ตอนที่ 962 ตอบโต้กลับอย่างสมน้ำสมเนื้อหรือ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ทั้งจู้ซิงมีเดียไปร่วมพิธีของรำลึกของเฉียวเซิน

 

 

ในขณะที่หลินเฉี่ยนกำลังเตรียมชุด คุณนายหลี่ก็เดินผ่านมาจึงแวะเข้าไปในห้องของลูกสะใภ้ของเธอ ก่อนเอ่ย “จู้ซิงมีเดียเต็มไปด้วยคนที่ซื่อตรงและจิตใจดีจริงๆ ”

 

 

หลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้นก็ระบายยิ้ม

 

 

“พักผ่อนสักหน่อยเถอะ เฉี่ยนเฉี่ยน”

 

 

หลินเฉี่ยนพยักหน้ารับ จากนั้นจึงต่อสายหาหลี่จิ่น

 

 

“ฉันจะรอคุณหน้าบ้านตอนแปดโมงเช้าครับ เราไปด้วยกันนะ”

 

 

หลินเฉี่ยนไม่ได้ขัดคำของหลี่จิ่น แม้ว่าเขาจะอยู่ที่ฐานทัพและไม่อาจกลับมาถึงบ้านในคืนนั้น แต่อย่างน้อยเขาก็ใช้ทุกๆ โอกาสที่มีในการอยู่เคียงข้างภรรยาของเขา

 

 

เช้าวันถัดมา ในขณะที่หลินเฉี่ยนก้าวเท้าออกมาจากบ้าน ก็เห็นรถทหารของสามีเธอและรีบวิ่งไปหา

 

 

“ไปกันเถอะครับ ผมจะไปส่งเฉียวเซินกับคุณเอง”

 

 

แม้ว่าเฉียวเซินจะไม่ได้สร้างชื่อในวงการมากนัก แต่เขาก็ยังมีเพื่อนที่ดีหลายคนที่เข้าร่วมพิธีรำลึก ทุกคนต่างมาเข้าร่วมอย่างไม่รั้งรอด้วยความเต็มใจ

 

 

กองทัพนักข่าวและแฟนๆ รอกันอยู่บริเวณทางเข้า ทุกครั้งที่แขกร่วมงานมาถึง พวกเขาทำตามกฎเกณฑ์และกล่าวทักทายพวกเขาเท่านั้น ทว่าสายตาของพวกเขากลับเฝ้ารอการมาที่จู้ซิงมีเดียและถังหนิง

 

 

ในครั้งนี้หน้าม้าบางคนที่ถูกใครบางคนจ้างมาเข้ามาปะปนในฝูงชนพร้อมกับไข่ดิบและหินกำลังรอการมาถึงของถังหนิง

 

 

เวลาเก้าโมงเช้า ทีมงานจากจู้ซิงมีเดียมาถึง ทุกคนอยู่ในชุดสีดำ ทันทีที่นักข่าวเห็นถังหนิง ก็เริ่มถ่ายเก็บภาพอย่างบ้าคลั่ง

 

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าระวังขึ้นมาทันที หากแต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าอยู่ๆ แฟนๆ บางคนที่อยู่ด้านหลังนักข่าวจะคว้าไข่และหินออกมาจากกระเป๋าเป้และปาใส่ถังหนิง

 

 

แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางเอาไว้ได้ทันและพวกมันได้ตกลงข้างๆ เท้าของเธอ

 

 

“นังฆาตกร!”

 

 

เมื่อถังหนิงได้ยินดังนั้น ก็ชะงักฝีเท้าและมองด้วยสายตากรุ่นโกรธไปยังทางกลุ่มแฟนๆ

 

 

โม่ถิงเข้ามากันเธอไว้ทันที เดิมทีเขาต้องการพาเธอตรงเข้าไปในห้องโถงไว้ทุกข์ ทว่าเธอกลับดันเขาไปด้านข้างคล้ายบอกว่าเธอต้องการจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

 

 

โม่ถิงเป็นห่วงเล็กน้อยแต่เขาก็ยอมในท้ายที่สุด พร้อมคอยสนับสนุนเธออยู่ข้างๆ ในขณะที่ทุกคนในจู้ซิงมีเดียเดินตรงไปยังกลุ่มแฟนๆ ที่ปาไข่มา

 

 

ไม่มีใครเคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ทั้งยังไม่เคยได้สัมผัสอำนาจของจู้ซิงมีเดีย

 

 

นักข่าวรีบหลีกทางให้ด้วยความหวาดกลัวเพื่อให้ถังหนิงสามารถเข้าไปถึงตัวแฟนๆ ด้านหลังพวกเขา

 

 

ถังหนิงก้าวเข้าไปคว้ามือผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในกระเป๋าเป้อย่างไม่รั้งรอ “ใครบอกเธอว่าฉันเป็นฆาตกรกัน”

 

 

ผู้หญิงคนนั้นนิ่งค้างไปด้วยความกลัวขณะมองหน้าถังหนิง

 

 

“ฉันว่าเธอต้องรับผิดชอบกับคำพูดของเธอเองนะ ว่าไหมล่ะ”

 

 

“ฉันคิดว่าคุณฆ่าเฉียวเซิน…และสวี่ซิน…”

 

 

“มีหลักฐานไหมคะ” ถังหนิงถาม “ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้นล่ะ เห็นกับตาตัวเองเหรอคะ แล้วได้ยินมากับหูตัวเองเหรอ”

 

 

“ฉันเห็นในอินเทอร์เน็ต…”

 

 

“อินเทอร์เน็ตเหรอ” ถังหนิงถามย้ำพลางจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “เธอก็ดูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่การศึกษาของเธอมันหายไปหมดแล้วเหรอ ทำไมเธอถึงเชื่อข่าวผิดๆ อย่างนั้นล่ะ หรือเธอมีปัญหาทางจิตกัน ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่เข้าใจว่าคนที่อายุป่านนี้ยังแยกแยะถูกผิดไม่เป็นอีก

 

 

“เธอรู้ไหมว่าถ้าหินก้อนหนึ่งของเธอโดนใครสักคนที่นี่ เธออาจจะได้กลายเป็นสิ่งที่เธอเกลียดที่สุดซะเอง ฆาตกรยังไงล่ะ!

 

 

“เธอ…และพวกเธอทุกคน ฉันจะเตือนไว้ให้ว่าถ้าใครกล้าปาไข่หรือหินใส่ฉันอีก ฉันจะไปตรวจภาพกล้องวงจรปิดและตามล่าเธอซะ ดูเหมือนว่าฉันจะก้าวขาออกจากบ้านโดยไม่ใช่กฎหมายเป็นอาวุธไม่ได้อีกแล้วล่ะ

 

 

“ฉันมั่นใจว่าเธอจัดการสู้คดีในข้อหาทำร้ายร่างกายได้ใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่ได้อย่างนั้นก็แย่หน่อยนะ ตามกฎหมายแล้ว ข้อหานี้โทษจำคุกมากกว่าสองปี ต้องอาญาหรืออยู่ในความควบคุมของทางตำรวจ แล้วมาดูกันว่าใครจะถูกแก้แค้นก่อนกัน”

 

 

พูดจบ ถังหนิงก็หันกลับไปด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง จังหวะนั้นเองที่แฟนที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวพุ่งตัวออกมาจากฝูงชนและคว้าแขนถังหนิงไว้ “อย่าเรียกตำรวจมาจับฉันเลยนะ ฉันทำลงไปเพราะมีคนจ้างฉันมา ฉันไม่รู้เรื่องข่าวของคุณเลยนะ มีคนบอกฉันว่าจะให้เงินหนึ่งพันหยวนให้มาปาหินใส่คุณ”

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น ทุกคนถึงกับตกตะลึงโดยเฉพาะนักข่าว

 

 

ถังหนิงสะพัดแขนออกจากมือของอีกฝ่ายก่อนถาม “ใครล่ะคะ”

 

 

“ฉันก็ไม่มั่นใจ ฉันรู้แค่ทุกคนเรียกเขาว่าพี่เว่ย ฉันยังได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับประธานฟ่านและบอกว่าเขาจะใช้งานในวันนี้เพื่อแก้แค้นคุณด้วยค่ะ”

 

 

คำตอบของเธอทำให้ถังหนิงหลุดขำออกมาและพูดกับนักข่าว “วันนี้เป็นวันสำคัญของเฉียวเซิน ฉันจะไปเคารพศพเป็นครั้งสุดท้ายและให้โอกาสคนร้ายกลับตัวกลับใจหนึ่งชั่วโมง… ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ภายในหนึ่งชั่วโมง อย่ามาโทษว่าฉันใจดำแล้วกันค่ะ…”

 

 

ไม่มีใครคิดว่าจะมีใครบางคนใช้วิธีเช่นนี้ในการโจมตีถังหนิง

 

 

ความจริงแล้วเหล่านักข่าวก็อึ้งจนลืมสัมภาษณ์ถังหนิงไปเช่นกัน

 

 

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาอยู่ในพิธีรำลึก นักข่าวไม่ได้ตามถังหนิงเข้าไปด้านใน จนกว่าเธอจะกลับออกมาในอีกชั่วโมง นักข่าวเฝ้ารออย่างใจเย็นเพื่อชมการแสดงสนุกๆ ภายในอีกชั่วโมง

 

 

แต่ทว่าก่อนที่ถังหนิงจะเข้าไปในห้องโถงจัดงานเพื่อเคารพศพของเฉียวเซิน เธอหันไปบอกลู่เช่อ “มีบางอย่างที่ฉันต้องให้นายช่วย เรามีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น”

 

 

“สั่งมาเลยครับ”

 

 

ในเมื่อประธานฟ่านต้องการทำร้ายเธอ เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตอบโต้กลับอย่างสมน้ำสมเนื้อ เป็นของขวัญตอบแทน

 

 

หลังออกปากสั่ง ถังหนิงก็ก้าวเข้าไปในห้องโถงไว้ทุกข์

 

 

ในขณะที่เธอมองไปที่ร่างของเฉียวเซินที่นอนนิ่งในโลง ดวงตาของถังหนิงพลันแดงก่ำ

 

 

“เฉียวเซิน ฉันจะไม่มีทางลืมทุกอย่างที่คุณทำเพื่อมดราชินีและวันคืนที่เราฝ่าฟันมาด้วยกันเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ต่อให้ฉันต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาดฉันก็สัญญาว่ามดราชินีจะต้องได้ปรากฏสู่สายตาทุกคน ฉันหวังเพียงแค่ฉันจะได้ทำตามเจตนารมณ์ของคุณค่ะ…

 

 

“จู้ซิงมีเดียจะดูแลครอบครัวของคุณแทนคุณเองค่ะ…

 

 

“ลาก่อนนะคะ เพื่อนของฉัน ฉันหวังว่าตอนนี้คุณจะไปสบายและได้อยู่บนสรวงสวรรค์นะคะ”

 

 

ถังหนิงยืนอยู่ข้างโลงศพในขณะที่เธอกล่าวคำร่ำลากับเฉียวเซิน ชายผู้ที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อความหลงใหลในภาพยนตร์ไซไฟได้จากโลกใบนี้ไปอย่างสงบเสียแล้ว

 

 

โม่ถิงโอบไหล่ถังหนิงและช่วยเธอปาดน้ำตาพลางทัดผมข้างหูของเธอก่อนเอ่ยปลอบโยน “การจากลาเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมมั่นใจว่าเฉียวเซินจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงของคุณครับ”