนี้ อีกฝ่ายคงยากแล้วที่จะเก็บรักษาลมหายใจสุดท้ายเอาไว้ได้ ….ตอนนี้ถ้าพวกเขาสู้กลับ ไม่แน่บางทีอาจตีตื้นไล่บี้ไปถึงเมืองหลวงได้ในคราวเดียวก็เป็นได้ !

อารมณ์ของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เจี๋ยนฟานที่อยู่ในสนามรบไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย ด้วยหัวใจของเขากลับจมดิ่งลงสู่ก้นเหว

เพราะถึงแม้หยวนยู่จะถูกโจมตีด้วยไม้เด็ดของเขาก็จริง แต่เจี๋ยนฟานกลับรู้สึกได้ว่าหยวนยู่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นก็คือแรงกดดันวิญญาณของอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าเดิม จนแม้แต่อากาศรอบ ๆ ยังถูกแช่แข็งจนทำให้หายใจไม่ออก !!!

?!!!

ภาพที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ทำให้ทุกคนโดยรอบประหลาดใจ พวกเขาต่างตาเบิกกว้างจ้องมองไปยังหยวนยู่ที่อยู่ใจกลางสนามรบ เช่นเดียวกับหัวใจของทุกคนที่เต้นรัวเร็วเสียจนแทบทะลุออกมาจากอก

ชายเลือดร้อนก้มศีรษะลงเพื่อมองดูร่างตน ก่อนจะสะบัดข้อมือพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปยังเจี๋ยนฟานที่ยืนอยู่ตรงข้าม จากนั้นจึงกะพริบตาและถามช้า ๆ ออกไปว่า “เจ้ายังมีไม้เด็ดมากกว่านี้อีกหรือไม่ ?”

“… ?” คำพูดของเขาทำให้เกิดความปั่นป่วนนอกเมืองจางหยู ด้วยหลังจากที่ถูกโจมตีจากเจี๋ยนฟาน ไม่เพียงแต่หยวนยู่จะยังไม่ตาย เขากลับยังยืนปากดีได้อยู่แบบนี้ นี่เขาใช่มนุษย์แน่หรือ ?

ซ่งเทียนเพิ่งจะตื่นเต้นและฝันถึงความรุ่งโรจน์ของตัวเองที่กำลังจะกลับมาได้ไม่ช้า ทว่ามันกลับหายไปอย่างสมบูรณ์ด้วยภาพตรงหน้า พร้อมกับปากของเขาที่เปิดกว้าง ราวกับว่าขากรรไกรของพวกเขาหลุดจากการควบคุมจนหล่นลงมากที่อก

ในขณะนี้หัวใจของเจี๋ยนฟานกำลังจมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นว่าหยวนยู่ไม่ได้รับอันตรายใด ! ภาพตรงหน้าทำเอาเขาไม่มีความปรารถนาที่จะต่อสู้อีกต่อไปแล้ว ด้วยแม้แต่ไพ่ใบสุดท้ายของตนก็ยังไม่สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ได้ !!

นี่คือความต่างชั้นระหว่างพลัง หยวนยู่น่ากลัวเกินไป …ด้วยถึงแม้เจี๋ยนฟานจะสามารถใช้ทักษะที่เหนือกว่าในการสร้างความได้เปรียบ ทว่ามันก็ไม่สามารถทะลวงเกราะปราณที่แข็งแกร่งของหยวนยู่ไปได้อยู่ดี

นี่คือความสิ้นหวังอย่างแท้จริง !!!