ตอนที่ 342 เย่เซวียนปรากฏตัว!
ซูมู่ชิงยืนประจันหน้ากับเย่เฉิน หญิงสาวอ่อนหวานบอบบาง ทุกอากัปกริยาล้วนแต่ต้องใจผู้คน
เพราะเพิ่งจะลงมาจากด้านบนจึงไม่ได้นับผลกระทบจากแก๊สพิษใดๆ ทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ยังยืนได้ในห้องรับแขก เป็นเหมือนคนรอดชีวิตจากสงครามอย่างไรอย่างนั้น
ซูมู่ชิงเองก็เป็นผู้หญิงที่ดี เย่เฉินย่อมสามารถสัมผัสได้เช่นกัน
ถ้าหากว่าเย่เฉินแต่งเข้าตระกูลซู แต่งงานกับซูมู่ชิง ไม่ใช่หวังเจียเหยาตั้งแต่แรก เย่เฉินคงตกหลุมรักหญิงสาวโดยไม่ต้องสงสัย
นั่นเพราะขนาดหวังเจียเหยาเป็นผู้หญิงที่มักนอกใจแถมยังหลงใหลในเกียรติยศเงินทอง เย่เฉินยังรักได้ลง เย่เฉินไม่มีเหตุผลที่จะหวั่นไหวไปกับซูมู่ชิง
เพราะหากทั้งสองคนคบหากันแล้วล่ะก็ไม่น่าจะแยกจากกันอีก ถึงตอนนั้นต่อให้เจอฉินหงเหยียน ด้วยนิสัยของเย่เฉินก็ไม่มีทางนอกใจภรรยาไปหาอีกฝ่าย
เช่นนั้นแล้วเย่เฉินกับฉินหงเหยียนก็จะเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น
ในวินาทีนี้เย่ฉินถึงเพิ่งได้รู้สึกว่าลำดับในการปรากฏตัวขึ้นของคนรักในชีวิตเขานั้นสำคัญจริงๆ
คนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ใช่ก็จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป
ไปคราวนี้บางทีทั้งชีวิตนี้ของเขาอาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก เขาจึงมองอีกฝ่ายครู่หนึ่งอย่างอดไม่ไหว จดจำความงามล่มเมือง รอยยิ้มที่เห็นเพียงนิดเดียวก็ทำให้เขาหวั่นไหว
จากนั้นเย่เฉินก็เปิดประตูออกมา
“ห้ามขยับ!”
ทันใดนั้นเองจู่ๆ ก็มีคนในชุดบอดี้การ์ดเดินถือปืนมา
ปัง ปัง ปัง…
เย่เฉินยังไม่ทันต้องสั่ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายตกอยู่ในอันตราย หวังเอ้อร์เชอก็ควบคุม UFO ให้โจมตีคนพวกนี้ทันที
“ห้ามยิง ปล่อยเขาไป!”
ซูมู่ชิงตะโกนเสียงกร้าว แล้วเดินออกมา
คนพวกนี้ต่างเชื่อฟังคำพูดของซูมู่ชิง พวกเขาไม่มีใครกลล้ายิง
ส่วนเย่เฉินเองก็ใช้ไมโครโฟนติดตัวคุยกับหวังเอ้อร์เชอ “หยุดการโจมตี เข้าสู่สภาวะพรางตัว”
“ครับ!
แล้วเครื่องบิน UFO ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็อันตรธานหายไปทันที
“มหัศจรรย์จริงๆ!”
“คิดไม่ถึงว่าเครื่องบินรบลำนี้จะพรางตัวได้!”
เครื่องบินที่พรางตัวได้ในทางการทหารนั้น ไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดยากอะไรตั้งนานแล้ว ไม่ว่าจะ F-22 ของอเมริกาหรือว่าจะ Chengdu J-20 ของประเทศเราล้วนแต่เป็นเครื่องบินรบที่ร้ายกาจทั้งนั้น
ส่วนเจ้า UFO เครื่องบินที่ยืมมาจาก Musk ตัวนี้ ที่จริงแล้วก็เทียบกับ F-22 หรือ Chengdu J-20 ไม่ได้ด้วยซ้ำ
เปรียบกับเครื่องบินที่กล่าวมาข้างต้น UFO ลำนี้ของเย่เฉินอย่างมากก็เป็นแค่ไซส์มินิเท่านั้ อาวุธเองก็มีไม่กี่ประเภท การป้องกันตัวก็อ่อนแออย่างมาก ทันทีที่ระเบิดจะเละไม่เหลือชิ้นดี
นี่เป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งของ Musk เท่านั้น
เย่เฉินเองก็ไม่ได้รีรอแต่อย่างใด เขาสาวเท้าเดินออกไปช้าๆ
คิดดูแล้วคนที่สามารถหักขาซูมู่หลินให้หัก แล้วยังสามารถเดินออกจากบ้านตระกูลซูได้อย่างปลอดภัยน่าจะมีไม่กี่คน
เขาเดินออกมาจากปากซอย แล้วเรียกรถแท็กซี่หนึ่งคัน เตรียมกลับบ้านไปเจอฉินหงเหยียน
……
ในเวลาเดียวกัน ณ เรือนสี่ประสานของฉินหงเหยียน
“แม่ครับ ผมอยากกินผลไม้เคลือบน้ำตาล”
“ได้ๆ เดี๋ยวแม่ซื้อให้ลูกนะ”
แม่ลูกคู่หนึ่งกำลังคุยกัน ชายหนุ่มที่ใส่หมวกแก็ปและแมสปิดปาก เดินผ่านมาพวกหล่อนไป
ก็เตะเข้าที่กำแพง แล้วตัวเขาก็ลอยขึ้นมา ทันใดนั้นเองก็ปีนเข้ากำแพงเข้าไปในเรือนสี่ประสาน!
ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าไม่มีใครเห็นแต่อย่างใด ฝีมือของเขาเรียกได้ว่าทำให้คนตกตะลึง! เหมือนมีวรยุทธ์อย่างไรอย่างนั้น!
“คะ? คุณแม่เมื่อกี้เหมือนมีคนเดินผ่านมา ทำไมจู่ๆ ก็หายไปแล้วคะ?” เด็กน้อยถามมารดาอย่างแปลกใจ
“มีใครที่ไหน อย่าสงสัยอะไรเหลวไหลที ไปเลย เดี๋ยวแม่จะซื้อผลไม้เคลือบน้ำตาลใ
ผลุบ
ชายหนุ่มค่อยๆ หย่อนตัวลงในบ้าน หลังจากนั้นก็เดินย่องเข้าไปภายในตัวบ้าน
ประตูห้องยังปิดไม่สนิท มีหญิงสาวในชุดเสื้อขนเป็ดตัวยาวสีขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกไม้ไผ่ แล้วสวมหมวกกันแดดใบใหญ่ที่ผิดผมและใบหน้าที่คนมักจะใส่ที่ทะเลในหน้าร้อน
วางขาอย่างผ่อนคลาย จนสามารถเห็นรองเท้าส้นสูงสีดำสองข้าง
ผู้หญิงที่เอนตัวอยู่บนเก้าอี้นั้น คงจะเป็นฉินหงเหยียน
เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ๆ แต่ฝีเท้าของอีกฝ่ายกลับเบาและไร้ซุ่มเสียงใดๆ
จากนั้นเขาก็เดินมาตรงบริเวณเก้าอี้ดยกจากนั้นก็วางมือลงบนบ่าของหญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อขนเป็ดแต่ว่าเพิ่งจะคว้าเสื้อได้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีไปทันที!
จากนั้นชายหนุ่มก็ออกแรงคว้าหมับ แต่คว้าได้แค่เสื้อเปล่าๆ เท่านั้น!
กลายเป็นว่าบนเก้าอี้ไม่มีใครอยู่!
“เป็นหุ่น!”
และในตอนนี้เอง มีดก็ถูกวางทาบทับบนลำคอของชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณด้านหลังเขา และหญิงสาวผู้นี้ก็คือฉินหงเหยียน!
ฉินหงเหยียนสวมชุดรัดรูปที่จะใส่ได้เฉพาะในฟิตเนส โชว์เรือนร่างสมบูรณ์แบบ รองเท้าเองก็เป็นรองเท้าออกกำลังกาย
ดูแล้วหล่อนน่าจะเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า
ฉินหงเหยียนกล่าว “ฉันทายเอาไว้ไม่มีผิด ฉันรู้อยู่แล้วว่าตระกูลซูไล่เย่เฉินออกมา จะต้องส่งคนมาจับฉัน! สารภาพมาว่ามานายเป็นคนของตระกูลซูหรือเปล่า!”
ฉินหงเหยียนฉลาดหลักแหลม เดาเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าตนเองอาจจะตกอยู่ในอันตราย
เพื่อไม่ให้ตนเองต้องกลายเป็นตัวถ่วงของเย่เฉิน และไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าเบื่อในละครอย่างผู้ชายช่วยเหลือผู้หญิง ฉินหงเหยียนก็วางแผนลวงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อให้คนเลวมาติดกับ
ทว่าผู้ชายโดนมีดทาบคอกลับไม่มีท่าทีขอร้องอ้อนวอนแต่อย่างใด
แต่กลับยิ้มละไม ถึงขั้นปรบมือให้ด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มกล่าว “สุดยอด คิดไม่ถึงว่าจะหลอกผมได้สำเร็จ แถมยังเอามีดทาบคอผมได้สำเร็จด้วย ในโลกนี้มีคนไม่มากหรอกนะที่ทำได้แบบนี้ ฉินหงเหยียน สมแล้วที่เป็นผู้หญิงที่น้องชายคนที่สามผมชอบ!”
“อะไรนะ?”
พอได้ยินสรรพนามคำว่าน้องชายคนที่สามฉินหงเหยียนก็นิ่งชะงักไป “คุณคือ?”
ชายหนุ่มไม่แสร้งวางท่าแต่อย่างใด แล้วถอดที่ปิดปากลงไป จากนั้นก็เผยให้เห็นใบหน้าที่ทั้งหล่อเหลาและดูเจ้าเล่ห์ออกมา!
คนผู้นี้ดูแล้วอายุไม่มากนัก เหมือนอายุไม่ต่างกับเย่เฉินมากนัก
ฉินหงเหยียนโลดแล่นในวงการธุรกิจมาหลายปีดีดัก แถมยังเป็นนักล่าผู้บริหาร หล่อนมองเพียงปราดเดียวก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ไมใช่นักเลงหัวไม้ธรรมดาๆ แต่เป็นลูกเศรษฐีแน่นอน!
พวกนักเลงหัวไม้ทั่วๆ ไปไม่มีทางมีมาดและบุคลิกแบบนี้ มีแต่คุณชายตระกูลเย่เท่านั้นจึงมี!
“
“คุณคือพี่ชายคนโตของเย่เฉินเหรอ?” ฉินหงเหยียนตื่นตระหนก แล้วอุทานถาม
ทว่าชายหนุ่มกลับขมวดคิ้วมุ่น “ผมแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ? อีกอย่างเย่เฉินไม่ได้บอกคุณเหรอว่าเย่เทียนน่ะเป็นที่หน้าตาอัปลักษณ์ที่สุดบรรดาเราสามคน?”
“พวกเราสามพี่น้อง ผมคือคนที่หล่อที่สุด รองลงมาก็เจ้าเด็กเย่เฉินนั่น ลำดับสุดท้ายก็คือเย่เทียน”
ฉินหงเหยียนระบายยิ้ม “คุณคือพี่ชายคนที่สองของเย่เฉินเหรอ? คุณคือเย่เซวียนเหรอ?”
ชายผู้นั้นระบายยิ้มพลางพยักหน้ารับ!
เขาก็คือเย่เซวียน!
เขาคือเย่เซวียนทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูลเย่ เป็นคนที่คัดเหลือหวังเจียหยามาจากหญิงสาวจำนวนมหาศาล จากนั้นก็โยนซูมู่ชิงให้เย่เฉินได้เสพย์สม!
ตอนนี้ตระกูลซูส่งคนไล่ล่าเขา มิน่าเขาถึงได้แต่งตัวมิดชิดขนาดนั้น
ฉินหงเหยียนถามเขาอย่างร่าเริง “คุณมาช่วยเย่เฉินเหรอ? เขาไปตระกูลซู แต่เขาเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่าเขาแก้ไขปัญหาแล้ว คุณเป็นคนช่วยเขาเหรอ?”
เย่เซวียนไม่ตอบคำถามหล่อน ทว่ากลับย้อนถามหญิงสาว “ฉินหงเหยียน คุณ อยากไปเจอพ่อของคุณไหม?”
เย่เซียนหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดวีดีโอคอล ในปลายสายนั้นเป็นภาพของฉินอ้าวหมิงบิดาของฉินหงเหยียน!