ตอนที่ 374 ลูกพี่ชั้นเซียน; หยางซูเยี่ยน

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

ด้านนอก​ประตู​ ​ข้างหลัง​หลิน​ซือ​หรา​นมี​เฉียว​เซิง​ยืน​อยู่​ ​เธอ​กำลัง​เคาะ​ประตู​ ​แต่​ไม่ทัน​ที่จะ​เคาะ​ครั้ง​ที่สาม​ออก​ไป​ประตู​ก็​เปิด​ออก​แล้ว

เธอ​ไม่​คิด​ว่า​คน​ข้างใน​จะ​อัธยาศัย​ดี​ขนาด​นี้

“​หวัด​ดี​”​ ​เฉียว​เซิง​สวม​หมวกแก๊ป​สีดำ​พลาง​ทำท่า​ล้วงกระเป๋า​อยู่​ข้างหลัง​หลิน​ซือ​หราน​ ​รูปร่าง​ผอม​เพรียว​และ​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​ทักทาย​สิง​ไค

สิง​ไค​เปิด​ประตู​อยู่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​และ​ยัง​โน้มตัว​ลง​ ​“​สวัสดี​ท่าน​เทพ​”

“​อย่า​เรียก​ฉัน​ว่า​ท่าน​เทพ​สิ​”​ ​เฉียว​เซิง​เบี่ยง​ตัว​ไป​ด้าน​ข้าง​ ​ริมฝีปาก​หยัก​ยิ้ม​ ​“​ฉัน​ไม่ใช่​ท่าน​เทพ​อะไร​นั่น​เสียหน่อย​”

“​ระดับ​ปรมาจารย์​สอง​ดาว​ยัง​ไม่ใช่​ท่าน​เทพ​อีก​เหรอ​?​”​ ​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​นั่ง​หลัง​ตรง​ขึ้น​มา

สิง​ไค​พยักหน้า​แรง​ๆ​ ​อยู่​ด้าน​ข้าง

คน​กลุ่ม​นั้น​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ต้อง​เป็น​บอส​ใหญ่​ระดับ​ปรมาจารย์​ที่​มี​ไพ่​เทพ​เกือบทุก​คน​ ​ส่วน​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​กับ​สิง​ไค​ที่​ขาด​ไป​สอง​ระดับ​ก็​เป็นได้​แค่​ซุปเปอร์​บอส​เท่านั้น

นี่​ห้องเรียน​ชั้น​เซียน​ชัดๆ​

เฉียว​เซิง​เลิก​คิ้ว​มอง​ไป​ทาง​ฉิน​หร่าน

ฉิน​หร่าน​เคาะ​โต๊ะ​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ ​เลิก​คิ้ว​เบา​ๆ​ ​ ​“​ตั้ง​หม้อ​ไฟ​”

สิง​ไค​รีบ​กดกริ่ง​เรียก​พนักงาน​เพื่อให้​พนักงาน​ตั้ง​หม้อ​ไฟ​และ​เสิร์ฟ​วัตถุดิบ

หลาย​คน​คุ้นหน้า​คุ้นตา​กัน​ดี​ใน​โลก​ออนไลน์​ ​แต่​พอ​มา​เจอ​หน้า​กัน​แล้วก็​ยัง​ดู​เก้อเขิน​เล็กน้อย​ ​หลังจาก​ตั้ง​หม้อ​ไฟ​เสร็จ​ความ​เขินอาย​ก็​หาย​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย

“​ห้อง​พวก​เธอ​เป็น​เซียน​กัน​หมด​เลย​เหรอ​?​”​ ​สิง​ไค​เปิด​กระป๋อง​เบียร์​และ​ชูแก้ว​ให้​เฉียว​เซิง​ ​“​นอกจาก​บางคน​ที่​ไม่​เล่น​เกม​ ​พวก​เธอ​ทุกคน​มี​ไพ่​เทพ​กัน​หมด​เลย​ได้​ยังไง​?​”

สิง​ไค​และ​คนอื่นๆ​ ​รู้​ว่า​หลาย​สิบ​คนใน​กลุ่ม​นั้น​ล้วน​เป็น​ก๊วน​เกม​ที่​เรียน​อยู่​ห้อง​เดียวกัน

พอ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​สิง​ไค​ก็​มอง​ไป​ทาง​หลิน​ซือ​หราน​และ​ยกนิ้ว​โป้ง​ให้​ ​“​เธอ​ยัง​มีตั​้ง​สาม​ใบ​แน่ะ​!​”

หลิน​ซือ​หรา​นก​้​มห​น้า​กิน​เนื้อ​ ​เธอ​เล่น​เกม​กับ​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​บน​อินเทอร์เน็ต​มานา​นมาก​แล้ว​ ​หลิน​ซือ​หรา​นรู​้​ว่า​ฉิน​หร่าน​ไม่ได้​เล่าเรื่อง​ไพ่​เทพ​ให้​พวกเขา​ฟัง​ ​เธอ​จึง​พูด​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​เพื่อน​ส่ง​ให้​น่ะ​”

“​ทำไม​ฉัน​ไม่มี​เพื่อน​แบบนี้​บ้าง​นะ​?​”​ ​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​ยกแก้ว​เครื่องดื่ม​ขึ้น​มาดื​่ม​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ทาง​ฉิน​หร่าน​ ​“​หร่าน​หร่าน​ ​เธอ​ไม่​เล่น​เกม​เหรอ​?​ ​อย่า​เอาแต่​ทำตัว​เป็นสาว​เนิร​์ด​หน่อย​เลย​น่า​ ​มา​เล่น​เกม​ด้วยกัน​สิ​ ​ให้​พวก​เฉียว​เซิง​นำ​ ​พวกเขา​ยัง​พามือ​ใหม่​อย่าง​ฉัน​ไป​ถึง​ระดับ​ปรมาจารย์​เลย​ ​แต่​ไม่มีใคร​กล้า​พา​ฉัน​ขึ้น​ถึง​ระดับ​จักรพรรดิ​…​”

นาม​ของ​กลุ่มคน​เล่น​เกม​ล้วน​เป็น​ระดับ​เกม​+​ชื่อ​บุคคล

หนาน​ฮุ่ย​เหยา​เจอ​ของ​ฉิน​หร่าน​แล้ว​ ​ฉิน​หร่าน​เป็น​แค่นา​มก​ลุ่ม​ธรรมดา​ที่​ไม่​ติดอันดับ

เนื่องจาก​ฉิน​หร่าน​เป็น​คน​ดึง​เธอ​กับ​สิง​ไค​เข้ามา​ ​เหล่า​ทวยเทพ​ผู้​มีฝีมือ​ส่วนหนึ่ง​ที่อยู่​ใน​กลุ่ม​ก็ได้​พา​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​กับ​สิง​ไค​ขึ้นไป​ถึง​ระดับ​ปรมาจารย์​ด้วย​ไพ่​เทพ​ห้า​แถว​ ​แต่​ระดับ​จักรพรรดิ​นั้น​…​หลาย​คน​กลัว​ที่จะ​เสีย​คะแนน​ ​จึง​ไม่กล้า​พา​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​กับ​สิง​ไค​ไป

ระดับ​ความ​ยาก​ของ​การแข่งขัน​เลื่อนขั้น​ไม่ได้​ยาก​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ​ถึง​จะ​มี​ไพ่​เทพ​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ไม่ได้​มีฝีมือ​พา​ไป​จนถึง​ระดับ​จักรพรรดิ

พอ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​ก็​มอง​ไป​ทาง​เฉียว​เซิง​กับ​หลิน​ซือ​หราน​ ​ดวงตา​ลุก​วาว​ ​“​ลูกพี่​ที่​พวก​เธอ​พูดถึง​เมื่อไหร่​จะ​มี​เวลา​พา​ฉัน​ไประ​ดับ​จักรพรรดิ​?​”

ฉิน​หร่าน​ก้มหน้า​กิน​เนื้อ​โดย​ไม่​พูด​อะไร

ช่วง​ปิดเทอม​ฤดูร้อน​ถูก​ก๊วน​เกม​เล่นงาน​จน​หวาดผวา​จน​ไม่​อยาก​สัมผัส​มัน​อีก​ ​ไม่​อย่าง​งั้นก็​คง​ไม่​ลาก​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​เข้ากลุ่ม​แชท​ชั้นเรียน

เฉียว​เซิง​เอนหลัง​พิง​เก้าอี้​แล้ว​ยิ้ม​ ​“​อาจจะ​ต้อง​รอ​จบ​ปลาย​ภาค​มั้ง​”

“​โอเค​”​ ​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​พยักหน้า​ด้วย​ความเสียดาย​ ​“​ฉัน​ยัง​ไม่เคย​เจอ​ลูกพี่​คน​นั้น​ที่​พวก​เธอ​พูดถึง​เลย​”

ถึงขนาด​ทำให้​ห้องเรียน​ชั้น​เซียน​ยอมรับ​เป็น​ลูกพี่​ได้​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ใหญ่​ขนาด​ไหน

**

หลังจาก​ทานข้าว​กัน​เสร็จ​ ​หนาน​ฮุ่ย​เหยา​กับ​สิง​ไค​ก็​พา​พวก​หลิน​ซือ​หราน​ไปเที่ยว​ชม​ที่​ภาควิชา​ฟิสิกส์

ฉิน​หร่าน​เห็น​พวกเขา​เข้ากันได้ดี​จึง​ไม่ได้​ตาม​ไป​กับ​พวกเขา​ ​เธอ​ยัง​ต้อง​กลับ​ไป​อ่านหนังสือ

พอส​่ง​ข้อความ​ให้​เฉิง​เจ​วี​้​ยน​เสร็จ​ก็​สวม​เสื้อ​กัน​ลม​แบบ​ไม่​ติดกระดุม​ ​ดึง​ผ้าพันคอ​ขึ้น​มาปิด​คาง​อย่าง​ลวกๆ​ ​ ​ห้อย​หูฟัง​ไว้​ที่​ข้าง​หู​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​สอง​มือ​สอด​เข้าไป​ใน​กระเป๋าเสื้อ​โค้ต​ ​ยืน​รอ​รถ​อยู่​ริมถนน

ปลายนิ้ว​กำลัง​เล่น​สาย​หูฟัง​สีดำ​ ​เปล่งประกาย​ราวกับ​หยก

เอี๊ยด​—​—

รถ​คัน​สีดำ​จอด​อยู่​ตรงหน้า​เธอ

ฉิน​หร่าน​เงยหน้า​ขึ้น

รถ​คัน​นี้​ไม่ใช่​รถ​ของ​เฉิง​เจ​วี​้​ยน

เมื่อ​ลด​กระจกรถ​ลง​ ​สิ่ง​แรก​ที่​เห็น​คือ​นิ้ว​อัน​เรียว​ยาว​ที่อยู่​บน​พวงมาลัย​ ​เขา​เอียง​ศีรษะ​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ดวงตา​และ​คิ้ว​ที่​ราวกับ​ภาพวาด​คล้าย​ทะเลสาบ​ที่​ต้อง​ลม​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​กระเพื่อม​เป็น​ระลอกคลื่น​ ​สรรพสิ่ง​โดยรอบ​ดู​ไร้สีสัน​ไป​ใน​ถนัดตา

ฉิน​หร่าน​ละสายตา​กลับมา​พลาง​พยักหน้า​ให้​เขา​อย่าง​สุภาพ​ ​“​พี่​หยาง​”

“​ว่าง​ไหม​?​”​ ​อีก​ฝ่าย​วาง​นิ้ว​บน​พวงมาลัย​ ​รอยยิ้ม​บน​ฝีปาก​เห็น​ได้​อย่างชัดเจน

ฉิน​หร่าน​ผงะ​ ​สายตา​มองผ่าน​รถ​ไป​ที่​ร้านกาแฟ​ที่อยู่​เฉียง​ออก​ไป​ ​“​ไป​อีก​ฝั่ง​เถอะ​”

หยาง​ซู​เยี​่​ยน​เหลือบมอง​ไป​ยัง​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ที่​มี​คน​สัญจร​ไปมา​ ​แอบ​ประหลาดใจ​แต่​ก็​ยัง​พยักหน้า​ ​“​ได้​”

เขา​จอด​รถ​ไว้

ตอนที่​เข้าไป​ใน​ร้านกาแฟ​ ​ฉิน​หร่าน​ก็​เลือก​ที่นั่ง​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เมื่อ​เห็น​ฉิน​หร่าน​เลือก​ที่นั่ง​ริม​กระจก​หน้าต่าง​ใกล้​ถนน​และ​มีเสียง​คน​เจี๊ยวจ๊าว​ ​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​ก็​ชะงัก​เท้า​ ​เขา​หลุบ​ตาลง​พร้อมกับ​ขยับ​มือ​ทั้งสอง​ข้าง

วันนี้​เป็น​วันหยุด​ ​ใน​ร้านกาแฟ​จึง​มี​คน​เยอะ​ ​ส่วนใหญ่​เป็น​นักศึกษา​มหาวิทยาลัย​ใน​ละแวก​นั้น

ฉิน​หร่าน​ดึง​ผ้าพันคอ​ขึ้น​ปิด​คาง

หยาง​ซู​เยี​่​ยน​สั่ง​กาแฟ​หนึ่ง​แก้ว​และ​ชาน​มอีก​แก้ว​ให้​ฉิน​หร่าน​ ​ของ​มา​เสิร์ฟ​อย่างรวดเร็ว​ ​เขา​ถือ​ช้อน​คน​กาแฟ​ ​แววตา​สุกใส​กำลัง​มอง​ฉิน​หร่าน​ ​เม้ม​ริมฝีปาก​อมยิ้ม​ ​“​ที่แท้​ก็​เป็น​อย่างที่​คุณอา​ลู่​พูด​ ​หร่าน​หร่าน​ ​เธอ​เปลี่ยนไป​มาก​”

ฉิน​หร่าน​ใช้​สอง​มือ​ประคอง​แก้ว​ชานม​ ​มอง​ไป​ที่​ริมถนน​ผ่าน​กระจก​หน้าต่าง​ ​แต่​ไม่เห็น​รถ​ที่​คุ้นเคย

เธอ​ละสายตา​กลับมา​ ​เงยหน้า​ขึ้น​และ​ทำ​หน้า​กวน​ๆ​ ​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​“​บริษัท​มีปัญหา​?​”

ตรงประเด็น​เหมือนเดิม

“​เปล่า​ ​ฉัน​แค่​เห็น​สเต​ตัส​วี​แชท​เธอ​เปลี่ยนไป​”​ ​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​มอง​มาทาง​ฉิน​หร่าน​ ​ดวงตา​สุกใส​มี​เงา​สะท้อน​ของ​เธอ​ ​“​ออกมา​ได้​ก็ดี​แล้ว​”

ฉิน​หร่าน​ชะงัก​ ​ไม่​คิด​ว่า​เขา​ยัง​สนใจ​เรื่อง​อยู่​ ​เธอ​รั้ง​ผ้าพันคอ​ลง​แล้ว​คล้อง​คอ​แบบ​สบาย​ๆ​ ​ ​จิบ​ชานม​ ​“​ขอบคุณ​”

“​ไม่ต้อง​สุภาพ​กับ​ฉัน​หรอก​”​ ​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​ส่ายหน้า​ ​เขา​เอนหลัง​พิง​เก้าอี้​มอง​ฉิน​หร่าน​ ​ดวงตา​ใสแจ๋ว​ถูก​ประทับ​ด้วย​แสง​และ​เงา​ ​“​เธอ​ก็​น่าจะ​รู้​ว่า​ฉัน​ยื้อ​ตัว​เธอ​ให้​อยู่​อวิ​๋​นก​วง​มาโดยตลอด​ ​ไม่​ให้​เธอ​เข้าไปมีส่วนร่วม​กับ​รัฐ​ ​M​ ​”

เมื่อ​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ ​ขน​ตายาว​ของ​ฉิน​หร่าน​ก็​พับ​ลง​ ​ดวงตา​ที่​สวยงาม​หรี่​ลง​ครึ่งหนึ่ง

เธอ​ตอบ​อย่างเฉื่อย​ชา​ ​มือ​เท้าคาง

“​มัน​ยุ่งยาก​เกินไป​ที่​พวกเรา​จะ​อยู่​รัฐ​ ​M​ ​”​ ​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​เงียบ​ไป​สักพัก​ ​ไม่รู้​ว่า​คิด​อะไร​อยู่​สายตา​ถึง​ได้​ดู​จืดจาง​ลง​เล็กน้อย​ ​“​บางคน​ตาย​ใน​สลัม​โดยไม่รู้ตัว​ ​รื้อ​ทั้ง​รัฐ​ ​M​ ​ ​ก็​ยัง​หาไม่​เจอ​แม้กระทั่ง​ศพ​”

น้ำเสียง​ฉิน​หร่าน​ฟัง​ไม่​ออก​ถึง​อารมณ์​ความรู้สึก​ ​เธอ​เพียง​นั่งไขว่ห้าง​ยิ้ม​ให้​เขา​ ​“​น่าเสียดาย​จริงๆ​ ​…​”

“​ใช่​ ​น่าเสียดาย​…​”​ขน​ตา​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​สั่น​ไหว​ ​เขา​เงยหน้า​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​ปรับ​ดวงตา​ให้​อ่อนโยน​ดังเดิม​ ​“​แล้ว​…​เธอ​คิด​ว่า​เธอ​สามารถ​รับมือ​กับ​มัน​ได้​ไหม​?​”

ฉิน​หร่าน​ลืมตา​ ​“​อะไร​?​”

“​คนที​่​อยู่​นอก​หน้าต่าง​น่ะ​ ​ที่​รัฐ​ ​M​ ​ก็​ไม่ธรรมดา​”​ ​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​ใช้​ช้อน​คน​กาแฟ​ ​ดวงตา​ยังคง​อบอุ่น​ ​เขา​พูด​ลอยๆ​ ​พลาง​มอง​ไป​ที่​หน้าต่าง​ข้างๆ​ ​เธอ​ ​“​เธอ​รับมือ​ได้​ไหม​?​”

ฉิน​หร่าน​เอียง​ตัว​มอง​ไป​ทาง​ด้านหลัง​ ​เธอ​เห็น​เฉิง​เจ​วี​้​ยน​ยืน​อยู่​อีก​ฝั่ง​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​สายตา​เขา​ดู​เยือกเย็น

ฉิน​หร่าน​ที่​สุขุม​มาต​ลอด​จับ​แก้ว​ชานม​แน่น​ ​คิ้ว​และ​ดวงตา​ที่​บอบบาง​ขมวด​เล็กน้อย

“​ตรง​กับ​รสนิยม​ของ​เธอ​ดี​”​ ​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​เห็นท่า​ที​ของ​เธอ​ก็​รู้​คำตอบ​แล้ว​ ​เขา​หัวเราะ​เบา​ๆ​

ฉิน​หร่าน​นิ่ง​ไป​สักพัก​แล้ว​มอง​มาที​่​เขา

“​ไป​เถอะ​ ​อย่า​ให้​เขา​คอย​นาน​”​ ​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​ยื่นมือ​ไป​ปิด​ฝา​ชาน​มที​่​อยู่​อีก​ด้าน​ ​มอง​เธอ​ด้วย​สายตา​อ่อนโยน

ฉิน​หร่าน​ถือ​ชาน​มลุก​ขึ้น​แล้ว​บอกลา​เขา​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออกจาก​ร้านกาแฟ

เพิ่ง​ออกจาก​ร้าน​ได้​หนึ่ง​นาที​ ​ก็​มี​คน​มานั​่ง​เก้าอี้​ฝั่ง​ตรงข้าม​อีกครั้ง

ลู่​จือ​สิง​ถอด​หูฟัง​ออก​แล้ว​วางโทรศัพท์​ไว้​บน​โต๊ะ​ ​มอง​มาทาง​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​ ​“​คุณ​หยาง​ ​ทำ​แบบนี้​ทำไม​”

รู้จัก​กัน​มานาน​หลาย​ปี​ ​ลู่​จือ​สิง​รับรู้​มาต​ลอด​ว่า​หยาง​ซู​เยี​่​ยน​ดูแล​ฉิน​หร่าน​ดี​ขนาด​ไหน

หยาง​ซู​เยี​่​ยน​ถอน​สายตา​กลับมา​ ​ปลายนิ้ว​ที่​เย็นเฉียบ​ราวกับ​หยก​ลูบ​ช้อนกาแฟ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เก็บอาการ​ผิดหวัง​ ​“​…​จะ​ทำ​คนตาย​ไม่ได้​อีก​”

“​หือ​?​”​ ​ลู่​จือ​สิง​ฟัง​ไม่เข้าใจ

หยาง​ซู​เยี​่​ยน​เพิ่ม​น้ำตาล​ลง​ใน​กาแฟ​ ​จิบ​ไป​หนึ่ง​อึก​ก็​ยัง​ขม​อยู่ดี​ ​เขา​วาง​แก้ว​ลง​ ​“​ไป​เถอะ​”

ไม่มี​คำอธิบาย

**

ด้านนอก​ร้านกาแฟ

ฉิน​หร่าน​เดิน​มาถึง​ถนนใหญ่​ ​เฉิง​เจ​วี​้​ยน​ก็​ยังอยู่​ที่​เดิม

บน​ถนน​ยัง​มี​คน​สัญจร​ไปมา​อย่างไม่ขาดสาย​ ​ใบหน้า​ที่​งดงาม​ของ​เขา​ดู​เอื่อย​เฉื่อย​ ​เมื่อม​อง​เธอ​ผ่าน​ฝูงชน​ ​รูปร่าง​ของ​เธอ​ยังคง​ดู​เพรียว​บาง​ ​โดดเด่น​อยู่​ท่ามกลาง​ฝูงชน​ไม่มีใคร​เทียบ​ได้​ดังเดิม

ฉิน​หร่าน​เดิน​มา​ใกล้​และ​เงยหน้า​ขึ้น​พูด​โดยไม่รู้ตัว​ ​“​นั่น​…​”

“​ฉัน​รู้​”​ ​เฉิง​เจ​วี​้​ยน​ก้มหน้า​ ​ขน​ตาละ​เอียด​อ่อน​พับ​ลง​ปกคลุม​รูม่านตา​สีเข้ม​ ​พัน​ผ้าพันคอ​ให้​เธอ​ใหม่​ ​“​รถ​ยังอยู่​ที่​ปากทาง​”

น้ำเสียง​ยัง​เฉื่อยชา​ตามปกติ

ฉิน​หร่าน​เดินตาม​หลัง​เขา​ ​เอียง​ศีรษะ​มอง​เขา​และ​เดิน​ไป​ถึง​ข้าง​รถ​ที่​ปากทาง​ ​เมื่อ​เห็น​เขา​เปิด​ประตู​ฝั่ง​ข้าง​คนขับ​ ​เธอ​ก็​ก้มหน้า​ดื่ม​ชานม

เฉิง​เจ​วี​้​ยน​รอ​ให้​เธอ​ขึ้นรถ​เสร็จ​ก็​อ้อม​มา​ขึ้นรถ​ฝั่ง​คนขับ

ฉิน​หร่าน​ถือ​ชานม​ไว้​ที่​มือขวา​และ​รัดเข็มขัด​นิรภัย​ด้วยมือ​ซ้าย​ ​รู้สึก​ได้​ว่า​เขา​เปิด​ประตู​ฝั่ง​คนขับ​แล้ว​ปิด​ดัง​ ​“​ปัง​”​ ​ก่อน​จะ​คาดเข็มขัด​ที่อยู่​ใน​มือ​ ​เฉิง​เจ​วี​้​ยน​ก็​กด​มือ​เธอ​ไว้

เธอ​เงยหน้า​ขึ้น​โดยไม่รู้ตัว

รถ​ค่อนข้าง​ใหญ่​ ​แต่​พอ​เขา​โน้มตัว​ลงมา​ภายใน​รถ​ก็​แคบ​ลง​ถนัดตา​ ​เฉิง​เจ​วี​้​ยน​ใช้​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ทับ​มือซ้าย​เธอ​ไว้​ ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​รั้ง​ตัว​เธอ​มา​ใกล้​ๆ​ ​ ​ลมหายใจ​ประสานกัน​ ​เขา​ยิ้ม​ ​“​เจ๊​หร่าน​ ​วันนี้​เธอ​พิจารณา​เสร็จ​หรือยัง​?​”

ปลายนิ้ว​โอบ​เอว​เธอ​แน่น​ ​เฉิง​เจ​วี​้​ยน​ไม่​รอ​ให้​เธอ​ตอบ​ ​พึมพำ​แค่​ว่า​ ​“​ต้อง​พิจารณา​เสร็จ​แล้ว​แน่ๆ​”