ฉีเฉิงเฟิงรู้สึกฉงน และรู้สึกว่าเขาไม่ควรเข้าไปตอนนี้! ดังนั้นจึงยืนอยู่ข้างนอกประตูบ้านแล้วลอบมองเข้าไปด้านในด้วยความงงงวย

เวลานี้ซุนฮวนที่คิดว่าฉีเฉิงเฟิงได้ถูกลูกน้องของตัวเองจัดการเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่ในลานบ้านอย่างสบายใจและอ้าปากรับอาหารที่ซูหวานหว่านคีบมาให้

“ผัดหมูใส่มะเขือยาวอร่อยหรือไม่?”

“แล้วซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานล่ะ?”

“…”

ซูหวานหว่านตั้งหน้าตั้งตาคีบอาหารให้อีกฝ่าย เดิมทีซุนฮวนค่อนข้างต่อต้านการกระทำของสาวน้อยชาวบ้าน แต่เมื่อเห็นนางคีบอาหารใส่ถ้วยเขาอย่างตั้งใจ จึงพยักหน้าโต้ตอบนางไปบ้างบางครั้ง

อาการบาดเจ็บของเสี่ยวเฮ่ยนั้นดีขึ้นมากแล้ว อาจจะมีลำบากตรงการเปล่งเสียง เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ลำคอยังไม่หายดี เขาไม่ได้พูดคุยอะไรกับฉีเฉิงเฟิงมากนัก แต่กลับรู้สึกได้ว่าฉีเฉิงเฟิงคนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน ชายหนุ่มอยากจะเอ่ยเตือนซูหวานหว่าน ทว่ายังเปล่งเสียงลำบากและยังไม่สามารถพูดออกมาได้ จึงทำได้เพียงจ้องมอง

ซูหวานหว่านเห็นแล้วก็จ้องเขม็งกลับไปพร้อมกับบอกว่า “เจ้ามองอะไร? เป็นแค่คนรับใช้จะมากินอาหารพวกนี้ได้อย่างไรกัน? เลิกมองได้แล้ว! หากยังมองอีกข้าจะไม่ให้เจ้ากินข้าว!”

ซูหวานหว่านไม่เคยพูดจาแบบนี้มาก่อน เมื่อเขาได้ยินคำพูดแบบนี้เสี่ยวเฮ่ยก็รู้ทันทีว่าซูหวานหว่านกำลังคิดจะทำบางสิ่ง เขาจึงเดินกลับเข้าไปที่ห้องนอนของตัวเอง

ซูหวานหว่านคีบอาหารใส่จานของซุนฮวนอีกครั้ง จนกระทั่งซุนฮวนกินจนอิ่มและพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ซูหวานหว่าน ที่จริงแล้วท่านพ่อและท่านแม่ของข้าเป็นคนร่ำรวยมั่งคั่ง ส่วนเจ้าเป็นเพียงหญิงสาวชาวนาธรรมดา หากพูดตามความเป็นจริง เจ้าไม่คู่ควรกับฐานะที่แท้จริงของข้า…”

“เจ้าไม่รักข้าแล้วอย่างงั้นหรือ? ใช่ไหม?” ซูหวานหว่านเอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

ซุนฮวนส่ายหัวไปมา “แน่นอนว่าข้านั้นรักเจ้า อีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะพาเจ้าไปที่บ้านของข้า และเราจะใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองโจวกัน”

“หือ?” ซูหวานหว่านประหลาดใจ “เจ้ากับข้ายังไม่ได้แต่งงานกัน แล้วจะให้ข้าไปอยู่บ้านเจ้าหรือ? เช่นนั้นคงจะไม่ดี หากชาวบ้านรู้พวกเขาจะหัวเราะเอาได้นะ”

นางเชื่อจริง ๆ หรือ!? ซุนฮวนยกยิ้มพร้อมทั้งพูดว่า “เด็กโง่ เมื่อเราไปถึงเมืองโจวแล้วจะยังมีใครรู้จักพวกเราบ้าง? ใครจะมาหัวเราะเยาะเจ้าได้? หรือว่าที่แท้จริงแล้วเจ้าไม่รักข้า และไม่อยากไปจากที่นี่กันแน่?”

“ไม่! แน่นอนว่าข้ารักเจ้า! ข้ารักเจ้ามากนะ! ข้าอยู่ไม่ได้หากไม่มีเจ้า!” ซูหวานหว่านกล่าวด้วยน้ำตา

ความหลงใหลนี้ทำให้ซุนฮวนถึงกับหัวเราะอยู่ภายในใจ ทว่าแท้ที่จริงซูหวานหว่านมองออกนานแล้ว และความเสน่หาที่พูดออกมาทั้งหมดในตอนนี้ก็เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น!

ถึงแม้ว่าตอนนี้ซุนฮวนจะกำลังแสดงอยู่ ทว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่ควบคุมเรื่องนี้ทั้งหมด

แต่เป็นซูหวานหว่านที่กำลังเล่นละครตลบหลังเขาต่างหาก!

ทว่าซุนฮวนกลับคิดว่าหญิงสาวเชื่อเขาอย่างสนิทใจ “เช่นนั้นแล้ว พวกเราไปกันตอนนี้เลยดีหรือไม่? แม่นมของข้าเองก็อยู่ในเมืองนี้ เหตุใดเจ้าไม่กลับไปพร้อมกับนางเล่า ในระหว่างทางนางสามารถสอนมารยาทกับเจ้าได้ เมื่อข้าจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว ข้าจะรีบไปหาเจ้าในทันที เจ้าจะว่าอย่างไร?”

คิดจะจัดการกับนางอย่างงั้นเหรอ!

ซูหวานหว่านเยาะเย้ยขึ้นมาภายในใจ ซุนฮวนแสร้งทำสีหน้าเศร้าหมองออกมา หญิงสาวจึงพูดออกมาว่า “คุณชายฉี เจ้าอย่าเพิ่งโกรธข้าเลย ขอเวลาสักครู่เถอะ ข้าจะรีบเข้าไปเก็บข้าวของและไปกับเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ!”

ซูหวานหว่านเดินกลับเข้ามาในห้อง แสร้งทำเป็นเก็บข้าวของแล้วจะออกไปกับซุนฮวน

เมื่อเห็นซุนฮวนและซูหวานหว่านกำลังจะออกมา ฉีเฉิงเฟิงที่ยืนมองอยู่นอกประตูบ้านจึงรีบหาที่หลบและตามทั้งคู่ไป

ซุนฮวนพาซูหวานหว่านไปที่บ้านหลังหนึ่ง ทันทีที่เขาเปิดประตูบ้านเข้าไป แม่นมของเขาก็ยิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มทันที “คุณชาย ในที่สุดคุณชายของข้าก็พาผู้หญิงคนนั้นมาด้วย! เจียวเหนียงคนนี้ตั้งหน้าตั้งตารอมาเป็นเวลานานเหลือเกินเจ้าค่ะ!”

บรรยากาศเช่นนี้มันอะไรกัน? ช่วยทำให้มันสมจริงกว่านี้ได้หรือไม่?

ชั่วเวลาหนึ่งซูหวานหว่านรู้สึกสับสน และบ่นงึมงำภายในใจอยู่คนเดียว ‘ฉีเฉิงเฟิงตัวปลอมต้องการที่จะกำจัดนาง แต่ไม่ระวังถึงข้อผิดพลาดและปล่อยให้เกิดช่องโหว่มากมาย เขาคิดว่านางเป็นสตรีที่โง่เขลาและสามารถหลอกหลวงได้ง่าย ๆ อย่างงั้นหรือ?’

“ใช่แล้ว ข้าให้นางไปกับท่านก่อน รบกวนท่านสอนเรื่องมารยาทให้กับนางด้วย จากนั้นก็ไปรอข้าที่เมืองโจว เมื่อข้าเดินทางตามไปถึงแล้ว พวกเราค่อยกลับไปที่บ้านของข้าด้วยกัน” ซุนฮวนกล่าว

‘ชายคนนี้แสดงได้สมบทบาทจริง ๆ!’ ซูหวานหว่านอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเขาภายในใจ

แม่นมนามเจียงเหนียงยิ้มออกมา และมอบเหรียญเงินให้กับซุนฮวนไปสองสามเหรียญ นางยังร่วมมือกับซุนฮวนโดยการแสดงละครต่อไป “ท่านคงจะลำบากไม่น้อย เงินพวกนี้ข้าจะเอาไว้ให้คุณชายติดตัวเอาไว้ใช้ แต่อย่าลืมรีบไปที่เมืองโจวให้เร็วที่สุด และอย่าปล่อยให้พวกเราสองคนต้องรอนานนะเจ้าคะ”

“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว” ซุนฮวนพูดและยิ้มออกมา ก่อนหันหลังเดินจากไป

“เฮอะ!” เมื่อเห็นบทสนทนาระหว่างคนทั้งสอง ซูหวานหว่านถึงกับสงสัยว่าทั้งสองเคยซ้อมบทพูดกันมาก่อนหรือไม่ มันทำให้หญิงสาวไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไปจริง ๆ!

พลันใดนั้นซุนฮวนก็หยุดฝีเท้า เขาหันกลับไปมองซูหวานหว่านด้วยความสงสัยและเอ่ยอย่างใจเย็น “เจ้าอย่าเศร้าใจไปเลย ข้าจะรีบไปหาเจ้า”

“เจ้าทำเหมือนกับข้าเป็นคนโง่อย่างงั้นแหละ!” ซูหวานหว่านไม่สามารถเก็บมันไว้ได้และหัวเราะออกมา “นี่มันจะน่าขันเกินไปแล้ว! พวกเจ้าสองคนนี่เหมาะสำหรับการแสดงตอบโต้เสียจริง! เชื่อข้าสิ พวกเจ้าทั้งสองสามารถมีชื่อเสียงได้เลยนะ!”

แม้ว่าทั้งสองจะไม่เข้าใจว่าการแสดงโต้ตอบคืออะไร ทว่าเมื่อเห็นน้ำเสียงและสีหน้าของซูหวานหว่านที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ทั้งคู่ตื่นตระหนก

ซุนฮวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกมา “ซูหวานหว่าน เชื่อฟังข้าแล้วไปที่เมืองโจวกับเจียวเหนียงเพื่อรอข้าอยู่ที่นั่นซะ”

“อย่าใช้ใบหน้าของคู่หมั้นข้า มาพูดสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้! ข้าคิดว่าข้าอาจจะทนไม่ได้จนอ้วกออกมา!” ซูหวานหว่านแกล้งทำเป็นคลื่นไส้และพลันใดใบหน้าของซุนฮวนก็เปลี่ยนสีทันที

ซูหวานหว่านเอ่ยต่อ “ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้านั้นเป็นใคร แต่ข้าก็รู้ว่าเจ้าไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน และนับประสาอะไรจะเชื่อคำพูดไร้สาระของเจ้ากัน”

“เจ้ารู้ตั้งแต่เมื่อใดว่าข้าไม่ใช่ฉีเฉิงเฟิง?” ซุนฮวนถามด้วยใบหน้าขุ่นเคือง

“ตั้งแต่เจ้าก้าวเท้ามาในลานบ้าน ข้าก็รู้ทันทีว่าเจ้าไม่ใช่” ซูหวานหว่านมองเขาด้วยสายตาดูถูก “ถึงแม้เจ้าจะดูเหมือนเขา แต่ข้าคิดว่าเจ้านั้นน่าเกลียดมาก! ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเขาเสียด้วยซ้ำ!”

“แล้วเหตุใดเจ้าถึงยังทำอาหาร แล้วก็ป้อนอาหารข้าด้วย?” ซุนฮวนถึงกับกัดฟันกรอด ความคิดที่น่ากลัวพลันปรากฏขึ้นในหัวของเขา แล้วพูดออกมาว่า “เจ้าคงจะไม่วางยาพิษข้าหรอกนะ?”

“เจ้าลองเดาดูสิ?” ซูหวานหว่านหัวเราะออกมา

เจียวเหนียงที่ยืนอยู่ด้านข้างก็จึงเอ่ยออกมาว่า “คุณชายซุน ท่านอย่าไปสนใจนางเลย อย่างไรท่านก็ได้ขายนางให้กับข้าแล้ว ท่านก็แค่เดินออกไปซะ หลังจากนั้นข้าจะช่วยท่านเก็บกวาดเรื่องนี้เอง!”

“เฮอะ!” ซุนฮวนหัวเราะแล้วเดินออกไป แต่ก็ต้องหยุดเดินหลังจากได้ยินคำพูดของซูหวานหว่าน “ซุนฮวน! เจ้าเข้าใจข้าถูกแล้ว แต่ข้าช่วยแก้พิษของเจ้าให้ไม่ได้ และหากเจ้าแก้พิษไม่ได้ พรุ่งนี้เจ้าจะต้องตายแน่ ๆ!”

“เจ้า!” ซุนฮวนพูดด้วยใบหน้าโกรธจัด “ซูหวานหว่าน! เจ้านำยาแก้พิษออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

ซูหวานหว่านยิ้ม “เจ้าโง่หรือว่าข้าโง่กันแน่? ข้าไม่ได้วางยาพิษเจ้าเลย”

ซูหวานหว่านกำลังพูดความจริง!

“เจ้าหลอกข้า!” ซุนฮวนโกรธมากและกำลังจะเดินจากไป แต่วินาทีถัดมาเขาก็ล้มลงกับพื้นอย่างคนอ่อนแรงทันที

นางเกือบจะถูกคนอื่นหลอกแล้ว และตอนนี้เขาก็ถูกนางหลอกกลับเช่นกัน!

ซูหวานหว่านยักไหล่แล้วพูดออกมา “ข้ายังไม่ได้วางยาพิษให้เจ้าก็จริง แต่ว่าข้านั้นวางยาชาให้เจ้าแทนยังไงล่ะ!”

“นี่เจ้า” สถานการณ์ดูท่าจะไม่ดี เจียวเหนียงจึงปรบมือและเรียกชายร่างใหญ่สองสามคนเข้ามา นางชี้ไปที่ซูหวานหว่านและพูดออกมาว่า “ฆ่านางซะ!”

ทว่าต่อมาประตูบ้านก็ถูกเปิดออก ตามด้วยชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามา “เจียวเหนียง ข้าอนุญาตให้เจ้าฆ่านางอย่างงั้นหรือ?”

ห๊ะ? น้ำเสียงนี้ช่างดู…

เจียวเหนียงตกใจเป็นอย่างมาก! เหตุใดถึงมีคุณชายซุนอีกหนึ่งคนได้! แล้วคนไหนคือคุณชายซุนตัวจริงกัน!