ตอนที่ 343 ฉินหงเหยียนหายตัวไป!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เย่เฉินก็กลับมาถึงเรือนสี่ประสานที่ฉินหงเหยียนอยู่
“หงเหยียน หงเหยียน!”
เพิ่งเดินออกมาจากตัวบ้าน เย่เฉินก็เดินตรงปรี่ไปหาฉินหงเหยียน
เขามาถึงเมืองหลวงก็จัดการปัญหาเรื่องของหลิวเจิ้งคุนกับซีกวาแล้ว เขาเชื่อมั่นว่าซูเจิ้นหางจะไม่เปลี่ยนใจ
ส่วนเรื่องที่ทรัพย์สินเขาโดนอายัดไปนั้น เกรงว่าคงจะไม่ได้แก้ไขได้โดยง่าย
ดังนั้นเย่เฉินจึงตัดสินใจว่าจะพาแฟนสาวไปประเทศอังกฤษ แล้วรอผ่านไปสักระยะหนึ่งพอปัญหาแก้ไขแล้ว ค่อยกลับมา
เย่เฉินวิ่งเหยาะๆ เข้าไปในห้อง แต่หันมองรอบๆ ก็ไม่เห็นวี่แววของแฟนสาว
“หงเหยียนคุณอยู่ไหน?”
เย่เฉินผลักประตูไล่ตามหาในแต่ละห้อง รวมไปถึงดูในห้องน้ำด้วย แต่ว่าหารอบบ้านแล้วก็ไม่เจอฉินหงเหยียน
ดังนั้นเย่เฉินจึงโทรหาอีกฝ่ายแต่ก็ไม่มีใครรับสาย
“แปลกจัง หงเหยียนอยู่ไหนนะ?”
ในตอนที่เย่เฉินกำลังจะกลับมา เขายังส่งข้อความหาฉินหงเหยียนบอกว่ากำลังจะกลับบ้าน
ฉินหงเหยียนเองยังตอบเย่เฉินอยู่ ดังนั้นหญิงสาวไม่มีทางไปแจ้งความอะไรได้
“หรือว่าหงเหยียนจะโดนคนตระกูลซูจับไปนะ?”
เย่เฉินครุ่นคิด มีเพียงความเป็นไปได้นี้เท่านั้น!
“แม่ง!”
เย่เฉินหัวเสียจัด แล้วถึงได้สังเกตเห็นว่าตนเองคิดผิดไป ในเมื่อคนตระกูลซูอยากให้เย่เฉินคบหากับซูมู่ชิง ทำไมพวกเขาจะไม่ลงมือกับฉินหงเหยียน
คนตระกูลซูอาจจะจับตัวฉินหงเหยียนไป หรืออาจจะฆ่าหล่อน หรือไม่ก็หาผู้ชายมาย่ำยีหล่อนเพื่อแยกเย่เฉินกับฉินหงเหยียนออกจากัน!
ซูมู่หลินย่อมกล้าทำเรื่องเช่นนี้!
ทันทีที่นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ฉินหงเหยียนโดนรังแก เย่เฉินก็ว้าวุ่นใจ เขาโบกรถอีกคันแล้วรีบตรงไปยังที่พักอาศัยของซูเจิ้นหางทันที
ตอนที่ไปถึง ที่นี่ตระเตรียมคนเฝ้าระวังรอบบริเวณ
มีคนผู้หนึ่งจำเย่เฉินได้ ว่าเขาคือคนที่มาถล่มบ้านตระกูลซูและเตะซูมู่หลินจนขาหัก
คนผู้นี้รีบลุกขึ้นยืนในทันที “ไอ้คนชั่ว เราปล่อยให้แกมีชีวิตรอดไปแต่แกยังมีหน้าจะกลับมาอีกเรอะ!”
เย่เฉินที่สนใจแต่จะหาข่าวคราวของฉินหงเหยียน กล่าวเสียงเย็น “ไสหัวไป! ฉันต้องการเจอซูเจิ้นหาง!”
แต่คนผู้นั้นจะกล้าปล่อยบุคคลอันตรายอย่างเย่เฉินเข้าไปด้านในได้อย่างไร?
“คนที่ต้องไสหัวไปคือแก! กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลซู เบื่อชีวิตแล้วหรือไง!”ชายหนุ่มตะโกนเสียงเหี้ยม
เย่เฉินไม่พูดเหลวไหลอีก เขาตะบันหมัดใส่หน้าอีกฝ่ายพลางโถมน้ำหนักตัวกดอีกฝ่ายลงบนพื้น!
แต่ว่าในวินาทีนี้ก็มีปืนหลายกระบอกเล็งไปที่เย่เฉิน!
เย่เฉินไม่ลนลาน เขาดีดนิ้วแล้วก็มี UFO ลอยอยู่กลางอากาศ พลางเล็งปืนมาที่นี่
“ถ้านายกล้ายิง ฉันรับรองได้เลยว่าคนตระกูลซูไม่มีใครรอดแน่!” เย่เฉินขู่
ชายหนุ่มดูมีท่าทีลำบากใจ ตอนนี้เขาแค่มีคนเยอะกว่า แต่ก็ยังเป็นแค่การเฝ้าระวังและโจมตีบนพื้นดินเท่านั้น
เขาเองก็ทำอะไรกับของอย่างเครื่องบินรบไม่ได้ พวกเขาย่อมต้องไม่กล้าเอาชีวิตของคนใดๆ ในตระกูลซูมาเสี่ยง
“แกรอก่อนเถอะ ฉันจะไปรายงานนายท่าน!”
ผู้ชายคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปในเรือนสี่ประสาน เพราะว่าในห้องยังมีแก๊สพิษอบอวนอยู่ ดังนั้นคนตระกูลซูจึงออกมาสูดอากาศในสวนกัน
แต่ในตอนนี้เองซูมู่หลินกับแม่ของเขามีคยนขับรถไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการที่โดนปืนยิง
“นายท่าน! หมอนั่นกลับมาหาเรื่องอีกแล้วครับ! บอกว่าอยากพบนายท่าน!”
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาในเรือนสี่ประสาน แล้วรีบวิ่งไปรายงานกับซูเจิ้นหาง
“อะไรนะ?”
แรงของซูเจิ้นหางเพิ่งกลับมา กว่าจะหายใจโล่งอกโล่งคอ
ทั้งๆ ที่เรื่องโหดร้ายเพิ่งจะคลี่คลายลงไปได้แท้ๆ เขาจะกลับมาทำไม?
ซูมู่ชิงนิ่งไป หญิงสาวเองก็อยากรู้เหตุผลที่เขากลับมาเหมือนกัน
ส่วนซูมู่เสวี่ยตะคอกออกมาด้วยความไม่พอใจ “ไอ้สารเลวไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กลับมาได้เวลาพอดี เมื่อกี้เราแค่คาดไม่ถึงว่าเขาจะซ้อมเรา คราวนี้เราจะต้องเอาคืนเขาให้ได้!”
ซูเจิ้นหางครุ่นคิดแล้วกล่าว “ให้เขาเข้ามาสิ”
“ครับ!”
ชายหนุ่มวิ่งโร่ออกมาหยุดตรงหน้าเย่เฉิน “ตามผมเข้ามาเถอะ แต่ห้าม UFO ของคุณตามมานะ!”
เย่เฉินชูมือขึ้นแล้วดีดนิ้ว จากนั้น UFO ก็เปลี่ยนเป็นสภาพพรางตัวทันที ไม่มีใครรู้เลยว่า UFO ได้ตามเย่เฉินมาหรือไม่
เมื่อเข้าไปในตัวบ้าน ซูเจิ้นหางก็นั่งลงบนเก้าอี้ถามอย่างขึงขัง “เย่เฉิน เธอกลับมาทำไม?”
เย่เฉินฉุนเฉียว “ซูเจิ้นหาง คุณจับฉินหงเหยียนไปไว้ที่ไหน!”
ใบหน้าซูเจิ้นหางเต็มไปด้วยความสงสัย“เธอพูดอะไร? ฉินหงเหยียนหายตัวไปเหรอ?”
เย่เฉินกล่าว “คุณอย่ามาเสแสร้งเลย! คุณจะต้องฉวยโอกาสที่ผมมาหาคุณส่งคนไปจับตัวแฟนผม คุณรีบคนตัวคู่หมั้นผมมาเลยนะ!”
ซูเจิ้นหางกล่าวเสียงอ่อนอย่างที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยนัก “ฉันไม่ได้ส่งคนไปจับตัวคู่หมั้นของเธอมาเลยด้วยซ้ำ”
“คุณโกหก!”
เย่เฉินตะคอกใส่อีกฝ่าย
“เย่เฉิน บังอาจ!”
ซูมู่เสวี่ยที่เพิ่งโดนเย่เฉินประเคนฝ่ามือใส่หน้าไปหลายทีแหวใส่ “นายกล้าวางก้ามในบ้านตระกูลซูเลยเหรอ! เมื่อครู่เราฆ่านายไม่ได้ แต่ตอนนี้นายกลับมารนหาที่ตายชัดๆ! เสี่ยวหลิว ยิงเขาให้ตายไปเลย!”
ซูมู่เสวี่ยหันไปสั่งชายหนุ่มที่พาเย่เฉินเข้ามา
แต่ว่าถ้าไม่มีคำสั่งจากซูเจิ้นหาง ชายหนุ่มไม่มีทางลั่นไกแน่นอน แต่เขาก็ยังเล็งปืนไปที่เย่เฉิน
“อย่าวู่วาม!”
จู่ๆ ซูมู่เสวี่ยผุดลุกขึ้น ถึงได้รู้ว่าทำไมเย่เฉินถึงได้กลับมาหลังจากที่กลับไปแล้วที่แท้สาเหตุก็เป็นเพราะฉินหงเหยียน
ซูมู่ชิงกล่าว“เย่เฉิน คุณอย่าใจร้อน คุณปู่ฉันบอกว่าไม่ได้ทำย่อมต้องแปลว่าไม่ได้ทำจริงๆ เขาไม่มีสาเหตุที่จะหลอกลวงคุณนะคะ”
ซูเจิ้นหางแค่นเสียง “เด็กบ้า ตอนนี้สำหรับฉันแล้วนายเป็นแค่ลูกไก่ในกำมือเท่านั้น ถ้าฉันจับฉินหงเหยียนต่อให้ฉันยอมรับแล้วนายจะทำยังไงกับฉันได้! ฉันบอกว่าไม่ได้จับ ก็แปลว่าไม่ได้จับมา!”
ซูมู่ชิงกล่าว “คุณปู่ของฉันไม่ได้หลอกคุณหรอก อาจจะเป็นฝีมือซูมู่หลินก็ได้ เดี๋ยวฉันโทรถามเขาให้นะคะ”
เย่เฉินพยักหน้ารับ ซูมู่หลินเป็นคนไม่สนใจใคร เป็นไปได้มากทีเดียวว่านี่จะเป็นความคิดเขา
ซูมู่ชิงโทรหาน้องชาย ตอนแรกเขาไม่ได้รับสายอาจเพราะเขากำลังผ่าเอากระสุนออกจากขา ผ่านไปครู่ใหญ่เขาถึงโทรกลับมา
ซูมู่ชิงรีบร้อนถาม“มู่หลิน ฉินหงเหยียนโดนนายจับไปหรือเปล่า?”
ซูมู่หลินกัดฟันตอบด้วยความเจ็บปวดว่า “ผมไม่ได้แตะต้องอะไรฉินหงเหยียนเลยนะครับทำไมเหรอ? ฉินหงเหยียนหายตัวไปเหรอ? ดีจริงๆ เลย คู่หมั้นที่เย่เฉินเอาแต่เพ้อหาจะต้องหนีเขาไปแน่ ไม่ก็โดนคนจับตัวไป ผมไม่มีทางปล่อยหมอนี่ไปแน่! โอ้ย!”
ซูมู่ชิงกล่าวกับโทรศัพท์“นายรักษาตัวเถอะ”
เมื่อกดวางสาย ซูมู่ชิงก็กล่าวกับเย่เฉิน “มู่หลินบอกว่าเขาไม่ได้จับฉินหงเหยียนไป”
“เป็นไปไม่ได้! หงเหยียนเพิ่งตอบผมเลยว่ากำลังรอผมอยู่ที่บ้าน แต่ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาเลย ถ้าไม่ใช่ฝีมือตระกูลซูของพวกคุณ แล้วจะเป็นฝีมือใคร!”
เย่เฉินไม่เชื่อว่าคนบ้านนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของฉินหงเหยียน
ซูมู่ชิงกล่าว “บางทีหล่อนอาจจะมีธุระด่วนเลยออกไปข้างนอกก็ได้นะคะ ฉันจะไปช่วยคุณตามหาหล่อนเอง ระหว่างนี้จะช่วยคุณติดตั้งกล้องดีไหม?”
เห็นสีหน้าเปิดเผยซื่อสัตย์ของอีกฝ่าย แถมคนทั้งตระกูลซูต่าก็ปฏิเสธกันหมด เย่เฉินรู้ว่าต่อให้อยู่ที่นี่ต่อก็คงจะไม่ได้เรื่องอะไรไม่สู้เขาเองก็ตามซูมู่ชิงออกไปจากที่นี่ดีกว่า