“ตอนนี้มีเรื่องสำคัญรอให้คุณทำอยู่นะครับ” โม่ถิงบอกใบ้
ถังหนิงรู้ว่าหากเธอไม่คว้าโอกาสนี้ในการจบเรื่องของประธานฟ่าน เขาจะต้องลอบกัดเธอไม่เลิกแน่
ดังนั้นหลังจากร่ำลาเฉียวเซิน เธอจึงก้าวออกมาจากห้องโถงไว้ทุกข์พร้อมกับคนของจู้ซิงมีเดีย อย่างที่เธอกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเธอให้เวลาคนร้ายเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น
เมื่อนักข่าวเห็นหญิงสาวก้าวออกมา ก็รีบกรูเข้าไปสัมภาษณ์เธอทันที กลุ่มแฟนๆ ที่ปาไข่ใส่เธอก่อนหน้านี้หายไปเกือบหมด เหลือเพียงไม่กี่คนที่ถูกบังคับให้ร่วมมือกับทางตำรวจ
“คุณถังครับ ผมเกรงว่าคุณจะต้องไปสถานีตำรวจเพื่อให้การด้วยครับ” นายตำรวจนายหนึ่งเอ่ยขณะที่เข้ามาหาเธอ
ถังหนิงหันไปมองเขาก่อนพยักหน้าให้ “ฉันจะความร่วมมืออย่างเต็มที่ค่ะ แต่ก่อนที่ฉันจะไปมีสิ่งหนึ่งที่ฉันจะชี้แจง ขอเวลาฉันสักสิบนาทีได้ไหมคะ”
เจ้าหน้าที่มองหน้ากันก่อนพยักหน้าอย่างช่วยไม่มีทางเลือก “โอเคครับ แต่เร่งมือหน่อยนะครับ”
คนของจู้ซิงมีเดียรีบพาตัวแฟนคลับที่ตอนนี้กำลังอยู่ในความควบคุมมา ถังหนิงปรายตามองพวกเขาอย่างเย็นชา
“พวกคุณจะไม่ยอมเปิดเผยเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เหรอคะ ถ้าไม่ยอมพูดอะไร คุณคงต้องไปลงเอยที่สถานีตำรวจนะคะ แล้วฉันก็จะฟ้องร้องพวกคุณทุกคนด้วย แต่ถ้าคุณบอกความจริงมาซะตอนนี้ ฉันรับปากว่าจะไม่ทำเรื่องนี้ให้เลยเถิดไปมากกว่านี้ค่ะ”
แฟนคลับที่ถูกกักตัวไว้เป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ
เดิมทีพวกเธอไม่คิดจะตอบถังหนิง หากแต่น่าเสียดายที่ถังหนิงรู้จุดอ่อนของพวกเธอ
“ฉันรู้ว่าเป็นใครค่ะ…” อยู่ๆ เด็กสาวผมสั้นคนหนึ่งก็ยกมือขึ้นและพูด “ฉันบอกคุณได้ว่าเป็นใคร แต่คุณรับปากฉันได้ไหมคะว่าจะไม่แจ้งความ”
ถังหนิงมองผ่านผู้หญิงตรงหน้าไปหยุดที่หญิงสาวด้านหลังที่มีไฝอยู่บนจมูกก่อนพยักหน้ารับ “ฉันพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้วค่ะ”
“ดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันยอมรับว่าเรารับเงินมาจากใครบางคน แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรจะไปถามผู้หญิงพวกนี้หรอกค่ะเพราะพวกเธอไม่รู้อะไรเลย พวกเธอแค่เป็นเครื่องมือของใครบางคนเท่านั้นแหละค่ะ”
“แล้วเธอรู้แค่ไหนล่ะ” ถังหนิงถาม “เธอก็รู้ว่าฉันมีเวลาไม่มาก”
“ก่อนหน้านี้คุณเพิ่งมีเรื่องกับใครบางคนเพราะเหตุการณ์ของลัวเซิง พวกคุณปะทะกันหลายครั้ง แต่คนคนนี้กลับถูกคุณตอกกลับมาทุกครั้งไป เขาถึงต้องการแก้แค้นคุณ แถมเขายังอยู่เบื้องหลังความคิดเห็นแย่ๆ บนโลกออนไลน์ด้วยค่ะ” เธอเป็นผู้หญิงร่างผอมบางแต่แววตาของเธอกลับวาวโรจน์
“คุณกำลังพูดถึงประธานฟ่านอยู่เหรอครับ” ลัวเซิงพลันก้าวออกมาข้างหน้าและถาม “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าผมปฏิเสธรับเล่นคุณหมอโจรสลัดเหรอครับ”
“ไม่ใช่แค่นั้นหรอกค่ะ น้องเขยของประธานฟ่านเคยเป็นผู้อำนวยการของไห่รุ่ย แต่ฉันมั่นใจว่าคนนอกยังไม่รู้ว่าเขาเพิ่งถูกปลดออกจากกรรมการบริหารเมื่อไม่นานมานี้ ประธานฟ่านโทษว่าเป็นความผิดของถังหนิง เขาจึงตัดสินใจแก้แค้นถังหนิงทุกครั้งที่มีโอกาส ครั้งนี้เขาเลยต้องการใช้ความเห็นของสาธารณชนในพิธีรำลึกของเฉียวเซินในการโจมตีเธอค่ะ”
“เธอรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง” ถังหนิงถามท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนที่เริ่มก่อตัวขึ้น
อีกฝ่ายหัวเราะก่อนตอบขึ้น “เพราะเลขาของประธานฟ่าน พี่เว่ย รู้ว่าฉันยากจนเลยให้ฉันเข้าร่วมแผนการนี้ไงคะ เขายังรับปากว่าจะให้ค่าตอบแทนฉันอย่างงามด้วย
“แต่ฉันต้องขอชี้แจงว่าฉันไม่ได้เป็นคนโยนไข่หรือหินใส่คุณเลยนะคะ อย่างมากที่สุด ฉันก็แค่ปั่นหัวฝูงคนเท่านั้นค่ะ
“เรื่องที่ฉันรู้ก็มีเท่านี้แหละค่ะ แล้วคุณจะทำยังไงกับฉันต่อไปคะ”
“ฉันต้องรักษาคำพูดที่รับปากกับเธอไว้ว่าจะไม่แจ้งความอยู่แล้วล่ะ” ถังหนิงตอบ “แต่ฉันอยากจะเตือนเธอไว้ว่ามีบางคนที่เธอไม่อาจไปลองดีด้วยได้และเรื่องบางอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผนเสมอไปหรอกนะ”
“พูดตามตรงนะคะ ฉันถูกหลอกมาที่นี่ค่ะ ถ้าฉันรู้ว่านี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำเพื่อให้ได้เงินมา ฉันคงไม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอนค่ะ”
พูดจบเธอก็เดินตรงไปหาตำรวจและเสนอตัวให้การอย่างไม่บิดพลิ้ว
กลุ่มแฟนๆ ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปขณะที่นักข่าวพากันเข้ามารายล้อมถังหนิงไว้และจ่อไมโครโฟนมาต่อหน้าเธอ
“ถังหนิง คุณคิดยังไงกับเหตุการณ์รุนแรงในวันนี้คะ”
“ประธานฟ่านเป็นคนที่สร้างคุณหมอโจรสลัดไม่ใช่เหรอครับ”
“ประธานฟ่านโจมตีคุณอย่างนี้ คุณวางแผนจะตอบโต้กลับยังไงคะ”
ขณะที่เธอมองไปยังบรรดากล้องทั้งหลาย ถังหนิงยังคงนิ่งสงบ ยืดอกก่อนกล่าวกับสื่อ “ฉันไม่เคยรู้ว่าประธานฟ่านจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้เลยค่ะ เพียงเพราะว่าลัวเซิงไม่ร่วมแสดงในคุณหมอโจรสลัด เขาต้องโกรธถึงขนาดนี้จริงๆ เหรอ
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้อย่างถึงที่สุดอย่างแน่นอนค่ะ ไม่อย่างนั้นคงมีคนอื่นทำตามและคิดจะมาลองดีกับฉันได้ง่ายๆ
“จู้ซิงมีเดียจะติดตามเอาเรื่องกับประธานฟ่านอย่างเป็นทางการค่ะ ถ้ามีใครที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเขาในวันนี้ คงเป็นการกระทำที่ไม่อาจให้อภัยได้เด็ดขาด
“การแข่งขันในวงการมักรุนแรงแบบนี้อยู่แล้ว ทำไมเขาถึงต้องทำให้ทุกคนลำบากมากกว่าเดิมด้วยล่ะคะ
“ติดตามสิ่งที่จู้ซิงมีเดียจะจัดการกับเรื่องนี้ได้เลยค่ะ” หลังจากถังหนิงพูดจบ โม่ถิงก็กันเธอออกจากพิธีรำลึกและมุ่งหน้าไปยังสถานีตำรวจพร้อมกับคนของจู้ซิงมีเดียที่เหลือ
ถังหนิงหมายความว่าเธอจะต่อสู้กับประธานฟ่านจนถึงที่สุดอย่างนั้นหรือ
[เขาโจมตีคนที่กำลังอยู่ระหว่างการแสดงความเคารพเป็นครั้งสุดท้ายลงได้ยังไงกัน ช่างร้ายกาจและหน้าไม่อายจริงๆ!]
[แค่ไข่ก็แย่พออยู่แล้วนะ เขาใช้หินด้วยได้ยังไง เขาอยากจะฆ่าคนเหรอ]
[พูดตามตรง ประธานฟ่านอาจดูเหมือนเจ้าของบริษัทสร้างหนัง แต่จริงๆ แล้วเขาเริ่มมาจากการเป็นอันธพาล เขาเป็นคนที่หน้าด้านที่สุดในวงการนี้เพราะเอาแต่นึกถึงเรื่องส่วนตัว ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะออกมาโจมตีถังหนิง แต่เขากล้ามากจริงๆ ที่จ้างคนมาแสร้งเป็นกลุ่มแฟนๆ ที่ใช้ความรุนแรง]
[นี่มันป่าเถื่อนชัดๆ ฉันตัดสินใจที่จะต่อต้านคุณหมอโจรสลัดและสนับสนุนถังหนิง!]
ในขณะที่ประธานฟ่านนั่งอยู่ในห้องทำงานพลางอ่านความเห็นออนไลน์ รอยยิ้มมีเลศนัยผุดขึ้นบนใบหน้า เพราะอันที่จริงผู้หญิงผมสั้นคนนั้นไม่ใช่คนที่เขาส่งไป เลขาของเขาแค่ได้พบเธอเมื่อไม่นานมานี้เท่านั้น หมายความว่าไม่ใช่เพียงแต่เขาจะทำร้ายถังหนิงไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะวางแผนตลบหลังเขาอีกด้วย
เขาถูกเปิดโปงต่อหน้าสาธารณชน นักข่าวโหมกระพือข่าว และยังมีตำรวจเป็นพยาน ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง ครั้งนี้เขาได้ลำบากครั้งใหญ่เสียแล้ว
ทำไมถังหนิงถึงจัดการได้ยากอย่างนี้กัน
ประธานฟ่านตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ทว่าการกระทำของเขาก็เห็นได้ชัด ต่อให้เขามีทางเลือกในการออกมาปฏิเสธทุกอย่าง แต่ชื่อเสียงของเขาก็ย่อยยับไปแล้ว ดูเหมือนว่าทางเลือกเดียวของเขาคือเชิญผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้เกี่ยวข้องมาจัดการกับเธอ