บทที่ 282
โน้ตเพลงสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงสุดท้าย เพลงแทบจะทำให้คนกระอักเลือดออกมา

สีหน้าหานเฟิงเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าฝืนอย่างยากลำบาก เสื้อปราณบนตัวบิดเบี้ยวตามเสียง

หานเฟิงเหมือนท้องผูก สีหน้าทุกข์ระทม อยากขยับก็ไม่สามารถทำได้

จู่ๆ เสียงเพลงหยุดลง ตอนมันขึ้นเสียงสูงสุด ก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เขารู้สึกไม่ดีเช่นกัน

นักเรียนคณะสงบใจที่อยู่ในนี้ มีเลือดไหลออกจากมุมปาก เคล็ดวิชาบู๊คลื่นเสียงแค่นี้ ครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้าง นักเรียนที่อยู่ในโถงหลัก โดนคลื่นเสียงโจมตี

ตัวหานเฟิงเอนไปด้านหน้า เหมือนจะอ้วกออกมา

แต่ขณะนั้น เสียงขลุ่ยดังขึ้นอีก

แรงกระเพื่อมแปลกประหลาดสามแรง ตามเสียงโจมตีตัวลู่ฝานเหมือนคลื่น

เสื้อปราณบนตัวลู่ฝานแตกออก ใกล้จะฝืนไม่ไหวแล้ว

แต่จู่ๆ หานเฟิงมีท่าทีตัดสินใจสู้ตาย เสื้อปราณบนตัวระเบิดออก ทำลายพลังปราณของตัวเอง ฝืนให้เขาประคองตัวยืนได้

แรงกระเพื่อมที่โจมตีบนตัวเขาทั้งสามแรง โดนเขาทำลายและหายไป

หานเฟิงตัวโงนเงน เสื้อของหานเฟิงระเบิดขาดเป็นแถบ เผยให้เห็นลำตัวส่วนบนอันแข็งแกร่งของเขา

เพราะเป็นคนที่ฝึกบู๊ ร่างกายสมส่วน กล้ามเนื้อกำยำ เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว เลือดไหลออกมาจากรูขุมขนบนตัวหานเฟิง

ลู่ฝานอดกังวลไม่ได้

การทำลายพลังปราณตัวเองแบบนี้ ต้องบาดเจ็บถึงอวัยวะภายใน

สำหรับนักบู๊ อันที่จริงบาดเจ็บภายนอกไม่น่ากลัว โดยเฉพาะการบาดเจ็บที่มือเท้า ดูบาดแผลปะปนไปด้วยเลือดเนื้อเละเทะ อันที่จริงแค่ใช้สมุนไพร หรือยาเม็ด ผ่านไปสองวันก็ดีขึ้นแล้ว

สิ่งที่กลัวคือบาดเจ็บภายใน ถ้าบาดเจ็บถึงจุดสำคัญ จะเป็นเรื่องใหญ่ พิการทั้งหมด ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ม่านเหยียนตกใจกับการกระทำของหานเฟิง เสียงเพลงหยุดลงทันที

เธอเอามือปิดปาก มองไปทางหานเฟิง

หานเฟิงเงยหน้า ยิ้มอย่างน่ากลัว “จบแล้วเหรอ ดูเหมือนผมชนะแล้ว”

ม่านเหยียนกัดฟันพูดว่า “อันที่จริงยังมีท่อนสุดท้าย แต่นาย……”

หานเฟิงพูดว่า “ยังมีท่อนสุดท้ายเหรอ! มาสิ ฟังเพลงต้องฟังให้จบ จะขาดอีกท่อนได้อย่างไร!”

ม่านเหยียนดูไม่มีสมาธิแล้ว เธอกลัวว่าเป่าท่อนสุดท้ายแล้ว หานเฟิงที่อยู่ตรงหน้าจะตายต่อหน้าเธอหรือเปล่า

ม่านเหยียนหันไปมองอาจารย์อู๋โฉว แต่กลับพบว่าสีหน้าอาจารย์อู๋โฉวนิ่งมาก

ม่านเหยียนรวบรวมสติ วางขลุ่ยหยกไว้ตรงปาก

เสียงขลุ่ยดังขึ้น คลื่นเสียงพลุ่งพล่าน เหมือนเสียงบ่นข้างหู จากนั้นกลายเป็นเสียงอันทรงพลัง

การเปลี่ยนแปลงคาดเดาไม่ได้ แต่ไพเราะจนน่าอัศจรรย์

ในความฝันเลือนราง เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ดั่งสายน้ำ บทเพลงล่าวิญญาณ มีความระทมไม่จบไม่สิ้น

ลู่ฝานถูกดึงดูดไปแล้ว นี่คือ เพลงล่าขวัญฝันเลือนรางเหรอ

ยั่วยวนจิตวิญญาณคน ทำลายพลังปราณ ฆ่าพลังชี่ เป็นเคล็ดวิชาบู๊ที่เก่งกาจจริงๆ อย่างน้อยต้องระดับดินขึ้นไป

ลู่ฝานอาศัยวิชาเทพไร้ขีดจำกัดควบคุมสติ จึงทำให้เขาไม่โดนเพลงล่าขวัญฝันเลือนรางรบกวน

แต่เหมือนหานเฟิงติดกับดักแล้ว แววตาเหม่อลอย จ้องม่านเหยียนอยู่อย่างนั้น น้ำลายแทบไหลออกมาแล้ว

เห็นดังนั้น ม่านเหยียนรู้ว่าตัวเองชนะแล้ว อีกฝ่ายโดนควบคุมเอาไว้แล้ว เธอต้องเค้นเสียง ถึงจะโจมตีให้เขาล้มลงได้

พลังปราณบนตัวม่านเหยียนหายไป เธอไม่สู้แล้ว ฆ่าคนเป็นสิ่งไม่ดี

แต่ขณะนั้น หานเฟิงพูดเหมือนผีเข้า

“ศิษย์พี่ม่านเหยียนผมชอบพี่ พี่มีลูกกับผมเถอะ”