บทที่ 456
บทที่ 456
ถังหยินกล่าวเสร็จ อู่เหมยก็เงียบไปในทันที ก่อนที่นางจะพูดขึ้นว่า “งั้นหรือ ? ได้ งั้นพวกข้าจะเฝ้าที่ค่ายให้เอง !”
‘ดี !’ ถังหยินนึกยินดีในใจ ส่วนภายนอกตีสีหน้านิ่งเฉยเอ่ยตอบ “รบกวนด้วยแล้ว และถึงจะอยู่ในค่าย พวกเจ้าก็ต้องระวังตัวด้วย !”
“ไม่ต้องห่วง ที่นี่เราจะปลอดภัย !” อู่เหมยตบหน้าอกของนางเบา ๆ
แม่ทัพรอบข้างมองหน้ากันและหัวเราะอย่างเงียบ ๆ ด้วยคำพูดของถังหยินสามารถหลอกอู่เหมยได้ แต่อันที่จริงกองทัพเปิงที่ติดอยู่ในเมืองพวกนั้น พวกมันจะมีกำลังแบ่งมาซุ่มโจมตีได้อย่างไรกัน ? ยิ่งไปกว่านั้นด้วยลักษณะภูมิประเทศของเมืองจางหยูแล้ว มันก็ไม่มีทางได้หรอก ที่อีกฝ่ายจะทำการซุ่มโจมตี !!
หลังจากที่พวกเขาจัดเตรียมแผนการโจมตีเมืองเสร็จแล้ว ถังหยินก็พลันสั่งให้ทุกคนกลับไปเตรียมตัว
คืนนั้นถังหยินยังคงตื่นอยู่และกำลังดูแผนที่เมืองจางหยูในกระโจมของเขา ก่อนที่เสียงภายนอกจะดังขึ้น “นายท่าน แม่ทัพอัยเจียขอเข้าพบ !”
“ให้นางเข้ามา !”
“ขอรับ !”
หลังจากนั้นไม่นานอัยเจียก็พลันเดินเข้ามาจากด้านนอกเต็นท์ และเมื่อเห็นอีกฝ่าย ถังหยินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาและเอ่ยถาม “อัยเจีย… มีอะไรหรือ ?”
“นายท่าน !” อัยเจียเดินเข้าใกล้ถังหยิน จากนั้นจึงยื่นกระดาษให้เขาและพูดว่า “นี่คือสิ่งที่ข้าเพิ่งได้มา ” ถังหยินหยิบมันขึ้นมาอย่างสงสัย ก่อนที่จะต้องอุทานออกมาเมื่อเห็นข้อความด้านใน “มันมาจากเจียงหลูหรือ ?!”
“ใช่แล้ว !” อัยเจียตอบกลับ
ถังหยินลุกขึ้นยืนและสั่งเกตข้อความในกระดาษนั่นอย่างละเอียด
จดหมายฉบับนี้ส่งจากเมืองหยานมายังมณฑลเกาฉวน และภายในก็มีเพียงคำไม่กี่คำเขียนอยู่
….ภายในนั้นระบุถึงเรื่องสำคัญที่เขาเกือบลืมไปแล้วเอาไว้
หลังจากที่ชายหนุ่มอ่าน เขาก็เพียงส่ายหัวเบา ๆ จากนั้นจึงพึมพำกับตัวเองสักครู่แล้วหันไปพูดกับอัยเจีย “เขียนจดหมายตอบกลับเจียงหลู บอกเขาว่า …ระวังไว้ให้ดี ซ่งเทียนอาจกำจัดเขาในเร็ว ๆ นี้ก็ได้”
“เอ๋ ?” อัยเจียถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ข้าควรจะเป็นคนเขียนอย่างนั้นเหรอ…” ข้อความสำคัญเช่นนี้ ถังหยินควรเป็นคนเขียนมัน
ถังหยินหัวเราะและถามว่า “เจ้าคิดว่า เจ้าไม่คู่ควรอย่างนั้นเหรอ.. ?”
“ม…ไม่ ไม่เจ้าค่ะ !” อัยเจียส่ายหัว
“แค่เขียนตามที่ข้าพูด แล้วปิดผนึกด้วยตราประทับของข้า” เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็พลันชี้ไปที่ตราประทับบนโต๊ะ
อัยเจียไม่กล้าที่จะรอช้าอีกต่อไป นางเดินไปหน้าโต๊ะทันที และหลังจากที่จับพู่กันขึ้นมา นางก็พลันหันมองถังหยิน ซึ่งชายหนุ่มก็เพียงโบกมือ และพูดว่า “คนทรยศจะหายไปในไม่ช้า ดังนั้นไปจัดการเรื่องชางจิงโดยเร็วที่สุด แล้วก็จงส่งจดหมายไปรายงานพวกเขาด้วย”
…ถังหยินพูดช้า ๆ เมื่อเขาพูดหนึ่งย่อหน้า อัยเจียก็จะเขียนย่อหน้านั้น และเมื่อถังหยินพูดจบเสร็จ อัยเจียก็เขียนเสร็จพอดี หญิงสาวเป่าหมึกบนกระดาษแล้วส่งให้ถังหยินตรวจสอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะพยักหน้ายืนยันและหันไปยิ้มให้ “เจ้าอาจจะไม่ดีใจก็ได้ แต่ลายมือเจ้าสวยดี !”
เป็นเรื่องยากที่จะได้ยินคำชมจากถังหยิน ทำให้อัยเจียหลบตาด้วยความไม่เคยชินแล้วอธิบายกลบเกลื่อน “ข.. ขะ.. ข้า… หัดเขียนหนังสือ…ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ”
“ไม่เลวนี่” ถังหยินกล่าวชมแล้วส่งจดหมายกลับมาให้
อัยเจียม้วนกระดาษอย่างระมัดระวัง ก่อนทำการปิดผนึกให้เรียบร้อย
ทันใดนั้นสายตาของถังหยินก็พลันหันกลับไปยังแผนที่และถามอย่างง่าย ๆ “อัยเจีย เจ้าบอกข้าที จาก 4 กลุ่มที่เข้าโจมตี กลุ่มใดในนั้นที่มีโอกาสจะเจอปัญหามากที่สุด ?”
…ใครจะคิดว่าถังหยินจะถามความคิดเห็นของนางกัน ?
ดังนั้นนางจึงได้แต่เอ่ยชมไปว่า “กลยุทธ์ของนายท่านดีกว่าของข้านัก และในเมื่อนายท่านได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ถ้างั้นมันก็ย่อมไม่มีปัญหาใดเจ้าค่ะ !”
ถังหยินหัวเราะ “อัยเจีย เจ้าเรียนเคล็ดลับแบบเดียวกับมูฉิงมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?” หลังได้ยินคำนั้น อัยเจียพลันหน้าเสียในทันที ก่อนที่นางจะตอบเสียงแผ่ว “ข้า.. ที่ข้าตอบไปก็เพื่อความสบายใจของนายท่าน…เจ้าค่ะ…”
พอได้ยินแบบนั้น ถังหยินก็พลันนิ่งไปและมองไปที่อัยเจียอย่างสงสัย
อัยเจียที่เห็นแบบนั้นจึงอธิบายว่า “แม้ว่าท่านหยวนยู่จะกล้าหาญและไม่มีใครเทียบได้ แต่เขารับหน้าที่บุกตีฝั่งใต้ซึ่งมีการป้องกันแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งข้านั้นคิดว่าซ่งเทียนและจ้านอู่ฉางจะต้องอยู่ที่นั่นแน่น และนั่นมันก็อาจหมายถึงชุยหยุนเจียนด้วยเช่นกัน”
“เช่นนี้นี่เอง !” ถังหยินพยักหน้าอย่างครุ่นคิด เพราะถ้าเจอเข้ากับชุยหยุนเจียนจริง งั้นแล้วสถานการณ์ก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าใดนัก แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ถังหยินกลับรู้สึกคลายกังวลลง เพราะหลังจากที่เขาปะทะกับชุยหยุนเจียนไปแล้ว 2 ครั้ง ไม่ว่าการฝึกฝนของอีกฝ่ายจะสูงส่งเพียงใด คนผู้นั้นก็คงไม่อาจฟื้นตัวในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้หรอก !
หลังจากคิดเรื่องนี้ ถังหยินก็พลันยิ้มออกมาและพูดว่า “ข้าเข้าใจ !”
แม้ว่าสิ่งที่อัยเจียคิดจะดูเกินจริงไปบ้าง แต่การคิดเผื่อเอาไว้ก็ย่อมดีกว่าไม่ทำ ด้วยหากต้องการเป็นแม่ทัพที่โดดเด่น ก็ย่อมต้องมองให้รอบด้านเข้าไว้ !!
“เรียบร้อยแล้ว… เจ้าค่ะ” อัยเจียส่งจดหมายปิดผนึกให้ถังหยิน ก่อนที่เขาจะบอกว่า “ทำได้ดีมาก เจ้าจงส่งกลับไปที่ชางจิงโดยเร็วที่สุด”
“เจ้าค่ะ !” อัยเจียตอบ
เมื่อเห็นว่าอัยเจียกำลังจะจากไป ทันใดนั้นเขาก็พลันจำอะไรบางอย่างได้ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรั้งอีกฝ่ายไว้แล้วชี้ไปที่กล่องเล็ก ๆ ใต้โต๊ะ เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “นี่คือยาชูกำลังที่เพิ่งส่งมาจากเมืองหยาน เจ้าเอาไปเถอะ !” ถังหยินกังวลเกี่ยวกับอัยเจียยิ่ง ด้วยนางเป็นผู้หญิงและไม่สามารถเทียบได้กับผู้ชายที่ได้รับการฝึกฝนมา อย่างไรก็ตามหากเขากังวลเกี่ยวกับบางสิ่ง เขาก็ไม่สามารถพูดมันออกมาตรง ๆ ได้
อัยเจียเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา นางถามว่า “นี่หรือ… ข้าจำเป็นต้องใช้ของแบบนี้ด้วยหรือ แล้วนายท่านเล่า เหตุใดท่านจึงไม่ใช่กัน ?”
“ฮิฮิ !” ถังหยินหัวเราะ “ข้ากินอิ่ม นอนหลับก็พอแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มันหรอก” เมื่อเห็นถังหยินพูดแบบนั้น หัวใจของอัยเจียก็พลันรู้สึกอบอุ่น
ก่อนที่หญิงสาวจะหยิบกล่องขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ขอบคุณครับนายท่าน” กล่าวจบนางก็พลันหันหลังก่อนเดินจากไปในทันทีโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองชายหนุ่ม
เมื่อเห็นอัยเจียกำลังเดินออก ถังหยินก็พลันเอ่ยเตือนนางว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เจ้าสามารถปล่อยให้พี่น้องช่วยเหลือได้ ดังนั้นจงอย่าได้แบกทุกอย่างไว้คนเดียว !!”
ภาระของอัยเจียหนักหนาเกินไป เนื่องจากการมีอยู่ของเนตรเวหาและเครือข่ายใยพิภพ เหมือนก็เหมือนกับว่านางนั้นกำลังถูกเปรียบเทียบทุกอย่างกับหลีเทียนเสมอ
“ตกลง ! ลูกน้องของท่านเข้าใจแล้ว ขอนายท่านโปรดพักผ่อนเถิด !” อัยเจียตอบกลับอย่างนุ่มนวลขณะที่นางหันหน้าไปมองถังหยินอย่างลึกซึ้ง ก่อนที่จะเดินจากไป
เฮ้อ !
หลังจากอัยเจียจากไป ถังหยินก็พลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าในขณะนั้นเอง เสียงจากด้านนอกก็พลันดังขึ้นมา
….เป็นใครกันที่มา ?
อันที่จริงแล้ว คงมีเพียงคนเดียวที่สามารถเข้ามาในนี้ได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต และนั่นก็เป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากอู่เหมย !
ถังหยินมองไปที่อู่เหมย และเมื่อเห็นว่าบนใบหน้าของนางบึ้งตึงไม่มีรอยยิ้ม ถังหยินก็พลันขมวดคิ้วแน่น ด้วยชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาควรจะจัดการกับหญิงสาวคนนี้อย่างไรดี !!
“เจ้าเข้ามาทำไมกัน ?” ถังหยินมองหญิงสาวและเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อู่เหมยที่เห็นดังนั้นก็พลันเดินเข้ามาหาเขาแล้วขมวดคิ้วแน่น “ ข้านอนไม่หลับก็เลยมาหา !”
…หลังจากหยุดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พลันเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านแม่ทัพอัยเพิ่งออกไปอย่างนั้นเหรอ ?” ถังหยินพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ อัยเจียมาปรึกษาเรื่องการทหาร”
“แล้วข้าเล่า ?” อู่เหมยมองไปที่ถังหยินด้วยความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังหยินก็รู้สึกปวดหัว ทว่าเมื่อมองไปที่ใบหน้าเย็นชาของอู่เหมย ถังหยินกลับไม่ได้รู้สึกกังวลเลย แต่เขากลับรู้สึกถึงความรู้สึกอันแสนหวานในใจ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของอู่เหมยและดึงเขาเข้ามาหาในเวลาเดียวกัน
ถังหยินโบกมือของเขาบนศีรษะของนาง หยิบเอาปิ่นที่เสียบปักผมของนางออก ทำให้เส้นผมของหญิงสาวร่วงหล่นลงมาราวกับน้ำตก
ชายหนุ่มทำการลูบไล้เรือนผมสีดำเรียบของนาง ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหู “อย่าเข้าใจผิด พวกเขาเป็นแค่ผู้ใต้บังคับบัญชา” อู่เหมยที่อยู่ในอ้อมกอดของถังหยินใบหน้าแดงก่ำราวกับโดนจับได้ “แต่… แต่ท่านแม่ทัพอัยเป็นผู้หญิง ! ”
“ถึงเป็นผู้หญิง หากแต่นางเปรียบเสมือนน้องสาวข้าก็เท่านั้น !” ถังหยินกล่าวพลางหยิบจับเส้นผมของนางขึ้นมาจ่อที่จมูก ก่อนที่เขาจะลมสูดหายใจรับกลิ่นหอมที่ทำให้มึนเมาเข้าไป