ตอนที่ 833 บางทีลูกสาวก็อาจชอบป่าป๊าในแบบนี้เหมือนกัน

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“เคยมีเรื่องกับคนๆนี้เหรอ?” เจิ้งซวี่ถามเสี่ยวเชี่ยน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้เล่าเรื่องที่ผู้อำนวยการปล่อยคนบ้าออกมา เธอเล่าเรื่องในอดีตระหว่างเธอกับผู้อำนวยการให้ฟังอย่างคร่าวๆ

 

 

เจิ้งซวี่ฟังแล้วก็อยากหัวเราะให้น้ำตาเล็ด

 

 

“ครอบครัวนี้ทำบาปทำกรรมกับคุณไว้เท่าไรเนี่ย ทำไมไปไหนก็เจอแต่คุณ?”

 

 

ผู้อำนวยการกลัวเจอคนรู้จักในเมืองหลิน จึงไปหาหมอที่อยู่ในอำเภอบ้านนอก นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเชี่ยนจะไปช่วยงานที่นั่นในวันนั้น

 

 

หลังจากที่ผู้อำนวยการเป็นโรคจิตเภท ครอบครัวเขาก็กลัวอายถ้าเจอคนรู้จักในเมืองหลิน แล้วก็คิดได้ว่าในเมืองหลินมีคนเล่าลือถึงจิตแพทย์เก่งๆอยู่ ใครจะไปคิดว่าเรื่องจะวนเวียนกลับไปหาเสี่ยวเชี่ยนอีกรอบ

 

 

“ฉันก็อยากรู้ว่าโลกนี้มันเล็กถึงขนาดไหนกัน ช่างเถอะ เอาเป็นว่าฉันไม่มีทางรับเคสเขาแน่ บอกพวกเขาเปลี่ยนหมอเถอะ”

 

 

ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะสงสัยว่าทำไมผู้อำนวยการถึงเป็นบ้าได้ แต่เธอไม่อยากยุ่งกับครอบครัวนี้อีกแล้ว หมอมีตั้งเยอะแยะ เธอไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นแม่พระยุ่งกับครอบครัวแบบนี้

 

 

“เข้าใจแล้ว” เจิ้งซวี่เองก็ไม่อยากฝืนใจเสี่ยวเชี่ยน อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้สนิทกับครอบครัวนั้น

 

 

เรื่องหลักคุยเสร็จแล้ว เจิ้งซวี่ได้เล่าเรื่องในช่วงนี้ของเขาให้เสี่ยวเชี่ยนฟังว่าเขาหลับไม่ค่อยสนิท

 

 

“คุณอัดเสียงตอนสะกดจิตให้ผมได้ไหม หรือไม่ก็โทรหาผมทุกวันก็ได้” เจิ้งซวี่เคยรับการรักษาจากเสี่ยวเชี่ยน จึงรู้ว่าเธอสะกดจิตเก่ง

 

 

เสี่ยวเชี่ยนคิดๆดู เรื่องนี้ออกจะยากไปหน่อย

 

 

“เสียงฉันเป็นแบบนี้ นายฟังแล้วอาจแย่กว่าเดิมนะ”

 

 

คอเสี่ยวเชี่ยนต้องพักไปอีกสักระยะถึงจะหายดี เสียงแหบๆแบบนี้ขืนอัดเสียงสะกดจิตไปให้เจิ้งซวี่ฟังอาจทำเขาเสียสมาธิ เดี๋ยวจะพลอยนอนไม่หลับเหมือนเดิม

 

 

“งั้นทำไงดี?”

 

 

“ช่วงนี้นายมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า?”

 

 

“จะอะไรอีกล่ะ…” เจิ้งซวี่พอนึกถึงพ่อก็ปวดหัว ผู้เฒ่าคนนี้อย่างกับอยู่ในช่วงวัยทอง ว่างๆชอบโทรไปเล่นงานเขา

 

 

เจิ้งซวี่ถลึงตาใส่เสี่ยวเชี่ยน “ก็เพราะคุณนั่นแหละ”

 

 

“ฉัน?” เสี่ยวเชี่ยนทำหน้าเหมือนแจ็คพอตมาตกที่เธอ

 

 

“นับตั้งแต่พ่อผมรู้เรื่องที่คุณจะแต่งกับหมาทหาร วันๆก็มาเร่งให้ผมแต่งงาน อะไรก็มาลงกับผมหมด”

 

 

และที่ทำให้เจิ้งซวี่หงุดหงิดยิ่งกว่าก็คือ จะด่าก็ด่าไปสิ ทำไมต้องเอาเขาไปเทียบกับหมาทหารด้วย?

 

 

พ่อของเจิ้งซวี่ชอบอวี๋หมิงหลางมาก รู้สึกว่าเสี่ยวเฉียงยอมเป็นทหารอีกทั้งยังแต่งงานไว เมื่อเทียบกับเจิ้งซวี่ที่ทำตัวเป็นเพลย์บอยไปวันๆแล้ว เจิ้งซวี่กลายเป็นลูกเมียน้อยทันที

 

 

“ฮ่าๆ เรื่องนี้เองเหรอ” เสี่ยวเชี่ยนหัวเราะโดยไม่รู้สึกสงสารเลยสักนิด

 

 

“วันๆชอบนัดให้ผมไปดูตัว เกลียดจะตาย ผมคิดไว้ว่าเดี๋ยวจะเลือกเอาคนที่มีลูกให้ได้แถมยังว่านอนสอนง่าย พอมีลูกแล้วจะเอาไปโยนให้เลี้ยง จะได้หยุดบ่นเสียที” เจิ้งซวี่ถูกบังคับจนไม่มีทางเลือกแล้ว

 

 

ชีวิตนี้เขามีความคิดอยากแต่งงานอยู่ครั้งเดียวนั่นก็คือตอนที่เพิ่งรู้จักเสี่ยวเชี่ยนเมื่อหลายปีก่อน แต่เสี่ยวเชี่ยนถูกหมาทหารคาบไปกินแล้ว เขาจึงกลายเป็นเพื่อนเสี่ยวเชี่ยนแล้วล้มเลิกความคิดนั้น เขารู้สึกว่าผู้หญิงก็เหมือนกัน พอปิดไฟก็ต้องทำเรื่องอย่างว่า งั้นรีบแต่งงานให้สมใจพ่อไปเลยแล้วกัน

 

 

“อย่างนั้นเหรอ…” เสี่ยวเชี่ยนลองคิดดู เมื่อชาติก่อนเจิ้งซวี่ไม่ได้แต่งงานไวขนาดนี้ แต่มานับๆดูก็ควรจะประมาณนี้แหละ อาจเป็นเพราะเรื่องของเธอกับเสี่ยวเฉียงทำให้พ่อเจิ้งซวี่ร้อนใจ เลยอยากเร่งให้แต่งงานไวๆ

 

 

พอนึกถึงแฟนเจิ้งซวี่เมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำเจิ้งซวี่ด้วยความหวังดี

 

 

“เพื่อนทหารของพ่อนายมีลูกสาวชื่อเฟิงหลาน อยู่ให้ห่างจากเขาไว้ ถ้านายแต่งงานกับเขารับรองเลยว่าชีวิตหลังจากนั้นจะมีแต่เรื่องปวดหัว”

 

 

ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนอ่อนโยนว่านอนสอนง่าย ปรากฏว่าพอแต่งแล้วมีแต่เรื่อง แอบหึงจนไปก่อเรื่องมากมายลับหลังเจิ้งซวี่ เจิ้งซวี่เองก็เป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วแต่กลับไม่ยอมบอกลาชีวิตเพลย์บอย มีเมียแล้วยังไปมีสาวๆข้างนอกอีกไม่ได้ขาด เมื่อชาติก่อนเจิ้งซวี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลยแม้แต่น้อย ถ้าไม่ติดว่าแต่งงานแล้วถึงได้รู้จักเสี่ยวเชี่ยน เขาก็ไม่มีทางแต่งกับเฟิงหลาน

 

 

“คุณรู้จักเขาเหรอ?” เจิ้งซวี่อึ้ง เขานึกถึงข้อมูลดูตัวที่พ่อให้มา มีผู้หญิงที่ชื่อเฟิงหลานจริงๆ ถ้าเสี่ยวเชี่ยนไม่พูดอาทิตย์นี้เขาก็จะต้องไปพบคนๆนี้

 

 

“มีคนไข้ของฉันรู้จักเขา เขาเป็นผู้หญิงที่ปากอย่างใจอย่าง ถ้านายกล้าแต่งกับเขา ก็ต้องเตรียมใจรับเรื่องปวดหัวจากผู้หญิงคนนี้ได้เลย”

 

 

อีกทั้งการแต่งงานที่ผู้ใหญ่จัดหาให้ก็หย่ายากเสียด้วย

 

 

“งั้นช่างเถอะ ผมไม่ได้ดูตัวเขาแล้ว ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะ ไปเลือกคนอื่นก็ได้”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเบ้ปาก “ท่าทางที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนายยังไม่สมควรแต่งงาน แล้วทำไมต้องรีบแต่ง?”

 

 

“ก็พ่ออยากอุ้มหลาน” เจิ้งซวี่เองก็ไม่ได้อยากแต่ง ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงแบบเสี่ยวเชี่ยน แต่งแล้วก็ไม่เห็นน่าสนใจ

 

 

“อยากอุ้มหลานก็เรื่องง่ายๆไม่ใช่เหรอ ไปทำเด็กหลอดแก้วก็ดีนะ ผู้ชายแบบนายแต่งไปก็เป็นตัวหายนะของผู้หญิง ถ้ายังไม่อยากเก็บเขี้ยวเล็บก็อย่าแต่งดีกว่า โดยเฉพาะถ้ามีลูก พ่อแม่ที่ความสัมพันธ์ไม่ดีจะเป็นการทำร้ายเด็กเปล่าๆ”

 

 

“เฉินเสี่ยวเชี่ยน ทำไมพอแต่งงานแล้วขี้บ่นแบบนี้? อย่างกับพวกป้าแม่บ้าน” เจิ้งซวี่รู้สึกว่าเสี่ยวเชี่ยนไม่ควรเป็นแบบนี้ เธอควรเป็นแบบเขาที่ทำตัวอิสระไปเรื่อย

 

 

“อาจเพราะช่วงนี้ฉันมีแพลนจะปั๊มลูกมั้ง คนจะเป็นแม่แล้วก็ย่อมคิดทุกอย่างให้รอบคอบ แต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน ต้องคิดทุกอย่างให้มากๆเพื่อลูก”

 

 

“คุณ…จะมีลูกให้ไอ้เล็กเหรอ?” เจิ้งซวี่สะเทือนใจ ลำพังแค่อวี๋หมิงหลางแต่งงานพ่อเขาก็อิจฉาตาร้อนแล้ว นี่ถ้าไอ้เล็กชิงมีลูกก่อนอีก พ่อไม่บนเขาทุกวี่ทุกวันเลยเหรอ?

 

 

และสิ่งที่ทำให้เจิ้งซวี่ตกใจยิ่งกว่าก็คือ ผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงอย่างเสี่ยวเชี่ยน ทำไมถึงได้แพลนมีลูกไวแบบนี้?

 

 

“ฉันคิดดูแล้ว ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของฉันกับเสี่ยวเฉียงค่อนข้างมั่นคง มีลูกได้แล้ว”

 

 

เดิมเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้อยากมีลูกไวขนาดนี้ หลักๆคือเธอยังไม่พร้อมจะเป็นแม่คน แต่จากเรื่องที่ถูกรัดคอในครั้งนี้ได้แก้ปมในใจเสี่ยวเชี่ยนให้หลุดออก

 

 

“พวกคุณนี่มันน่าเกลียดจริงๆ…” เงามืดในใจเจิ้งซวี่สะสมสูงเท่าไรแล้วยากที่จะคำนวณ

 

 

“เจิ้งซวี่ ถ้านายมีลูกนายก็จะเข้าใจความรู้สึกฉัน ตอนนี้พูดกับคนที่ไม่ได้เป็นพ่อคนอย่างนายไปก็ไม่เข้าใจหรอก”

 

 

โวะ เสี่ยวเชี่ยนทำฟ้าผ่ากลางหัวเจิ้งซวี่

 

 

“คุณเห็นผมเหมือนพ่อลูกอ่อนตรงไหนบ้าง?” เด็กทารกตัวอ่วนยวบยาบแบบนั้นมีอะไรดี? ไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้หลอกให้คนแก่ดีใจอย่างนั้นเหรอ?

 

 

“พวกเราเป็นฝาแฝดทางจิตวิญญาณกัน สิ่งที่ฉันชอบ นายก็จะชอบเหมือนกัน”

 

 

“ผมขอถามได้ไหมว่าหมาทหารล้างสมองคุณจนเป็นแบบนี้ได้ยังไง? จำได้ว่าเมื่อสิบวันก่อนตอนที่โทรคุยกันคุณยังบอกอยู่ว่าไม่อยากมีลูกไวเกินไป ยังไม่ถึงเวลา”

 

 

พันธมิตรของเขาถูกคนบ้ารัดคอจนเป็นกบฏ มันน่าปวดใจนัก

 

 

“อืม ตอนนั้นมันไม่ค่อยเหมาะจริงๆ แต่หลังจากที่ฉันบาดเจ็บ อยู่ๆเสี่ยวเฉียงก็ทำให้ฉันเข้าใจเรื่องหนึ่ง คนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่พัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลา”

 

 

ถ้าเป็นอวี๋หมิงหลางในอีกสิบปีให้หลัง เขาไม่มีทางทำเรื่องเตะแม่คนบ้าแน่นอน ความเป็นผู้ใหญ่ทำให้เขาควบคุมตัวเองได้ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับหลงเสน่ห์ในช่วงที่เขาเติบโตนี้ อยู่ๆเธอก็คิดได้ บางทีลูกสาวก็อาจชอบที่จะได้เห็นป่าป๊าในตอนนี้เหมือนกัน