บทที่ 395 ปรับความเข้าใจ

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บทที่ 395 ปรับความเข้าใจ

บทที่ 395 ปรับความเข้าใจ

หลังจากหลี่จิงเทียนบอกความต้องการของตัวเองแล้ว อวี้ฮ่าวหรานไม่เพียงแต่ตอบตกลงเท่านั้น หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจพาอีกฝ่ายไปซื้อรถทันที

แต่มีข้อแม้ว่าอีกฝ่ายจะต้องได้รับการให้อภัยจากน้องสาวก่อน

เพราะถึงยังไงพวกเขาก็คือครอบครัวเดียวกัน บางครั้งอวี้ฮ่าวหรานก็สัมผัสได้ว่าหลี่หรงเป็นห่วงคนรวยรุ่นสองอย่างมาก

เขาคิดว่าหลี่หรงคงจะมีความสุขมาก ถ้าอีกฝ่ายกลับใจและยอมรับความผิดในอดีต

“แค่นี้แหละ นายต้องขอให้น้องสาวยกโทษให้ก่อน ไม่อย่างนั้นนายคงต้องขับรถเก่า ๆ อีกหลายปี”

อวี้ฮ่าวหรานพูดยืนยันเงื่อนไขอีกครั้ง หลี่จิงเทียนได้ยินแบบนั้นก็มีสีหน้าขมขื่นทันที

“หา? พี่เขย พี่ก็รู้ว่าเธอเกลียดผมแค่ไหน ผม…”

“รถคันละสองล้านเหรอ ฉันว่ามันถูกไปนะ แล้วนายชอบรถของฉันไหมล่ะ?”

อวี้ฮ่าวหรานเห็นว่าอีกฝ่ายลังเลจึงพูดโน้มน้าว

“พี่เขย…รถของพี่เหรอ?”

หลี่จิงเทียนตกตะลึงพักใหญ่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ารถคันนั้นแพงมาก รถรุ่นที่ดีอันดับต้น ๆ ของโลก มันต้องมีราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านแน่!

“โอเค! ผมจะไปขอโทษเธอเดี๋ยวนี้!”

เขาเข้าใจแล้วว่าพี่เขยหมายความว่าอย่างไรจึงตอบด้วยความตื่นเต้น

นี่คือความฝันของเขา เพราะหลังจากขายบริษัทให้ตระกูลอู๋ บัตรเครดิตของตัวเองก็ถูกระงับเลยไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินได้อีกต่อไป

ไม่นาน หลี่จิงเทียนก็กดโทรออก

“พี่รอง?”

เห็นได้ชัดว่าหลี่หรงไม่คิดว่าเขาจะโทรไป

“เอ่อ…ฉันเอง เธอ…ช่วงนี้เธอเป็นยังไงบ้าง” หลี่จิงเทียนมีท่าทีอึกอักก่อนทักทาย

แต่นี่ไม่ใช่ตัวตนของเขาจริง ๆ หลี่จิงเทียนจึงพูดติดอ่างเล็กน้อย ซึ่งทำให้ปลายสายรู้สึกอึดอัดอย่างมาก

“พี่ต้องการอะไร? ถ้าไม่มีอะไรก็วางสายซะ!”

เมื่อได้ยินเสียง หลี่หรงก็ตอบกลับอย่างเกรี้ยวกราดทันที

เธอและพี่รองมีนิสัยต่างขั้วกันอย่างชัดเจน ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ลงรอยกันตั้งแต่เด็ก

“ฉัน…”

หลี่จิงเทียนรู้สึกอึดอัดกับคำพูดของคนปลายสาย เขาจึงมองไปที่พี่เขยด้วยท่าทางอับอาย

อวี้ฮ่าวหรานชูกุญแจรถสปอร์ตในมือพร้อมมองเขาด้วยสายตาขี้เล่น

“แค่ก ๆ คือว่า… น้องเล็ก ฉันขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมา ฉันขอโทษจริง ๆ”

“หือ? พี่พูดว่าอะไรนะ?”

หลี่หรงที่อยู่ปลายสายถามด้วยความประหลาดใจเหมือนกับได้ยินไม่ชัด

“ฉันบอกว่าขอโทษ ขอโทษจริง ๆ”

เพื่อรถคันละหลายสิบล้านแล้ว คนรวยรุ่นที่สองจึงพยายามพูดขอโทษเสียงดังกว่าเดิม

ครั้งนี้ดูเหมือนว่าปลายสายจะได้ยินชัดเจน

“พี่ต้องการอะไร? คิดว่าฉันจะหลงกลง่าย ๆ เหรอ? วางสายไปซะ!”

หลี่หรงไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

เธอกับพี่ชายคนรองโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีนิสัยยังไง?

หลี่จิงเทียนแทบจะร้องไห้เมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว

“ฉัน…ฉันขอโทษจริง ๆ นะ วันนี้ตอนบ่ายพี่เขยบอกให้เธอมาซื้อรถด้วยกัน”

พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะกดวางสาย เขาก็รีบโพล่งออกไปทันที

“ซื้อรถ?”

หลี่หรงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“พี่เขยเป็นคนบอกเหรอ?”

“อืม”

หลี่จิงเทียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง

หลังจากที่เขารู้สึกกังวลเป็นเวลาสองนาที เสียงของหลี่หรงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“โอเค ตอนบ่ายฉันจะไปหา แต่เป็นเพราะเห็นแก่พี่เขยหรอกนะ!”

เสียงนั้นเบามาก หลี่จิงเทียนยังไม่ทันตอบกลับ อีกฝ่ายก็วางสายไปก่อน หลี่จิงเทียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนรวบรวมสติได้

“พี่เขย…พี่เขย เธอตกลงแล้ว!”

เขาหันไปพูดด้วยความตื่นเต้นกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลังโต๊ะทำงาน

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าตอบอย่างเป็นกันเอง “นายกลับไปก่อน ฉันจะกลับมาออฟฟิศหลังจากประชุมตอนบ่ายเสร็จ”

“ครับ! ครับ! ผมจะกลับเดี๋ยวนี้เลยครับพี่เขย!

พอได้ยินอย่างนั้น หลี่จิงเทียนก็แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

เขาเบื่อรถยุโรปราคาแค่ไม่กี่แสนเต็มทนแล้ว ตั้งแต่ขับรถคันนี้ เขาก็มักจะถูกเยาะเย้ยเสมอ

ประตูออฟฟิศปิดลง ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

“ครอบครัวรวมตัวกันอีกครั้ง”

อวี้ฮ่าวหรานพึมพำ ก่อนถอนหายใจ

“เม่ยเอ๋อร์น่าจะดีใจมาก”

เหตุผลที่หลี่จิงเทียนได้รับการช่วยเหลือในคุกเป็นไปตามที่หลี่จงชานพูดจริง ๆ ด้วย

ตั้งแต่ยังเด็ก หลี่เม่ยเป็นคนรักพี่น้องมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่เมื่อโตขึ้น หลี่จิงเทียนก็ถูกตามใจจนเสียคน หลี่เม่ยจึงผิดหวังอย่างมาก

ในอนาคตอวี้ฮ่าวหรานหวังว่าน้องชายของเธอจะมีความรู้สึกผิดชอบมากขึ้นกว่าเดิม

ถ้าไม่อย่างนั้น ด้วยความชั่วร้ายที่คนรวยรุ่นสองกระทำลงไป มีหวังไม่นานเขาต้องเจอกับราชานรกแน่ ๆ

เขาตกอยู่ในห้วงความคิดพักใหญ่ เมื่อรู้สึกตัวก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว อวี้ฮ่าวหรานจึงเดินไปที่ห้องเด็กเล่นและพบว่าถวนถวนอยู่ที่โรงอาหาร

ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของบริษัท อาหารในโรงอาหารจึงอร่อยขึ้นเรื่อย ๆ

เขาไม่ได้เป็นคนดูแลเรื่องปรับปรุงรสชาติอาหารในโรงอาหาร แต่เป็นหวังจุนต่างหาก

ดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานเลยรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

“พ่อจ๋า ไข่คนมะเขือเทศจานนี้อร่อยมาก! ถวนถวนต้องลองทำเองแล้วล่ะ”

เด็กหญิงตัวน้อยตักข้าวเข้าปากแล้วพูดอย่างมีความสุข

“โอเค คราวหลังพ่อจะถามวิธีทำให้นะ”

ในเวลานี้โรงอาหารเต็มไปด้วยพนักงาน ซึ่งบางคนก็มองมาทางเขาด้วยความเคารพ

พวกเขาชื่นชมประธานหนุ่มคนนี้ด้วยใจจริง

หลังจากที่เขาเข้ามารับช่วงต่อบริษัท สวัสดิการและเงินเดือนของพนักงานทุกคนก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!

ไม่มีใครคาดคิดเรื่องแบบนี้มาก่อน

หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ถวนถวนจึงกลับไปที่ห้องซ้อมเปียโน หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานพาลูกสาวไปที่นั่น เขาก็เรียกผู้บริหารระดับสูงทุกคนเข้าประชุมทันที

อีกด้านหนึ่ง หลี่หรงกำลังขับรถไปเครือฮ่าวหราน

“เฮ้อ…การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สินะ”

เป็นเวลาสองเดือนแล้วที่เธอไม่ได้มาที่นี่ เธอมองไปรอบ ๆ ตึกแล้วถอนหายใจ

ตอนนี้ตึกที่อยู่ข้าง ๆ ตึกเครือฮ่าวหรานถูกรวมเข้ามาอยู่ในอาณาเขตเดียวกันแล้ว หลังจากสร้างกำแพงใหม่ อาณาจักรของเครือฮ่าวหรานจึงดูยิ่งใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก…

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเจ็ดถึงแปดคนยืนตรงทำความเคารพทันทีที่เธอเดินมาถึง หนึ่งในนั้นกล่าวทักทายเธอ

“คุณผู้หญิง? มีบัตรผ่านหรือบัตรเชิญไหมครับ?”

หลี่หรงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“พวกคุณดูสุภาพกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะ

เธอจำได้ว่าครั้งที่หลี่จิงเทียนบริหารที่นี่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนต่างเมินเฉยเธอ หลี่หรงจึงอารมณ์เสียทุกครั้งที่มาที่นี่

“มันคือคำสั่งของท่านประธานอวี้น่ะครับ ผมขอดูบัตรผ่านของคุณหน่อยได้ไหมครับ?”

“ฉันเหรอ? ฉันไม่มีบัตรผ่าน นี่คุณไม่รู้จักฉันจริง ๆ เหรอ?”

หลี่หรงงุนงง ตอนนี้เธอจำเป็นต้องโชว์บัตรผ่านเพื่อเข้าไปในบริษัทแล้วเหรอ ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้จะถูกจ้างมาใหม่ยกชุด พวกเขาจึงไม่รู้จักเธอ

“ถ้า… ถ้าคุณไม่มีบัตรผ่าน คุณสามารถโทรหาคนที่เชิญคุณมาให้มารับที่นี่ได้ครับ ไม่อย่างนั้นพวกเราต้องทำตามกฎระเบียบ ไม่สามารถให้คุณผ่านไปได้จริง ๆ”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใจดีเสนอทางช่วย

“เอ่อ…ก็ได้”

หลี่หรงพูดไม่ออก เธอไม่คิดว่าตัวเองจะถูกตรวจสอบตัวตนที่หน้าบริษัทของพี่เขย…