บทที่ 398 แผนการร้าย

บทที่ 398 แผนการร้าย

“จริงสิ เดิมพันด้วยรถดีไหม? ถึงยังไงแกก็รวยอยู่แล้วนี่?”

เหอเส้าพูดเสริม คำพูดของเขาเต็มไปด้วยการเสียดสี

หลี่จิงเทียนตกตะลึงทันทีที่ได้ยิน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทักษะการขับรถของเหอเส้าดีกว่าเขาหลายเท่าแน่นอน!

กว่าจะได้รถคันนี้มาไม่ง่ายเลย ดังนั้นหลี่จิงเทียนจะเสียมันไปไม่ได้!

“เอ่อ… คือฉันยังไม่คุ้นเคยกับรถคันนี้น่ะ คืนพรุ่งนี้…คืนพรุ่งนี้ฉันยังไม่ลงแข่งดีกว่า”

เขาไม่มั่นใจจึงรีบหาข้ออ้างปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นอย่างนั้น เหอเส้าก็แค่นเสียงทันควัน

“อะไรนะ? กลัวเหรอ? เมื่อกี้ยังอวดดีอยู่เลยนี่? เงินแค่สิบล้านไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งของแกร่วงหรอกใช่ไหม?”

“ฉัน…ฉันขับรถไม่เก่ง ช่างมันเถอะ…”

หลี่จิงเทียนไม่อยากเสียรถสปอร์ตที่เพิ่งได้มา การแสดงออกของเขาจึงอ่อนลง

“ไม่กล้าเหรอ?”

เหอเส้ายิ้มเยาะอย่างภูมิใจ

“ฮ่า ๆ ฉันจะบอกให้นะตระกูลหลี่ของแกไม่ต่างจากเศษสวะ ส่วนแกก็น่าสมเพช คิดว่ารถแพงกว่าพวกฉันแล้วจะสูงส่งกว่างั้นเหรอ?”

เขาตั้งใจทำให้อีกฝ่ายเสียความมั่นใจ

แต่ประโยคนั้นทำให้สีหน้าของหลี่หรงเปลี่ยนไป ต่อให้ตระกูลหลี่เป็นเศษสวะ แต่ก็ยังสูงส่งกว่าพวกมัน!

“แกพูดอะไรออกมา!”

เธอก้าวไปข้างหน้าพร้อมตวาดเสียงดัง

เหอเส้าได้ยินจึงหันไปทางต้นเสียง แล้วพบว่ายังมีอีกสองคนยืนอยู่ไม่ไกล

“หืม? มีสาวสวยอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ จุ๊ ๆ สนใจมาเล่นกับพี่ไหมจ๊ะน้องสาว?”

ความสวยของอีกฝ่ายทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกาย แถมยังอดแสดงความเจ้าชู้ออกมาไม่ได้

“แก!”

หลี่หรงพูดไม่ออก เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหยาบคายขนาดนี้

เมื่อผู้หญิงทะเลาะกับผู้ชาย พวกเธอมักแสดงด้านอ่อนแอออกมาเสมอ เหอเส้าเห็นว่าอีกฝ่ายพูดไม่ออก เขาจึงเลื่อนสายตาไปมองชายหนุ่มอีกคน

“อะไรนะ? เธอคือแม่สาวที่แกกำลังคั่วอยู่เหรอ? สวยจริง ๆ ถ้าแกยอมยกเธอให้ฉัน บางทีฉันอาจยอมรับว่าแกเก่งกว่าก็ได้นะ ตกลงไหม?”

หลี่จิงเทียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที!

“นี่คือน้องสาวฉัน! อย่าแตะต้องเธอเด็ดขาด!”

เขาเพิ่งได้รับอนุญาตจากเธอให้ซื้อรถคันนี้ หลี่จิงเทียนจึงรู้สึกขอบคุณน้องสาวอย่างมาก เขาจึงไม่ทนก้มหน้ารับความอัปยศอีกต่อไป!

เหอเส้าไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย

“น้องสาวของแกเหรอ โอเค! งั้นเรามาเดิมพันกันดีไหม”

ขณะที่พูดอยู่นั้น ดวงตาของเขาก็มองแทะโลมหลี่หรงไม่หยุด

“ถ้าแกชนะ ฉันเหอหมิงอวี้จะยอมคุกเข่าขอโทษน้องสาวแก แต่ถ้าแพ้ แกต้องให้น้องสาวไปดื่มกับพวกฉัน…ว่าไงล่ะ?”

ชายหนุ่มสองคนที่อยู่ข้างเขาผสมโรงด้วย

“กล้าดียังไงมาเทียบกับพวกเรา เสียเวลาเปล่า”

“ฮ่า ๆ ตระกูลหลี่โสโครก โดยเฉพาะแก!”

เสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังทั่วบริเวณ ด้วยนิสัยของหลี่จิงเทียน เขาคล้อยตามการยั่วยุของอีกฝ่ายแล้วตอบตกลง!

ตอนนี้หลี่หรงโมโหจนขาดสติเช่นกัน เธออยากจะก้าวออกไปแล้วด่าอีกฝ่ายให้เข็ดหลาบ

“ฉันจะแข่ง”

หลังจากเห็นอย่างนั้น อวี้ฮ่าวหรานจึงนิ่งเฉยไม่ได้อีกต่อไป เขายกมือขึ้นห้าม

“พวกแกมีกี่คน? จะแข่งทุกคนเลยใช่ไหม?”

“หือ?”

เหอเส้าได้ยืนอย่างนั้นจึงหันมองชายหนุ่มที่ขัดจังหวะ ก่อนพบว่าตัวเองไม่เคยรู้จักชายคนนี้มาก่อน ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ยิ่งเหยียดหยามกว่าเดิม

“ฮ่า ๆ แกเป็นใคร? มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร?”

พวกเขารู้หัวนอนปลายเท้าของคนในวงการแข่งรถทุกคน

“เขาคือพี่เขยของฉันเอง!”

หลี่จิงเทียนรีบตอบอย่างรวดเร็ว

พอได้ยินอย่างนั้น เหอเส้าจึงเหลือบมองชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เขา

“โอ้ แกคือลูกเขยของขยะอย่างตระกูลหลี่สินะ อะไรนะ? แกอยากแข่งกับฉันเหรอ?”

หลังจากอีกฝ่ายดูถูก อวี้ฮ่าวหรานยังคงนิ่งเฉย

“พวกแกจะแข่งคืนพรุ่งนี้ใช่ไหม งั้นฉันจะแข่งด้วย”

เขาตอบอย่างสบาย ๆ

เหอเส้ามีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่หลังจากคิดดูแล้ว เขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้เข้าร่วมงานสังสรรค์สักครั้ง ดังนั้นจึงคิดเหยียดหยามอีกฝ่ายในใจ

“โอเค! ฉันอนุญาตให้แกแข่งในฐานะตัวแทนของตระกูลหลี่โสโครก เราตกลงกันว่าจะเดิมพันด้วยรถ! ถ้าไม่ยอมรับก็ไสหัวไปซะ”

“ตกลง”

หลังจากตอบตกลง อวี้ฮ่าวหรานก็พาหลี่หรงขึ้นรถโดยไม่หันกลับไปมองอีกฝ่าย

ในเมื่อคนพวกนี้มาก่อกวนก่อน เขาก็ควรสอนบทเรียนให้สักหน่อย รถสปอร์ตสีเหลืองสดใสแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว

หลี่จิงเทียนเห็นอย่างนั้นก็คิดจะตามออกไป

“ฮึ่ม! ถ้ากล้าทำร้ายพี่เขย พวกแกตายแน่! ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

หลังจากด่าทออีกฝ่าย เขาก็รีบขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่หรงกลับมาที่บริษัทของตัวเอง ขณะที่หลี่จิงเทียนกลับไปยังออฟฟิศของเครือฮ่าวหราน

“พี่เขย เราจะทำยังไงดี ผู้ชายคนนั้นขับรถเก่งมาก เขามีฝีมืออันดับต้น ๆ ในวงการแข่งรถเลยนะ พี่เขย…”

หลี่จิงเทียนหยุดพูดกะทันหัน เขาไม่กล้าพูดจริง ๆ ว่าพี่เขยขับรถได้ห่วยแตก

อวี้ฮ่าวหรานกำลังก้มหน้าตรวจสอบเอกสาร เขาไม่กังวลเรื่องนี้แม้แต่น้อย เมื่อได้ยินดังนั้น เขาจึงเงยหน้ามองอีกฝ่าย

“แกกลัวว่าฉันจะแพ้เหรอ?”

“ไม่…ไม่ใช่ ผู้ชายคนนั้นขับรถเก่งมากต่างหาก… มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะเขาได้”

เมื่อถูกพี่เขยจ้องเขม็ง หลี่จิงเทียนก็รับอธิบายอย่างลนลานทันควัน

อวี้ฮ่าวหรานยังคงสงบนิ่ง

“อย่าคิดมาก นายจำไว้ให้ดีว่าครั้งนี้เราจะชนะแน่นอน”

เขามองคนรวยรุ่นสองที่กำลังสับสนแล้วพูดสร้างความเชื่อมั่นให้กับอีกฝ่าย

“นายจำไว้ว่าครั้งนี้ฉันจะสั่งสอนพวกมันเอง ฉันไม่ยอมให้พวกมันกล่าวหาว่าตระกูลหลี่เป็นขยะไร้ประโยชน์เด็ดขาด”

ถ้าอีกฝ่ายด่าทอแค่หลี่จิงเทียน เขาจะปล่อยไป แต่พวกมันกลับไปลากตระกูลหลี่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ซึ่งนั่นรวมไปถึงหลี่หรง? และหลี่เม่ย?

ในเมื่อแต่งงานกับหลี่เม่ยแล้ว เขาก็คือหนึ่งในคนของตระกูลหลี่ไม่ใช่เหรอ?

“ครับ ๆๆ ผมรู้ ผมแค่เป็นห่วง…”

“ไม่ต้องห่วง นายจะไม่เสียรถไปแน่นอน”

อวี้ฮ่าวหรานพูดด้วยท่าทางผ่อนคลาย พอพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายออกไป

เขาไม่ชอบนิสัยของหลี่จิงเทียนจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นคนตระกูลหลี่ คงถูกเขาฆ่าตายไปนานแล้ว

ขณะเดียวกัน

ภายในห้องประชุมของบริษัทจื่อจิน กัวหย่งซินนั่งวางแผนธุรกิจมาหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าสักนิด

ครั้งนี้เขาตั้งใจลงมือด้วยตัวเอง แต่ไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้!

ไม่เพียงแค่หลี่จิงเทียนไม่ให้ความร่วมมือกับเขา แถมผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างหลิวอวี้จิงก็ตายแล้ว!

“เรื่องทุกอย่างค่อนข้างซับซ้อน แต่ไม่ควรปล่อยให้มันเป็นปัญหาใหญ่อย่างนี้ ดังนั้นเราควรจัดการไอ้เด็กนั่นให้เร็วที่สุด”

ข้าง ๆ เขามีชายวัยกลางคนที่มีท่าทางมั่นใจนั่งอยู่

“ผมได้ยินมาว่าเร็ว ๆ นี้เครือฮ่าวหรานจะทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะก่อนหน้านี้เขากว้านซื้อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กหลายแห่ง”

สีหน้าของกัวหย่งซินเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“คุณอยากเอาชนะเขาในตลาดอสังหาริมทรัพย์?”

เขาต้องการแก้แค้นอีกฝ่ายอย่างมาก แต่ไม่กล้าลงมือสักที เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งล่าสุดทำให้เขาหวาดผวาเล็กน้อย

ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวอย่างมาก!

ถึงอย่างนั้นชายร่างอ้วนกลับไม่มีความหวาดกลัวสักนิด

“แค่เอาชนะยังไม่พอ แต่ผมอยากได้เครือฮ่าวหรานมาอยู่ในกำมือ!”