บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 217

หลังเสียงมาเดลีนจบลง อ้อมกอดของเจเรมี่กลายเป็นความว่างเปล่า

ความรู้สึกอ้างว้างไม่มีทีสิ้นสุดเข้าครอบงำหัวใจเขาชั่วขณะ เขาดูเหมือนเพิ่งกลับมาจากทางที่หลง

หากมองไปยังใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เจเรมี่รู้ดีว่าเขาเสียความเย็นชาไปหมดเรียบร้อยแล้วในตอนนี้

เขาแสดงให้เธอเห็นถึงด้านของความหดหู่และมืดมนของเขาที่ไม่มีใครรู้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังกระหายที่จะกอดเธอมาก แม้กระทั่งอยากปราถนาให้เธอรู้สึกเห็นใจเขาและกอดเขากลับแน่น ๆ เป็นการปลอบโยน …

นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน

แต่เขารู้ดีว่าเขาเป็นแบบนี้ได้เพราะใบหน้านี้เท่านั้น

ใบหน้านี้ที่เกือบจะเหมือนกันกับเธอในตอนนั้น

“เอ้า นี่คุณไม่ได้บอกว่าจะมาถึงพรุ่งนี้หรือไงกันคะ? ทำไมคุณกลับมากะทันหันจังล่ะ?” มาเดลีน ทำให้เจเรมี่กลับมารู้สึกตัวด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงของเธอ

จากนั้นเขายังคิดถึงบางสิ่งและจำสิ่งที่เธอเพิ่งพูดได้ว่า ‘คู่หมั้นของฉันอยู่ที่หน้าประตู’

คู่หมั้น?

“ที่บ้านมีแขกเหรอ?” เขาได้ยินเสียงผู้ชาย

เจเรมี่ขมวดคิ้วแม้ว่าเสียงนี้จะไม่คุ้นเคยอะไรมาก แต่ก็ไม่แปลกเท่าไหร่สำหรับเขา

แต่ทว่า หากเจ้าของเสียงนี้เป็นคู่หมั้นของวีล่าล่ะก็ นั่นคงทำให้เขาตกใจมาก

“นั่น เจเรมี่หรอ?”

เมื่อเจเรมี่เงยหน้าขึ้นและจ้องไปยังต้นทางของเสียงนั้น และเสียงได้ดังขึ้นอีกครั้ง

เฟลิเป้ วิทแมน ซึ่งสวมสูทสีดำ เดินเข้ามาหาเขาอย่างช้า ๆ ฝนยังคงตกหนักอยู่ข้างนอกและไหล่ของเขาจึงเต็มไปด้วยหยาดฝน แต่นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อท่าทางที่สง่างามและความเป็นสุภาพบุรุษโดยรวมของเขาเลย

ดวงตาสีดำเรียวทั้งสองคู่สบกันแบบไม่ละสายตา

ดวงตาของเจเรมี่มืดมิดและดิ่งลึกเหมือนน้ำในบรรยากาศที่เงียบสงบอย่างเห็นได้ชัด แต่ในขณะนี้ คลื่นใต้น้ำกำลังพุ่งออกมาจากดวงตาเจเรมี่อย่างเงียบ ๆ ราวกับควันดินปืนที่มองไม่เห็น

“นี่นายจริง ๆ ด้วยงั้นหรอ?” เจเรมี่ลุกขึ้นยืนช้า ๆ

เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว มาเดลีนยิ้มจาง ๆ และเดินไปข้างลำตัวเฟลิเป้ขณะที่จับแขนของเขาอย่างเป็นธรรมชาติที่แสดงออกถึงความรักใคร่

“คุณวิทแมน ผู้ชายคนนี้คือคู่หมั้นของฉันเอง เฟลิเป้ วิทแมน”

เธอแนะนำเขาด้วยรอยยิ้มก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่อ่อนโยนของเฟลิเป้

“คุณเพิ่งเรียกชื่อคุณวิทแมนว่า ‘เจเรมี่’ หรือพวกคุณรู้จักกันมาก่อนหรอคะ? ไม่สิ คุณทั้งคู่ใช้นามสกุลเดียวกัน…”

“เจเรมี่เป็นหลานชายที่ฉันเคยพูดกับเธอก่อนหน้านี้” เฟลิเป้เอื้อนเอ่ยริมฝีปากเพื่อตอบอย่างไม่เร่งรีบ เสียงของเขาอ่อนโยนราวยามค่ำคืนที่อยู่นอกหน้าต่าง ดังเล็ดลอดเข้ามาในหูเธออย่างเงียบ ๆ ราวกับน้ำที่อ่อนโยน

มาเดลีนดูประหลาดใจ จากนั้นเธอยิ้มออกมา “อ่าห์ แสดงว่าคุณวิทแมนเป็นหลานชายของคุณ”เธอถอนหายใจ “ตั้งแต่ฉันมาถึงเกลนเดล เพื่อนคนเดียวที่ฉันรู้จักก็คือคุณวิทแมนนี่แหละ”

“ช่างโชคดี” เฟลิเป้ยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะมองไปที่เจเรมี่ที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ “ถ้างั้น เจเรมี่ขอบคุณที่ดูแลวีล่ามาตลอดนะ”

หลังจากที่เขาพูดจบประโยค เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นในอากาศที่เงียบงัน

เจเรมี่เดินเข้าไปหาเฟลิเป้ ทั้งคู่สูงเกิน 185 เซนติเมตร พวกเขามีระดับความสูงที่ไล่เลี่ยกันเมื่อเผชิญหน้าและด้วยรูปลักษณ์ของพวกเขามันก็ยากที่จะตัดสินว่าใครดูเหนือกว่า

แต่เมื่อเทียบกับความมั่นใจในตัวเองของเจเรมี่แล้ว เฟลิเป้แสดงอารมณ์ที่ค่อนข้างสง่างามและเป็นสุภาพบุรุษมากกว่า

สายตาจ้องมองที่มีจุดประสงค์ของเจเรมี่สะบั้นไปทั่วใบหน้าของเฟลิเป้และในที่สุดสายตานั้นกวาดมายังใบหน้าที่มีรอยยิ้มขนาดเท่าฝ่ามือของมาเดลีน

“เขาเป็นคู่หมั้นของคุณจริ ๆ เหรอ?” เขามองไปที่มาเดลีนก่อนจะเอ่ยถาม

มาเดลีนพยักหน้าโดยไม่ต้องคิดอะไร “แน่นอน เขาจะเป็นตัวปลอมได้ไงกัน?”

“อ่าห่ะ” เจเรมี่ยิ้มอย่างประชดประชัน “ผู้หญิงที่หน้าเหมือนอดีตภรรยาของฉัน จะกลายมาเป็นน้าสะใภ้ของฉันในอนาคตงั้นสินะ?”

“เจเรมี่” เฟลิเป้เอ่ยชื่อเขาอย่างใจเย็น “ฉันรู้ว่าวีล่าและมาเดลีนมีหน้าตาที่เหมือนกัน แต่พวกเขาสองคนต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฉันหวังว่านายคงจะไม่จินตนาการถึงสิ่งต่าง ๆ หรอกนะ”

“มันยากนะสำหรับฉันที่จะให้ไม่จิตนาการถึงสิ่งพวกนั้น” เจเรมี่มองไปที่มาเดลีนด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย

เขาเดินไปข้าง ๆ ของมาเดลีน หลังจากที่เขาพูดประโยคพวกนั้น เขาก้มหน้าลงทันที ลมหายใจอุ่น ๆ ลอดผ่านหูของมาเดลีน

“จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกตั้งหน้าตั้งตาที่จะเจอกับเธอครั้งต่อไปแทบไม่ไหวแล้ว คุณวีล่า”

พร้อมกับคำพูดที่ค่อนข้างติดตลกและลึกซึ้งของเขา มือมาเดลีนที่จับแขนของเฟลิเป้ไว้ถูกบีบแน่นขึ้น ๆ ทีละนิ้ว

ความอึกอัดใจของมาเดลีนแสดงออกมาจนเฟลิเป้รู้สึกได้ เขายกมือขึ้นมาแตะไหล่เธอเบา ๆ

“ไม่มีอะไรให้กังวล” เขาปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงที่เชื่องช้า และนุ่มนวล อย่างใจเย็น

ไม่นาน เจเรมี่ได้เดินจากไป

หลังจากประตูปิดลง มาเดลีนก็ทิ้งการตั้งท่าโต้ตอบและเฝ้าระวังของเธอลง

เธอรีบดึงมือออกจากแขนของเฟลิเป้ เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับสายตากลมสีดำที่ยิ้มแย้มและอ่อนโยนของเขา ความไม่สบายใจและความวิตกกังวลในใจของเธอดูเหมือนจะหายไปทันที

“ช่างดีเหลือเกินที่คุณกลับมาแล้ว” เธอยิ้ม ตาของเธอกระพริบแวววับด้วยความขอบคุณอย่างหาคำเปรียบไม่ได้มันช่างน่าปิติยินดีที่เขากลับมาทันเวลา

เฟลิเป้ยกมือขึ้นรวบผมยาวของมาเดลีนทัดหู มันเป็นการกระทำที่กำกวมมาก แต่เขากลับทำ เมื่อเขาเป็นผู้ทำมันกลับดูเป็นธรรมชาติและน่าหลงใหลมาก

“ฉันได้เห็นข่าวทั้งหมดในช่วงนี้แล้วล่ะและเธอทำมันได้ดีมาก”