บทที่ 523 โชคดีที่เธอเป็นผู้หญิง / บทที่ 524 จะต้องเอาคืนมาให้ได้

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 523 โชคดีที่เธอเป็นผู้หญิง

จากการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เยี่ยหวันหวั่นไม่บอกว่าตัวเองแต่งชายเข้าไปทำงานเป็นการชั่วคราว “ฉันเพิ่งจะอยู่ในวงการไม่นาน ไม่มีชื่อเสียงอะไร รอให้ฉันมีชื่อก่อนค่อยบอกพวกเธอ”

ไม่รู้ว่าเจียงเยียนหรานนึกอะไรขึ้นได้ มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยว่า “จริงสิ หวันหวั่น เธอเคยบอกว่าในอนาคตจะเซ็นสัญญากับฉัน คงไม่ได้ลืมไปแล้วนะ?”

เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ “ไม่ลืมอยู่แล้ว เยียนหราน ตอนนี้เธอไม่ต้องรีบเดบิวต์ ตั้งใจเรียนพื้นฐานให้ดี รอเธอเรียนจบ ฉันก็มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงระดับหนึ่งแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยมาอยู่กับฉัน”

เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็หยุดไปนิดหนึ่ง แล้วมองหญิงสาวข้างกาย พูดต่อว่า “ที่ฉันเซ็นสัญญากับเธอ ไม่ใช่จะให้เธอมาลำบากกับฉันหรอกนะ!”

ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดว่า ‘ที่ฉันเซ็นสัญญากับเธอ ไม่ใช่จะให้เธอมาลำบากกับฉันหรอกนะ!’ พวงแก้มทั้งสองข้างของเจียงเยียนหรานพลันแดงระเรื่อ พยักหน้าแรงๆ “อื้อ ฉันก็จะพยายามเหมือนกัน!”

ฉู่เฟิงที่อยู่ตรงข้ามมองแฟนสาวของตัวเอง แล้วมองเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยเนิบๆ ว่า “พี่หวันหวั่น…”

“อะไร?” เยี่ยหวันหวั่นมองฉู่เฟิง

ฉู่เฟิงกัดตะเกียบ “พี่สอนผมหน่อยได้ไหม…”

“สอนอะไร?” เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจ

“สอนผมว่าจีบผู้หญิงยังไง!” ฉู่เฟิงทำสีหน้ารันทด

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูดทันที “นายมั่นใจเหรอว่าจะถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิง?”

ฉู่เฟิงเหลือบมองเธอ จากนั้นพึมพำเบาๆ “โชคดีที่พี่เป็นผู้หญิง…”

ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางกล้าให้เยียนหรานเที่ยวเล่นด้วยหรอก?

เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากเล็กน้อย เผยยิ้มยียวน “แน่นอนสิ ถ้าฉันไม่ใช่ผู้หญิง นายคิดว่านายจะได้มาอยู่ตรงนี้เหรอ?”

ฉู่เฟิงทำท่าทางว่าไร้ซึ่งหนทางโต้แย้ง…

หากพี่หวันหวั่นเป็นผู้ชาย ศัตรูหัวใจคนนี้ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ถึงอย่างไร ก็จัดการความเข้าใจผิดระหว่างเจียงเยียนหรานกับฉู่เฟิงเรียบร้อยแล้ว

ฉู่เฟิงไอ้หมอนี่ยังถามเธอว่าจะจีบสาวอย่างไร ความจริงคนที่จีบเก่งที่สุดก็คือตัวเขาเองนั่นแหละมั้ง!

เพราะไม่ว่าจะจีบเก่งอีกมากแค่ไหน ก็แพ้ให้ความจริงใจ

ในเมื่อแก้ไขความขัดแย้งได้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่อยากเป็นก้างขวางคออีก พูดว่ามีธุระและขอตัวออกมาก่อน

เพิ่งจะออกจากร้านอาหาร วีแชทบนโทรศัพท์สำหรับงานอีกเครื่องก็เริ่มเด้งเตือนอย่างบ้าคลั่ง

 [กงซวี่: พี่เยี่ย ทำไมวันนี้พี่ไม่มาบริษัทล่ะ?]

[กงซวี่: พี่เยี่ย วันนี้ผมไปถ่ายหน้าปกนิตยสาร พี่ไม่ไปเป็นเพื่อนผมเหรอ?]

[กงซวี่: พี่เยี่ย คืนนี้พี่ว่างไหม ผมจะเลี้ยงข้าวพี่!]

[กงซวี่: พี่เยี่ย พี่เยี่ย ทำไมพี่ไม่สนใจผมเลยล่ะ]

[กงซวี่: อ่า… รู้สึกเหมือนตัวเองโดนขังอยู่ในตำหนักเย็นเลย…พี่ตอบผมหน่อยสิ…]

เยี่ยหวันหวั่นมองวีแชทที่ระเบิดด้วยวิธีตามตื๊ออย่างพูดไม่ออก สมกับเป็นสไตล์ของกงซวี่ ครั้งก่อนเห็นเขาส่งข้อความหาหานเซี่ยนอวี่เธอก็รู้แล้ว

หันมามองลั่วเฉิน ส่งหาเธอเพียงข้อความเดียวแต่กลับกระชับชัดเจน รายงานตารางงานของตัวเองในแต่ละวันและสิ่งที่ต้องการขอคำแนะนำมา

เยี่ยหวันหวั่นตอบลั่วเฉินก่อน แล้วค่อยตอบกลับกงซวี่ประโยคหนึ่งว่า [มีอะไรหรือเปล่า สองสามวันนี้นายไม่มีตารางงานอะไรเป็นพิเศษ ให้ฝ่ายผู้ช่วยไปเป็นเพื่อนก็พอแล้ว]

ผลคือทางเยี่ยหวันหวั่นเพิ่งตอบกลับไป กงซวี่ก็ตอบกลับมาในเสี้ยววินาที

เขาพิมพ์เครื่องหมายตกใจยาวเหยียดมาก่อน จากนั้นพิมพ์มาอีกประโยคว่า [พี่ตอบลั่วเฉินก่อนแทนที่จะตอบผมก่อนงั้นเหรอ!!!]

เยี่ยหวันหวั่นมองเครื่องหมายตกใจเต็มหน้าจออย่างหมดคำพูด [นายอยู่กับลั่วเฉินเหรอ?]

กงซวี่: [บังเอิญเจอที่ชั้นล่างของบริษัท! พี่อย่าเลี่ยงคำถามผมดิ!!!]

เยี่ยหวันหวั่น: [จะก่อนจะหลัง ต่างกันด้วยเหรอ]

กงซวี่: [ต่างอยู่แล้ว! ต่อไปนี้พี่ต้องตอบข้อความผมก่อน!]

เยี่ยหวันหวั่น: [วันนี้ฉันคุยกับน้องสาว เขาบอกว่าชอบผู้ชายที่สุขุมเป็นผู้ใหญ่หน่อย]

กงซวี่: […ลั่วเฉินโตกว่า เป็นรุ่นพี่ ผมคิดว่าพี่ควรตอบเขาก่อนจริงๆ แหละ!]

เยี่ยหวันหวัน “…”

…………………………………………………………..

บทที่ 524 จะต้องเอาคืนมาให้ได้

สนามฝึกซ้อม

เสียงปังๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มือของหลิวอิ่งที่พันผ้าพันแผลไว้ชกกระสอบทรายอย่างบ้าคลั่งหมัดแล้วหมัดเล่า

ซ่งจิ้งรีบเข้าไปดึงเอาไว้ “หัวหน้า หยุดเลย พี่บ้าไปแล้วเหรอ! เจ็บหนักขนาดนี้ยังจะขยับซี้ซั้วอีก!”

หน้าอกของหลิวอิ่งหอบหายใจหนักหน่วง ก้นบึ้งนัยน์ตามืดดำ แต่หยุดเพียงครู่เดียว ก็เริ่มชกกระสอบทรายอีกครั้งโดยไม่ฟังคำเกลี้ยกล่อมให้หยุด

“หัวหน้า อย่าเป็นแบบนี้สิครับ! หัวหน้า…”

ซ่งจิ้งกล่อมอยู่นานสองนานก็ไร้ประโยชน์ เห็นแผลของหลิวอิ่งเปิดออกอีกแล้ว

เวลานี้เอง หางตาของซ่งจิ้งเหลือบเห็นร่างที่คุ้นเคยกำลังเดินมาทางนี้

“คุณหนูรั่วซี!” ซ่งจิ้งเห็นคนที่เดินมา พลันรู้สึกเหมือนเห็นดาวช่วยชีวิต รีบร้องเรียกขอความช่วยเหลือ “คุณหนูรั่วซี คุณรีบมากล่อมหัวหน้าหน่อยเถอะครับ!”

เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือฉินรั่วซี สีหน้าของหลิวอิ่งพลันแข็งทื่อ “คุณหนูรั่วซี ผม…”

ฉินรั่วซีเดินไปตรงหน้าของชายหนุ่ม “ฉันรู้เรื่องหมดแล้วละ”

ได้ยินว่าเมื่อคืนเยี่ยหวันหวั่นถูกหาเรื่องที่บาร์ พวกหลิวอิ่งกับซ่งจิ้งปกป้องไว้ไม่ได้ วันนี้จึงถูกซือเยี่ยหานลงโทษ

หลิวอิ่งได้ยินสีหน้าก็ยิ่งเครียดคล้ำ “ขอโทษครับ คุณหนูรั่วซี ผมทำให้คุณผิดหวัง…”

ฉินรั่วซีถอนหายใจเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “หลิวอิ่ง คุณเก้าปลดนายออกจากตำแหน่งแค่ชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงการทดสอบหัวหน้าแล้ว ถึงเวลานั้นนายเอาชนะสืออีได้ก็ยังได้เป็นหัวหน้า ดังนั้นที่บอกว่าปลดจากตำแหน่ง ก็แค่ชั่วคราวไม่กี่เดือนเท่านั้น อย่าคิดมากไปเลย”

หลิวอิ่งได้ยินดังนั้นก็ยังนิ่งไม่พูดอะไร ตั้งแต่เขาติดตามนายท่านมาเคยถูกโจมตีและอับอายแบบนี้ที่ไหน ย่อมทำใจไม่ได้เป็นธรรมดา

“ส่วนเรื่องคุณหนูเยี่ย…” แววตาฉินรั่วซีเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเขาจะฝีมือดีขนาดนี้…”

แม้ว่าซือเยี่ยหานจะปิดข่าวไว้ แต่ด้วยตำแหน่งและฐานะของฉินรั่วซี ย่อมรู้ความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไม่ยาก

หลิวอิ่งได้ยิน นึกถึงว่าตัวเองถูกเยี่ยหวันหวั่นทำร้ายจนมีสภาพแบบนี้ สีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่ กำหมัดทั้งสองแน่นเล็กน้อย “ผู้หญิงคนนั้นก็แค่พลังเยอะ พอเมาแล้วแรงเยอะเกินมนุษย์มนา บวกกับพวกเราไม่กล้าลงไม้ลงมือกับเธอด้วย ถึงได้ถูกเธอเมาทำร้ายจนเป็นแบบนี้…”

ฉินรั่วซีได้ฟังก็พยักหน้า รู้สึกว่าไม่ต่างไปจากที่เธอคาดเดาเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีเหตุผลใดอธิบายได้ว่าผู้หญิงคนนั้นทำร้ายหลิวอิ่ง สืออี และคนมากมายจนมีสภาพแบบนั้นได้อย่างไร

ดังนั้นฉินรั่วซีจึงปลอบหลิวอิ่งต่อไป “โดยสรุปก็คืออย่าคิดมากเลย รีบกลับมาฮึดสู้ล่ะ ฉันเชื่อว่าตำแหน่งหัวหน้าเป็นของนายคนเดียวเท่านั้น และมีแค่นายที่มีคุณสมบัติเพียงพอ”

ในที่สุดสีหน้าของหลิวอิ่งก็ดีขึ้นบ้าง “ขอบคุณครับ คุณหนูรั่วซี ผมจะต้องเอาคืนมาให้ได้”

“ต้องแบบนี้สิ!” ใบหน้าฉินรั่วซีเผยความปลาบปลื้ม “ฉันจะรอข่าวดีของนาย”

“ครับ!”

ตกดึก ที่จิ่นหยวน

ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นกลับมา เห็นสวี่อี้กำลังยืนอยู่ในสวน สีหน้าท่าทางเหม่อลอยอยู่บ้าง

เยี่ยหวันหวั่นเดาว่าคงเป็นเพราะเรื่องของหลิวอิ่ง จึงเดินเข้าไปหา “บทลงโทษของซ่งจิ้งกับหลิวอิ่งออกมาแล้วเหรอ?”

สวี่อี้พยักหน้า ถอนหายใจบอกว่า “ซ่งจิ้งถูกเฆี่ยนหนึ่งร้อยที ส่วนหลิวอิ่ง…”

สวี่อี้หยุดไปนิดหนึ่ง จากนั้นเอ่ยต่อไป “หลิวอิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ให้สืออีรักษาการชั่วคราว”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็ประหลาดใจอยู่บ้าง คาดไม่ถึงว่าหลิวอิ่งจะถึงขนาดถูกปลดออกจากตำแหน่ง…

ผลลัพธ์นี้เธอคิดไม่ถึงจริงๆ

คนใต้บังคับบัญชาของหลิวอิ่งล้วนเป็นนักสู้ ในโลกของพวกเขา ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่น่านับถือ ความสามารถมาก่อนเสมอ ถ้าคิดจะกดพวกเขาให้อยู่หมัดต้องมีฝีมือดี ดังนั้นหลิวอิ่งจึงนับว่ามีอำนาจมากอยู่ในหมู่ลูกน้องของซือเยี่ยหาน

หลิวอิ่งถูกปลด เกรงว่าจะก่อให้เกิดความไม่พอใจไม่น้อย ตำแหน่งนี้ของสืออีอยู่ไม่ง่ายเลย…

………………………………………………………..