บทที่ 281
แต่จากที่พวกลู่ฝานมองแล้ว ไม่ใช่ท่าก้าวร้าวดุดัน แต่เป็นไอ้โง่เง่าเต่าตุ่นแยกขามากกว่า

ลู่ฝานกลอกตามองบน ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน ปล่อยเขาไปเถอะ

เพราะศิษย์พี่หานเฟิงรู้สึกไปเองว่าดีก็พอแล้ว

หานเฟิงหัวเราะขึ้นมา “ใครจะมาสู้กับฉัน”

นักเรียนมีความสามารถของคณะสงบใจที่เหลืออยู่ มองหน้ากันไปมา ไม่มีท่าทีจะขึ้นไปสู้

หลิงเหยาก้มหน้า หมิงจูทำเหมือนไม่เห็นหานเฟิง

ม่านเหยียนกับเยียนหรานมองหน้ากัน ทั้งสองไม่เต็มใจขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะเยียนหราน เธอเคยเห็นหานเฟิงลงมือ รู้ว่าตัวเองขึ้นไป ต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานเฟิงแน่นอน

สุดท้าย อาจารย์อู๋โฉวพูดว่า

“ม่านเหยียน เธอไปรอบสองละกัน”

“ค่ะอาจารย์!”

ม่านเหยียนออกมายืนอย่างไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ถือขลุ่ยหยก

ในมือ ม่านเหยียนขมวดคิ้วงาม มองหานเฟิงแล้วพูดว่า “โปรดชี้แนะด้วย”

หานเฟิงโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “มิกล้าชี้แนะหรอก ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ศิษย์พี่ม่านเหยียนผมได้ยินว่าเพลงล่าขวัญฝันเลือนรางของพี่ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น วันนี้เรามาสู้กันด้วยความดีงามสูงส่งไหม พี่เป่าขลุยมาหนึ่งบทเพลง ผมฟัง เมื่อจบบทเพลง ถ้าผมยังยืนอยู่ได้ นั่นคือผมชนะ ถ้าผมฝืนไม่ไหวแล้วล้มลงไป ถือว่าผมแพ้ เป็นไง”
ม่านเหยียนตาเป็นประกาย “หานเฟิงช่างห้าวหาญ แบบนี้ก็ดี ไม่ทำลายมิตรภาพ งั้นหานเฟิงได้โปรดฟังบทเพลงของฉัน”

หานเฟิงเอากระบี่ฟ้าครามปักลงบนพื้น มือสองข้างเท้าเอว ยืนอกผายไหล่ผึ่ง

ท่านี้ลู่ฝานไม่รู้จะพูดยังไง เห็นแล้วงง โดยเฉพาะท่ายืดเอว ดูลามกยังไงไม่รู้ ถ้ามีนักเรียนหญิงชอบเขา คงเป็นเรื่องแปลก

ม่านเหยียนวางขลุ่ยหยกตรงปาก ชุดปราณปรากฏขึ้นบนตัว มีผลการฝึกตนแดนปราณนอก

เสียงเพลงดังขึ้น ลู่ฝานรู้สึกว่าปราณชี่ในตัวเคลื่อนไหวตามไปด้วย เป็นเคล็ดวิชาบู๊ที่ดุดันมาก

เคล็ดวิชาบู๊คลื่นเสียงแบบนี้ ฝึกยากที่สุด แต่เมื่อฝึกได้แล้ว ก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก ดูถูกพลานุภาพไม่ได้เลย

ถ้าศิษย์พี่หานเฟิงประมาทเล็กน้อย ต้องเสียเปรียบแน่นอน

เสียงเพลงลอยไป จากต่ำไปสูง เสื้อปราณบนตัวม่านเหยียนค่อยๆ เปลี่ยนแปลง เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า มีแรงกระเพื่อมกระจายออกมาจากขลุ่ยหยก

นี่คือการที่พลังปราณกระตุ้นพลังฟ้าดิน ส่งแรงกระเพื่อมมาโจมตีหานเฟิง

ไม่นาน สีหน้าหานเฟิงจริงจังขึ้นมา มีเสื้อปราณขึ้นมาบนตัวเช่นกัน

เมื่อเห็นผลการฝึกตนแดนปราณนอกของหานเฟิง นักเรียนคณะสงบใจพากันส่งเสียงตกใจ โดยเฉพาะพวกนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ในโถงหลัก นักเรียนที่ดูผ่านกระจกจำภาพ ล้วนพากันตะโกนออกมา

“ไอ้ขี้แพ้นี่มีพละกำลังแดนปราณนอกแล้ว อภัยไม่ได้!”

“เสื้อปราณเขาดูสมจริงมาก ไม่เหมือนได้มาจากวิชาชั่วร้าย หึ ถึงเขาเก่งจริงๆ ก็ให้เขาอวดดีในคณะสงบใจไม่ได้”

“ครั้งก่อนเขาเกือบถ้ำมองฉันในภูเขาตอนอาบน้ำ! ไอ้ขี้แพ้ทุเรศ ศิษย์พี่ม่านเหยียนสู้ๆ”

“จัดการไอ้ขี้แพ้เลย!”

……

เสียงตะโกนเช่นนี้ ดั่งไปทั่วคณะสงบใจ

ขนาดลู่ฝานที่อยู่ในโถงหลัก ยังแอบได้ยินเบาๆ

ไอ้ขี้แพ้เหรอ

นี่กำลังตะโกนใส่ใครอยู่ ศิษย์พี่หานเฟิงเหรอ

อย่าบอกนะว่าศิษย์พี่หานเฟิงยังมี “ฉายางดงาม” แบบนี้ในคณะสงบใจ

ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วลูบหัวเจ้าดำ

เคล็ดวิชาบู๊คลื่นเสียงของม่านเหยียนไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย