ตอนที่ 1304

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1304  เจ้าคือน้องชายของข้า (2)

แบบนั้นจักรพรรดิน้อยก็จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้  เขาจะได้กลับไปที่แคว้นจิ้วพร้อมกับพี่ชายของเขา  หรือเขาอาจจะได้สนุกกับชีวิตในฐานะจักรพรรดิน้อย  หรืออาจจะกลายเป็นท่านอ๋องที่ตั้งเป้าจะเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูร ฝึกฝนอยู่ภายใต้การคุ้มครองของพี่ชาย

โชคร้ายที่นางไม่สามารถช่วยพี่ชายของจักรพรรดิน้อยเอาไว้ได้  และเกือบจะเสียจักรพรรดิน้อยไปด้วย……

จวินอู๋เสียที่มีชีวิตอยู่มาสองชาติ  ทั้งอดีตและปัจจุบัน  มีแค่สองเคสนี้เท่านั้นที่นางรู้สึกว่าความรู้ความสามารถทางการแพทย์ของนางช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี

“พี่ชายตัวน้อย……ไม่โกรธ……”  เสี่ยวเจว๋เหมือนจะรู้สึกได้ว่าท่าทางของจวินอู๋เสียไม่ได้เย็นชาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว  ทำให้เขารู้สึกว่าจวินอู๋เสียในตอนนี้ไม่ได้รังเกียจที่เขาเข้าใกล้  แต่เขาก็ยังคงขยับก้นเล็กๆของเขาเข้าไปอย่างระมัดระวังมากอยู่ดี  ค่อยๆเขยิบเข้าไปทีละนิดเพื่อทดสอบระยะห่าง

จวินอู๋เสียมองใบหน้าประหม่าเล็กๆและดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ  ดูกลัวว่านางจะปฏิเสธและทิ้งเขาไป  แล้วอยู่ๆจวินอู๋เสียก็หัวเราะออกมาเบาๆ  แล้วยกมือขึ้นเลียนแบบท่าทางของจวินอู๋เหยา  ลูบหัวของเสี่ยวเจว๋

เสี่ยวเจว๋ทำตาโตจ้องมองจวินอู๋เสีย  นี่เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียทำกับเขาอย่างอบอุ่นเช่นนี้  แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจความหมายของการกระทำดังกล่าว  แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าเขาชอบมันมาก

“เจ้าคือน้องชายของข้า  ข้าจะไม่มีวันทิ้งเจ้า  แล้วก็เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวข้าแล้วนะ”  จวินอู๋เสียพูด  พยายามทำแววตาให้ดูอบอุ่นมากที่สุด

[นาง ‘เสีย’ พี่ใหญ่ไป  แต่ได้น้องชายมาคนนึง  สวรรค์เมตตานางมากเลยไม่ใช่หรือ?]

ไม่รู้ว่าเสี่ยวเจว๋เข้าใจคำพูดของจวินอู๋เสียรึเปล่า  แต่หลังจากได้ฟัง  เขาก็หยุดร้องไห้และมองจวินอู๋เสียด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย

ความรู้สึกไม่สบายใจดูเหมือนจะจางหายไปแล้ว

……………………

เฉียวฉู่กับคนอื่นๆนั่งอยู่ข้างกองไฟ  ไม่กล้าเข้าไปรบกวนจวินอู๋เสียกับเสี่ยวเจว๋  พวกเขาไม่มีทางเลือก  ได้แต่นั่งมองตากันไปมา  แล้วสายตาของพวกเขาก็ไปจบอยู่ที่ร่างของจวินอู๋เหยาโดยไม่ได้ตั้งใจ  ทุกคนต่างอยากรู้ว่าจวินอู๋เหยาทำอะไรที่ผาสุดสวรรค์

เสียงร้องโหยหวนนั่นยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจของพวกเขา

แต่จวินอู๋เหยาไม่คิดที่จะพูดอะไร  หลังจากรออยู่นานก็ยังไม่เห็นจวินอู๋เสียออกมาจากรถม้า  เขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปดู

พอเขายกผ้าม่านขึ้น  ก็เจอกับภาพที่ทำให้หัวใจอบอุ่นอย่างมาก

ด้านในรถม้า  จวินอู๋เสียนั่งเอนไปด้านหนึ่ง  หลับสนิท  ขณะที่เสี่ยวเจว๋ซึ่งร้องไห้จนเหนื่อยก็นอนตักนางและล่องลอยไปในความฝัน

ภาพที่เงียบสงบนั้นทำให้จวินอู๋เหยามีรอยยิ้มอยู่ในแววตา  เขาปล่อยม่านลงเบาๆและหันหลังเดินกลับไปยังทางที่มา

“วันนี้เราจะพักผ่อนกันที่นี่  พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางไปผาสุดสวรรค์”

เขาจะปล่อยให้เด็กน้อยสองคนได้พักผ่อนดีๆสักหน่อย

ไม่มีใครกล้าคัดค้านคำพูดของจวินอู๋เหยาเลยแม้แต่น้อย  พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจวินอู๋เสียและเสี่ยวเจว๋ในรถม้า  และรอจนถึงค่ำก็ยังไม่เห็นสองคนนั้นออกมา  ฟ่านจั๋วจะกลับไปที่รถม้าเพื่อพักผ่อน  จวินอู๋เหยาก็บอกเขาว่าให้มาพักที่รถม้าของเขาแทนในคืนนี้

คำเชิญนั้น……

ทำให้ฟ่านจั๋วตกใจกลัวจนหนาวเย็นไปทั้งร่าง  เขารีบส่ายหน้าและปฏิเสธอย่างรวดเร็ว  จากนั้นก็วิ่งไปหาฮัวเหยาและเฉียวฉู่  ขอร้องให้พวกเขาแบ่งที่ให้เขาพักด้วย

ผู้เยาว์ทั้งสามเบียดกันอยู่ในรถม้าคันเดียวตลอดทั้งคืน

[อย่ามาล้อเล่นน่า!]

[นอนอยู่ในรถม้าคันเดียวกับพี่ใหญ่อู๋เหยา  ใครจะไปหลับลง!?]

คืนนั้น  จวินอู๋เหยาจึงมีเพียงท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิตที่กลัวเขามากจนพากันสั่นตลอดทั้งคืนอยู่ในรถม้าเป็นเพื่อน  เขานอนไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน  ท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิตก็กลัวจนไม่อาจหลับตาลงได้เช่นกัน……