บทที่ 373 ค่ำคืนน่าอับอาย
บทที่ 373 ค่ำคืนน่าอับอาย
หลังตรองดูแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็คิดว่าวันนี้คงกลับไปไม่ทัน เขาจึงพาซูหว่านเอ๋อเข้าพักที่โรงแรม
“เถ้าแก่เนี้ย ขอห้องพักสองห้องครับ”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยเมื่อทั้งคู่เข้ามาภายในโรงแรม
“สองห้องเหรอคะ? เรามีแค่ไม่กี่ห้อง มาสองคนพักห้องเดียวก็พอแล้วค่ะ”
เจ้าของที่พักเป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรนัก เธอหันมองพวกเขาก่อนก้มหน้าดูละครละครในโทรศัพท์ต่อ
“ได้ครับ ห้องเดียวก็ได้”
อวี้ฮ่าวหรานไม่ถือสาเรื่องนี้ ถึงอย่างไรราคาก็แตกต่างกัน ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมหรู ไม่มีทางที่จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
“คืนละ 120 หยวน ห้ามต่อรอง”
“ตกลงครับ”
เขารับคำเมื่อเธอบอกราคา เธอเดินนำทางพวกเขามาที่ห้องเล็ก ๆ
“มีแค่…เตียงเดียวเองนะคะ…” ซูหว่านเอ๋อมองสำรวจ จึงเห็นว่าภายในห้องมีเพียงเตียงเดียว
“แล้วเธอจะเอายังไง? มีแค่นี้ก็ดีมากแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอก็ไปนอนในรถไป”
เจ้าของโรงแรมว่าขึ้นอย่างถือดีด้วยไม่มีโรงแรมอื่นแถวนี้ ท่าทางของเธอจึงเป็นแบบนี้
ทั้งคู่จำต้องยอมต้องเข้าพัก เจ้าของเอ่ยเตือนก่อนเดินจากไป โชคดีที่ยังมีห้องน้ำในตัว
“แล้ว…เราจะนอนยังไงกันคะ?”
ซูหว่านเอ๋องุนงงเล็กน้อย เธอไม่เคยอยู่กับผู้ชายสองต่อสองเป็นเวลานาน ตอนนี้กลับต้องมานอนร่วมห้องกัน
อาการกระอักกระอ่วนผุดขึ้นในใจเธอ…
“คุณนอนบนเตียงเถอะครับ”
อวี้ฮ่าวหรานรู้ว่าเธอร่างกายไม่แข็งแรง อาจไม่สบายหากนอนที่พื้น
“แล้ว…แล้วคุณไม่…”
“ผมไม่เป็นไรครับ ตอนอยู่บ้านผมก็นอนโซฟาบ่อย ชินแล้วครับ”
“คะ?”
เธอชะงักเมื่อได้ยินคำเขา จ้องมองเขาด้วยท่าทีแปลกใจ เป็นถึงประธานบริษัทแห่งเครือฮ่าวหราน…แต่นอนที่โซฟาบ่อย ๆ อย่างงั้นเหรอ?
เธอถอนหายใจ ก่อนเข้าไปอาบน้ำก่อน
ห้องนี้ค่อนข้างไม่เก็บเสียง เสียงน้ำไหลดังขึ้น อวี้ฮ่าวหรานก้มหยิบปิ่นหยกดำขึ้นมาตรวจสอบดู
ลำพังเพียงลักษณะภายนอกของมันก็ดูเป็นเอกลักษณ์ ยังไม่ต้องพูดถึงพลังวิเศษของมัน
แต่เมื่อใช้พลังวิญญาณตรวจสอบ เคล็ดวิชาที่แฝงอยู่ในตัวมันก็เผยอออกอย่างง่ายดาย
เป็นวิธีที่ชาญฉลาดมาก…
มันชวนให้ชายหนุ่มคิดใคร่ครวญดู เขารู้ว่ามีผู้ฝึกตนที่ทรงพลังในโลกมนุษย์อยู่ด้วย
ของแบบนี้ไม่มีทางเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนในขอบเขตก่อรากฐานจะทำได้
“อืม…ดูเหมือนว่าต่อไปจะต้องระวังตัวมากขึ้นแล้ว”
อวี้ฮ่าวหรานถอนหายใจแผ่วเบา เขามีครอบครัวตัวเองอยู่ในโลกมนุษย์ จึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของครอบครัวมากที่สุด
“ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วค่ะ” ซูหว่านเอ๋อออกมาในชุดกระโปรงตัวเดิม
พวกเขาไม่ได้นำเสื้อผ้าติดตัวมาด้วยความเร่งรีบ เธอจึงจำเป็นต้องใส่ชุดเดิม
เทียบกับคฤหาสน์สกุลซูแล้ว ที่นี่คงด้อยกว่ามาก อวี้ฮ่าวหรานนึกรู้สึกผิดกับเธอในเรื่องนี้
วันนี้เธอต้องการชวนเขามาชมโบราณวัตถุ หากแต่ใครเล่าจะรู้ว่าจะถูกเขาผลุนผลันลากออกมา เห็นชัดว่าชุดกระโปรงสีเบจตัวนี้ไม่เหมาะกับการเดินทางมาที่นี่นัก
“คุณโอเคไหมครับ วันนี้ออกจะฉุกละหุกไปหน่อย”
เมื่อเห็นพวงแก้มซีดเซียวของเธอ อวี้ฮ่าวหรานก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“คือ…ฉันไม่ค่อยได้อยู่ในที่แบบนี้ แต่ว่าก็ได้อยู่ค่ะ”
ซูหว่านเอ๋อพยักหน้าน้อย ๆ เธอไม่คุ้นชินกับสถานที่แบบนี้ ยิ่งทั้งคู่ต้องมาอยู่ตามลำพังในห้อง
โดยเฉพาะหลังอาบน้ำเสร็จ ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเคยเห็นเธอหลังจากอาบน้ำเสร็จมาก่อน…
“คุณ…คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ”
“ครับ คุณเข้านอนก่อนได้เลยนะครับ ดึกมากแล้ว”
เมื่อเห็นแบบนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ในห้องเล็ก ๆ แบบนี้ เขาน่าจะอาบน้ำและนอนพักตั้งแต่หัวค่ำ
เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ เขาก็มองสำรวจและรู้สึกพึงพอใจไม่น้อย
แม้เจ้าของโรงแรมจะไม่เป็นมิตรนัก แต่อย่างน้อยที่พักก็สะอาดสะอ้าน
เขารีบอาบน้ำและออกมา ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก คนหนึ่งนอนบนเตียง ขณะที่อีกคนนอนบนโซฟาข้าง ๆ
คืนนี้อวี้ฮ่าวหรานนอนเร็ว การฝึกตนเมื่อมีคนอื่นอยู่ด้วยย่อมไม่เหมาะสมนัก
เขาเลือกที่จะพักผ่อนในคืนนี้…
เวลาเที่ยงคืน ทุกสิ่งก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
อวี้ฮ่าวหรานซึ่งกำลังงัวเงีย ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เขาลืมว่าตนเองต้องนอนที่ไหนเมื่อกลับมา
เขาจึงทิ้งตัวนอนลงบนเตียง
ซูหว่านเอ๋อนอนหลับไม่สนิทด้วยความไม่คุ้นที่ เธอจึงสะดุ้งตื่นทันทีเมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง
เธอสัมผัสได้ถึงร่างผู้ชายด้านหลัง…
พวงแก้มพลันแดงก่ำท่ามกลางความมืดเมื่อรู้ตัว การนอนข้างผู้ชายแบบนี้เป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตนี้
เธอหันไปมองอวี้ฮ่าวหรานนอนหลับสนิทอยู่ข้างเธอ…
เธอเบาใจลง เพราะนาน ๆ ทีเขาจะพักการฝึกตนและพักผ่อนจึงหลับลึกกว่าปกติ
ซูหว่านเอ๋อกะพริบตาปริบ ๆ ร่างกายกลับเกร็งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เธอทำอะไรไม่ถูกในตอนนี้
เป็นครั้งแรกที่เธอได้นอนร่วมเตียงกับผู้ชาย ทั้งยังอยู่ใกล้มากเสียด้วย!
เมื่อคิดเช่นนี้ เธอจึงรู้สึกได้ถึงไอร้อนในตัวซึ่งส่งต่อไปยังพวงแก้มเธอเป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกแบบนี้
ซูหว่านเอ๋อไม่อาจห้ามใจไหว เธอยื่นมือออกไปหมายจะลูบแก้มของคนข้างกาย
เขาเป็นคนที่ช่วยเธอจากการถูกบังคับแต่งงานก่อนหน้านี้
ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลา จึงทำให้พ่อของเธอซึ่งดูถูกคนอื่นมาตลอดยอมลงจนได้
ยิ่งไปกว่านั้นยังเชี่ยวชาญวิชาการต่อสู้
ชายคนนี้ หาก…
เธออดที่จะรู้สึกร้อนรุ่มในกายไม่ได้
ทว่าเมื่อนึกถึงบางสิ่ง นิ้วเรียวของเธอกลับผงะถอยออก
“เขามีภรรยาและลูกสาวอยู่แล้ว…”
ด้วยเหตุนี้อวี้ฮ่าวหรานจึงหลับสนิท ผิดกับซูหว่านเอ๋อที่นอนไม่ค่อยหลับแต่อย่างใด
กระทั่งช่วงเช้ามืด เธอรู้สึกง่วงก่อนผล็อยหลับไป จากนั้นท้องฟ้าก็สว่างขึ้นในไม่ช้า
“หือ…ไม่ได้หลับลึกขนาดนี้มานานแล้ว”
อวี้ฮ่าวหรานตื่นตามเวลาปกติ รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจฟื้นตัวเต็มที่
แม้เขาจะไม่ต้องนอนหลับระหว่างช่วงฝึกตน เขาก็สามารถคลายความปวดเมื่อยอ่อนล้าเองได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเทียบกับการนอนพักได้
อวี้ฮ่าวหรานลุกขึ้นเตรียมจะไปอาบน้ำ แต่ทันทีที่ลุกขึ้น ก็รู้สึกตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
“นี่ฉัน…”