ตอนที่ 694 ต่อสู้กับวัยรุ่นสาว

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

กู่ฉิงซานตะลึงงันไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบสนองต่อคำกล่าวของอีกฝ่าย

เขาเหยียดมือ คว้าจับอากาศที่ว่างเปล่า เรียกธนูเย่หยูออกมา

ช่วงเวลานี้ มันก็ล่วงเลยมาจนถึงกลางดึกแล้ว สายลมพัดฝุ่นและเม็ดทรายขึ้นไปบนฟากฟ้า กระจายออกไป เผยให้เห็นถึงดวงจันทร์เปล่าเปลี่ยว สาดแสงลงมาจากเบื้องบน

กู่ฉิงซานยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ เจตนาฆ่าจากทั้งคนทั้งร่างเริ่มฟุ้งขึ้นมาหลายส่วน

ตามปกติ หากมีคนมากล้ามาพูดกับเขาแบบนี้ เขาคงจะลงมือเชือดมันไปแล้ว

แต่ขณะนี้ กู่ฉิงซานยังคงพยายามควบคุมอารมณ์ของเขาอย่างถึงที่สุด ยังไม่ลงมือออกไป

เพราะท้ายที่สุดนี้ เขาน่ะเป็นทหารที่ข้ามผ่านการสงครามมาแล้วมากมาย แต่ตรงกันข้าม มองย้อนกลับไป ทั้งสามเบื้องหน้าเป็นเพียงหน้าใหม่ แถมยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ

อีกอย่าง ตลอดระยะเวลาที่ร่วมทางกันมา ทั้งสามก็ประพฤติตัวอย่างสุภาพและจริงใจต่อเขา

บางครั้งทั้งสามก็ใส่ใจ และแสดงออกถึงความเคารพต่อกู่ฉิงซาน

แต่ทำไมตอนนี้…ถึงได้คิดมาปล้นเขาล่ะ?

เป็นเรื่องที่หาได้ยากนัก ที่กู่ฉิงซานจะเกิดความรู้สึกสับสน เหมือนกันกับในสถานการณ์ปัจจุบันนี้

เขายิ้มและเอ่ยถาม “โทษที ฉันได้ยินผิดไปหรือเปล่า เมื่อกี้เธอพูดว่า…ปล้น?”

วัยรุ่นสาวพยักหน้า “ไม่ผิดนะ นี่คือการปล้น”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าใจความหมายของเธอ วัยรุ่นสาวก็ดูจะโล่งใจเล็กน้อย

กู่ฉิงซานมองเธอ แล้วสลับไปมองเพื่อนเธออย่างรวดเร็ว

เขาพบว่าวัยรุ่นชายสองคนได้ย้ายออกจากจุดเดิม เบี่ยงซ้าย เบี่ยงขวา เข้าขนาบเขาให้อยู่กลางวงล้อม

ดูเหมือนว่า…

คงคิดจะปล้นจริงๆ

นิ้วเรียวของกู่ฉิงซานลูบไล้ไปตามคันธนูเย่หยู ก่อนจะนิ่งงันไม่ไหวติง

เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองอีกครั้ง

วัยรุ่นสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขา สีหน้าของเธอฉายแววไร้เดียงสา ดวงตาเปล่งประกายสดใส วิธีการพูดก็ดูขี้อายและจริงใจ ชายกระโปรงยาวของเธอโบกไสวไปกับสายลมยามค่ำคืน โดยรวมแล้วดูราวกับเทพธิดาที่จุติลงมาบนโลกใบนี้

เมื่อต้องเผชิญกับฉากน่าประทับใจดังกล่าว กู่ฉิงซานจึงรู้สึกลังเลเล็กน้อยที่จะลงมือ

เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “เธอคิดจะปล้นฉัน แล้วรู้หรือเปล่าว่าการปล้นมันหมายความว่าอย่างไร?”

วัยรุ่นสาวชะงักงัน

“อ่า…คือว่า…”

เธอเอื้อมไปด้านหลัง รีบฉวยหยิบพจนานุกรมมา แล้วพลิกหน้ากระดาษมันอยู่นานสองนาน ก่อนจะพบกับคำที่ต้องก่อน

ปากเปล่งเสียงกระซิบท่ามกลางแสงจันทร์ “การปล้น หมายถึงการที่หมากของฝ่ายหนึ่ง ล้อมรอบอีกฝั่งหนึ่งได้ และฝั่งที่ชนะจะได้กินหมากของอีกฝั่ง คิดว่าไม่น่าจะใช่ความหมายนี้ ขอโทษที ขอหาอีกรอบนะ”

เธอมองกู่ฉิงซาน ก้มหัวขอโทษ และเริ่มค้นหาต่อไป

กู่ฉิงซานยืนถือธนูเย่หยู เฝ้ารอวัยรุ่นสาวค้นหาคำตอบอย่างเงียบๆ

หากจะต้องเจอศัตรูที่ร้ายกาจ กระโจนเข้าสู่อันตราย ฟาดฟันต่อสู้อย่างหนักหนาสาหัส กู่ฉิงซานจะไม่หวั่นเลย

…แต่ถ้าต้องมาสู้กับคนที่ใสซื่อแบบนี้

กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างลับๆ

หลังจากนั้นสักพักหนึ่ง

ในที่สุดวัยรุ่นสาวก็ยืดอกขึ้น เปล่งเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “การปล้น หมายถึงการหยุดอีกฝ่าย แล้วขโมยทรัพย์สินของเขามาเป็นของตัวเอง”

ว่าจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองแสงจันทร์บนท้องฟ้า ทั้งคนทั้งร่างเริ่มวิตกกังวล

“อา เวลาใกล้จะหมดลงแล้ว”

แล้วจู่ๆ เธอก็ตะโกนออกมา “เทคนิคต้องห้าม!”

ขนาบข้างกับกู่ฉิงซาน หนึ่งในสองวัยรุ่นชายพลันแปรเปลี่ยนเป็นกระแสแสง บินกลับเข้ามาในมือของเธอ

เขาได้กลายเป็นไพ่ไปแล้ว!

วัยรุ่นสาวเผชิญหน้ากับกู่ฉิงซาน จากนั้นพลิกไพ่นี้เข้าหาเขาและกล่าว “เทคนิคต้องห้ามอาวุธ คันธนูและลูกศร!”

กู่ฉิงซานยังไม่ทันจะได้ตอบสนอง ธนูเย่หยูก็หายวับไปจากมืออย่างกะทันหัน

ธนูเย่หยูและถุงใส่ลูกศรของเขา ทั้งหมดหายไป และปรากฏขึ้นภายในไพ่ของวัยรุ่นสาว บนมือของวัยรุ่นชายที่อยู่ภายใน

วัยรุ่นสาวกล่าวเสียงเย็น “ตอนนี้การโจมตีของนายก็ได้ถูกผนึกเอาไว้แล้ว ดังนั้นส่งมอบอย่างบางที่เก็บเอาไว้ออกมาซะ”

กู่ฉิงซานหาได้ตื่นตระหนกไม่ เขาหัวเราะ “แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ?”

พริบตานั้น เขาพลันหันขวับ เหวี่ยงกำปั้นหวดเข้าใส่เบื้องหลัง

สกิลเทวะ สวรรค์ล่มสลาย!

ปัง!

ด้วยหมัดนี้ของเขา วัยรุ่นชายอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ถูกคลื่นอัดอากาศซัดเปรี้ยง!เข้าใส่ ลอยคว้านขึ้นไปในอากาศ

สีหน้าของวัยรุ่นสาวแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย “จริงๆ แล้วยังมีความสามารถด้านเพลงหมัดด้วยสินะ ถ้าอย่างนั้นก็ต้อง”

เธอจั่วไพ่ออกมาจากในความว่างเปล่า

บนหน้าไพ่ ปรากฏภาพของวัยรุ่นชายที่เพิ่งกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อครู่

กลับกลายเป็นว่าวัยรุ่นชายทั้งสองคน แท้จริงแล้วเป็นไพ่ของเธอทั้งหมด!

วัยรุ่นสาวถือไพ่ใบนี้ ขณะที่อีกมือหนึ่งจั่วไพ่ชุดเกราะออกมาจากในความว่างเปล่า

ภายในไพ่ชุดเกราะ ประกอบไปด้วยเกราะไหล่ เกราะหน้า เกราะหัว เกราะแขน เกราะขา…

เธอสะบัดไพ่เบาๆ เรียกพวกมันออกมา ทันใดนั้นวัยรุ่นชายทั้งในไพ่และนอกไพ่ก็พลันถูกสวมทับไปด้วยชุดเกราะ

หากได้รับอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ วัยรุ่นชายก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับเรื่องถูกโจมตีด้วยเพลงหมัดอีกต่อไป

และขณะเดียวกัน ก็สามารถทุ่มเทสมาธิ เน้นไปยังการโจมตีให้หนักหน่วงขึ้น!

“มันจบแล้ว นายไม่สามารถชนะฉันได้หรอก ได้โปรดมอบสิ่งที่นายมีมาเถอะ!” วัยรุ่นสาวตะโกน

แต่กู่ฉิงซานมิได้เอ่ยสิ่งใด

จู่ๆ เจ้าตัวก็คว้ากระบี่ยาวออกมา จ้วงแทงราวกับพายุไปถึงยี่สิบสี่กระบี่ บีบบังคับให้วัยรุ่นชายที่สวมใส่เกราะรบเต็มตัวต้องล่าถอยออกไป

ขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ตบลงในถุงสัมภาระตน

ชุดเกราะนายพลชั้นเฉินเว่ยถูกเรียกออกมา มันแยกกระจัดกระจาย และประกอบติดไปตามส่วนร่างกายต่างๆ ของกู่ฉิงซานอย่างรวดเร็ว

เขาปิดใบหน้าด้วยหน้ากากทองคำ จ้องมองไปทางวัยรุ่นสาวและกล่าว “มาลองกันอีกครั้ง”

วัยรุ่นสาวพอเห็นก็กัดฟันกรอด เธอหยิบดาบสั้นของตัวเองออกมา วางมันลงในไพ่ของวัยรุ่นชาย

พริบตานั้นในมือของวัยรุ่นชายปรากฏดาบสั้นขึ้นมาทันที

เขาตั้งหลัก ปราดเข้าหากู่ฉิงซานอีกครั้งพร้อมกันกับฟาดคมดาบที่สาดประกายแสงสีหมึกเข้าใส่กู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

เพราะที่กำลังเผชิญ มันคือพลังจากหนึ่งในห้าธาตุจำเพาะ ที่ประกอบไปด้วย ลม สายฟ้า แสง ความมืด และเสียง

สกิลดาบสั้นประเภทนี้ กล่าวได้ว่าเป็นสกิลดาบสั้นระดับสูง เป็นสกิลดาบสั้นที่ใช้จิตวิญญาณธาตุความมืด ผสานเข้าไปในกระบวนท่าดาบ

ไม่คาดคิดเลยว่าแค่ไพ่ แต่กลับสามารถทำได้ถึงขนาดนี้!

อย่างไรก็ตาม กว่าจะคิดได้ว่าสมควรจะหยิบยื่นดาบสั้นมาช่วยสู้ มันก็สายเกินไปแล้ว! พริบตานั้นเอง ประกายแสงสีน้ำเงินพลันถูกจุดขึ้น

กู่ฉิงซานพรวดออกมาข้างหน้า

บนใบมีดของกระบี่จักรพรรดิศพ สาดประกายแสงสีน้ำเงินซ้อนทับกันอย่างรุนแรง

สองคมเหล็กกล้าปะทะเข้าหากัน

ตูม!

พลังธาตุทั้งสอง หนึ่งน้ำเงินหนึ่งดำ สาดแสงและเงาออกมาอย่างต่อเนื่อง กระจัดกระจายไปตลอดทั้งสวรรค์และโลก

กู่ฉิงซานก้าวถอยหลัง เอ่ยปากออกมาอย่างจงใจ “ต้องการบางสิ่งจากฉันหรือ? ถ้าเช่นนั้นเธอคงมีทางเดียวแล้วล่ะ นั่นคือต้องฆ่าฉันซะก่อน แล้วค่อยชิงมันไป!”

วัยรุ่นสาวส่ายมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “แบบนั้นไม่ได้นะ! ฉันไม่อยากจะฆ่าคุณ เพราะคุณเป็นคนดี!”

กู่ฉิงซานสตั้นไป เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัว

ข้อสรุปของเขา มันไม่ผิดพลาดจริงๆ

อีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าเลย

แล้วถ้าอย่างนั้น ไอ้การต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นนี่มันคือเรื่องบ้าอะไรกัน?

วัยรุ่นสาวเผยท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องใช้ความแข็งแกร่งที่มากกว่า บังคับให้เขาจำนนแต่โดยดีซะแล้ว” เธอพึมพำกับตัวเอง

ระหว่างกล่าว ไพ่ใบหนึ่งก็ถูกจั่วขึ้นมา

ไพ่ใบนี้แตกต่างจากไพ่ก่อนหน้า

ไพ่ก่อนหน้าที่เธอจั่วขึ้น บริเวณส่วนหลังและขอบไพ่มันมีสีดำ ทว่าไพ่ใบล่าสุดกลับมีสีแดงเข้ม

ส่วนหน้าไพ่ มันฉายไปด้วยแสงสีแดงแพรวพราว

ส่งผลให้ไม่สามารถมองเห็นถึงสิ่งที่อยู่บนไพ่ได้อย่างชัดเจน

“หอกปีศาจแดงจงปรากฏ” วัยรุ่นสาวเปล่งเสียงกระซิบ

มืออีกข้างของเธอเหวี่ยงไปจั่วไพ่อีกใบออกมาอย่างรวดเร็ว และโยนมันออกไป

“ราชินีปีศาจแมงป่องจากหุบเหวแห่งบาปเอ๋ย จงปรากฏกายเพื่อช่วยเหลือเรา!”

ปัง!

ไพ่ระเบิดฟุ้ง กลายเป็นเขม่าควัน

พร้อมกันกับผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์เป็นแมงป่อง ปรากฏกายขึ้นในทะเลทราย

ทั้งร่างของเธอสาดประกายเย็นเยียบและมืดมน โดยมีโล่เล็กๆ ที่ดูประณีตอยู่ในมือของเธอ

“ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่สามารถอัญเชิญข้ามาได้…”

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะเบาๆ

ในเวลาเดียวกัน วัยรุ่นสาวก็โยนไพ่สีแดงเข้มออกไป

ราชินีปีศาจแมงป่องยืนมือออกไปรับ

ทันใดนั้นหอกยาวที่สาดแสงสีแดงเข้มอันไร้ที่สิ้นสุดก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ

เธอยกโล่ขึ้น วางหอกประทับลงเหนือมัน หมุนควงหอกกระทบกับโล่ส่งเสียงกึ้งๆๆ ข่มขวัญอย่างต่อเนื่อง แล้วค่อยๆตรงเข้าหากู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานมองไปที่หอกยาว สีหน้าของเขาเริ่มจะหนักอึ้งขึ้น

จากหอกยาว เขาสามารถสัมผัสได้ถึงคมกล้าอันหาที่เปรียบไม่ได้ของมัน

เขายกกระบี่จักรพรรดิศพขึ้น

แต่วัยรุ่นสาวก็ฉวยโอกาสผนึกอีกครั้ง

เธอหยิบไพ่ใบแรกออกมา แล้วเล็งไปทางกู่ฉิงซาน

“เทคนิคต้องห้าม อาวุธกระบี่”

ทันใดนั้นเอง กระบี่ยาวในมือของกู่ฉิงซานก็หายวับ ไปปรากฏอยู่ภายในไพ่

บัดนี้ภายในไพ่ ปรากฏภาพของวัยรุ่นชายที่หนึ่งมือถือธนู อีกหนึ่งมือถือกระบี่ และสะพายถุงเก็บลูกศรเอาไว้เบื้องหลัง

ณ จุดนี้ ธนูและกระบี่ของกู่ฉิงซานได้ถูกผนึกไว้ในไพ่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเห็นว่าราชินีแมงป่องกำลังใกล้เข้ามา กู่ฉิงซานก็ดีดตัวถอยหลังไป

สัญชาตญาณของเขาร้องเตือนว่าให้ระวังหอกปีศาจแดงเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่กล้าพอที่จะรับมันด้วยมือเปล่า

“น้องชาย อย่าหนีเลยดีกว่าน่า” ราชินีปีศาจแมงป่องหัวเราะคิกคัก

แล้วเธอก็เร่งความเร็วขึ้น

หลังจากนั้นสองลมหายใจ กู่ฉิงซานก็ไม่อาจหลบเลี่ยงเธอได้อีกต่อไป

กู่ฉิงซานพยายามยืดเวลาให้นานที่สุด หนึ่งมือยื่นออก จีบด้วยวิชาลับ พร้อมกันกับพลังสายฟ้าจากทั้งคนทั้งร่างถ่ายเทไปยังมัน

ปรากฏสามหลุมดำผุดขึ้นเบื้องหน้าเขา

เปรี้ยง!

สายฟ้าสีน้ำเงินเข้มวิ่งแยกออกเป็นสามกลุ่มก้อน มันพรวดออกปะทะเข้าใส่ราชินีแมงป่องโดยตรง

สายฟ้าโกลาหล!

ราชินีแมงป่องหยุดฝีเท้าของเธอทันที และยกโล่ในมือขึ้นปัดป้อง

สามกลุ่มก้อนสายฟ้าปะทะกับโล่เล็ก กระจัดกระจายหายไปในทันใด

ห่างออกไปหลายร้อยเมตรจากทั้งสอง สามกลุ่มสายฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง และปะทะเข้ากับผืนทราย

ตูม!

ภายใต้แสงจันทร์อันหนาวเหน็บ เม็ดทรายระเบิดพวยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า ปลิวว่อนไปทั่ว

กู่ฉิงซานดีดตัวถอยอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง

กู่ฉิงซานหันขวับ! เงยหน้าขึ้นอย่างแรง

เห็นแค่เพียงวัยรุ่นชายที่ถูกซัดปลิวไปก่อนหน้านี้ กำลังโฉบลงมา พร้อมกับฟาดดาบสั้น โถมเข้าใส่เขา

วัยรุ่นชายเฝ้ารอคอยมานานแล้ว และในที่สุดเขาก็สามารถคว้าจังหวะพลั้งเผลอของอีกฝ่ายได้เสียที

ในช่วยเวลานี้ เบื้องล่างของวัยรุ่นชาย ศัตรูของเขาเพิ่งจะจบการร่ายคาถา แถมยังมือเปล่า ดังนั้นย่อมไม่มีทางที่จะต่อต้านตนเองได้

“ถ้านายยังไม่อยากตาย ก็ยอมแพ้ซะ!”

วัยรุ่นชายตะโกน หวดฟาดคมดาบสั้นลงมา

เมื่อประโยคนี้จบลง เขาก็มาถึงเหนือหัวของกู่ฉิงซานแล้ว

ห้วงเวลาราวกับหยุดนิ่งไปเสี้ยวหนึ่ง ตามร่างกายของกู่ฉิงซาน พลันฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายโบราณอย่างกะทันหัน

ร่างเขาวูบไหวเป็นเงา ปากอ้าคำรณสะบัดตัวขึ้นสู่ฟากฟ้า กระแทกโจมตีเข้าใส่วัยรุ่นชายอย่างแรง

วัยรุ่นชายเหวี่ยงดาบสั้นในมือตน ทว่าดาบดันกระดอนกลับคืนด้วยพลังที่มองไม่เห็นก่อนที่มันจะทันได้สัมผัสลงกับร่างของกู่ฉิงซาน

ขณะเดียวกัน จู่ๆ บนตัวของกู่ฉิงซานก็ปรากฏร่างเงาขึ้น มันเป็นร่างเงาของผู้หญิงที่บริเวณส่วนหัวเต็มไปด้วยงู แผ่กลิ่นอายอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามออกมา

ซัดเปรี้ยง!

บังเกิดเสียงดังหนักทึบ กังวานไปทั้งสี่ทิศ

สกิลเทวะ ตัดแบ่งขุนเขาไร้ตัวตน!

หลังจากการปะทะนี้ วัยรุ่นชายก็สลายกลายเป็นควันหายไปเลยโดยตรง

ขณะเดียวกัน ทั้งคนทั้งร่างของกู่ฉิงซานก็กลายรูปเป็นร่างคล้ายกับมังกรคลั่ง โผทะยาน แหวกเมฆหมอก เจาะผ่านขึ้นไปบนท้องฟ้ายามราตรี

………………………………….