ตอนที่ 187 พลังอันลึกลับ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ฉินอวี้โม่ไม่ลังเลอีก ในเมื่อหงส์แดงยินยอมจะกลายเป็นอสูรของนางด้วยตัวเองเช่นนี้ นางก็จะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน หงส์แดงเป็นอสูรที่แข็งแกร่งและทรงพลังอย่างยิ่งยวด การมีอสูรผู้แข็งแกร่งร่วมทางด้วยนับเป็นสิ่งวิเศษเหลือล้น

คุณหนูตระกูลฉินรู้สึกว่าครั้งนี้นางโชคดีโดยแท้ อันที่จริงส่วนหนึ่งในเรื่องนี้อาจจะต้องขอบคุณมังกรเหมันต์ เป็นเพราะมีความแค้นกับอสูรจอมวายร้ายตนนั้นเป็นทุนเดิมทำให้นางตัดสินใจกระโจนเข้าไปช่วยหงส์แดง สตรีผู้มีวิญญาณนักฆ่าไม่คิดมาก่อนเลยว่าผลลัพธ์ของเรื่องนี้จะออกมาเป็นสิ่งยิ่งใหญ่จนเหลือเชื่อ การทำให้หงส์แดงยอมเป็นอสูรของนางแต่โดยดีเช่นนี้ถือเป็นวาสนานับหมื่น เวลานี้กล่าวได้เต็มปากว่าการมาเยือนดินแดนต้องห้ามอีกครั้งคุ้มค่าอย่างยิ่ง

เมื่อโอกาสมาถึงโดยชอบธรรมมีหรือที่ฉินอวี้โม่จะรอช้า นางรีบทำพันธสัญญากับหงส์แดงเพื่อให้อสูรสาวตนนี้กลายเป็นหนึ่งในอสูรผู้ทรงพลังที่สุดแห่งกองทัพอสูรของนาง

หงส์แดงคือ *‘อสูรสวรรค์ระดับจักรพรรดิ’*การสร้างพันธสัญญากับมันจึงช่วยให้ฉินอวี้โม่ได้เลื่อนระดับพลังขึ้นไปด้วย ทว่าแม้ระดับพลังจะเพิ่มขึ้นมากแต่ความต่างชั้นของขั้นดาราเดิมและขั้นถัดมานั้นค่อนข้างกว้าง อย่างไรก็ตาม บัดนี้คุณหนูสี่ตระกูลฉินได้กลายเป็นจอมยุทธ์มายาบรรพชนแปดดาราเรียบร้อยแล้ว

และเป็นเพราะได้ทำพันธสัญญากับสตรีผู้ครอบครองกายเทพมายา อาการบาดเจ็บของหงส์แดงจึงหายเป็นปลิดทิ้งในพริบตาเดียว ยิ่งกว่านั้นความแข็งแกร่งของมันในตอนนี้ก็ยังเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย

“หือ เป็นกายเทพมายาอย่างนั้นรึ ?!”

หลังจากกระบวนการทำพันธสัญญาสิ้นสุด หงส์แดงก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ น้ำเสียงหวานใสเต็มไปด้วยความฉงนปนตื่นตะลึง

“เจ้ารู้ด้วยหรือ ?”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงตกใจของหงส์แดง ฉินอวี้โม่ก็ถามกลับไปด้วยสนเท่ห์เช่นกัน

การที่อสูรระดับสูงส่งอย่างหงส์แดงทราบว่าร่างกายของนางคือกายเทพมายานั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ฉินอวี้โม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย ทว่าสิ่งที่นางติดใจสงสัยกลับเป็นว่า ‘เหตุใดน้ำเสียงของหงส์แดงถึงฟังดูประหลาดใจเป็นล้นพ้นขนาดนั้น ?’

“ข้าย่อมรู้อยู่แล้ว”

หงส์แดงพยักหน้า ก่อนกล่าวต่อ “อสูรในตำนานทั้งสี่อย่างพวกเรามีชีวิตเป็นอมตะ ในทุกชีวิต ไม่ว่าจะกลายเป็นไข่แล้วเกิดใหม่กี่สักครั้ง ความทรงจำของพวกเราก็จะถูกส่งต่อมาเรื่อย ๆ เพราะเหตุนี้ ข้าจึงรู้จักกายเทพมายาที่สูญหายไปเป็นพันปีเป็นอย่างดี”

“แล้วเหตุใดเจ้าถึงต้องประหลาดใจถึงเพียงนั้นด้วย ?”

ฉินอวี้โม่เอ่ยถามในสิ่งที่นางกำลังสงสัยที่สุดออกมา

“นั่นเพราะว่ามีเพียงผู้ที่ครอบครองกายเทพมายาเท่านั้นจึงจะสามารถไขความลับของดินแดนต้องห้ามแห่งนี้ได้”

หงส์แดงไม่ลังเลอีก หลังจากทราบแน่ชัดว่าฉินอวี้โม่คือสตรีผู้มีกายเทพมายามันก็ทั้งดีใจระคนตื่นเต้น เหตุผลก็เนื่องจากอสูรในดินแดนแห่งนี้ต่างก็รอคอยการมาถึงของผู้ที่มีกายเทพมายามาเนิ่นนานแล้ว ในที่สุดวันนี้บุคคลที่ทุกคนเฝ้ารอก็ปรากฏตัวขึ้นเสียที

“ความลับอย่างนั้นหรือ ?”

คำตอบของหงส์แดงทำให้ฉินอวี้โม่สงสัยยิ่งขึ้น นางทราบดีว่าป่าแห่งนี้จะต้องมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ อีกทั้งซิวก็บอกด้วยว่าในดินแดนต้องห้ามมีกลิ่นอายที่มันคุ้นเคยอยู่ด้วย ดังนั้นข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ก็คือความลับดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับกายเทพมายา

“ใช่แล้ว”

หงส์แดงพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อ “นายหญิง ในป่ากว้างแห่งนี้มีความลับอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ ด้วยความลับนี้เองที่ทำให้ข้าและอสูรที่ทรงพลังอีกหกตนไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ยิ่งกว่านั้นภายในดินแดนต้องห้ามแห่งนี้ไม่ว่าพวกเราจะฝึกฝนยาวนานเพียงใดพวกเราก็จะหยุดยั้งอยู่ที่อสูรสวรรค์ระดับจักรพรรดิไม่มีหนทางที่จะพัฒนาต่อไปได้ ในหลายปีที่ผ่านมาพวกเราพยายามสืบหาความลับที่ว่าเพื่อจะได้หาทางแก้ไข ทว่าจนตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยมีความคืบหน้าสักนิด”

อสูรสาวหยุดไปชั่วครู่ราวกับกำลังค้นหาข้อมูลในความทรงจำ หนึ่งในอสูรผู้ยิ่งใหญ่ดูตั้งใจอย่างยิ่งยวด และเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ มันก็รีบกล่าวต่อทันที

“ประมาณร้อยปีก่อน มนุษย์ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเดินทางมายังดินแดนต้องห้ามและบุกเข้ามาจนถึงอาณาเขตของพวกเราทั้งเจ็ด มนุษย์ผู้นั้นเป็นจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งมาก แม้ว่าพวกเราทั้งหมดจะร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นั้น ในที่สุดมนุษย์คนนั้นก็ล่วงลึกเข้าจนถึงส่วนลึกของป่าต้องห้ามได้ ในส่วนที่ลึกที่สุดนั้นเขาพบถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งถูกผนึกเอาไว้ หลังจากกลับออกมาถ้ำแห่งนั้น มนุษย์ผู้นั้นก็บอกกล่าวกับพวกเราว่า ‘หากต้องการจะทำให้ความลับในถ้ำกระจ่างชัด มีเพียงแต่ต้องตามหาตัวผู้ครอบครองกายเทพมายาเท่านั้น หากเป็นมนุษย์คนอื่นแล้วไม่มีทางค้นพบสิ่งใดได้’

นอกจากนี้เขายังสั่งไว้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดเรื่องใดขึ้นอย่าให้ใครเข้าไปในถ้ำแห่งนั้นได้ ให้พวกเราทั้งเจ็ดตนช่วยกันเฝ้าถ้ำใจกลางป่าเอาไว้

มีเพียงการไขความลับในถ้ำแห่งนั้นได้เท่านั้นจึงจะทำให้ผนึกของดินแดนต้องห้ามถูกคลายออกได้ เมื่อนั้นพวกเราก็จะเป็นอิสระและสามารถพัฒนาพลังได้อีกครั้ง

นายหญิง พวกเราต่างก็อยู่ในดินแดนต้องห้ามมาเกือบพันปีแล้ว นอกเหนือจากข้า อสูรอีกหกตัวก็ติดอยู่ในระดับอสูรสวรรค์จักรพรรดิมาอย่างยาวนาน ทว่า ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง พวกเราก็ยังไม่ยอมแพ้”

หลังจากได้ฟังเรื่องราวบอกเล่าจากหงส์แดง ฉินอวี้โม่ก็พยักหน้า นางเริ่มเข้าใจสถานการณ์ของป่าลึกลับแห่งนี้บ้างแล้ว ดูเหมือนปริศนาและความลับทั้งหมดจะอยู่ในถ้ำที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกที่สุดของป่า ส่วนเรื่องที่ว่าถ้ำแห่งนั้นจะซ่อนความลับอะไรไว้ก็คงต้องเข้าไปตรวจสอบดูจึงจะรู้ได้

สิ่งหนึ่งที่ฉินอวี้โม่สงสัยมากก็คือยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นคือใคร ? เหตุใดถึงล่วงรู้ความลับที่แม้แต่อสูรที่อาศัยอยู่ในป่ามายาวนานไม่อาจรู้ได้ ยิ่งกว่านั้นยังกล้ายืนยันว่ามีเพียงผู้ที่มีกายเทพมายาเท่านั้นถึงจะสามารถคลี่คลายความลับดังกล่าว เมื่อพิจารณาดูแล้วก็เห็นชัดว่ากับว่าคนผู้นั้นจะต้องเป็นบุคคลที่คุ้นเคยกับกายเทพมายาเป็นอย่างดี

เมื่อร้อยปีก่อน ยอดฝีมือผู้นั้นสามารถต่อกรกับหงส์แดงรวมถึงอสูรที่ทรงพลังกว่าอีกหกตัวพร้อมกันได้อย่างง่าย เช่นนั้นแล้วพลังอำนาจจะความแข็งแกร่งของเขาก็คงจะอยู่ในระดับสูงส่งเหนือคำบรรยาย

‘สั่งเสียไว้ว่าให้แต่เพียงผู้มีกายเทพมายาเข้าไปในถ้ำอย่างนั้นรึ ?’… จุดนี้ทำให้ฉินอวี้โม่อดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นอุบายร้ายหรือเล่ห์กลซ่อนเร้นของคนผู้นั้นหรือไม่ ? จอมยุทธ์เมื่อร้อยปีก่อนดูจะมิใช่ยอดฝีมือธรรมดา ไม่แน่ว่าเขาอาจจะจงใจสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยจุดประสงค์บางประการ และอาจต้องการกระทำบางอย่างกับกายเทพมายาของนางก็ได้ หากนางบุ่มบ่ามเข้าไปตรวจสอบถ้ำแห่งนั้นสุ่มสี่สุ่มห้าก็เป็นไปได้ว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น หรือถึงแก่ชีวิต

ในตอนนี้ในหัวของฉินอวี้โม่เต็มไปด้วยความสับสน ในใจมีแต่คำถามมากมายนับไม่ถ้วน ทว่าคำตอบทั้งหมดและอาจรวมถึงปริศนาต่อ ๆ ไปกับกุญแจไขปริศนาก็อยู่ภายในถ้ำแห่งนั้น เรื่องนี้ทำให้สมองของคุณหนูสี่ตระกูลฉินหมุนวนอย่างหน่วง นางกำลังคิดหนักว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

“นายหญิง ข้าและอสูรอีกหกตัวเคยเข้าไปในถ้ำแห่งนั้นครั้งหนึ่ง แต่ก็พบว่ามันเป็นถ้ำที่ลึกลับมากเกินไป มีพลังบางอย่างขัดขวางไม่ให้เราเข้าไปได้ มันคล้ายกับถูกปิดผนึกไว้ แม้ว่าพวกเราทั้งเจ็ดจะรวมพลังกันก็ไม่อาจต้านทานพลังของผนึกนั้นได้เลย”

หงส์แดงกล่าวต่อ อสูรสาวพยายามบอกเล่าเรื่องราวสำคัญที่มันพอจะรู้ออกไปทั้งหมด

สำหรับหงส์แดงแล้วถ้ำแห่งนั้นดูลึกลับเหลือเกิน

ที่ปากถ้ำมีผนึกค่อยปกป้องเอาไว้ อสูรทั้งเจ็ดเคยรวมพลังกันทว่ากลับไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ จะเข้าไปหาความลับในถ้ำก็ไม่อาจทำได้ จะออกจากดินแดนต้องห้ามก็ทำไม่ได้เช่นกัน ความพยายามที่ผ่านมาหลายร้อยปีไม่เคยเป็นผล อสูรทั้งหลายเริ่มรู้สึกหมดหวังและปลงตกกับเรื่องนี้แล้ว

หากแม้แต่อสูรที่แข็งแกร่งถึงเพียงนั้นเจ็ดตัวรวมพลังกันก็ยังไม่สามารถทำลายผนึกเข้าไปได้ เช่นนั้นแล้วผนึกหน้าถ้ำลึกลับจะทรงพลังเพียงใดกัน ! แล้วเมื่อร้อยปีก่อน ยอดฝีมือมนุษย์ผู้นั้นสามารถฝ่าผนึกนั่นเข้าไปได้อย่างไร ?

“นายหญิง ในเมื่อท่านมีกายเทพมายา เช่นนั้นท่านอยากจะลองเข้าไปดูในถ้ำแห่งนั้นบ้างหรือไม่ ?”

หงส์แดงมองฉินอวี้โม่พลางเอ่ยถาม มันอยากรู้ความคิดเห็นของสตรีผู้ครอบครองกายาวิเศษ

อาศัยอยู่มาเนิ่นนานในป่าแห่งนี้ บอกกล่าวตามความสัตย์จริงว่าหงส์แดงเองก็ใคร่รู้เหลือเกินว่าผืนป่าที่ตนอยู่อาศัยมีความลับใดซ่อนเร้น แม้ว่ามันจะกลายเป็นอสูรมายาของฉินอวี้โม่แล้วแต่อสูรสาวก็ยังอยากจะทำประโยชน์แก่สถานที่ที่มันยึดเอาเป็นถิ่นฐาน และยังอยากให้สหายของมันได้รับรู้ด้วยว่าตัวมันเองก็ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อพงไพรแห่งนี้ก่อนจะจากไป

อย่างไรก็ตาม หงส์แดงก็เข้าใจดีว่าเรื่องนี้มันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ ไม่มีสิทธิ์ทั้งร้องขอและบังคับขู่เข็ญ ความปลอดภัยของผู้เป็นนายถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของอสูรในพันธสัญญา เรื่องราวนี้ถือว่ามีอันตรายสูงจนยากจะกล่าว อสูรสาวเองก็ไม่รู้จักยอดฝีมือลึกลับผู้นั้น มันไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร และเรื่องที่เขาบอกจะจริงแท้แค่ไหนก็ยังไม่มีผู้ใดยืนยันได้

กายเทพมายาคือสิ่งที่ขุมกำลังทั่วทั้งแผ่นดินทุกแห่ง รวมถึงยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทั้งหลายอยากได้มาครอบครอง พวกเขาอยากจะศึกษากายวิเศษนี้ให้ถ่องแท้ กล่าวกันว่ามนุษย์คนใดก็ตามหากเกิดมาพร้อมกับกายเทพมายาก็จะเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์อันโดดเด่นเหนือทุกผู้คนในใต้หล้า ส่งผลให้ความเร็วในการฝึกยุทธ์ของคนผู้นั้นสูงจนน่าหวาดกลัว เจ้าของกายเทพมายาถือเป็นมนุษย์เหนือมนุษย์ ความสามารถของพวกเขาสูงยิ่งราวกับสัตว์ประหลาดที่ชวนหวาดหวั่น

ที่สำคัญตำนานบอกเล่าเอาไว้ว่า กายเทพมายาเป็นของเทพมายา ในอดีตอันยาวนานหลายพันปี ผู้คนเชื่อว่าเจ้าของกายนี้สามารถสื่อสารกับเทพเซียนได้ ดังนั้นแล้วเมื่อมีมนุษย์ที่มีกายเทพมายาถือกำเนิดขึ้นก็จะดึงดูดให้ผู้คนมากมายและขุมกำลังน้อยใหญ่แทบทุกถ้วนทั่วตัวตนหันมาเพ่งเล็ง ดังนั้นหากความลับเรื่องที่มีกายเทพมายารั่วไหลออกไปฉินอวี้โม่จะมีอันตรายอย่างใหญ่หลวง เป็นไปได้ว่ายอดฝีมือลึกลับผู้นั้นอาจจะวางแผนเรื่องนี้ขึ้นเพื่อจะหาตัวผู้ครอบครองกายเทพมายาก็ได้

ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจเพราะความเสี่ยงนั้นสูงอย่างยิ่งยวด แม้ว่าหงส์แดงจะต้องการช่วยสหายทุกตัวในดินแดนต้องห้าม ทว่ามันก็ไม่อยากให้ฉินอวี้โม่เป็นอันตรายเช่นกัน

“หึ ๆ ๆ ข้าเองก็อยากจะไปดูเหมือนกัน”

คุณหนูสี่ตระกูลฉินหัวเราะเบา ๆ ในเมื่อได้ข้อมูลที่น่าสนใจถึงเพียงนี้มาแล้ว และยังทราบอีกว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับกายเทพมายา ไฉนเลยคนอย่างฉินอวี้โม่จะไม่เข้าไปดูให้เห็นกับตาเล่า แม้ว่าคราแรกนางจะคิดหนักแต่ด้วยท่าทีเคลือบแฝงที่ดูทั้งหนักใจและมีความหวังของอสูรสาวหงส์แดง อดีตนักฆ่าในร่างคุณหนูก็ตัดสินใจได้

ถึงแม้นางจะมีกายเทพมายา ทว่าก็ยังต้องผ่านการฝึกฝนอีกมากมายและปลดผนึกอีกหลายชั้นเพื่อให้กายวิเศษนี้พัฒนาขึ้นจนสามารถแสดงศักยภาพสูงสุดออกมาได้

มือสังหารจากศตวรรษที่ 21 จำได้ว่าในตอนที่ *‘เธอ’*เพิ่งเข้ามาอยู่ในร่างนี้ *‘ยอดฝีมือลึกลับผู้นั้น’*เคยบอกไว้ว่า หากพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ผนึกของกายเทพมายาก็จะคลายออกอย่างช้า ๆ และเมื่อใดก็ตามที่กายเทพมายาสมบูรณ์พร้อม นางจะมีพลังอย่างไร้ขีดจำกัด

ยิ่งกว่านั้น ยังมีงานสำคัญอีกหลายอย่างที่คุณหนูสี่ตระกูลฉินต้องสะสาง ถ้าไม่รีบพัฒนาตัวเองให้เร็วที่สุดหรือปล่อยให้เวลาล่วงเลยเนิ่นนานเกินไป ทั้งบิดาและมารดาของนางก็อาจจะตกอยู่ในอันตราย นี่ยังไม่รวมกับเรื่องของเสี่ยวโร่วและฉินอี้เฟยที่รอคอยให้นางไปพบเจอ

ฉะนั้น ฉินอวี้โม่จึงตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างนางก็ต้องไปดู ต่อให้ถ้ำแห่งนั้นจะมีปีศาจร้ายที่ไม่อาจเอาชนะได้ซ่อนอยู่นางก็ต้องฝ่าเข้าไปให้ได้ ไม่ว่าข้างในจะมีความลับใดก็คงมีแต่เพียงนางผู้เดียวเท่านั้นที่จะล่วงรู้ได้

“หงส์แดงพาข้าไปที่ถ้ำนั่นที”

ฉินอวี้โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม หากการคาดการณ์ของนางไม่ผิด ภายในถ้ำลึกลับแห่งนั้นจะต้องมีบางสิ่งที่ซิวกล่าวว่า*‘รู้สึกคุ้นเคย’*อยู่เป็นแน่ นอกจากนี้ก็เป็นไปได้ว่ากลิ่นอายที่ยักษาวานรบอกว่าคล้ายกับกายเทพมายาของนางก็น่าจะมาจากที่นั่นด้วย

อสูรสาวหงส์แดงพยักหน้า ในตอนนี้พลังในการต่อสู้ของมันฟื้นคืนกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้ง แม้ว่ามังกรเหมันต์จะโผล่มาอีกครา หนึ่งในอสูรผู้ยิ่งใหญ่แห่งป่าต้องห้ามก็ไม่คิดเกรงกลัว หากเป็นตอนนี้มันสามารถเปิดศึกกับมังกรผู้ชั่วร้ายตัวนั้นได้ทุกเมื่อและจะเอาชนะได้โดยไม่เป็นรองแน่

“หงส์แดง ที่ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่า เจ้าเป็นกังวลว่าอาการบาดเจ็บที่มีอาจทำให้เจ้าไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ หากยังอยู่ที่นี่ นั่นแปลว่าในตอนนี้ที่ดินแดนต้องห้ามกำลังมีสิ่งน่ากลัวอยู่ใช่หรือไม่ ? บอกข้าได้ไหมว่ามันคืออะไร”

ขณะเดินทางตามหงส์แดงเข้าไปในป่าลึกอย่างช้า ๆ ฉินอวี้โม่ก็ฉุกคิดเรื่องหนึ่งได้ จึงเอ่ยถาม

“นายหญิง เรื่องนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับถ้ำลึกลับนั่นเหมือนกัน”

หงส์แดงยกยิ้มบางเบาแล้วกล่าวต่อ “ข้าคงต้องเริ่มเล่าจากสหายของข้าก่อน…”

…ร้อยปีก่อนหน้านี้ หงส์แดงและอสูรตัวอื่น ๆ อีกหกตัวแม้ว่าจะมีเคยทะเลาะเบาะแว้งเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือมีเรื่องปะทะกันอยู่บ้าง ทว่าทั้งเจ็ดตัวก็ยังคงเป็นสหายที่ดีต่อกันเสมอ เมื่อโกรธก็สะสางเรื่องราวที่โกรธจนจบสิ้นเลิกแล้วต่อกัน ที่สำคัญไม่มีอสูรตัวใดมีความคิดที่จะรังแกหรือรุกล้ำอาณาเขตของตัวอื่น ๆ

ทว่าตั้งแต่ที่ยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นปรากฏตัว หลังจากเขาเข้าไปในถ้ำที่อยู่ส่วนลึกของป่าแล้วกลับออกมา  หงส์แดงก็พบว่าสหายของนางบางตัวมีท่าทีเปลี่ยนไป

ผู้ที่เคยเป็นอสูรที่แสนอ่อนโยนอย่าง ‘วิฬารหางสั้น’ จู่ ๆ ก็กลับกลายเป็นดุร้ายขึ้นโดยไร้เหตุผล และด้วยอารมณ์ที่รุนแรงขึ้นของวิฬารหางสั้นนั้นก็ส่งผลให้บรรยากาศทั่วทั้งผืนป่ากลายเป็นคุกรุ่นจนถึงตอนนี้

วิฬารหางสั้นที่ไม่เคยยั่วยุหรือเปิดศึกกับอสูรตัวใดมาก่อน ในเวลานี้กลับตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องเปิดศึกกับอสูรทั่วป่าไม่เว้นแต่ละวัน หงส์แดงเองก็ไม่เว้น บางครั้งมันก็ถูกเจ้าแมวเปิดฉากโจมตีอย่างบ้าคลั่งอย่างน่าหงุดหงิด

นอกเหนือจากวิฬารหางสั้น ก็ยังมี*‘ชะนีแขนยาว’* และ*‘ลิ่นพงไพร’*ที่เปลี่ยนแปลงไปในลักษณะคล้ายกัน เดิมทีพวกมันเป็นอสูรรักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ทว่าตอนนี้กลับดุร้ายและอารมณ์รุนแรง

ในช่วงหลังมานี้ ภายในป่าต้องห้ามมีการต่อสู้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก ยิ่งไปกว่านั้นอสูรมายาที่ระดับไม่สูงเองก็ยังดูดุร้ายขึ้นกว่าเมื่อก่อน บรรยากาศของดินแดนที่เคยสงบสุข บัดนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวายร้อนระอุ

หงส์แดงสันนิษฐานว่า เหตุผลที่ทำให้ จู่ ๆ นิสัยของอสูรหลายตัวในป่าแห่งนี้ก็ดุร้ายขึ้นนั้น จะต้องเป็นเพราะถูกพลังบางประหลาดอย่างเข้าครอบงำ และทำให้จิตใจของพวกมันเปลี่ยนไป…