บทที่ 377 1 วัน 1 คืน

บทที่ 377 1 วัน 1 คืน

“คุณ?”

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมองเหตุการณ์ภายในห้องด้วยความตกตะลึง ภาพที่เห็นตรงหน้าผิดไปจากที่เขาคิดไว้มาก

เหล่ยเซียวซึ่งอวดเบ่งก่อนหน้านี้ล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมสีหน้าหวาดกลัว เช่นเดียวกับภรรยาของเขา

พวกเขาตัวสั่นเทาราวกับเห็นผี

ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งบุกเข้ามากลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

“เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย?”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้คนที่มุงดูจึงเผยท่าทีงุนงงเล็กน้อย

“เห็นปิดประตูไป คิดว่าพ่อหนุ่มคนนั้นจะโดนทำร้ายซะแล้ว”

“เขาดูไม่เหมือนคนที่โดยทำร้ายเลยนะ น่าจะเป็นคนที่ทำร้ายสองคนนั้นมากกว่า!”

“…”

ทุกคนจับจ้องเข้าไปในห้อง สีหน้าต่างตื่นตะลึง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนนี้เป็นฝ่ายเล่นงานอย่างนั้นเหรอ?

หากแต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งคุณหมอและนางพยาบาลก็รู้สึกสะใจเมื่อได้เห็นเช่นนี้

“เฮอะ! สมน้ำหน้า!”

พวกเขาที่ถูกครอบครัวนี้ดูถูกก่อนหน้านี้ ตอนนี้จะรู้สึกเห็นใจอีกฝ่ายได้อย่างไร?

อวี้ฮ่าวหรานตวัดสายตามองเหล่ยเซียวและคนอื่น ๆ อย่างไม่สบอารมณ์

“ออกไปให้หมดเดี๋ยวนี้!”

เสียงอึกทึกครึกโครมรบกวนการพักผ่อนของซูหว่านเอ๋อ และเห็นชัดว่าครอบครัวนี้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด

“ได้…ได้เลย…ฉันจะออกไป…จะออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

เหล่ยเซียวได้ยินคำของเขา ไม่แม้แต่รีรอเช็ดเลือดที่มุมปาก และรีบลุกขึ้นทันที ชายวัยกลางคนไม่คิดขัดขืนแต่อย่างใด เพราะชายหนุ่มคนนี้น่าสะพรึงกลัวนัก!

เขาจึงเป็นฝ่ายที่คลานออกไปนอกห้องแทน

ท่าทีลนลานตื่นตระหนกของเขาดูหวาดกลัวราวกับพบเจอภูตผี

ทุกคนยิ่งตกใจเมื่อเห็นเช่นนี้ จึงอดผงะไม่ได้ อย่างที่เห็นว่าเหล่ยเซียวเป็นชายร่างบึกบึนซึ่งสูงราวหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร!

สิ่งใดที่จะทำให้เขาประหวั่นพรั่นพรึงได้ขนาดนี้กัน?

“อย่า…อย่าฆ่าฉันเลย…”

หญิงวัยกลางคนยังคงนิ่งค้างอยู่ภายในห้อง ปากพึมพำคล้ายตกอยู่ในภวังค์ หากแต่หลังจากถูกตะโกนใส่ เธอก็รีบคลานออกไปเช่นกัน

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ พลังงานร้ายรุนแรงจากสิ่งมีชีวิตลี้ลับนับไม่ถ้วนจะตามติดพวกเขาไปตลอดชีวิต

ทั้งคู่คงต้องตกอยู่ในความหวาดกลัวในวันคืนหลังจากนี้ หากแต่มันก็สาสมกับสิ่งที่พวกเขาทำแล้ว

คนประเภทนี้ หากเป็นอวี้ฮ่าวหรานคนก่อน ทั้งสองอาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว ครอบครัวของเหล่ยเซียวจึงพากับหลบหนีออกไป

“เอ่อ…ในฐานะตัวแทนของโรงพยาบาล ทางผมต้องขอโทษกับ…เหตุการณ์ไม่น่าพอใจที่เจอด้วยนะครับ”

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลละล่ำละลั่กเอ่ยขึ้น

เมื่อเขาเห็นคนก่อเรื่องซมซานหนีไป ก็อดจะสับสนไม่ได้ ด้วยไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเล่นงานใครกันแน่…

แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ควรคิดในฐานะผู้อำนวยการ ตอนนี้เขาต้องจัดการให้ปัญหาคลี่คลายลงโดยสงบที่สุด

“เพื่อเป็นคำขอโทษ เราตัดสินใจจะยกเว้นค่ารักษาพยาบาลของคุณผู้หญิงท่านนี้ภายในสองวันนี้ และทางโรงพยาบาลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างเลยครับ”

ผู้อำนวยการกล่าวจากใจจริง ท่าทางเป็นมิตรมากทีเดียว

หากแต่อวี้ฮ่าวหรานไม่ซาบซึ้งแม้แต่น้อย

“เฮอะ เงินแค่นี้ช่างมันเถอะครับ! พวกคุณรีบออกไปได้แล้ว ตอนนี้ผมอยากอยู่เงียบ ๆ!”

ชายหนุ่มยังคงโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเขามาไม่ทันการ ซูหว่านเอ๋อคงจะถูกรังแกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

“เอ่อ…ครับ ๆ… อย่างนั้นก็ขอตัวนะครับ”

ผู้อำนวยการรู้ดีว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด เขาจะไม่รู้สึกไม่พอใจแต่อย่างใด

ถึงอย่างไรคนไข้ในโรงพยาบาลก็อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของเขา การปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นจึงถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างเลินเล่อ

พวกเขาจึงรีบออกจากห้องไปทันที…

ประตูห้องปิดลง เสียงซุบซิบจากด้านนอกพลันเงียบหายไป ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

“พักผ่อนนะครับ ไม่มีใครมารบกวนคุณได้อีกแล้ว”

อวี้ฮ่าวหรานหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเธออย่างอ่อนโยนพร้อมน้ำเสียงนุ่มนวล

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ…ฉัน…ฉันนี่เป็นภาระมากเลยสินะคะ?”

ซูหว่านเอ๋อจับผ้าห่มเอาไว้ ความรู้สึกยากอธิบายเกิดขึ้นในใจ

สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เกิดขึ้นหลังจากที่เธอล้มป่วยเมื่อออกไปนอกบ้าน ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดตนเองอยู่บ้าง

ยากที่เธอจะรับมือกับเรื่องทำนองนี้ได้ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ อวี้ฮ่าวหรานก็ชะงักไป พลันย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในโลกเทวะ

ในโลกเทวะ ผู้อ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง ผู้มีพละกำลังจะได้รับการนับถือ ทุกสิ่งจึงถือเป็นเรื่องธรรมดา

หญิงสาวอย่างเธอไม่มีทางอยู่รอดได้ในโลกเช่นนั้น เพราะทั้งร่างกายและจิตใจของเธอไม่แข็งแกร่งมากพอ

แล้วอย่างไรกัน? ใช่ว่าทุกคนควรจะมีเล่ห์เหลี่ยมและความร้ายกาจ!

อย่างไรเสียที่นี่ก็คือโลกมนุษย์ การห้ำหั่นเอาเป็นเอาตายไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับที่นี่

“อย่าคิดมากเลยครับ คุณเหนื่อยมามากแล้ว”

เขาลูบหน้าผากเธอเป็นการปลอบขวัญ

“ค่ะ”

ดูท่าเธอจะสัมผัสได้ถึงความปลอดภัย จึงอดจะพยักหน้ารับไม่ได้ ไม่นานคุณหมอสาวก็เข้ามาพร้อมยา

“มาค่ะ ยื่นมือของคุณมา ฉันจะฉีดยานี้นะคะ น่าจะช่วยลดไข้ของคุณได้ค่ะ”

เธอจับมือซูหว่านเอ๋อ ฉีดยาให้อย่างระมัดระวัง

อวี้ฮ่าวหรานนั่งปอกเปลือกส้มอยู่ข้าง ๆ ทำเอาคุณหมอสาวนิ่วหน้า

“คุณน่าจะเตรียมรับมือกับการแก้แค้นของเหล่ยเซียวนะคะ เขาเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาฯ ที่มีอิทธิพลในย่านนี้มากเลยค่ะ”

เธออดเอ่ยปากเตือนเขาไม่ได้

หลังจากมีเรื่องกับผู้มีอิทธิพลขนาดนั้น เธอไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มคนนี้ยังทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ฮ่า ๆ ถ้าเขามาแก้แค้นก็อาจจะน่าสนุกดีนะครับ”

เมื่อได้ฟังคำเธอว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เล็ก ๆ อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ใส่ใจนัก เพราะขนาดคนอย่างกัวหย่งซิน ก่อนหน้านี้เขายังกำราบมาได้แล้ว

เธอมองพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้า โดยไม่ปิดบังความสงสัย เขามีพื้นเพเบื้องหลังอย่างไรถึงได้ดูไร้กังวลขนาดนี้?

อย่างที่รู้ว่าหลังเกิดเหตุขึ้น แม้แต่ผู้อำนวยการซึ่งรักษาท่าทีมั่นคงดั่งภูผามาตลอดยังสั่นคลอนไม่น้อย ด้วยเพราะเกรงว่าเหล่ยเซียวซึ่งเป็นทำธุรกิจอสังหาฯ จะพาลูกน้องมาทำลายโรงพยาบาล

ไม่นานคุณหมอสาวก็ฉีดยาจนหมด

“ฉันขอตัวก่อนนะคะ ยาน่าจะออกฤทธิ์ภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้ามีอะไรก็เรียกฉันได้เลยนะคะ”

การรักษาในห้องพิเศษอยู่ในความรับผิดชอบของหมอผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น กระทั่งประตูปิดลงอีกครั้ง

ซูหว่านเอ๋ออดที่จะกังวลขึ้นไม่ได้

“อย่างที่เธอบอก…เหล่ยเซียวคนนั้น ถ้าพาพรรคพวกตามมาแก้แค้นทีหลังเราจะทำยังไงกันล่ะคะ?”

เธอเป็นห่วงมาก ถึงอย่างไรอวี้ฮ่าวหรานก็เป็นเพียงคนเดียวที่ต่อสู้ได้ แม้แต่พ่อของเธออย่างซูกว่างไห่ยังต้องใช้บอดี้การ์ดเป็นสิบคน

อวี้ฮ่าวหรานยกยิ้มมุมปาก

“คุณลืมแล้วเหรอครับว่าผมเป็นใคร?”